webnovel

ตอนที่ 111

ตอนที่ 111 ตรวจสอบไปทีละอย่าง

สิ่งที่เหมือนกันคือทางตำรวจไม่อยากให้มีคดีใดๆ เกิดขึ้น สำหรับตำรวจแล้วพวกเขายอมให้ตนเองว่างงานและไม่คาดหวังเรื่องยุ่งไม่หยุดแบบนี้ทุกวัน เพราะยิ่งพวกเขายุ่ง หลักฐานของคดีก็ยิ่งมีเยอะขึ้น นี่ไม่ใช่เรื่องดีอะไรเลย

พ่อแม่ของจางหยวนช่วยเตือนสติจางหยวน เขาหยุดเดือดดาลแล้ว แต่กลับหมอบลงกับพื้นอีกครั้ง แล้วร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด "ทำไม! ทำไมถึงเป็นแบบนี้! ใคร! ใครทำกันแน่!"

……

ผ่านไปใกล้จะหนึ่งชั่วโมง อารมณ์ของครอบครัวผู้ตายจึงค่อยๆ สงบลง พ่อแม่ของเมิ่งซินถงจับพวกเขาแน่นไม่ยอมปล่อย แล้วพูดออกมาทั้งน้ำตาว่าไม่ว่าอย่างไรเสิ่นอี้และพวกเขาก็ต้องจับฆาตกรให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้แก่ลูกสาวพวกเขา

เห็นได้ชัดว่ามีความรู้สึกมากมายกำลังประดังประเดเข้าหาจางหยวน เขาเช็ดน้ำตาไม่หยุดโดยที่ไม่ส่งเสียงออกมา

กลับเป็นน้องสาวของเมิ่งซินถง เมิ่งซินซินที่ถามออกมาว่า "พวกเรารับศพของพี่กลับไปได้หรือยังคะ" 

เย่หนิงลังเลครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดออกมาว่า "เกรงว่าจะยังไม่ได้ค่ะ" 

จางหยวนได้ยินดังนั้น เขาก็พูดออกมาอย่างไม่พอใจมากๆ ว่า "ทำไม พวกคุณยังคิดว่าจะหลักฐานอะไรอีก พวกคุณมีฝีมือจริงๆ เหรอ งั้นก็รีบหาหลักฐานเข้าสิ ยังจะรออะไรอยู่!”

พ่อของจางหยวนรีบลากตัวเขา แล้วพูดกับเย่หนิงด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายว่า "ขอโทษครับ หมอเย่ ตอนนี้ลูกชายของผมเขาอารมณ์ไม่ดี หวังว่าพวกคุณคงไม่ถือสานะครับ" 

เย่หนิงส่ายหน้า แล้วพูด "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ แต่ร่างของเมิ่งซินถง พวกคุณอาจนำร่างกลับไปได้ช้าหน่อย พวกเรายังต้องตรวจสอบเพิ่มเติม...หวังว่าครอบครัวของพวกคุณคงจะเข้าใจและให้ความร่วมมือ ทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะหาหลักฐานได้เร็วขึ้นและสามารถหาตัวฆาตกรได้ค่ะ......" 

พอเย่หนิงพูดแบบนี้ แม่ของเมิ่งซินถงก็ปล่อนโฮออกมาอีกครั้ง "แล้วเป็นใครกันแน่...ลูกสาวของฉันเป็นคนดีขนาดนั้น คนแบบไหนกันที่ใจคอโหดเหี้ยมได้ถึงขนาดนี้...ถึงได้ทำแบบนี้กับลูกสาวของฉัน...เป็นใครกันแน่...ทำไมเขาถึงได้ลงมือแบบนี้..." 

เสิ่นอี้ถามอีกครั้ง "ทุกคนครับ ความรู้สึกของพวกคุณผมเข้าใจดี ดังนั้นผมหวังว่าพวกคุณจะพยายามให้ความร่วมมือช่วยเหลือกับทางตำรวจเท่าที่จะทำได้ ถ้ามีความร่วมมือของพวกคุณ พวกเราจึงจะสามารถตามหาตัวฆาตกรได้โดยเร็ว พวกคุณลองคิดดูดีๆ ว่าลูกสาวของพวกคุณ หรือพวกคุณทั้งสองครอบครัว เคยมีความแค้นกับใครบ้างหรือเปล่าครับ" 

พ่อของเมิ่งซินถงส่ายหน้า แล้วพูดออกมาอย่างช้าๆ ว่า “ พวกเราสองครอบครัวต่างก็อาศัยอยู่ในเมืองและเป็นเพื่อนบ้านกันมาเป็นสิบๆ ปี จะไปมีความแค้นกับใครได้ยังไง! ส่วนเสี่ยวถงยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เธอเป็นหญิงสาวที่อบอุ่นและร่าเริงอยู่เสมอ ทุกคนล้วนชื่นชอบเธอ จะมีคนมาโกรธแค้นเธอได้ยังไง" 

พ่อแม่ของจางหยวนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย 

เสิ่นอี้กลับยังไม่เลิกถาม เขาถามอีกว่า "งั้นพวกคุณช่วยคิดให้ละเอียดอีกครั้งได้ไหม ถ้ามีคนที่อยากฆ่าเมิ่งซินถง ใครที่น่าสงสัยมากที่สุด นึกออกไหมครับ หรือว่าไม่กี่เดือนมานี้ เมิ่งซินถงมีพฤติกรรมที่ผิดแปลกตรงไหนบ้างไหม"

"นี่ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลย" ใบหน้าพ่อของเมิ่งซินถงปรากฏความงุนงง เป็นเวลานานแล้วจึงกล่าวออกมาว่า "เสี่ยวถงไม่เคยบอกอะไรผม...อีกอย่าง...เสี่ยวถงนิสัยดีขนาดนั้น จะมีใครฆ่าเธอลง" 

เสิ่นอี้กล่าวเสียงนิ่งว่า "พูดยากครับ บางทียิ่งมีนิสัยดีมากๆ ก็จะยิ่งทำให้คนอื่นอิจฉา จึงกระตุ้นให้ถูกฆ่า นี่ก็บอกได้ไม่มากนัก”

เสิ่นอี้พูดพลาง ถามจางหยวนขึ้นมาว่า "ก่อนที่คุณและเมิ่งซินถงแต่งงาน เธอเคยพูดเรื่องของผู้ชายที่เธอเคยคบบ้างไหม"

"ไม่มี" น้ำเสียงของจางหยวนแย่มากๆ "ผมและเสี่ยวถงเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน พวกเรารู้จักกันมาหลายปี จะมีใครบ้างที่ไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเสี่ยวถง" 

"อืม" เสิ่นอี้มองจางหยวน แล้วถามอีกครั้งว่า "พูดแบบนี้แปลว่า ความสัมพันธ์ของพวกคุณคงจะดีมากๆ"  

จางหยวนเดือดดาลขึ้นมาทันที "คุณหมายความว่าอะไร คุณสงสัยผมเหรอ ตำรวจอย่างพวกคุณนอกจากสงสัยคนไปมั่วซั่วแล้วยังทำอะไรเป็นอีกบ้าง ตอนที่เสี่ยวถงหายตัวไปผมก็เป็นคนออกตามหา ตอนนี้พอเธอถูกฆ่า พวกคุณไม่ไปหาฆาตกร แล้วยังมาใส่ความผมอีก มันหมายความว่าอย่างไร! นอกจากสงสัยในตัวผมแล้ว พวกคุณได้ลงมือทำอะไรบ้างไหม" 

จางหยวนยิ่งพูดก็ยิ่งเดือดดาล "ถ้าผมบอกพวกคุณจะมีความหมายอะไร ถามไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้ยังอยากจะถามอีกเหรอ พวกคุณถามตั้งหลายครั้งขนาดนี้ แต่ก็ไม่เห็นว่าจะเคยตามหาฆาตกรได้เลย ดี พวกคุณสงสัยผมใช่ไหม งั้นผมขอบอกพวกคุณเลยนะ! หลายวันมานี้ผมไม่ได้อยู่ที่เมืองตงไห่ ถ้าพวกคุณไม่เชื่อก็ไปตรวจสอบตามใจชอบได้เลย! ผมให้พวกคุณตรวจสอบได้! ดูสิว่าคนอย่างพวกคุณตามหาผีอะไรได้บ้าง!"

"เสี่ยวหยวน!" พ่อของจางหยวนตกใจจนทั่วทั้งใบหน้าซีดโพลน แล้วรีบดึงตัวเขา ชาวบ้านซื่อๆ ธรรมดา เมื่อเข้ามาในสถานีตำรวจต่างก็ต้องรู้สึกกลัวอยู่บ้าง กลัวว่าขืนไม่ระวังอาจเผลอพูดอะไรผิดไป พอเห็นจางหยวนไม่สุภาพกับตำรวจ ตะโกนตอกหน้าแบบนั้น เขาไม่กลัวบ้างหรือว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ ทุกคนสงสัยในตัวเขา

พ่อของจางหยวนลากจางหยวนไปพลาง รีบพูดขอโทษเสิ่นอี้ไปพลาง "คุณตำรวจ คุณอย่าไปถือสาเขาเลยนะครับ ที่เขาเป็นแบบนี้เพราะเสียใจมาก พอเสียใจมากถึงได้ทำแบบนี้ คุณอย่าไปถือความไม่รู้สาของเขาเลยนะครับ...จางหยวน ยืนโง่อะไรอยู่เล่า! ยังไม่รีบขอโทษคุณตำรวจอีก..." 

"ไม่ต้องครับ" เสิ่นอี้พูดปลอบใจพ่อของจางหยวน "คุณลุงครับ ควรเป็นพวกเราต่างหากที่ต้องพูดขอโทษ ที่ไม่รีบตามหาเมิ่งซิงถง...ถ้าพวกเราตามหาเธอเร็วกว่านี้ บางทีโศกนาฏกรรมก็อาจจะไม่เกิดขึ้น......"

เมื่อจางหยวนได้ยินคำพูดนี้ของเสิ่นอี พ่อของจางหยวนเคร่งเครียด ถูมือ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจมากๆ ว่า "คุณตำรวจ คุณอย่าพูดแบบนี้ เรื่องนี้ไม่ควรโทษพวกคุณ...แค่เสี่ยวถง เด็กคนนี้..." 

ขณะที่พูด ดวงตาก็รื้อน้ำตา "เด็กคนนี้ พวกเราเองก็เห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต...เธอเป็นเด็กที่เชื่อฟังและน่ารัก...ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ เด็กดีมากๆ...คุณตำรวจ คุณตำรวจทุกท่าน...พวกคุณต้องจับฆาตกรให้ได้นะครับ...ต้องจับฆาตกรให้ได้...ไม่อย่างนั้น ผมเองก็แก่แล้ว ถ้าตาย ก็คงตายตาไม่หลับ!"

เฮ้อ เสิ่นอี้ถอนหายใจเบาๆ

 

สำหรับความต้องการเช่นนี้ของครอบครัว สมควรให้เขาตอบอย่างไร

พวกเราตำรวจเองก็อยากจะรีบปิดคดีเหมือนกัน ตามหาฆาตกร นำตัวฆาตกรไปสู่กระบวนการความยุติธรรม แต่มีอยู่หลายครั้งที่บางครั้งพวกเขาเองก็รู้สึกจนปัญญามากๆ ใช่ว่าอยากจับฆาตกรก็สามารถจับได้เลย

แต่สำหรับคำขอร้องแบบนี้ของผู้สูงวัย เขาจะพูดอะไรได้อีก

เสิ่นอี้พยักหน้า แล้วพูดว่า "คุณลุงครับ วางใจได้ พวกเราต้องจับตัวฆาตกรได้อย่างแน่นอน" 

“ขอบคุณ ขอบคุณ..." พ่อของจางหยวนเองก็มีน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด 

เมิ่งซินซินอดถามขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ว่า "พวกคุณยังมีอะไรที่อยากจะถามอีกไหม ตอนที่พี่สาวของฉันเพิ่งหายตัวไป พวกคุณมาที่บ้านของพวกเราทุกวัน และถามคำถามกับเพื่อนบ้านแถวนั้นตั้งหลายคำถาม ไม่ต้องถามแล้วก็ได้มั้ง"

เสิ่นอี้กลับไม่ยอม เขาพูดเสียงนิ่ง ว่า "แค่สิ่งที่จำเป็นต่อคดี! อีกอย่างถ้าถามต่อไปเรื่อยๆ อาจพบข้อมูลที่ตกหล่นอยู่ก็ได้" 

เมิ่งซินซินพูดอย่างไม่พอใจว่า "พี่สาวของฉันเป็นคนดีขนาดนั้น ใครจะฆ่าเธอลง" 

เสิ่นอี้ไม่ตอบ กลับถามเมิ่งซินซินออกไปหนึ่งคำถามว่า "ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ พี่สาวของคุณชอบไปที่ไหน คุณรู้ไหม"