webnovel

ตอนที่ 120

ตอนที่ 120 เรื่องที่สำคัญที่สุด

ไม่ใช่เสียงที่ดังมาจากทางด้านข้าง แต่คนที่ฟังโทรศัพท์เปลี่ยนเป็นเสิ่นอี้แล้ว

เขาถามเสียงเย็นว่า " คุณอยากยืมเงิน"

ตู้ซื่อฮุยรู้สึกขายหน้ายิ่งกว่าเดิม เขาไม่รู้ว่าควรพูดอะไร 

"ที่ไหน" เสิ่นอี้ถามอีกครั้ง หลังจากนั้นก็พูดว่า "พรุ่งนี้ผมจะเอาไปให้คุณ" 

ตู้ซื่อฮุยตกตะลึง

เขายังคิดว่าเสิ่นอี้จะพูดเยาะเย้ยเขาเสียอีก ไหงผลลัพธ์ถึงเป็นแบบนี้ได้

“ตู้ซื่อฮุย ยังฟังอยู่ไหม" เห็นได้ชัดว่าเสิ่นอี้หมดความอดทนแล้วจริงๆ 

"ได้ยินครับ..." ตู้ซื่อฮุยรีบบอกที่อยู่ของตนเองแก่เสิ่นอี้ 

"พอไปถึงแล้วให้โทรเบอร์นี้ใช่ไหม" เสิ่นอี้พูดเน้นย้ำยืนยันกับเขา 

"ใช่ โทรมาเบอร์นี้เลยครับ..." 

"งั้นก็ตามนี้! พรุ่งนี้จะมีคนเอาเงินไปให้คุณ เงินจำนวนนี้ผมให้คุณไปเลย ไม่ต้องเอามาคืน แต่นี่จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย หลังจากนี้ถ้าคุณมีปัญหาอะไรอีกก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราแล้ว คุณต้องจัดการเอง"

"ผมรู้แล้วครับ คุณเสิ่น" ตู้ซื่อฮุยพูดยังไม่ทันจบ เสิ่นอี้ก็วางสายเสียแล้ว

เสิ่นอี้เอาโทรศัพท์คืนให้เย่หนิง แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า "เจ้าหมอนี่ หน้าไม่อายที่อยากได้เงินของคุณ” 

เย่หนิงส่ายหน้า “ฉันก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาขอยืมเงินฉัน คาดว่านะ เขาคงจะหมดสิ้นหนทางแล้วจริงๆ ตอนที่ทั้งญาติของเขาและเพื่อนๆ ของเขา แค่เจอพวกเขาก็คงเหมือนกับเจอผียังไงยังงั้น ไม่ว่าใครก็ไม่อยากคุยกับเขา เช่นนั้นแล้วเขาจะไปขอยืมเงินใครได้อีก ที่มาหาฉันคงเพราะใกล้จะหิวตายแล้ว ไม่หน้าหนามาหาฉันแล้วจะทำยังไง เสิ่นอี้ค่ะ เงินจำนวนนั้น คุณจะให้เขาโดยไม่ต้องคืนจริงๆ เหรอ" 

เสิ่นอี้กลับไม่ใส่ใจ "ช่างมันเถอะ ไม่กี่พันเหรียญเอง! ผมก็ไม่มีแผนว่าจะให้เงินเขามากขนาดนั้น! เขาโตแล้ว มีทั้งแขนและขาครบสมบูรณ์ อายุน้อยมีกำลังมากมาย จะหิวตายได้ยังไง ถ้าไม่ได้เป็นหมอก็ยังมีอาชีพอื่นให้เขาทำได้ ไปโรงงาน หรือไม่ก็ไปไซต์ก่อสร้าง สถานที่พวกนี้จะไม่รับคนเลยเหรอ กังวลว่าไม่มีงานทำเหรอ ดูแล้วเขาแค่ไม่อยากทำเองเท่านั้น หรือไม่อย่างนั้นอยากให้เขาพึ่งเงินช่วยเหลือคนอื่น มาดูแลเขาตลอดชีวิตเหรอครับ"

"ก็ใช่!" เย่หนิงพยักหน้า "เรื่องแบบนี้ พอช่วยเหลือหนึ่งครั้งแล้ว ยังต้องช่วยเหลือไปตลอดชีวิตด้วย"

"ก็ไม่เชิง ถ้าอยากได้โดยไม่เสียแรงก็ไปเป็นขอทานเสียเลยดีกว่า" เสิ่นอี้พูดพร้อมกับกอดเย่หนิง แล้วพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและอบอุ่นว่า "พอเถอะ อย่าพูดถึงเขาอีกเลย! อย่าไปสนใจคุณชายไม่เอาถ่านแบบนั้นเลย มา พวกเรามาเล่นกันต่อ..."

เย่หนิงทั้งอารมณ์ดีและรู้สึกตลก "คุณก็เป็นคุณชายนะคะ!"

"แน่นอนอยู่แล้ว" เสิ่นอี้พูดพลางเริ่มขบเม้นที่ลำคอของเธอ กัดที่คอของเย่หนิงจนเธอจักจี้ และส่งเสียงหัวเราะออกมา "อย่าแกล้งสิคะ...จักจี้จะตายอยู่แล้ว..." 

"มีอะไรให้จักจี้..." น้ำเสียงของเสิ่นอี้คลุมเคลือไม่ชัดเจน "ทำไมผมไม่เห็นรู้สึกเลยล่ะ..."

"คุณไม่มีทางรู้สึกอยู่แล้ว ก็คุณเอาแต่กัดฉันไม่ใช่เหรอ..." 

"หืม งั้นคุณก็มากัดที่คอของผมก็ได้ครับ...กัดไหม" 

เขากำลังอ่อยหรอ…เย่หนิงทนไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ได้ยินน้ำเสียงนุ่มนวลของเขา รู้สึกได้จริงๆ ว่ากระดูกทั้งร่างแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ หลังจากนั้นพอถูกเสิ่นอี้ทำแบบนี้อีก เย่หนิงล้วนลืมสิ่งที่ตนเองต้องการ "กินมากอีกหน่อย" จนหมด กระทั่งวันถัดมาพอตื่นขึ้น ขณะที่ยังสะลึมสะลือก็รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรที่ตนเองยังไม่ได้ทำ 

สรุปเป็นเรื่องอะไรกันแน่ 

ขณะที่เย่หนิงพยายามคิดอย่างหนัก เธอก็เข้าไปในอ้อมแขนของคนที่อยู่ข้างๆ

เสิ่นอี้กอดเธอพร้อมทั้งเล่นศีรษะของเธอ แล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า " ตื่นแล้วเหรอครับ"

"อืม..." เย่หนิงซุกเข้าไปในอ้อมอกของเขา "ฉันรู้สึกว่าเหมือนจะลืมเรื่องอะไรเมื่อคืน..."

"ลืมเรื่องอะไรเหรอครับ ไม่มีนะครับ ทำไมผมรู้สึกว่าได้ทำสิ่งที่ทำจนหมดแล้ว อา...โอ้ย..." เสิ่นอี้พูดไม่ทันจบก็ถูกเย่หนิงหยิกอย่างแรง เขาจึงพูดเรียกร้องขอความเป็นธรรม "ทำไมต้องหยิกผมด้วย...ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ นะครับ"

เย่หนิงทั้งอารมณ์ดีและรู้สึกตลก เลยหยิกเขาอีกครั้ง "ใครบอกคุณเรื่องนี้!"

"ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร" เสิ่นอี้สงสัยมาก "ก็ช่วยเตือนสติผมหน่อยสิครับ" 

"ฉันก็คิดไม่ออกว่าเรื่องอะไร" เย่หนิงเกาศีรษะ "เรื่องอะไรนะ..."

"ไม่มีเรื่องอะไรนี่ครับ" ใบหน้าของเสิ่นอี้ปรากฏความงุนงง

"ไม่สิ มี! ต้องมีแน่นอน! อีกอย่างฉันยังจำได้ด้วยว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ด้วย ฉันลืมเรื่องที่สำคัญมากๆ ไป" 

"เรื่องสำคัญมากๆ" เสิ่นอี้ยิ่งสับสน "มีเรื่องอะไรที่สำคัญมากๆ เหรอครับ" 

"มีจริงๆ ค่ะ คุณรีบช่วยฉันคิดสิ" 

เสิ่นอี้พยายามช่วยคิดอย่างจริงจัง "ใช่เรื่องที่จะเอาเงินไปให้ตู้ซื่อฮุยหรือเปล่า คุณวางใจได้เลย ถ้าผมสั่งให้คนไปทำแล้ว ต้องทำได้ดีแน่นอน"

"ไม่ใช่ ไม่ใช่ค่ะ!" เย่หนิงส่ายหน้า "เรื่องนั้นจะสำคัญได้อย่างไรล่ะ ต้องไม่ใช่เรื่องนี้อยู่แล้ว" 

"ไม่อย่างนั้น ยังจะมีเรื่องอะไรอีก" เสิ่นอี้คิดไม่ออกจริงๆ 

"เมื่อคืนพวกเราได้ถกเถียงจุดที่สำคัญของคดีหรือเปล่า" เย่หนิงถามเสิ่นอี้ เธอคิดไม่ออกจริงๆ 

"คดีเหรอครับ ไม่มีนะ..." เสิ่นอี้ครุ่นคิด "เมื่อคืนกลับมาคุณไม่ได้หิวเหรอ ทานอาหารไปนิดหน่อยหลังจากนั้นคุณก็หลับไป..." 

"อ๊าส์!" เย่หนิงกรีดร้อง พลางสะดุ้งตัวโหยง "จริงๆ ด้วย! ฉันจำได้แล้ว! เรื่องนี้นี่เอง ฉันบอกแล้วว่าต้องมีอะไร! คิดไม่ถึงว่าฉันจะลืม!"

เย่หนิงอยากร้องไห้

"ทำไม ทำไมครับ" เธอทำให้เสิ่นอี้ถึงกับสะดุ้งตกใจ "มีเรื่องอะไรสำคัญครับ เกี่ยวกับคดีไหม หรือว่าเมื่อคืนมีเรื่องอะไรที่คุณลืมบอกกับพวกเรา สำคัญมากไหม รุนแรงมากไหมครับ" 

"ซุปไง..." เย่หนิงอยากจะร้องไห้จริงๆ "เมื่อคืนบอกซะดิบดีว่าจะดื่มซุปอีก ฉันลืมได้ยังไงเนี่ย..." 

เสิ่นอี้ถึงกับอึ้ง!

ขณะนั้นเขาไม่รู้ว่าจะพรรณนาความรู้สึกของตนเองอย่างไรดี!

เรื่องสำคัญมาก! 

เย่หนิงบอกว่าเรื่องที่สำคัญมาก ก็คือลืมกินซุปงั้นเหรอ

แบบนี้เขาควรพูดอย่างไรดีล่ะ

ก่อนหน้านี้ที่หมดคำพูดมานาน เสิ่นอี้ก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วสวมเสื้อผ้าอย่างเงียบๆ แล้วพูดว่า " ผมจะไปทำอาหารเช้านะครับ..." 

นอกจากนั้นแล้ว เขาหมดแรงแล้วจริงๆ!

พอทานอาหารเช้าเสร็จ พวกเขายังมีธุระอีกมากมายหลายอย่างที่ต้องทำ

แม้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่สำหรับพวกเขาแล้วมีคดีกำลังรอพวกเขาอยู่ มีวันหยุดก็ไม่เหมือนวันหยุด ยิ่งเป็นคดีใหญ่ก็ยิ่งต้องรีบปิดคดี 

ที่ศาลากลางจังหวัดมีคนนำแฟ้มเอกสารคดีเมื่อสิบห้าปีก่อนส่งมาถึงแล้ว แฟ้มเอกสารหนาหลายเล่ม วางอยู่บนโต๊ะห้องประชุม ดูแล้วก็มีเยอะมากจริงๆ

ลู่เว่ยเบิกตามองอย่างตกใจ  "มีมากขนาดนี้เลยเหรอ" 

"ใช่!" เสิ่นอี้หยิบแฟ้มแรกขึ้นมาเปิดดูแล้วก็พูดว่า "เป็นข้อมูลของเหยื่อหลายคน มีทั้งภาพถ่ายหลายใบและยังมีคำให้การของทุกๆ คน ทั้งหมดล้วนอยู่ข้างใน ตอนนี้พวกเรามาดูภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุก่อนเถอะ ยังมีภาพการชันสูตร เอามาเปรียบเทียบกันว่าทั้งหมดนี้มีจุดไหนที่เหมือนหรือไม่เหมือนกันบ้าง"