webnovel

ตอนที่ 129

ตอนที่ 129 จุดประสงค์ที่แท้จริง

"เกรงว่าจะไม่แน่" เสิ่นอี้กล่าวเสียงนิ่ง "ไม่รู้ว่าบังเอิญเกินไปหน่อยหรือเปล่า"  

"บังเอิญเหรอคะ" เย่หนิงตกตะลึง

เสิ่นอี้ยิ้มเย็น "คดีนี้เพิ่งเกิดได้ไม่ถึงสองวันโพสต์ก็เผยแพร่ออกมาเสียแล้ว และอีกอย่าง แม้ว่าเขาจะใช้วิธีการบางอย่าง คดีเคยสอบสวนเมื่อสิบห้าปีก่อน แต่เมื่อสองวันก่อนเพิ่งเกิดการหั่นศพ เขารู้เรื่องนี้ทั้งหมดได้ยังไง เรื่องเหล่านี้จะแพร่ออกไปเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน"

"นักเรียนเหล่านั้นเป็นคนที่พบชิ้นส่วนแรก ตอนนั้นที่ใต้สะพานมืดสลัว พวกเขามองเห็นชิ้นส่วนศีรษะก็ล้วนตกใจจนขวัญหนี เดิมทีจึงไม่รู้ว่าในกล่องกระดาษใส่ของอะไรเอาไว้ และชิ้นส่วนอวัยวะชิ้นที่สองก็พบโดยคนแก่เก็บขยะ คนแก่คนนั้นตกใจจนตอนนี้ยังไม่กล้ากลับไป ชิ้นส่วนอวัยวะเลยถูกส่งไปที่อยู่สถานีตำรวจ ไม่มีคนได้แตะต้องอีก ส่วนชิ้นส่วนที่สามก็ถูกค้นพบโดยคนในกองสอบสวน ให้พูดก็คือมีคนรู้น้อยมาก!"

เสิ่นอี้นิ่งค้าง แล้วพูดอีกครั้งว่า "นักเรียนเหล่านั้นเป็นคนที่พบชิ้นส่วนแรก ก็แค่รู้ว่าในกล่องกระดาษมีศีรษะมนุษย์เท่านั้น ยิ่งกว่านั้นชิ้นส่วนที่สอง ชิ้นส่วนที่สามยังไม่มีคนรู้อีก กระทั่งไม่มีคนรู้แม้แต่ว่าทางตำรวจเป็นคนค้นพบชิ้นส่วนศพเหล่านั้น ยิ่งกว่านั้นเป็นชิ้นส่วนศพอะไร มีวิธีการห่อแบบไหน อู๋หมิงซือคนนี้รู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร"

ทุกๆ คนต่างเงียบอย่างรวดเร็ว!

ตอนที่เพิ่งดูโพสต์ อารมณ์ของพวกเขากำลังตื่นตกใจเล็กน้อย ระหว่างนั้นเลยไม่มีใครสนใจคำถามเหล่านี้

ตอนนี้พอได้ยินที่เสิ่นอี้พูดทุกคนถึงเพิ่งคิดออก ในโพสต์มีการเปรียบเทียบระหว่างคดีเก่าเมื่อสิบห้าปีก่อนและคดีล่าสุด รวมถึงการวิเคราะห์รายละเอียดต่างๆ

การวิเคราะห์รายละเอียดเหล่านี้ วันนี้พวกเขาเองก็เคยทำ แต่คำถามคืออู๋หมิงซือคนนั้นรู้เรื่องเหล่านี้ได้ยังไง ถึงแม้ว่าเขาจะค้นเจอคดีเก่าเมื่อสิบห้าปีก่อน แต่คดีนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน เนื้อหารายละเอียดพวกนี้เขารู้ได้อย่างไร

สีหน้าของหยางปินเปลี่ยนแปลงไป "เขารู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง" 

เสิ่นอี้กล่าวเสียงนิ่งว่า "ผมไม่คิดว่าในกลุ่มของพวกเราจะมีคนเผยแพร่เรื่องของคดีออกไป หรือว่าในพวกเราจะไม่รู้การรักษาความลับในวิชาชีพ รายละเอียดสำคัญเหล่านี้ทำไมถึงได้เผยแพร่ออกไปได้"

สีหน้าของหยางปินยิ่งอยู่ก็ยิ่งแย่ลง "งั้นนอกจากพวกเรา ยังจะมีใครรู้รายละเอียดของคดีนั้นอย่างละเอียดอีกล่ะ นอกจาก...ฆาตกร!" 

"ใช่ครับ!" เสิ่นอี้คว้าโทรศัพท์ในมือ แล้วพูดยืนยันว่า "ไม่ต้องสงสัย! อู๋หมิงซือคนนี้ก็คือผู้ร้ายหั่นศพของเมิ่งซินถง!"  

กวานอี้เหลียงตกใจจนสะดุ้งสุดตัว "งั้นจะรออะไรอยู่ล่ะ! รีบไปจับเขาสิ!" 

"รอก่อน!" เสิ่นอี้มองกวานอี้เหลียง "รีบทำไม! จะจับเขา คุณรู้เหรอว่าเขาอยู่ที่ไหน"  

"งั้น...งั้นทำไมเขาถึงได้ทำแบบนี้ ฉันสับสนไปหมดแล้วนะ" เย่หนิงสงสัย "เสิ่นอี้ คุณเพิ่งพูด เพิ่งพูดไม่ใช่เหรอว่าอู๋หมิงซือคนนั้นอยากขอความเป็นธรรมให้อู๋เหวินคัง งั้นเขา เขาจะเป็นฆาตกรได้อย่างไร ฆาตกรร้องทุกข์ให้อู๋เหวินคังงั้นเหรอคะ" 

"ไม่ใช่" เสิ่นอี้ส่ายหน้า "พวกคุณฟังผม มาพูดจากโพสต์ของอู๋หมิงซือก่อนเลย ทำไมเขาถึงต้องโพสต์สิ่งนี้ ก็เพื่อดึงดูดความคิดเห็นของประชาชน! กระตุ้นให้ประชาชนโกรธเคือง! ทั้งที่คดีของอู๋เหวินคังเป็นคดีที่จบไปแล้ว!"

"ปีนั้นพูดได้เลยว่ามีหลักฐาน และอีกอย่างอู๋เหวินคังเองก็ยอมรับผิด มีคำสารภาพของเขา ดังนั้นก็มีการตัดสินโทษแล้ว คนก็ถูกประหารชีวิตไปแล้ว สำหรับตอนนี้กลับตายโดยที่ไม่มีหลักฐาน! อู๋เหวินคังไม่สามารถร้องขอความเป็นธรรมให้ตนเองได้! และคดีนี้ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว ถ้าคดีพลิกจะทำอย่างไรล่ะ"

"วิธีที่มีประโยชน์มากที่สุดก็คือการหาหลักฐานใหม่ และกลับคำตัดสินของเมื่อปีนั้น หรือทำให้คนร้ายยอมรับผิดเอง! แต่สองทางนี้อาจเป็นไปไม่ได้ เขาทำอย่างไรถึงจะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มากขนาดนี้ สามารถทำให้พวกผู้นำชั้นสูงเกิดความตื่นตระหนกได้ ความคิดเห็นของประชาชนเป็นอาวุธที่เป็นประโยชน์มากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!"

"ตอนนี้ยังอยู่แค่ในขอบเขตของเมืองตงไห่ของพวกเรา แต่ไม่นานก็ต้องเผยแพร่ออกไป โพสต์เผยแพร่ออกไปไม่หยุด ยิ่งเผยแพร่ก็ยิ่งมีคนรู้มากขึ้น ดึงดูดความสนใจมากขึ้น กระทั่งมีการสัมภาษณ์ของพวกนักข่าว สืบหา ออกทีวีของเซี่ยงไฮ้ เมื่อถึงตอนนั้นผู้นำของฝ่ายตุลาการจะให้ความสำคัญ พอถูกขู่บังคับโดยประชามติ พวกเขาก็ต้องสืบสวนคดีนี้ใหม่อีกครั้ง!"

“นี่ก็คงเป็นสาเหตุว่าทำไมถึงโพสต์บนอินเตอร์เน็ต"

"ใช่!" เสิ่นอี้ค่อยๆ พูดอย่างช้าๆ "ไม่หยุดแค่นี้! เขาต้องมีบุคคลเบื้องหลังคอยผลักดันอยู่ ไม่อย่างงั้นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่ชั่วโมง การกดเข้าชมโพสต์นี้ของเขาจะมากขนาดนี้ได้อย่างไร และอีกอย่างมันก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกรงว่าไม่ถึงสองชั่วโมงก็คงจะทะลุสองล้าน!"

"ไม่เลว! ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน" กวานอี้เหลียงรีบพูดขึ้นมา "การโพสต์เดิมทีก็ดึงดูดความสนใจของผม ถ้าหากว่าเป็นกระทู้เด่นที่ถูกดันเอาไว้ในหน้าแรก ก็ไม่มีทางหรอกที่จะเพิ่มขึ้นไปเร็วอย่างนี้ มีคนกดเข้ามากกว่าหนึ่งล้านครั้ง ตอบหลายพันความคิดเห็น ปลอมเกินไปหรือเปล่า ต้องมีการซื้อเสียงคนอย่างแน่นอน" 

เสิ่นอี้พยักหน้าพลางพูดขึ้นว่า "จุดประสงค์ของคนๆ นี้ง่ายมากๆ ก็แค่อยากทำให้โพสต์นี้เป็นประเด็น ยิ่งมีคนรู้มาก ก็ยิ่งง่ายต่อการดึงดูดความสนใจของคนที่อยู่เบื้องบน ความเป็นไปได้ที่จะมีการเน้นย้ำก็ยิ่งมีมากขึ้น และบุคลากรทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการคดี บทลงโทษก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น เพราะทั้งประเทศ สายตาทุกคู่ต่างก็จับจ้อง! แม้แต่ผู้อาวุโสที่เคยมีผลงานที่โดดเด่นที่ยากต่อการคาดโทษก็ตาม เพราะกลุ่มคนไม่ยอมรับ!"

เย่หนิงยิ่งฟังก็ยิ่งโมโห "คนๆ นี้จิตใจชั่วช้าชะมัด!"

เสิ่นอี้เล่นโทรศัพท์ในมือ พร้อมกับเอ๋ยเสียงนิ่งว่า "ใครบอกว่าไม่ใช่ล่ะครับ!"

เมื่อเทียบกับสิ่งเหล่านี้ หยางปินกลับมีเรื่องที่กังวลใจอีกเรื่อง "ศาสตราจารย์เสิ่น คุณบอกว่าอู๋หมิงซือคนนี้มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นฆาตกรที่หั่นศพเมิ่งซินถงเหรอ" 

"ใช่! มีความเป็นไปได้มาก" เสิ่นอี้มองทุกๆ คน แล้วถามขึ้นมาว่า "อู๋หมิงซือโพสต์แบบนี้ ทำให้โน้มน้าวผู้คนจำนวนมากให้เชื่อว่าปีนั้นอู๋เหวินคังถูกสังหารอย่างไร้ความยุติธรรม สาเหตุเกิดจากอะไร คงไม่ใช่เพราะเมิ่งซินถงถูกหั่นศพ แต่เป็นเพราะคดีที่เหมือนกันเกิดขึ้นอีกครั้งแล้วต่างหาก! ดังนั้นก็ยิ่งยืนยันได้ว่าปีนั้นมีความเป็นไปได้มากว่าตำรวจจะจับตัวคนผิด!"

ใบหน้าของหยางปินตึงเครียด เขาพูดขึ้น "ผมเข้าใจแล้ว! คนร้ายฆ่าเมิ่งซินถง เพื่อจะพลิกคดีอู๋เหวินคัง! เพราะคดีเมื่อปีนั้นยังไงก็จบไปแล้ว! ก็อย่างที่คุณเพิ่งพูด นอกจากจากหาหลักฐานใหม่หรือทำให้ฆาตกรยอมรับผิดออกมาอีกครั้ง"

"แต่จะทำยังไงให้ฆาตกรรับสารภาพ เนื่องจากถนนสายนี้เดินผ่านไม่ได้ เขาก็แค่ต้องคิดวิธี หาหลักฐานใหม่ หลักฐานที่ดีที่สุดคืออะไร การที่คนร้ายก่อคดีอีกครั้ง ธรรมชาติแล้วก็เป็นหลักฐานที่ดีที่สุด! หลักฐานเมื่อปีนั้นทำให้พวกเราจับคนผิด! ทั้งยังคงทำให้คนร้ายลอยนวลอยู่ข้างนอก!"