webnovel

ตอนที่ 089

ตอนที่ 89 ใคร

“ไม่ใช่!” เจิ้งชวนกล่าวเสียงเรียบ “หลายวันมานี้พวกมันไม่ได้รอแค่ให้ผนึกอ่อนแรงลงเท่านั้น! ทว่ายังมีปรากฏการณ์ธรรมชาติอีกหนึ่งอย่าง ที่จะเกิดในช่วงที่ผนึกอ่อนกำลังมากที่สุด และที่ไม่บังเอิญมากที่สุดก็คือ ครั้งนี้ ช่วงเวลาที่เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาตินั้นดันบังเอิญว่าเป็นวันที่ผนึกอ่อนแรงมากที่สุดพอดี! อาหนิง คุณรู้ไหมว่านี้หมายความว่าอะไร”

เขาไม่รอให้เย่หนิงตอบ เฝิงเยี่ยนฮวายก็ชิงตอบออกมาก่อน “นั่นก็หมายความว่าในวันนั้นพลังของผนึกจะอ่อนแรงจนเกือบจะเท่ากับศูนย์! พวกมันเพียงแค่รอจนถึงวันนั้น คิดอยากเข้าไปช่วยราชาผีดิบออกมาก็เป็นการง่ายที่จะลงมือ นอกเสียจากว่า…”

เย่หนิงโพล่งปากถามอย่างอดไม่ได้ “ นอกจากอะไร”

เฝิ่งเยี่ยนฮวานพูดกับเย่หนิง “นอกเสียจากว่าพวกเราจะชิงเอามาก่อนที่จะถึงวันนั้น แล้วเพิ่มพลังของแผ่นผนึก! แบบนี้พวกมันก็จะไม่มีวิธีทำลายผนึก เพื่อช่วยราชาผีดิบออกมา”

“วันนั้น…” เย่หนิงเอ๋ยปากถามอย่างรีบเร่ง “สรุปเป็นวันไหนกันแน่ ที่จะเกิดเหตุการณ์นั่นขึ้น”

“สุริยุปราคาเต็มดวง! วันนั้นก็คือวันที่จะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง!” เจิ้งชวนกล่าวเสียงต่ำ “พวกเรามีเวลาไม่ถึงสองเดือนด้วยซ้ำ! ไม่เพียงต้องหาแผ่นผนึกว่าอยู่ที่ไหน ยังจะต้องเพิ่มพลังของผนึกอีก! แต่ตอนนี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของพวกเรา นอกจากจะไม่รู้ว่าราชาผีดิบถูกผนึกเอาไว้ที่ไหนแล้ว…พวกเรายังไม่มีวิธีเพิ่มพลังของผนึกอีก หรือให้พูดอีกอย่าง ถึงจะพึ่งกำลังของพวกเรา ก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี”

เย่หนิงตกตะลึง “ ที่พวกคุณมาหาฉัน คงไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ใช่ไหม อยากให้ฉันช่วยเหรอ ยังไงฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี!”

ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นลูกหลานของนักล่าผีดิบ แต่ว่าเธอไม่รู้อะไรเลยนะ แล้วก็ไม่รู้ด้วยต้องทำอะไร

เฝิ่งเยี่ยนฮวายยิ้มแหยๆ ส่ายหัว แล้วพูดว่า “อาหนิง มีแค่คุณก็คงยังไม่พอ! ก่อนหน้านี้เพื่อที่จะผนึกราชาผีดิบ เลยต้องใช้ความร่วมมือจากพวกเราทั้งสี่ตระกูล ตอนนี้ถ้าจะเพิ่มพลังของผนึกก็ต้องทำเหมือนเดิม ทว่าตอนนี้พวกเรามีกันแค่สามคน! สี่ตระกูลใหญ่ยังมีตระกูลถัง ผู้สืบทอดของตระกูลหายสาบสูญไปแล้ว หากไม่มีคนของตระกูลถังช่วยเหลือ พวกเราไม่มีทางเพิ่มพลังของผนึกได้หรอก!"

“นี่…” เย่หนิงนิ่งค้างไป ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ เธอเองก็ไร้หนทาง “นี่…ตระกูลถังที่ว่า…ไม่ใช่ว่าหลายปีก่อนหน้านี้…ไม่มีเหลือรอดแล้วเหรอ ฉันได้ฟังจากคุณอามาว่า ปีนั้นหลังจากที่ผู้สืบทอดคนสุดท้ายของตระกูลถัง…เสียชีวิต ตระกูลถังก็ไร้ซึ่งผู้สืบทอดอีกเลย”

“ใช่น่ะสิ!” เฝิ่งเยี่ยนฮวายพูดอย่างกลัดกลุ้มว่า “ดังนั้นถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเราจะรู้เรื่องนี้ แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งอะไรได้เลย!”

“จำเป็นต้องเป็นคนของตระกูลถังด้วยเหรอ” เย่หนิงขบคิดอยู่หลายครั้ง แล้วจึงถามออกมา “นักล่าผีดิบ ก็ไม่ได้มีแค่พวกเราสี่ตระกูลนี่นา บางที…บางทีอาจจะมีนักล่าผีดิบที่เก่งกาจกว่าก็ได้นะ พวกเขาไม่คิดจะช่วยพวกเราเลยรึไง”

เจิ้งชวนพยักหน้า “ผมเองก็เคยคิดแบบนี้ ดังนั้นตอนที่หมดหนทาง ผมก็เลยโพสต์ข้อความประกาศบนอินเตอร์เน็ตเป็นจำนวนมากเพื่อตามหานักล่าผีดิบ ถึงยังไงแล้วการที่จะทำให้ผนึกสมบูรณ์ ก็จะต้องมีคนอยู่ประจำตำแหน่งทั้งสี่ทิศ ขาดใครไปไม่ได้! อย่างน้อยก็ต้องหาคนให้ได้สี่คน แล้วค่อยมาลองดู”

เมื่อเจิ้งชวนพูดถึงตรงนี้ สายตาของเขาพุ่งตรงไปที่เย่หนิง เธอที่ถูกเขามองรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย จึงพูดออกมาว่า “นี่…เจิ้งชวน นายมองฉันทำไม ฉันทำไม่ได้จริงๆ! ฉันทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆนะ!”

“คุณยังไม่เคยลอง แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าทำไม่ได้” เจิ้งชวนยังไม่ยอมแพ้

“แล้วจะให้ฉันลองยังไงล่ะ” เย่หนิงกลุ้มใจจนถึงขีดสุด “ถึงยังไงฉันก็ยังไม่รู้อะไรอยู่ดี!”

“คุณกลัวอะไร!” เฝิ่งเยี่ยนฮวายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ ครั้งแรกพวกเราก็ไม่เข้าใจอะไรหรอก! แต่ผมสอนคุณได้นะ!”

“นายจะสอนฉันงั้นเหรอ” เย่หนิงหมดคำพูดโดยฉับพลัน

“ทำไม ไม่ได้หรือไง!” เฝิงเยี่ยนฮวายไม่พอใจ “ผมออกจะเก่ง!”

“รู้หรอกนาว่านายเก่ง…” กลับกันไม่ใช่ว่าเย่หนิงไม่เชื่อเฝิ่งเยี่ยนฮวาย แต่เรื่องนี้จะให้พูดยังไงดีล่ะ…เธอยังไม่ได้เตรียมใจเลย ก่อนหน้านี้ก็เป็นหมอนิติเวชอยู่ดีๆ แต่ไหงจู่ๆ พอสองคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมา เธอถึงต้องไปช่วยเก็บซากผีดิบด้วยล่ะ…

กายวิภาคของศพสำหรับเธอยังพอไหว แต่เรื่องที่จะให้ไปรับมือกับผีดิบ เธอไม่มีความรู้เลยจริงๆ

ยิ่งกว่านั้นเธอไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่ง จะนำอาชีพนี้มารวมเข้ากับอุดมคติของเธอ ไม่เห็นสอดคล้องกันเลย!

อุดมคติทั้งหมดถูกทำลาย จะให้เธอยอมรับได้อย่างไร

เจิ้งชวนจ้องมองเย่หนิงพักหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า “เย่หนิง ผมรู้ว่าจะให้คุณตัดสินใจกะทันหันเลยก็คงเป็นเรื่องยาก คุณลองคิดพิจารณาดูก่อน แล้วค่อยให้คำตอบกับพวกเราทีหลังก็ได้! แต่…ผมหวังว่าคุณจะใช้เวลาคิดไม่นาน เพราะเวลาของพวกเรามีไม่มากแล้วจริงๆ! หากราชาผีดิบฟื้นคืนชีพ จะเกิดอะไรขึ้นนั้น พวกเราเองก็ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ คือพวกเราไม่มีทางรับมือกับมันได้อย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องมีคนตายเพราะเรื่องนี้สักกี่คน! สำหรับนักล่าผีดิบ การถอนรากถอนโคนผีดิบ รักษาความสงบสุขของมวลมนุษย์ นั้นเป็นภารกิจอันใหญ่หลวงของพวกเรา! ผมหวังว่า...คุณจะไม่หลงลืมฐานะของตนเอง! ยิ่งกว่านั่นคือไม่หลงลืมภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้!"

เย่หนิงถอนหายใจ ‘พูดซะขนาดนี้ เธอคงจะปฏิเสธได้หรอกนะ’

“ฉันขอถามคุณอาก่อนแล้วกัน ว่าท่านจะว่าไง…หลังจากนั้นฉันค่อยให้คำตอบกับพวกนายอีกที”

“เอาแบบนั้นก็ได้!” สำหรับคำตอบนี้ เจิ้งชวนค่อนข้างพอใจเป็นอย่างมาก อีกอย่างเขาเองก็มองออก ดูแล้วเธอคงไม่มีแผนปฏิเสธพวกเขา เพียงเพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหัน และฉุกละหุก จึงทำให้เธอตัดสินใจลำบาก แต่หลังจากที่เขาปล่อยให้เธอคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เธอต้องยอมตอบตกลงพวกเขาแน่นอน

“ยังมีอีกเรื่อง…” เจิ้งชวนคิดทบทวนหลายต่อหลายครั้ง จึงตัดสินใจพูดออกมาว่า “เย่หนิง เธอต้องระวังคนที่อยู่รอบข้างเธอด้วย! อย่าตำหนิที่ฉันพูดมากเลยนะ! ผีดิบและนักล่า ธรรมชาติแล้วเกิดมาเป็นศัตรูกัน การที่พวกมันเข้าใกล้คุณ เกรงว่าจะมีจุดประสงค์บางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกมันต้องการคืนชีพราชาผีดิบ พวกมันคงไม่มีทางปล่อยทายาทของสี่ตระกูลใหญ่ไปอย่างแน่นอน”

เย่หนิงส่ายหน้า “ฉันอยู่ข้างในนั้นมาตั้งนาน คนเหล่านั้นก็ใช่ว่าจะเพิ่งรู้จัก พวกเขาทำอะไรฉันไม่ได้ง่ายๆ หรอก อีกอย่างถ้าจะลงมือทำไมต้องรอจนถึงตอนนี้ด้วยล่ะ”

เจิ้งชวนตกใจ “ที่เธอพูดแบบนี้ งั้น…”

ถึงจะพูดออกไปแบบนี้ แต่เจิ้งชวนกลับพูดออกมาอย่างรอบคอบและระมัดระวัง ไม่หลุดข้อสันนิษฐานใดๆ “อาหนิง กรมตำรวจของพวกคุณ ช่วงนี้ไม่มีคนเข้ามาใหม่เลยเหรอ”

เฝิ่งเยี่ยนฮวายมองเจิ้งชวนอย่างสงสัยเล็กน้อย

เจิ้งชวนรีบอธิบายว่า “ถ้าเป็นผม ผมจะลงมือจัดการเย่หนิงก่อน! เพราะถึงแม้ว่าเธอจะเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดที่มาจากสี่ตระกูลใหญ่ แต่กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย ลงมือตอนที่อยู่ข้างๆ เธอจึงเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด!”

เขาพูดจบ จึงถามเย่หนิงต่อว่า “อาหนิง คุณลองคิดดูให้ดี ว่ามีไหม คนที่ช่วงนี้ชอบมาอยู่ข้างๆ คุณ และยังแสดงพฤติกรรมน่าสงสัยเป็นพิเศษด้วยน่ะ”

“เออ…” คนที่ช่วงนี้ชอบมากอยู่ข้างๆ เธอ แล้วยังแสดงพฤติกรรมน่าสงสัยเป็นพิเศษเหรอ

“ไม่ถูกสิ! และยังมีโอกาสได้สัมผัสผีดิบตนนั้นด้วย! มีไหม” เจิ้งชวนรีบพูดสิ่งที่ตนเองอยากรู้และต้องการออกมาอย่างชัดเจน

เฝิ่งเยี่ยนฮวายพูดออกมาอย่างอดไม่ได้ว่า "ขอบเขตแคบลงไปแล้ว! คนที่ได้สัมผัสกับผีดิบตนนั้น คงมีไม่กี่คน"

ใช่ เดิมทีแล้วคงมีไม่กี่คน...ถ้าไม่ใช่เธอและคนในทีมของหยางปิน ยังมีใครอีกน่ะ?

ไม่มีทางเป็นไปได้...

สีหน้าของเย่หนิงเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน!

เธอคิดออกแล้ว!

---------------------------------------------------------------------------