webnovel

ตอนที่ 092

ตอนที่ 92 อาหารรสเลิศไม่ทำให้ผิดหวัง

เดิมทีแล้วเย่หนิงมีแผนว่าจะเชิญพวกเฝิงเยี่ยนฮวายกินข้าวด้วยกัน ผลกลายเป็นว่าเธอเผลอทะเลาะกับเจิ้งชวนจนต้องหยุดแผนนั่นไป เมื่อบทสนทนาไปต่อไม่ได้ เฝิงเยี่ยนฮวายเองก็รู้สึกว่าบรรยากาศมันเริ่มไม่ดีแล้ว หลังจากที่บทสนทนาจบลง จึงรีบลากเจิ้งชวนออกไป

พอคนทั้งสองกลับไปกันแล้ว เย่หยิงเลยรู้สึกได้ถึงความหดหู่ที่ตีสวนขึ้นมาอย่างรุนแรง

ช่วงนี้เธอวิ่งวุ่นจัดการทุกอย่างจริงๆ ยุ่งจนทำให้นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ เพียงแค่ว่าตอนที่กำลังวิ่งวุ่นอยู่นั้นเธอไม่รู้สึกง่วงมากสักเท่าไหร่ ตอนนี้พอเรื่องจบลงแล้ว ความรู้สึกง่วงและเหนื่อยก็คืบคลานกลับมาอีกครั้ง แรงจะปีนขึ้นเตียงก็ยังไม่มี ต้องฝืนอาบน้ำอยู่ตั้งนาน ไม่เพียงแต่ไม่มีสติ กลับยิ่งอยากนอนหลับเสียด้วยซ้ำ เหมือนกับว่าถ้าเดินๆ อยู่ก็สามารถนอนหลับได้เลย เธอรีบปีนขึ้นบนเตียง เมื่อหัวลงหมอนเธอก็ผล่อยหลับโดยทันที

เมื่อรู้สึกว่านอนหลับเพียงพอแล้ว ตอนที่ตื่นขึ้นมารู้สึกได้ถึงแสงสว่างที่จางหายไป คงจะมืดแล้วสินะ

เธอคลำหาโทรศัพท์บนหัวเตียงสักพัก แล้วหยิบขึ้นมาดู หา! หนึ่งทุ่มกว่าแล้วหรอ เธอนอนหลับไปแปดชั่วโมงเต็มเลยเหรอเนี่ย

โทรศัพท์มือถือไม่มีข้อความใดๆ และไม่มีเบอร์ที่ไม่ได้รับสาย ดูแล้วคงไม่มีเรื่องอะไร อย่างนั้นพักผ่อนอีกหน่อยดีกว่า

เย่หนิงพลิกตัว เธออยากจะนอนต่อ แต่กลับนอนไม่หลับ

เป็นเพราะท้องที่กำลังหิว กำลังส่งเสียงประท้วงจนรู้สึกไม่สบายตัว

หาอะไรกินหน่อยดีกว่า แต่ เอ๊ะ เวลานี้ โรงอาหารก็คงไม่มีของกินแล้วสินะ

ดูแล้วคงต้องออกไปหาของกินข้างนอกเสียแล้วสิ

กินอะไรดีล่ะ หรือว่าจะสั่งจากไหว่ม่าย*ให้มาส่งของกินดี

เย่หนิงหยิบโทรศัพท์มือถือ เดิมทีเธอกะจะสั่งอาหารจากไหว่ม่าย ทว่าไม่รู้มีอะไรมาดลจิตดลใจให้เธอโทรหาเสิ่นอี้ จนกระทั่งเห็นชื่อปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เย่หนิงถึงได้มีปฏิกิริยา เธอตกใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงอยากโทรหาเสิ่นอี้ เธอรีบตัดสายโทรศัพท์อย่างลุกลี้ลุกลน ร่างของตนเองเย็นเยียบ เหงื่อเย็นไหลอาบทั่วตัว ยังไม่ทันได้สงบสติอารมณ์ ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็สั่นขึ้นมาอีกครั้ง เสียงริงโทนที่ดังแสบแก้วหูดังขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เธอตกใจจนเผลอเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือออกไป

ผลกลับกลายเป็นว่าเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ เธอกลับถือโทรศัพท์เอาไว้ไม่อยู่ เผลอเขวี้ยงโทรศัพท์ในมือที่กำลังสั่นอยู่ออกไป จนหน้าจอโทรศัพท์แตก เย่หนิงนิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงรีบก้มตัวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา รอยแตกมีไม่มากเท่าไหร่ เพียงแต่ว่ามันไม่ส่งเสียงแล้ว สงสัยเสิ่นอี้คงจะวางสายหรือว่าตัดสายไปแล้ว

ทำอย่างไรดี ควรโทรกลับไปหาเขาไหม หลังจากโทรกลับไปแล้วจะพูดอะไรดีล่ะ จะบอกว่าเมื่อกี้ไม่ระวัง เผลอโทรไปผิดน่ะเหรอ

ขณะที่เย่หนิงกำลังสับสน เสิ่นอี้ก็โทรเข้ามาอีกครั้ง โอเคได้ เลิกสับสนได้แล้ว รับเลยแล้วกัน

เย่หนิงรีบรับโทรศัพท์ แต่กลับยังคิดไม่ออกว่าจะพูดอย่างไร จึงกลายเป็นพูดตะกุกตะกักว่า "เสิน เสิน อี้..."

"หืม..." น้ำเสียงของอีกฝ่ายฟังดูงัวเงียเล็กน้อย คล้ายกับว่ายังตื่นไม่เต็มที่

เย่หนิงหน้าเศร้า เธอคงไม่ได้รบกวนการนอนหลับของคนอื่นใช่ไหม

"เอ่อ...เอ่อ..." เย่หนิงรู้สึกอึดอัด "เสิ่นอี้ คุณ คุณยังไม่ตื่นเหรอ..."

"อืม...เสี่ยวหนิง...ทำไมเหรอ" น้ำเสียงฟังดูไม่ชัดเจน ติดแหบแห้งเล็กน้อย ทว่าคาดไม่ถึงเมื่อเขาเป็นคนพูดออกมากลับช่างไพเราะ อีกอย่างเสียงที่อ่อนนุ่มนั้นกลับทำให้หัวใจของคนฟังรู้สึกอ่อนยวบ คล้ายกับว่าตอนนี้พี่ชายกำลังคุยกับเธอภายใต้ผ้าห่ม คิดไม่ถึงว่าเย่หนิงจะคิดเพ้อเจ้อได้ถึงขนาดนี้

"เสี่ยวหนิง" อีกฝ่ายคล้ายกับว่ากำลังพลิกตัว คงจะนำโทรศัพท์มือถือวางไว้บนเตียง เพราะนอกจากจะได้ยินเสียงลมหายใจของเขา เธอยังสามารถได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยอีก

"ค่ะ...ไม่..มีอะไรค่ะ ขอโทษนะคะ ที่รบกวนจนคุณตื่น…งั้น คุณ คุณนอนต่อเถอะ..."

เย่หนิงกำลังคิดจะวางโทรศัพท์ เธอคิดไม่ถึงว่าเสิ่นอี้กลับพูดติดตลกว่า "ไม่เป็นไรครับ นอนมาหลายชั่วโมงแล้ว ผมเองก็ต้องเตรียมตื่นได้แล้ว...อืม ใช่ คุณมีอะไรหรือเปล่า ถึงโทรมาหาผม"

"ไม่ ไม่มีอะไรค่ะ ฮาๆ...ฉันโทรผิด...ฉันกำลังจะใช้ไหว่ม่าย เพื่อ..." เย่หนิงเขินอายเกินกว่าที่จะอธิบาย

"อืม…ไหว่ม่าย เหรอ...มืดขนาดนี้...ตอนนี้กี่โมงแล้วล่ะ"

"ใกล้สองทุ่มแล้วค่ะ..."

"คุณยังไม่ได้กินอะไรอีกเหรอครับ"

"ค่ะ..." หัวใจของเย่หนิงเต้นรัว

คำพูดนี้อ่อนโยนจนเกินไป เธอรับไม่ไหว หัวใจของเธอเกินจะรับไหวแล้ว

เย่หนิงกอดอก เธอสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วหลังจากนั้น ก็ถามออกไปว่า "คุณกินอะไรหรือยังคะ จะให้ฉันสั่งให้ไหม คุณอยากกินอะไรคะ"

"อืม...ไม่ดีกว่าครับ ผมทำอาหารกินเองดีกว่า..." เย่หนิงน้ำตาแทบไหล เธอลืมไปได้ยังไงนะ อีกฝ่ายฝีมือดีขนาดนั้น จะมาสั่งของกินจากไหว่ม่ายทำไมละ ตนเองยุ่งมากมาตลอด เลยรู้สึกว่าแค่สั่งอาหารจากไหว่ม่ายมันก็อร่อยดีอยู่แล้ว!

เย่หนิงยากจะร้องไห้ รู้สึกช้ำใน! เธอก็อยากไปกิน! เธอเองก็อยากไปกินของอร่อย!

แต่เป็นสิ่งนี้น่าอายเกินกว่าที่จะพูด

ขณะที่รู้สึกภายในกำลังชอกซ้ำ จู่ๆ ก็ได้ยินเสิ่นอี้ถามขึ้นมาว่า "เสี่ยวหนิง คุณมากินไหม จะมากินไหมครับ"

"ไปค่ะ ไป!" เย่หนิงรีบตอบกลับไปทันควัน

พี่ใหญ่ พี่เป็นคนที่เอาใจใส่มากจริงๆ กำลังรอให้พี่ถามประโยคนี้อยู่พอดีเลย! ใบหน้าของเย่หนิงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา!

เสิ่นอี้หัวเราะอีกครั้ง "งั้นผมจะรอให้คุณมานะครับ!"

"ค่ะ!" เย่หนิงเด้งตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง สติกลับมาครบถ้วนแล้ว!

ของอร่อยจ๋า! มีความสุขจังเลย!

เธอได้ยินเสียงโครกครากดังมากจากท้องน้อยๆ ของเธอ! ไปแล้วจ้า! อาหารเลิศรส!

เย่หนิงไม่มีความลังเลอีกต่อไป แค่มีของอร่อย ไม่ว่าจะเป็นภูเขา หรือแม่น้ำก็ขวางเธอไม่ได้หรอก!

ไม่รู้ว่าเขากำลังรอเธออยู่หรือไม่ ประตูหอพักของเสิ่นอี้ไม่ได้ปิด พอเธอผลักประตูเปิด สิ่งแรกที่เธอได้กลิ่นก็คือกลิ่นหอมหวน น้ำลายของเย่หนิงไหลออกมา เธอรีบพุ่งเข้าไปในห้องทันที "เสิ่นอี้!"

"มาแล้วเหรอ" เสียงของชายหนุ่มดังออกมาจากในห้องครัว "ปิดประตูด้วยครับ!"

ภายในห้องรับแขกเครื่องเล่นเพลงเปิดอยู่ เสียงเพลงคลาสสิกดังไพเราะจับใจ คิดไม่ถึงเลยว่าเสิ่นอี้จะมีงานอดิเรกแบบนี้ แต่คงจะดีกว่านี้มากถ้าเข้าใจความหมายของเพลง ทว่านั้นไม่สำคัญ! สำหรับเย่หนิงแล้ว อาหารรสเลิศ จึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด!

ต้มอะไรน่ะ หอมจังเลย!

ยิ่งมาก็ยิ่งหิว

ท้องส่งเสียงดังโครกครากตลอดเวลา

"หิวเหรอครับ" เฉินอี้ชะโงกศีรษะจากในห้องครัวออกมาดู "นั่งลงก่อนสิ มีบิสกิตอยู่บนโต๊ะชา ในตู้เย็นมีเค้ก ถ้าคุณหิวก็กินก่อนได้เลยนะครับ"

"ไม่เป็นไรค่ะ..."

เย่หนิงพูดยังไม่ทันจบ แวบหนึ่งเธอมองเห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของเสิ่นอี้ "ผมเพิ่งทำเค้กวันนี้ คุณลองกินดูสิครับ"

"หือ" ดวงตาของเย่หนิงเป็นประกายขึ้นมาทันที "คุณทำเหรอคะ"

"ใช่ครับ! คุณอยากลองชิมไหม ลองดูว่าจะชอบไหม ผมทำเอง ไม่ต้องเกรงใจ! อยากกินอะไรก็กินได้เลยครับ"

"ค่ะ ค่ะ!" งั้นเธอไม่เกรงใจล่ะนะ เย่หนิงรีบไปเปิดตู้เย็น คิดไม่ถึงว่าเธอจะได้เห็นเค้กก้อนเล็กที่ทำเอาไว้อย่างประณีตจริงๆ

ว้าว...ต้องรสชาติดีแน่นอน แต่ เล็กจังเลย

......

เย่หนิงอยากจะร้องไห้!

ทำไมเสิ่นอี้ถึงขี้เหนียวขนาดนี้ ทำเค้กก้อนเล็กนิดเดียว! ทำให้ใครกินกันหา! เธอกินคำเดียวก็หมดแล้ว

เย่หนิงหยิบช้อนชาขึ้นมาตักกิน อย่างไม่พอใจ

"เป็นอะไรเหรอครับ” เสิ่นอี้ที่เพิ่งล้างมือเดินออกมา เห็นความโศกเศร้าที่แสดงออกมาผ่านสีหน้า ถึงอย่างไรแล้วเขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าตนเองทำอะไรผิด "อาหารรสชาติแย่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ"

ไหว่ม่าย* เป็นแอพสั่งอาหารของประเทศจีน