webnovel

ตอนที่ 124

ตอนที่ 124 ผู้อาวุโส

เสิ่นอี้กลับไม่ได้กระตืนรือร้นให้เหตุผลของตนเอง เขาถามหยางปินและเหล่าเทียว่า " หัวหน้าหยางพวกคุณพูดเถอะ" 

หยางปินเองก็ไม่รีบด่วนสรุป คาดเดาออกมาว่า " สาเหตุมีมากมาย อาจเป็นไปได้ว่าคู่กรณีอาจไม่อยู่ที่เมืองตงไห่ ดังนั้นเดิมทีแล้วจึงไม่รู้เรื่องเหล่านี้ แต่ฆาตกรไม่รู้ คิดว่าอีกฝ่ายจะเห็น ใครจะรู้ว่าก่อนนี้อีกฝ่ายไม่อยู่เมืองตงไห่! เช่นนี้แล้วจะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง จากนั้นฆาตกรก็เลยลงมือสังหารทีละคน ฆ่าเพื่อดึงดูดความสนใจอีกฝ่าย”

เหล่าเทียครุ่นคิด แล้วจึงพูดออกมาว่า " ก็มีความเป็นไปได้ว่าคนๆ นั้นจะรู้ แต่เป็นเพราะกลัวฆาตกรมากเกินไป ดังนั้นจึงไม่กล้าพูดออกมา หนำซ้ำกลับยังหนีไป ฆาตกรไม่ทันได้โต้ตอบ ก็ลงมือฆ่าต่อด้วยความแค้นเคือง หลังจากนั้นสาเหตุอะไรที่ทำให้ฆาตกรไม่ลงมือต่อ อาจมีความเป็นไปได้ว่าเพราะพบว่าอีกฝ่ายไม่มีการตอบรับ ดังนั้นจึงละทิ้งการก่อคดี วางแผนว่าจะรอคนๆ นั้น แล้วถึงจะก่อคดี ขู่ขวัญเธอต่อ"

เสิ่นอี้กล่าวเสียงเรียบว่า " อยู่ๆ ฆาตกรก็หยุดก่อคดี นอกจากสาเหตุเหล่านั้นที่พวกเราเคยพูดก่อนหน้านั้นแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าจะมีสาเหตุอื่นอีก ยกตัวอย่างเช่น เพราะเขาถูกตัดสินจำคุกในคดีอื่น และเพิ่งถูกปล่อยตัวออกจากคุกก่อนหน้านี้ไม่นานความน่าจะเป็นพวกนี้ก็มีนะครับ" 

ดังนั้นที่คู่กรณีไม่เผยความจริง ก็คงจะเป็นเพราะแบบนี้ ก่อนที่จะมีการสืบคดี ชายคนนั้นก็ถูกจับกุมและถูกจำคุกในข้อหาก่ออาชญากรรมอื่นแล้ว " หยางปินครุ่นคิด รู้สึกว่าความน่าจะเป็นนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด

" อืม เป็นไปได้มากครับ!" เสิ่นอี้พูด " ลองค้นหารายชื่อของนักโทษเมื่อ 15 ปีก่อนของเมืองตงไห่ ที่ปีที่แล้วหรือปีนี้เพิ่งได้รับการปล่อยตัวครับ" 

" ตั้งสิบกว่าปีรายชื่อนักโทษมีไม่น้อยเลยนะนั่น..." หยางปินพูดพลางโทรศัพท์ ให้คนตรวจสอบเรื่องเหล่านี้

ถึงแม้จะไม่มีความหวังอะไร แต่กวานอี้เหลียงกลับยังไม่ปล่อยวาง เขาถามเสิ่นอี้ว่า " ศาสตราจารย์เสิ่น ยืนยันได้จริงๆ หรอ ว่าคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อสิบหาปีก่อน จับตัวคนผิดจริง นี่เป็นแค่จุดที่น่าสงสัย หรือว่าจับคนผิดจริงๆหรอครับ

" แค่จุดที่น่าสงสัยเท่านั้น" เสิ่นอี้มองกวานอี้เหลียง ด้วยสีหน้านิ่ง พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากๆ ว่า " กวานอี้เหลียง คุณได้ตั้งใจดูแฟ้มเอกสารไหม ได้ดูคำสารภาพของผู้ร้ายไหม คุณรู้สึกจริงๆ หรอว่าข้อสงสัยเล็กน้อยเหล่านี้ไม่สำคัญ หรือว่าคุณไม่กล้าเผชิญหน้า" 

กวานอี้เหลียงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ 

จงอี้ฮ่าวและคนอื่น อายุน้อย แล้วเข้ามาที่กรมตำรวจได้ไม่นาน โดยปกติแล้วจึงไม่รู้ว่าพ่อของกวานอี้เหลียงเป็นใคร แต่หยางปินและเหล่าเทียกลับรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าเทีย ปีนั้นพ่อของกวานอี้เหลียง กวานลี่ผิง เป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในสถานีตำรวจ เป็นหมอนิติเวชที่มีชื่อเสียง ปิดคดีมานับไม่ถ้วน ได้รับความดีความชอบเป็นจำนวนมาก ทำให้เหล่าเทียที่ร่ำเรียนเลื่อมใสศรัทธา ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเกษียณไปแล้ว แต่ยังมีชื่อเสียงมากอยู่ในโลกของตำรวจ เป็นบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงมากจริงๆ

นอกจากกวานลี่ผิงแล้ว ที่จัดการคดีนี้โดยเฉพาะ ตอนนั้นได้ตำรวจมือฉมังมาร่วมไขคดี รวมถึงยังดำรงเป็นรองผู้อำนวยการด้วย

น่าละอายจริงๆ!

ทุกคนต่างก็คิดกันแบบนี้

บุคคลที่เกี่ยวข้อง ตัวตนของคนทั้งสองล้วนไม่ธรรมดา ล้วนเป็นผู้บังคับบัญชา และผู้นำของพวกเขา...

ถ้าต้องตรวจสอบคดีนี้ใหม่อีกครั้ง...

แค่คิดถึงมัน ทั้งหยางปินและเหล่าเทียต่างรู้สึกปวดหัว

กวานอี้เหลียงก้มศีรษะ ไม่พูด เขาก็พูดไม่ออก เพราะประโยคของเสิ่นอี้ กำลังบาดลึกเข้ามาในใจของเขา

หยางปินสองจิตสองใจเล็กน้อย กำลังคิดอยากถามอะไร จู่ๆ เสิ่นอี้ก็ถามขึ้นกะทันหันว่า " หลังจากที่คุณกวานเกษียณแล้ว ชีวิตตอนนี้ก็คงจะสบายมากๆ ไม่รู้ว่าวันหยุดสุดสัปดาห์จะว่างไหม สะดวกให้พวกเราไปเยี่ยมหน่อยได้ไหม" 

สีหน้าของกวานอี้เหลียงเปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้

ถึงแม้จงอี้ฮ่าวและคนอื่นๆ จะไม่รู้อะไรเลย แต่ตอนนี้พอได้ยินเสิ่นอี้พูดแบบนี้ เลยมองกวานอี้เหลียงอย่างแปลกใจอีกครั้ง อย่างไม่เข้าใจ

จากนั้นก็ดูลิสต์รายชื่อผู้สอบสวนในไฟล์อีกครั้ง จากที่ไม่เข้าใจก็เข้าใจทันที

คุณกวานที่เสิ่นอี้พูดถึง ต้องมีความสัมพันธ์อะไรกับกวานอี้เหลียงแน่นอน และในลิสต์รายชื่อผู้ร่วมสอบสวน ก็มีนามสกุลกวาน ช่วยพูดให้กระจ่างกว่านี้หน่อยได้ไหม

ทุกๆ คนต่างหมดคำพูด

เสิ่นอี้มองกวานอี้เหลียง แล้วค่อยๆ พูดออกมาว่า " ถ้าตอนนี้คุณยังจัดการอารมณ์ของตนเองไม่ได้ งั้นหลังจากนี้จะทำอย่างไร หลังจากนี้คุณยังต้องเผชิญกับทางเลือกที่มากขึ้นและยากขึ้น งั้นทีแรกทำไมคุณถึงต้องเลือกทำอาชีพนี้ด้วย จุดประสงค์ที่คุณเลือกมาทำอาชีพนี้เพราะอะไร ทำไมคุณถึงเป็นตำรวจ เป็นเพราะแค่เอาสนุกเท่านั้นหรอ หรือรู้สึกว่านี่เป็นชามข้ามเหล็ก หรือ ว่าเป็นเพราะรักความยุติธรรม”

ร่างของกวานอี้เหลียงสั่นไหวเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เงียบไปชั้วขณะ ในที่สุดจึงค่อยๆ พยักหน้าแล้วพูดว่า " เขาอยู่ที่บ้าน!" 

เสิ่นอี้ไม่พูดแล้ว เย่หนิงและหยางปินต่างก็ผ่อนลมหายใจ 

สายตาของเสิ่นอี้มองไปที่ร่างของหยางปิน " พวกเราต้องไปสักครั้ง" 

" ดีครับ" หยางปินพยักหน้า เขาเองก็อยากรู้ความจริงของเรื่องนี้เร็วๆ 

สุดท้าย ตกลงกันได้ว่าคนที่จะไปหากวานลี่ผิง มีแค่หยางปิน เสิ่นอี้และเย่หนิง

ปีนั้นกวานอี้เหลียงเองก็เป็นหมอนิติเวชที่มีชื่อเสียง เย่หนิงเองก็เคยอ่านหนังสือที่เขาเขียนเอาไว้ไม่น้อย คดีก่อนหน้า เขาก็เป็นคนที่ชันสูตรศพ ดังนั้นรายละเอียดเหล่านั้น เย่หนิงเองก็อยากไปถามเขาโดยตรงเช่นกัน

ถึงในกองสอบสวนคดีพิเศษจะมีคนจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่ากวานลี่ผิงเข้าใจมันทั้งหมด ไปหาเขาเพื่อสอบถามคดี จึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด

ก่อนไป เสิ่นอี้ยังให้กวานอี้เหลียงโทรศัพท์หาพ่อของเขา บอกกวานลี่ผิงก่อนล่วงหน้า วัตถุประสงค์หลักก็คืออยากให้กวานลี่ผิงเตรียมใจไว้ก่อนล่วงหน้า 

ครอบครัวของกวานอี้เหลียงยังอยู่ในเขตเมืองเก่า ก่อนหน้านี้เป็นอาคารเก่า ทว่าอย่างไรก็ตามพอได้รับการบูรณะแล้ว ก็ดูไม่เลวเลยทีเดียว ทั้งยังมีสวนขนาดเล็กอีก ตอนที่เย่หนิง เสิ่นอี้และคนอื่นๆ ไปถึงที่นั่น พ่อของกวานอี้เหลียง กวานลี่ผิงกำลังกำจัดวัชพืชในสวนอยู่ ดูแล้วมีความสุขอยู่พอควร พอเห็นเสิ่นอี้และคนอื่นๆ ก็รีบวางของในมือลง แล้วทักทายพวกเขาทันที 

" เกษียณมาตั้งนาน ยังมีคนมาหาคนแก่ๆ แบบฉันอีก ไม่ง่ายเลย" กวานอี้เหลียงฉีกยิ้มด้วยสีหน้าที่เป็นธรรมชาติ

เปรียบเทียบกันแล้ว เห็นได้ชัดๆ เลยว่ากวางอี้เหลียงกลับอยู่ไม่สุข ยืนลุกลี้ลุกลน

กวานลี่ผิง หัวเราะเฮอะๆ " ศาสตราจารย์เสิ่น หัวหน้าหยาง คุณหมอเย่ พวกคุณมาเพราะคดีเมื่อสิบห้าปีก่อนใช่ไหม" 

เสิ่นอี้ยิ้ม " คุณกวาน คุณรู้ล่วงหน้าหรอครับ"

" ก็เดาได้ไม่ยากหรอก!" กวานลี่ผิงมองสนามหญ้าที่อยู่ไม่ไกล หลังจากที่เงียบไปราวๆ ครึ่งนาที จึงค่อยๆ พูดขึ้นมากว่า " คนแก่อย่างฉัน ถึงแม้ว่าจะเกษียณแล้ว แต่ไม่ได้มีหน้าที่แค่ปลูกต้นไม้ เลี้ยงปลานะ เกิดเรื่องใหญ่อะไรคนแก่อย่างฉันก็ต้องรู้เหมือนกันอยู่แล้ว!" 

" เมื่อเร็วนี้มีเรื่องฆาตกรรมเกินขึ้นอย่างใหญ่โตที่เมืองตงไห่ คดีหนึ่งปิดไปแล้ว ส่วนอีกคดีเพิ่งเกิดขึ้น ศาสตราจารย์เสิ่นที่คุณวิ่งโร่มาหาผม ต้องมีความเกี่ยวข้องกับคดีแน่นอน”