ตอนที่ 141 ลึกลับ
คดีนี้เกิดขึ้นไม่ถึงสองวัน เชื่อได้เลยว่าทั่วทั้งเมืองตงไห่มีคนรู้เรื่องนี้ไม่กี่คน
ไม่ต้องบอกว่ากลุ่มคนปกติไม่รู้ ถึงแม้แต่ตำรวจทั้งหมดในเขตเมืองตงไห่ คนที่รู้เรื่องก็มีไม่กี่คนเท่านั้น
แล้วอู๋หมิงซือล่ะเขาไปรู้รายละเอียดมาจากที่ไหน
ฆาตกรหั่นศพได้อย่างไร วิธีที่ใช้ห่อศพ รู้สถานที่ที่เคลื่อนย้ายอย่างละเอียดขนาดนี้ ไม่แปลกสักนิดเลยเหรอ
เป็นไปไม่ได้หรอกว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวน
คดีนี้เพิ่งจะเกิด เจ้าหน้าที่สืบสวนต้องกำลังยุ่งอยู่ จะมีเวลาว่างมาโพสต์ได้อย่างไรล่ะ
ถ้าคนที่อยู่ในสถานีตำรวจเป็นเป็นผู้โพสต์ ก็คงจะถูกลบออกไปนานแล้ว จะมาตอบโต้ผู้ใช้คนอื่นๆ แบบนี้ได้ยังไง
จากที่อู๋หมิงซือตอบโต้คนชาวเน็ตอย่างสบายใจ เช่นนี้ก็คาดคะเนได้ว่า เดิมทีแล้วเขาก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ เพราะเวลานี้ต้องไม่มีเวลาว่างมาอยู่บนโลกออนไลน์ได้อย่างแน่นอน แล้วเช่นนี้จะมาเล่นอินเตอร์เน็ตได้อย่างไรล่ะ
เมื่อเป็นเช่นนี้! ปัญหาก็เกิดขึ้นแล้ว!
ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ แล้วไปรู้รายละเอียดของคดีจากที่ไหนกัน
นักล่าผีดิบ 007 ถามอย่างสงสัย : นอกจากตำรวจแล้ว ยังจะมีใครรู้รายละเอียดของคดีได้ละเอียดอีกล่ะ
แน่นอนว่าเป็นฆาตกร!
นักล่าผีดิบ 007 ให้คำตอบแก่ตนเองอย่างรวดเร็ว!
ถ้าเป็นดังเช่นที่อู๋หมิงซือกล่าว เช่นนั้นคดีหั่นศพที่เกิดขึ้น และถ้ารายละเอียดการหั่นศพทั้งหมดถูกต้อง งั้นอู๋หมิงซือคนนี้ก็ต้องเป็นฆาตกรอย่างแน่นอน!
ฆาตกร มีคุณสมบัติอะไรถึงวิ่งมาร้องเอะอะโวยวาย เรียกร้องหาความยุติธรรมและความถูกต้องข้างในนี้
เขาพูดเอง แต่ดันมาเป็นฆาตกร จะมีอะไรแตกต่าง
เขาเป็นคนฆ่า แต่กลับพูดถึงความยุติธรรม เพื่ออะไร นั้นไม่ใช่การตบหน้าตัวเองหรอกหรอ
ถ้าเขาบอกว่าตัวเองไม่ใช่ฆาตกร งั้นเขารู้ได้อย่างไรว่าเกิดคดีฆ่าหั่นศพที่เมืองตงไห่เมื่อสองวันก่อน
ถ้าได้ยินมา ก็ไม่มีทางรู้รายละเอียดเหล่านี้ได้ชัดเจนขนาดนี้หรอก
ดังนั้น นักล่าผีดิบ007 เลยคิดว่า อู๋หมิงซือคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาก็คือคนหลอกลวง!
ทำไมถึงพูดเช่นนี้นะหรอ
ก็ดันยกเรื่องคดีเมื่อสิบห้าปีก่อนขึ้นมาพูด ถ้าคดีนั้นถูกใส่ร้ายจริงๆ ตุลาการทั้งหมดก็ต้องร่วมกันใส่ร้าย เช่นนั้นแล้วทำไมถึงมีพิรุธมากขนาดนี้ล่ะ
เรื่องนี้คนที่กระทำเป็นใคร
ถ้าพวกเขาร่วมกันใส่ร้ายจริงๆ งั้นอู๋เหวินคังที่ถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกร ทำไมถึงไม่แก้ไขคำให้การของตนเอง ทำไมถึงไม่งัดหลักฐานมาแก้ต่าง ทำไมถึงไม่ทำอะไรให้มันชัดเจน ทำให้คดีที่ถูกใส่ความนี้หมดช่องโหว่ ทำไมถึงได้ซุกซ่อนสิ่งเหล่านี้เอาไว้นานขนาดนี้ ไม่แสดงความจริงออกมาในวันนั้น ทว่ากลับปล่อยให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องค้นข้อมูลเหล่านี้เอาตามใจชอบ ทั้งยังปล่อยพิรุธก้อนใหญ่ออกมา จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ด้วย
ดังนั้นตอนที่อู๋หมิงซือกำลังวิพากษ์วิจารณ์ว่าคดีเมื่อสิบหาปีก่อนถูกใส่ร้ายอย่างโจ่งแจ้ง คำพูดที่กำลังจู่โจม เดิมทีแล้วไม่พบหลักฐาน แล้วก็ไม่มีอะไรน่าเชื่อเลย เขาก็แค่คนไม่รู้ความที่ออกมาพูดปาวๆ เท่านั้น
แล้วสำหรับความเกี่ยวข้องกันระหว่างคดีที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนและคดีที่เกิดขึ้นเมื่อสิบห้าปีก่อน อู๋หมิงซือตั้งมั่นสาบานว่าเป็นคนๆ เดียวกัน ทั้งที่ไม่มีหลักฐานเลยด้วยซ้ำ
ตามคำพูดของเขา ชิ้นส่วนศพชิ้นแรกถูกพบอยู่ใต้สะพานที่เขตเมืองเก่า สถานที่แห่งนั้นแม้ว่าจะอยู่ไกล แต่บริเวณนั้นก็มักจะมีคนมาวิ่ง เดิน และออกกำลังกายอยู่ไม่น้อย แล้วก็มักมีคนผ่านไปมาอยู่บ่อยครั้ง บางทีอู๋หมิงซืออาจจะผ่านไปพอดี ได้ยินเรื่องมาบ้างเล็กน้อย ก็เลยตัดสินใจเอาเรื่องใหญ่นี้มาเขียนคุยโว ทั้งใส่ความรู้สึกลงไปด้วย
เพราะอะไร เพราะอู๋หมิงซือคนนี้ ในชีวิตจริง เดิมทีแล้วเป็นคนที่ไม่มีความสามารถ มักถูกคนอื่นมองข้าม เจ้าหมอนี้มักจะเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองมาโดยตลอด เลยอยากแสดงความสามารถของตนเอง ทำให้คนรอบข้างเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขา ทำให้คนที่มองไม่เห็นเขาได้รู้ว่าเขาเก่งกาจขนาดไหน
อู๋หมิงซือค้นหาบนอินเตอร์เน็ต แล้วก็ค้นเจอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคดีฆ่าหั่นศพเมื่อสิบห้าปีก่อน พอหวนคิดถึงสิ่งที่เขาบังเอิญเจอในวันนี้ ก็เลยรวมเอาคดีฆ่าหั่นศพเข้าด้วยกัน และแล้วแผนการที่สมบูรณ์แบบนี้ก็ได้เกิดขึ้น อู๋หมิงซือใช้ทั้งสองคดีนี้ เริ่มเขียนบทความคุยโว วิพากษ์วิจารณ์มั่วซั่วลงบนอินเตอร์เน็ต อยากดึงดูดให้คนบนอินเตอร์เน็ตสนใจ ผลกลายเป็นว่า เขาสมหวังแล้ว!
โพสต์ของเขาดึงดูดความสนใจได้มากจริงๆ นั้นทำให้เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก
กระทั่งเนื้อหาของโพสต์ นอกจากคดีฆ่าหั่นศพทั้งหมดแล้ว เรื่องอื่นๆ ที่เขาหาเจอ ล้วนหลอกลวงเพื่อนบนอินเตอร์เน็ตทั้งหมด
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีอีกความเป็นไปได้ นั่นก็คือความเป็นไปได้ที่นักล่าผีดิบ 007 เพิ่งพูด!
ฆาตกรโรคจิต ก่อนหน้านี้เขาอยากฆ่าใครสักคน แต่กลัวว่าหลังจากที่ลงมือฆ่าแล้ว ตำรวจจะสืบมาถึงตัวเอง ดังนั้นก็เลยคิดวิธีว่าเช่นนี้ขึ้นมา!
ก่อคดีฆาตกรรมเลียนแบบ!
ก่อคดีเลียนแบบคดีฆาตกรรมหั่นศพเมื่อสิบห้าปีก่อน เพื่อให้ทางตำรวจและทุกคนเชื่อว่าคนที่ก่อคดีคือฆาตกรเมื่อสิบห้าปีก่อน เขาแต่งเรื่องโกหกขึ้นมาทำให้คิดว่าเมื่อปีนั้นฆาตกรบ้านั้นยังไม่ตาย ทำให้ตำรวจและฝูงชนสับสน เพื่อให้ตนเองพ้นผิด
และไม่ว่าจะเป็นเหตุผลไหน อู๋หมิงซือคนนี้ ไม่เป็นอะไรนอกจากจอมคุยโว กระทั่งยังเป็นไปได้ว่าจะเป็นฆาตกรอีกด้วย!
ตอนนี้สิ่งที่เขาทำทั้งหมด คือการใช้ความเห็นอกเห็นใจและความยุติธรรมของมวลชน ช่วยให้ตนเองพ้นผิด! คนคนนี้ความจริงแล้วก็ไม่ได้แตกต่างจากคนปลิ้นปล้อนเลยด้วยซ้ำ!
เป็นบาปที่ไม่สมควรให้อภัย!
หลังจากที่ต่อว่าต่อขานอู๋หมิงซือคนนั้นไปชุดใหญ่ เสิ่นอี้ยังเขียนประโยคข้างล่างเสริมขึ้นอีกหลายประโยค!
ให้พูดคือ ถ้าอู๋หมิงซือเป็นฆาตกรจริงๆ ก็อย่าไร้เดียงสาไปหน่อยเลย คิดว่าตนเองจะปิดบังตำรวจได้หรือไง
ถ้าหากว่าคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อสิบห้าปีก่อนถูกใส่ร้ายจริงแล้วจะทำไม เขาคิดว่าแค่การเลียนแบบเล็กๆ น้อยเช่นนี้ทางตำรวจจะมองไม่ออกเลยงั้นหรอ
ถ้าเป็นคดีถูกใส่ร้ายจริง ข้อมูลในแฟ้มคดีต้องไม่มีทางครบถ้วนอย่างแน่นอน ข้อมูลที่อู๋หมิงซือได้รับไม่ครบถ้วน ทางตำรวจแค่มองก็ต้องเห็นความจริงได้อย่างแน่นอน ถึงเขาจะทำได้เหมือนจริง แต่ยังไงก็ไม่มีทางหลอกตำรวจมืออาชีพได้อย่างแน่นอน!
เนื้อหาในโพสต์ยาวมาก มีหลายพันคำ เสิ่นอี้วิเคราะห์ออกมาทีละอย่าง แสดงเหตุผลออกมาได้อย่างชัดเจน ทุกความเป็นไปได้ล้วนถูกเขาไตร่ตรอง และเจียระไนออกมาเป็นคำพูดอย่างชัดแจ้ง หลังจากนั้น บวกกับมีทหารน้ำเหล่านั้นมาวิเคราะห์คดีฆาตกรรมเลียนแบบ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งมีคนจำนวนมากซักถามข้อสงสัยความจริงจากโพสต์ของอู๋หมิงซือ แต่ยิ่งมีคนจำนวนมากสงสัย อู๋หมิงซือคนนี้ก็กลายเป็นฆาตกรของคดีฆ่าหั่นศพที่เพิ่งเกิดขึ้นเสียแล้ว
เหตุผลที่น่าสงสัยก็เหมือนกับที่นักล่าผีดิบ 007 บอกนั้นแหละ ถ้าเขาไม่ได้เป็นฆาตกร ทำไมถึงรู้รายละเอียดได้ชัดเจนขนาดนี้
คดีนี้ยังไม่ถึงสองวัน เขาก็เข้าใจสถานการณ์เหมือนกับที่ตำรวจเข้าใจ นอกจากจะเป็นฆาตกรแล้ว เขาจะเป็นอะไรได้อีก
นอกเสียจากว่าจะปิดบังว่าตนเองเป็นฆาตกรตัวจริง