webnovel

ตอนที่ 117

ตอนที่ 117 ขี้เหนียวจริงๆ

"ศาสตราจารย์เสิ่นพูดได้ดีครับ" หยางปินกล่าวเสียงทุ้ม "ไม่ว่าคดีนี้กับคิดเก่าเมื่อสิบห้าปีก่อนจะมีความเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ ตอนนี้พวกเราก็ไม่มีเวลากลับไปตรวจสอบคดีเมื่อสิบห้าปีก่อนแล้ว ผ่านมาตั้งหลายปี หลักฐานส่วนใหญ่ก็ไม่อยู่แล้ว ถ้าจะตรวจสอบใหม่จริงๆ ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องเสียกำลังคนขนาดไหน"

"ดังนั้นคดีเก่าเมื่อสิบห้าปีก่อน สำหรับพวกเราแล้วก็แค่ใช้อ้างอิงได้เท่านั้น ตอนนี้สิ่งที่พวกเราต้องทำคือร่วมมือกันตรวจสอบคดีนี้ให้กระจ่าง ทำให้ฆาตกรเผยตัวออกมา ตอนนี้ไม่ต้องไปสนใจแล้วว่าคนลงมือจะเป็นคนเดียวกับฆาตกรเมื่อปีนั้นหรือไม่ จับตัวเขาได้ก็จะรู้เอง!" 

"ถูกต้องแล้วครับ" เสิ่นอี้พยักหน้า "งั้นพวกเราค่อยมาจัดการกันต่อพรุ่งนี้แล้วกัน"

พอออกมาจากสถานี ก็ใกล้จะห้าทุ่มแล้ว 

เย่หนิงไม่รู้ว่าหยางปินและคนอื่นๆ ตั้งใจหรือไม่ ทั้งหมดเดินไปเร็วมาก ทิ้งให้เธอและเสิ่นอี้อยู่รั้งท้ายเอาไว้

เสิ่นอี้เดินไม่ช้าและไม่เร็ว เย่หนิงเองก็เดินไม่ช้าและไม่เร็ว ในใจแอบคิดเรื่องของเธอกับเสิ่นอี้ว่าหยางปินและคนอื่นๆ รู้หรือไม่ 

"เสี่ยวหนิง" จู่ๆ เสิ่นอี้ก็เรียกชื่อของเธอ หลังจากนั้นก็ถามว่า "คุณกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่พูดอะไรเลย" 

เย่หนิงแค่กระซิบถามเท่านั้น "เสิ่นอี้ คุณว่าหัวหน้าหยางและคนอื่นๆ รู้เรื่องของพวกเราไหม" 

"หือ" เสิ่นอี้ไม่เข้าใจ "เรื่องอะไรครับ" 

เย่หนิงย่ำเท้าอย่างหงุดหงิด "ยังจะเรื่องอะไรอีก ก็เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราไงคะ" 

"อ๋อ ใช่ครับ! ผมบอกพวกเขาแล้ว ทำไมเหรอครับ”

เย่หนิงแทบจะเป็นลม......

"คุณบอกพวกเขา..." 

"ใช่ครับ" ใบหน้าของเสิ่นอี้ปรากฏความไม่เข้าใจอีกครั้ง "มีปัญหาอะไรเหรอครับ" 

เย่หนิงไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี 

มีปัญหาอะไรเหรอ

เธอเองก็ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร 

บางทีอาจจะแค่...กะทันหันเกินไป...

ไม่มีใครสามารถอธิบายสาเหตุได้ที่จู่ๆ ก็คบกับเสิ่นอี้กะทันหัน แล้วก็อธิบายสาเหตุไม่ได้อีกว่าคนในกองทั้งหมดต่างรู้กันหมดแล้ว......

"ทำไมครับ เสี่ยวหนิง" เสิ่นอี้เหมือนจะไม่เข้าใจอย่างมาก "หรือว่าคุณไม่อยากให้หัวหน้าหยางและพวกเขารู้กัน" 

“นี่......" เย่หนิงไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี

เสิ่นอี้ถามอีกครั้ง "ทำไมล่ะครับ คุณยังมีอะไรไม่พอใจผมอีก พูดออกมาเลยครับ ผมเปลี่ยน…..." 

เย่หนิงไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ "ไม่มีค่ะ...ฉันแค่ ยังไม่ได้เตรียมใจเท่านั้น..." 

เสิ่นอี้ยิ้ม "อย่างไรก็ตาม ช้าเร็วพวกเขาก็ต้องรู้ อีกอย่างคุณไม่ได้จะย้ายมาอยู่กับผมเหรอครับ" 

"หา!" เย่หนิงตกตะลึง "ต้องย้ายด้วยเหรอคะ"

"ต้องย้ายสิครับ! ทำไม ลืมไปแล้วเหรอ" มือของเสิ่นอี้วางลงบนศีรษะของเย่หนิง "คงไม่ได้เมาหรอกนะครับ"

เสิ่นอี้เข้ามาใกล้เธอมาก บนร่างของเขายังมีกลิ่นแอลกอฮอล์บางๆ ความจริงแล้วเย่หนิงไม่ชอบดื่มเหล้า เลยไม่ค่อยชอบกลิ่นแอลกอฮอล์ที่อยู่บนร่างของชายหนุ่ม แต่ทำไม...ตอนนี้เธอรู้สึกว่าใกล้จะหลงใหลเมามายเข้าไปทุกที 

แต่ไหนแต่ไรมาไม่ชอบกลิ่นแอลกอฮอล์ ทว่าขณะนี้รู้สึกว่ากลิ่นนั้นกลับช่างหอมยั่วยวนเหลือเกิน

"อืม ร้อนมาก...หรือว่าจะเมาแล้วจริงๆ" เสิ่นอี้ผละมือออก

ร้อน ใช่เหรอ

เย่หนิงลูบหน้าของตนเอง! 

เอ๋! ร้อนจริงๆ ด้วย! 

เอิ่ม! ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้! 

เธอไม่ได้เมา เป็นเพราะเสิ่นอี้เข้าใกล้มากเกินไปหน่อย เธอถึงได้หน้าแดงต่างหากล่ะ

ขณะที่เย่หนิงกำลังคิดเหลวไหลไปต่างๆ นานา ทันใดนั้นเสิ่นอี้ก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า "งั้นถือโอกาสตอนนี้ที่ไม่มีอะไร ให้ผมไปช่วยคุณย้ายบ้านแล้วกัน"  

เย่หนิงแทบจะตกใจตาย "ตอนนี้เลยเหรอคะ" 

"ใช่ครับ! ตอนนี้เลย!" 

เย่หนิงพูดไม่ออก "ดึกมากแล้วนะคะ" 

"มีอะไรสำคัญ" เสิ่นอี้ไม่เห็นด้วย "ดึกก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ถึงยังไงของก็ไม่มากเท่าไหร่...ถ้าคุณรู้สึกยุ่งยาก ก็เอาของใช้ส่วนตัวพวกนั้นมาก่อน ถึงยังไงผมก็มีครบทุกอย่าง ของกินก็มี ถ้าหิวคุณ..."

เสิ่นอี้ไม่พูดเรื่องกินก็ดีอยู่แล้ว พอพูดขึ้นเย่หนิงก็เลยรู้สึกหิวขึ้นมาตะหงิดๆ

คืนนี้แค่ไปหาของกินที่ห้องอาหารหน่อยก็พอแล้ว ในเมื่อตอนนี้ดึกขนาดนี้ พอพูดถึงเรื่องกิน เธอจะไม่หิวขึ้นมาได้ไงล่ะ

เย่หนิงมองเสิ่นอี้ตาปริบๆ 

เสิ่นอี้เข้าใจแล้ว เขาฉีกยิ้ม และพูดอีกครั้งอย่างไม่มีทางเลือกว่า "งั้นคุณจะมาไหมครับ" 

เย่หนิงรีบพยักหน้า 

มีของอร่อย ต้องไปแน่นอนอยู่แล้ว 

"ได้เลยครับ งั้นคุณไปที่ห้องก่อน เดี๋ยวผมเข้าไปช่วยเก็บ"

"ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้อง!" เย่หนิงพูดอย่างรีบเร่ง "ไม่มีอะไรต้องเก็บ ฉันไปเอาเสื้อผ้าไม่กี่ชุดเท่านั้น คุณไปทำธุระของคุณได้เลยค่ะ"

ทำไมเสิ่นอี้จะไม่รู้ความหมายของ คำว่า ‘ไปทำธุระของคุณก่อนเลยค่ะ’ สำหรับการแสดงออกแบบนี้ของเย่หนิง เสิ่นอี้หมดคำอธิบาย แต่คิดๆ ดูแล้วก็ยังดีมากจริงๆ

เด็กสาวที่รักการกิน ความคิดความอ่านช่างแสนง่ายดาย แล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรมากด้วย แค่มีของกินก็พอแล้ว

เสิ่นอี้ยิ้มพลางพยักหน้า "งั้นก็ได้ครับ! ผมจะกลับไปเตรียมก่อน คุณรีบมาก็แล้วกัน ถ้าคุณมาช้าผมอาจจะกินของอร่อยหมด แล้วคุณก็คงต้องล้างจาน!" 

เย่หนิงอยากร้องไห้ "คุณโหดเหี้ยมมาก" 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม แล้วบีบจมูกเล็กของเย่หนิง "ยังไม่รีบอีก พอแล้วครับ ผมหยอกคุณเล่นเท่านั้น มีของอร่อยต้องให้คุณกินอยู่แล้ว รีบมานะครับ ผมรอคุณอยู่"

"ดีมากเลยค่ะ" เย่หนิงโห่ร้องดีใจ 

ถึงอย่างนั้น...ผลลัพธ์กลับน่าเศร้ามาก!   

เพราะเสิ่นอี้บอกว่าดึกแล้วกินมากขนาดนั้นไม่ได้ ดังนั้นเลยแค่ต้มบะหมี่ถ้วยเล็กๆ ให้เธอกินเท่านั้น

เดิมทีบะหมี่นี้มีน้อยมากอยู่แล้ว เย่หนิงเองก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ประเด็นคือถึงแม้ว่าบะหมี่ถ้วยเล็กจะน้อย ทว่ายังรสชาติดีขนาดนั้น เธอกินสองสามคำก็หมดแล้ว โศกนาฏกรรมชัดๆ หลังจากกินหมดแล้วก็ยังไม่รู้สึกอิ่ม กลับกันยิ่งหิวมากขึ้นกว่าเดิมอีก! เพราะพูดตามความสัจจริงบะหมี่ถ้วยนั้นอร่อยมากจริงๆ ถึงน้อย แต่กินไปนิดเดียวก็ติดใจแล้ว

เย่หนิงมองเสิ่นอี้อย่างอ้อนวอน

เสิ่นอี้กลับไม่ให้บะหมี่แก่เธอเลยสักนิดเดียว แล้วพูดออกมาตรงๆ ว่า "ทำหน้าน่ารักไปก็ไร้ประโยชน์ครับ" 

อย่างเธอเนี่ยะนะทำหน้าน่ารัก เย่หนิงคว้าแขนเสื้อของเสิ่นอี้ไม่ปล่อย แล้วก็มองไปที่เขา "ฉันยังหิวอยู่เลย......" 

"ไม่อยากให้กินเยอะขนาดนั้นครับ ตอนกลางคืนกินอิ่มมากไปจะส่งผลเสียต่อกระเพาะได้นะครับ"

"แต่ฉันยังอยากกินนี่นา" 

"ไม่ได้ครับ!" 

"มีเค้กไหมคะ"

"ไม่มีครับ!" 

"ในตู้เย็นยังมีอะไรกินบ้างคะ" 

"มีครับ! ถ้าคุณยังอยากกิน ผมจะไม่สนใจคุณแล้วนะครับ"

เย่หนิงปล่อยเสิ่นอี้อย่างไม่เต็มใจ แล้วพูดอย่างเคืองๆ ว่า " ขี้งก!" 

เสิ่นอี้ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี "ทำไมผมถึงกลายเป็นคนขี้งกแล้วล่ะครับ"

"คุณทำให้ท้องฉันหิวก็ถือว่าขี้งกแล้ว เพิ่งตกลงเป็นแฟนของคุณก็ทำให้ฉันหิวแล้ว ผู้ชายอะไรพึ่งไม่ได้เลยสักนิดเดียว!" 

เสิ่นอี้พูดไม่ออก...…

นี่มันเรื่องวุ่นวายอะไรกัน!

"จริงจังขนาดนี้เลยเหรอครับ" 

"แน่นอนค่ะ!" 

เสิ่นอี้ยิ้มพลางลูบผมของเธอ แล้วพูดว่า "ได้ครับ อย่าโกรธนะ พรุ่งนี้ผมจะทำอะไรให้คุณกินอีก" 

"ฉันอยากกินตอนนี่นา" 

“กินเยอะขนาดนั้น ไม่กลัวอ้วนเหรอครับ" เสิ่นอี้แปลกใจมาก ปกติผู้หญิงจะค่อนข้างให้ความสำคัญกับการรักษารูปร่างไม่ใช่เหรอ สวาปามเยอะขนาดนี้ ไม่ห่วงปัญหาเหล่านั้นสักนิดเลยหรือ