webnovel

ตอนที่ 097

ตอนที่ 97 ครั้งนี้ได้ยินหรือยังครับ

มีปัญหาตรงไหนเหรอ

เรื่องนี้จะให้อธิบายยังไงดีล่ะ

เย่หนิงปวดหัว 

อืม คนๆ นี้กำลังทำอะไรอยู่นะ ทำไมถึงได้มาเล่นหัวของเธออีกแล้วล่ะ

เล่นก็เล่นไปสิ ทำไมต้องเข้ามาใกล้ขนาดนี้ด้วย

เดี๋ยวก่อนนะ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเธอมันชัดเกินไปแล้ว กระดูกไหปลาร้านั้น...ดูดีมากจริงๆ.....

เช่นนั้นถ้าอยากให้เธอพูด คนๆ นี้เป็นคนที่น่ารังเกียจมากที่สุด ทำไมถึงไม่ยอมไปใส่เสื้อผ้าดีๆ นะ นี่มันเจตนาชัด!

คิดแล้วอยากจัดชุดให้เขาจริงๆ

“เสี่ยวหนิง” น้ำเสียงของเขาที่ดังอยู่ข้างหู ช่างเป็นความอบอุ่นที่น่าหลงใหลเหลือเกิน

ร่างของเย่หนิงอ่อนยวบ อยากหลบก็ไม่มีแรงจะหลบ ขนาดพูดยังตะกุกตะกัก

"ง่วงใช่ไหมครับ" เขาลูบศีรษะของเธออีกครั้ง แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด 

กลิ่นอะไรน่ะหอมจังเลย 

เย่หยิงลูบจมูก ดึงเสื้อคลุมของเขามาดม

"เสี่ยวหนิง" เสิ่นอี้เอ๋ยถามอีกครั้ง  "คุณจะกลับบ้านเมื่อไหร่ครับ ให้ผมไปกับคุณไหม”

“ ไม่ดีกว่าค่ะ...” เย่หนิงกลุ้มใจ “ถึงเวลานั้น พวกป้าๆ ของฉันต้องเอาเรื่องนี้ไปพูดนินทาแน่ๆ! คุณไม่รู้หรอกครอบครัวที่มีแต่ผู้หญิง เวลาว่างก็จะหันหน้าซุบซิบนินทา ถึงเวลานั้นถ้าพวกเธอถาม ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าควรอธิบายยังไง”

"คุณเคยบอกไม่ใช่เหรอครับว่าไม่อยากดูตัว ถ้าพาผมไปคุณป้าของคุณอาจจะยกเลิกการนัดดูตัวก็ได้นะครับ" 

"เอ่อ...จะให้คุณแสร้งมาเป็นแฟนหลอกๆ ของฉันเหรอคะ...ไม่ดีมั้งคะ..." 

"แฟนหลอกๆ แสร้งเหรอครับ" เธอไม่รู้ว่าเสิ่นอี้เข้ามากระซิบที่ข้างหูของเธอตอนไหน เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "ทำไมถึงเป็นเรื่องจริงไม่ได้ล่ะครับ" 

สติเย่หนิงกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็พบกับสายตาอบอุ่นของเสิ่นอี้ และรอยยิ้มกลุ้มกลิ่ม ขณะที่มองมาที่เธอ

ในหัวสมองของเย่หนิงยังมึนงง ไม่ได้คิดอย่างถี่ถ้วนว่าจะพูดอะไร จู่ๆ เสิ่นอี้ก็พูดโพล่งขึ้นมาอีกครั้งว่า “เสี่ยวหนิง ผมชอบคุณ”

คำพูดที่ระเบิดออกมานั่น! 

ทำให้หัวใจของเย่หนิงแทบระเบิด!

เขาพูดว่าอะไรนะ

ให้อภัยหูของเธอด้วย! เธอฟังไม่ชัดจริงๆ!

เมื่อเห็นใบหน้างงงันของเย่หนิง เสิ่นอี้หมดปัญญา เขาฉีกยิ้มอีกครั้ง พร้อมกับหยิกจมูกเล็กของเธอ “เสี่ยวหนิง คุณฟังผมอยู่หรือเปล่าครับ”

สารภาพว่ายากแล้ว การถูกมองข้ามแบบนี้ สมควรเจ็บไหม

"ห๊าๆ..." เย่หนิงรู้สึกสับสน "คุณพูดอะไรนะ ฉันไม่ได้ยิน ฉันไม่ได้ยินจริงๆ" 

เธอรีบปิดหูอย่างรวดเร็ว

ความจริงคือ ไม่ได้ยินที่ไหนล่ะ!  ได้ยินชัดเจนเต็มสองรูหูเลย แต่แค่ไม่รู้ว่าควรตอบอะไรดี

เธอคิดว่าถ้าทำแบบนี้ก็จะไม่เป็นไร

เสิ่นอี้ดึงมือของเธอออก เขายังคงมองมาที่เธอแบบนั้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "เสี่ยวหนิง ผมพูดจริงๆ นะ ที่ผมสารภาพกับคุณ ผมจริงจังจริงๆ นะครับ" 

ไม่นะ! เย่หนิงอยากจะร้องไห้ " ฉันไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น!" 

"ผมชอบคุณ!" เสิ่นอี้พูดอีกครั้ง "ครั้งนี้ได้ยินหรือยังครับ" 

เย่หนิงรู้สึกสับสนเหลือเกิน "เลิกเล่นได้แล้ว เสิ่นอี้" 

"แต่ผมจริงจังนะครับ" เมื่อดูจากท่าทางของเสิ่นอี้ เขาจริงจัง และไม่มีท่าทางคล้ายกับว่ากำลังล้อเล่นเลยสักนิดเดียว 

แต่...เย่หนิงกลับยังคิดว่าเขากำลังล้อเล่น 

"ทำไม..." เย่หนิงไม่รู้ว่าเธอควรตอบเขายังไง 

"ทำไมน่ะเหรอครับ" เสิ่นอี้เองก็รู้สึกสับสน นี่คืออะไร หัวสมองคิดกลับไปกลับมา คนอื่นมาสารภาพกับเธอ ทำไมเธอถึงพูดประโยคนี้ล่ะ

"ใช่...มันไม่มีเหตุผลเลย..." เย่หนิงพูดอย่างแผ่วเบา "ฉันต้องกำลังฝันอยู่แน่ๆ คนอย่างเสิ่นอี้จะมาสารภาพรักกับฉันได้ยังไงกัน"  ขณะที่พูด เธอก็หยิกแก้มของตัวเอง "โอ้ย เจ็บ!" 

เสิ่นอี้ทั้งอารมณ์ดีและรู้สึกตลก เขาจับมือของเธอ "ทำอะไรครับ" เขาลูบใบหน้าของเธออย่างปวดใจ "หยิกจนแดงหมดแล้ว" 

เย่หนิงยังมองเขาตาปริบๆ "เสิ่นอี้ คำพูดเมื่อกี้ของคุณเป็นเรื่องโกหกใช่ไหมคะ" 

"คุณคิดอย่างนั้นเหรอครับ" เสิ่นอี้ย้อนถาม "คุณรู้สึกว่าเป็นเรื่องโกหกเหรอ" 

"แต่ แต่...ทำไม..."

"อะไรทำไม" 

"ก็ ก็ทำไมคุณถึงมาชอบฉันได้ล่ะ..."

เมื่อเสิ่นอี้ได้ยินคำถามนี่ของเย่หนิง เขาขบคิดอย่างจริงจังครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า "เพราะคุณน่ารัก" 

เขาหยิกแก้มของเย่หนิงอีกครั้ง 

เย่หนิงหมดคำพูด ความชอบส่วนตัวของศาสตราจารย์เสิ่น คือการหยิกแก้มของเธอเล่นอย่างนี้หรือไง ใช่สิ ถึงแม้ว่าใบหน้าของเธอจะกลม ดวงตาโต ดูไปดูมาก็น่ารักดี แต่…นี่เป็นเหตุผล ที่ศาสตราจารย์เสิ่นชอบเธอเหรอ โดยรวมแล้วคงไม่ได้เป็นเพราะรู้สึกว่าแก้มของเธอน่าหยิกเล่นหรอกนะ

ถ้าเป็นความจริง ต้องเป็นเหตุผลที่ทำให้รู้สึกปวดใจแน่นอน

คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เสิ่นอี้กลับพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า "ในบรรดาผู้หญิงที่ผมรู้จัก คุณเป็นคนที่พิเศษที่สุด"

"ห๊า" คนที่พิเศษที่สุดเหรอ 

เธอมองเสิ่นอี้ เสิ่นอี้พยักหน้าแล้วฉีกยิ้ม "น่ารักเป็นพิเศษ มีเสน่ห์...มีความหมายเป็นพิเศษ..."

ใบหน้าของเย่หนิงแดงก่ำ แต่ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพราะถูกหยิกแก้ม แต่เป็นเพราะประโยคพวกนั้นที่เสิ่นอี้พูดต่างหาก ถึงแม้จะไม่ใช่คำที่หวานหยดย้อย ทว่าเมื่อเห็นท่าทางจริงจังของเขา ทำไมความรู้สึกถึงได้สั่นไหวจนยุ่งเหยิงได้ขนาดนี้นะ

“เสี่ยวหนิง ผมเป็นคนที่ตัดสินอะไรได้ยาก” เสิ่นอี้ยังคงพูดกับเธอด้วยสีหน้าจริงจังและเต็มไปด้วยความดื้อรั้น “ก่อนที่ผมจะบอกคุณ ผมเคยคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังและ ไตร่ตรองความเป็นไปได้แล้ว ผมชอบคุณ ไม่เพียงแค่นั้น ผมยังรู้สึกว่าพวกเราสองคนเป็นคู่ที่เหมาะสมมาก เช่นนั้นแล้วคุณลองคิดไตร่ตรองดูได้ไหมครับ”

"ห่ะ..." สมองของเย่หยิงหยุดชะงักอย่างกะทันหัน  เธอยังไม่ทันได้ไตร่ตรองคำพูดก่อนหน้านี้ ทำไมประโยคหลังถึงมาได้ล่ะ 

เพิ่งสารภาพรัก ทว่าเหมือนกลับกลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว  

ผ่านมาไม่นานเองนะ

ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเสิ่นอี้ เธอกลับเข้าใจ เขาเป็นคนที่มีความสุขุมและรอบคอบมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของความรู้สึก นอกจากชอบ เขายังคิดมากเรื่องความเป็นไปได้อื่นๆ นั่นก็คือความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่นั่นก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นอย่างหนึ่ง เขาสารภาพกับเธอ บอกชอบเธอ ไม่ใช่ความเพ้อฝันและการเล่นสนุก อีกอย่างก็เป็นเรื่องที่ผ่านการคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนมาแล้ว กระทั่งคิดอย่างถี่ถ้วน ถึงได้มาสารภาพกับเธอ

"คิดเสร็จหรือยังครับ" 

"ห๊ะ!" เย่หนิงแทบพุ่ง บอกให้คิดอย่างถี่ถ้วน ยังไม่ถึงสามนาทีเลย เขาก็ถามว่าเธอคิดเสร็จหรือยังซะแล้วเหรอ

ใบหน้าของเย่หนิง หมองลง 

"อืม ไม่ตอบ งั้นผมจะทำให้คุณตอบเอง" 

"เอ่อ งั้นเอาแบบนี้"

“ไม่ได้สิ” เสิ่นอี้คล้ายกับว่ากำลังกลัดกลุ้มใจ “คุณมีปัญหาตรงไหนเหรอครับ”

เย่หนิงพยายามควบคุมอารมณ์ หักห้ามความใจร้อนของเขา "ปัญหามีออกจะเยอะแยะ!" 

"อืม งั้นคุณพูดสิครับ" 

เย่หนิงเหลือบมองเสิ่นอี้อย่างเงียบๆ

ดูจากท่าทางของเขาตอนนี้ ถ้าไม่ให้คำตอบคงไม่ได้สินะ

แต่เธอไม่ได้คิดจริง ว่ามันจะกะทันหันขนาดนี้ 

เย่หนิงพูดออกมาว่า "ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจู่ๆ คุณจะพูดเรื่องพวกนี้กับฉัน ฉันเลยไม่มีเวลาคิดน่ะค่ะ" 

"ตอนนี้ผมก็ให้เวลาคุณคิดไง อีกอย่างถ้ามีปัญหาอะไร คุณก็บอกผมได้" เสิ่นอี้พูด แล้วก็ถามอีกว่า "คุณไม่พอใจผมตรงไหนเหรอครับ" 

เย่หนิงอยากจะร้องไห้! 

ไม่พอใจหรอ! 

เธอเนี่ยนะจะไม่พอใจเขาตรงไหน

ก็เพราะเขาดูดีมากไงล่ะ ตอนนี้เธอถึงได้ไม่กล้าเชื่อ 

เหมือนกับถูกลอตเตอรี่เลย...

ทั้งถูกรางวัลใหญ่ และรางวัลที่หนึ่ง 

ที่รู้สึกว่าไม่ทางเป็นจริงได้