webnovel

ตอนที่ 127

ตอนที่ 127 กระแสโพสต์

เหยื่อแบบเดียวกัน! 

วิธีการลงมือหั่นศพและเคลื่อนย้ายศพเหมือนกัน

ใช่! นี่ก็คือฝันร้ายเมื่อปีนั้น!

ฆาตกรรมต่อเนื่องสี่ราย ฆาตกรอำมหิตที่ลอยนวลอยู่ข้างนอกจวบจนทุกวันนี้ เขาได้กลับมาอีกครั้งแล้ว! 

ไม่มีคนรู้ว่าในสิบห้าปีนี้ เขาไปอยู่ที่ไหนกันแน่ แต่เขากลับมาอีกครั้งแล้ว!

ทำให้ผู้คนหวาดกลัว และรู้สึกเกลียดชังความอำมหิตของฆาตกร ปีศาจที่สร้างฝันร้ายให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก ขณะนี้กลับเหมือนเป็นทูตของความยุติธรรม มีคนมาเปิดโปงความชั่วร้ายเมื่อสิบกว่าปีก่อนโดยที่ไม่ไว้หน้าเลยสักนิดเดียว

ท้ายสุด อู๋หมิงซือก็พูดประโยคนี้ขึ้น ‘ระหว่างฆาตกรที่กระทำผิดกับพวกเขา แตกต่างกันตรงไหน’

โพสต์นี้โพสต์ไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ประเด็นถกเถียงก็เริ่มเปิดฉากขึ้น! 

วันหยุดสุดสัปดาห์ มีนกฮูกกลางคืนเป็นจำนวนมาก[footnoteRef:1] ว่างและเบื่อตลอดทั้งคืน ยิ่งกว่านั้นโพสต์นั้นทั้งยังเป็นโพสต์ที่สะดุดตามาก จึงปกติอยู่แล้วที่จะดึงดูดความสนใจ อีกทั้งเนื้อความในโพสต์ก็ยังสยดสยองขนาดนี้ แล้วจะไม่เป็นประเด็นร้อนได้อย่างไรกัน [1: นกฮูกเป็นการเปรียบเทียบกับพวกนักท่องเว็บกลางคืน]

กระทั่งมีผู้ประสงค์ดีจำนวนไม่น้อยที่กลางคืนไม่หลับไม่นอน เข้ามาตอบกลับข้างในโพสต์ ข้อพิพาทถูกถกกันตลอดทั้งคืน จนถึงตอนนี้โพสต์นี้ก็ถูกเพื่อนชาวเน็ตนำไปปล่อยเว็บไซด์อื่นๆ แล้วชาวเน็ตส่วนใหญ่ล้วนเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ขอให้ฝ่ายตุลาการออกมาพูดอย่างชัดเจน และยังขอทวงความยุติธรรมให้แก่ผู้ตาย 

ทว่าจะมีชาวเน็ตจำนวนน้อยที่ค่อนข้างมีเหตุมีผล รู้สึกว่าแค่พึ่งคำไม่กี่คำของอู๋หมิงซือนั้นไม่สามารถหาหลักฐานอะไรมายืนยันได้ แต่เสียงที่อ่อนแรงเหล่านี้ไม่นานก็ถูกฝูงชนกลบจนมิดเสียแล้ว  

ความตื่นเต้น! 

ความโกรธ! 

ความอยุติธรรม! 

ภายในเว็บไซด์หลัก ล้วนเต็มไปด้วยอารมณ์แบบนี้ หรือแม้แต่เว็บไซด์ของทางสถานีตำรวจและ weibo ก็ล้วนเต็มไปด้วยความเดือดพร่านของมวลชนเช่นกัน!

เลยเถิดเกินไปใหญ่แล้ว! 

เย่หนิงดูต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ! 

ถึงแม้ว่าคดีเมื่อปีนั้นเกิดจากความเข้าใจผิดจริงๆ แต่น้ำเสียงในคำพูดนี้ของอู๋หมิงซือ ความจริงทำให้ผู้คนรับไม่ได้เสียแล้ว!

เย่หนิงวางโทรศัพท์ลง 

“ให้ผมดูหน่อยได้ไหม" กวานลี่ผิงมองเธอ ภายในดวงตาเต็มไปด้วยคำขอร้อง

ถึงแม้ว่าเขาจะใช้โทรศัพท์มือถือเป็น แต่จะใช้โทรศัพท์มือมือเล่นอินเตอร์เน็ตอย่างไรนั้น เขากลับไม่เข้าใจเลย 

เย่หนิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงส่งโทรศัพท์มือถือให้กวานลี่ผิง เธอครุ่นคิดแล้วพูดอีกครั้งว่า "แต่คำพูดเพ้อเจ้อพวกนั้นบนอินเตอร์เน็ต คุณกวาน คุณไม่ต้องไปใส่ใจหรอกนะคะ!" 

กวานลี่ผิงยิ้ม 

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เย่หนิงมักรู้สึกว่ารอยยิ้มนี้ ดูเศร้าเล็กน้อย

คาดว่าเขาก็คงรู้สึกสังหรณ์ใจอะไรใช่ไหม 

เรื่องนี้ ตอนนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เหมือนกับคำพูดนั้นที่เย่หนิงเพิ่งพูดเอาไว้จริงๆ อยากจะปิดบังก็ปิดเอาไว้ไม่อยู่แล้ว! 

ปัจจุบันอินเตอร์เน็ตพัฒนาไปไกลขนาดนี้ ความคิดเห็นของประชาชนกำลังแพร่ขยายไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะลบโพสต์ก็คงไม่ทันเสียแล้ว

ยิ่งในสถานการณนี้ ก่อนหน้านี้ไม่ได้รับการชี้แจงความจริง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะลบโพสต์ จะไปมีประโยชน์อะไร 

ถึงพวกเขาลบโพสต์แล้ว จะปิดปากของผู้คนได้ไหม

เสิ่นอี้วางโทรศัพท์ลง ด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง

ถึงข้างในจะมีคนอยู่เป็นจำนวนมาก แต่คนที่เครียดที่สุด และเป็นกังวลที่สุด โดยปกติแล้วยังคงเป็นกวานอี้เหลียง 

มือของเขาสั่นรุนแรงยิ่งขึ้น! 

ขณะนั้นทุกคนๆ ล้วนมองกวานลี่ผิงเงียบๆ โดยที่ไม่ส่งเสียงใดๆ 

พวกเขาทั้งหมดกำลังรอ! 

รอกวานลี่ผิงอ่านเนื้อหาของโพสต์จบ 

สีหน้าของกวานลี่ผิง ยิ่งอยู่ก็ยิ่งแย่ลง จนกระทั่งสุดท้ายขาวซีดจนไม่หลงเหลือสีเลือดเลยสักนิดเดียว 

ขนาดจ้องโทรศัพท์มือถือก็แทบจะไม่กะพริบ เย่หนิงรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย อายุมากขนาดนี้จะรับได้ไหม ถ้าจู่ๆ เป็นลมสลบไปล่ะ 

แต่ยังดี สุดท้ายเขายังสูดลมหายใจเข้าลึก หลังจากนั้นก็คืนโทรศัพท์ให้กับเย่หนิง 

แค่พยายามแสร้งทำให้เหมือนดูสงบ ทว่าอย่างไรแล้วก็แสร้งไม่ได้ 

ทุกคนในที่นั้นล้วนแต่มองออก เขาเครียดมาก ทั้งยังหวาดวิตกเล็กน้อย คล้ายกับว่ากังวลอะไรอยู่ 

เย่หนิงไม่สามารถทนต่อไปได้ 

เพราะเป็นตำรวจที่ทำหน้ามานานหลายปีขนาดนี้ และทั้งหมดต่างก็เกษียณอยู่บ้านมาหลายปี พวกเขากลับยังเปิดโปงคดีเก่าเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่าต้องการตบหน้าและกรีดแผลเป็นของพวกเขา  

ถึงแม้ว่าปีนั้นพวกเขาจะผิด แต่ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ยังจะเอาเรื่องพวกนี้มา…...

เดิมทีพวกเขาเองก็ไม่อยากทำให้คนแก่ผู้นี้ทนรับไม่ไหว เพียงแค่อยากค้นหาเรื่องราวที่เป็นจริงเท่านั้น แต่คนที่โพสต์เห็นได้ชัดๆ เลยว่าไม่ได้คิดอย่างนี้

แม้ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคืออะไร แต่เขาได้ทำให้ข่าวแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองตงไห่อย่างรวดเร็วเสียแล้ว ก็รู้ว่าวัตถุประสงค์ของเขาไม่ง่ายเลย อีกอย่างคนๆ นั้น เป้าหมายโจมตีคือกระบวนความยุติธรรมของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จัดการคดีเมื่อปีนั้น

เพื่อปิดคดีได้เร็ว เพื่อที่จะคลุมหน้าปกป้องตนเอง รักษาอาชีพของตนเองเอาไว้ คนบริสุทธิ์เลยต้องจำยอมรับผิด

จนสุดท้ายทนต่อไปไม่ไหว! 

เลยปราบปรามคนผิด และต่อว่าต่อขาน 

เย่หนิงปวดหัวมาก

เมื่อกี้คำพูดนั้นเธอก็แค่พูดเรื่อยเปื่อยเท่านั้น เพราะอยากโน้มน้าวกวานลี่ผิง คิดไม่ถึงว่าประโยคนั้นจะกลายเป็นคำพยากรณ์เสียได้! 

และอีกอย่างสถานการณ์ยังยิ่งแย่ลงเป็นพิเศษ! 

ถึงแม้ว่าจะมีคนโพสต์เรื่องเหล่านี้ลงบนเว็บไซต์ เย่หนิงก็คิดไม่ถึงว่าจะสร้างผลกระทบใหญ่หลวงเช่นนี้

นี่......

หัวใจของเธอกระตุกอย่างฉับพลัน

ถูกแล้ว เรื่องนี้ ไม่แปลกหรอกใช่ไหม 

เธอใช้สายตามองไปหาเสิ่นอี้

เสิ่นอี้รู้สึกฉงน 

ภายในใจของเย่หนิงรีบร้อน เธอแอบหยิกเขาอีกครั้ง 

สีหน้าของเสิ่นอี้ยิ่งแสดงความแปลกใจ เขายังคิดว่าเย่หนิงเตือนเขา จึงไออกมาเล็กน้อย แล้วพูดว่า "คุณกวาน ถึงตอนนี้แล้ว คุณยังไม่ยอมพูดอีกเหรอครับ" 

ร่างของกวานลี่ผิงสั่นไหวอย่างรุนแรง เขามองโต๊ะชาข้างหน้า หลังจากที่นิ่งเงียบจนใกล้จะถึงหนึ่งนาที จึงพูดขึ้นมาว่า "พวกคุณออกไปก่อน ผมอยากอยู่เงียบๆ " 

"คุณกวาน..." หยางปินรีบเร่งเล็กน้อย 

"หัวหน้าหยางครับ" เสิ่นอี้รั้งหยางปิน แล้วพูดด้วยสีหน้าสงบนิ่งว่า "ให้เวลาคุณกวานหน่อย ให้เขาได้ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน พวกเราไปเดินเล่นที่สวนกันก่อนเถอะครับ"

"พ่อครับ..." กวานอี้เหลียงไม่ค่อยอยากออกไป 

กวานลี่ผิงไม่เงยหน้า แต่พูดไม่คำกี่พยางค์ว่า "ลูกก็ออกไปด้วย"

"ไปกันเถอะ น้องเหลียง!" เสิ่นอี้ตบที่ไหล่ของเขา "พาพวกเราดูสวนของบ้านคุณหน่อย" 

เมื่อมองกวานลี่ผิงที่ยังไม่เปลี่ยนความตั้งใจ กวานอี้เหลียงแค่ยืนขึ้นอย่างไม่เต็มใจแล้วพูดว่า "ได้ครับ"

มุมของสวนมีเถาต้นองุ่นที่เต็มไปด้วยผลองุ่น เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "ผลองุ่นนี้ไม่เลวเลย!"

กวานอี้เหลียงใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาพูดออกมา "ศาสตราจารย์เสิ่น คุณอยากกินก็เด็ดได้เลยครับ" 

"ดีแล้ว น้องเหลียง!" หยางปินเองก็เข้าไปพูดปลอบใจเขา "อายุยังน้อย อย่าไปคิดให้มากความเลย! ไม่เป็นไรหรอก"

กวานอี้เหลียงกำมือแน่นอย่างโกรธแค้น แล้วพูดว่า "เจ้าบ้านั้นเป็นใครกันแน่!" 

"พวกเราจะต้องสืบหาให้ละเอียด!" หยางปินพูดพลางโทรศัพท์กลับไปที่สถานีตำรวจ เตรียมจัดกำลังคนให้ไปสืบเสาะเรื่องนี้

เสิ่นอี้เองก็ไม่อยู่นิ่ง เขาพิมพ์บนโทรศัพท์หลายต่อหลายครั้ง ทำให้ผู้คนสนใจกับโพสต์แถมยังตอบให้บรรยากาศคึกคัก เขาจ้องครู่หนึ่งอย่างสนใจ

"เสิ่นอี้ หัวหน้าหยาง เรื่องนี้แปลกมากเลย!" เย่หนิงพูด "เมื่อกี้ถึงแม้ว่าฉันจะเคยบอกว่าอาจมีคนเอาเรื่องเหล่านี้ไปเผยแพร่ แต่ว่า...แต่ว่าฉันแต่พูดไปมั่วๆ เท่านั้นจริงๆ...ถึงแม้ว่าตอนนี้อินเตอร์เน็ตจะพัฒนาแล้ว ของเหล่านี้ใช่ว่าจะสามารถนำมาพูดมั่วซั่วกันได้นี่นา"