娱乐圈头条 หัวข้อข่าว แห่งวงการบันเทิง
ผู้แต่ง กว๋านเอ่อwr
ผู้แปล เติ้ง ลี่เฟิน
บทที่ 6 แอคชั่น
เพราะใบหน้าของเธอถูกทาด้วยสีดำจึงมองเห็นสีหน้าได้ไม่ชัดนัก เจียงเซ่อเอียงหน้าไปใกล้แล้วตอบ
“แสดงเป็นคนตายไง”
คนอื่นที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น มีเสียงเบาๆ พูดขึ้นมาว่า
“ถ้าถ่ายเสร็จแล้วทางกองถ่ายน่าจะให้เงินเพิ่มด้วยนะ”
หลูเป๋าเป่ากำลังจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็โดนผู้ช่วยผู้กำกับตะโกนบอกให้คนดูแลรีบๆ มัดเชือกให้เรียบร้อย หลังจากนั้นถูกพาไปมัดไว้ที่เสาไม้ริมแม่น้ำ
เจียงเซ่อถูกมัดมือไพล่หลังแล้วพาไปที่ขอบแม่น้ำ เชือกป่านมัดรอบข้อมือทั้งสองข้างจนแน่น คนที่แสดงเป็นคนร้ายเองก็ถือมีดปลอมรอแสดงแล้ว เหลือแค่รอคำสั่งของผู้กำกับ
คนในกองถ่ายช่วยกันเอาถุงเลือดปลอมมาใส่ให้ในเสื้อ ผู้ชายคนหนึ่งถือปากกามาคุยกับตัวประกอบหญิงเพื่อบอกบทที่หล่อนต้องพูด
“……พอเกาหรงพูดบทของเขาเสร็จ เธอก็ต่อด้วย ‘ถุย’ เลยนะ”
หล่อนได้บทพูดหนึ่งประโยค และนั่นก็ทำให้คนที่เหลืออิจฉาหล่อนไม่น้อยเลย
ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าหงึกหงัก แล้วคนที่ถือปากกาก็หันไปคุยกับเจียงเซ่อและคนอื่นๆ
“เดี๋ยวพอมีดฟันลงมาจะกดถุงเลือดจนแตก หลังจากนั้นพวกคุณต้องล้มตัวลงไปในแม่น้ำเลยนะ” เขาชี้ไปบริเวณแม่น้ำที่ได้ทำเขตปลอดภัยเอาไว้แล้ว และในน้ำก็มีคนอีกมากมาย “เรื่องความปลอดภัยเราเตรียมไว้แล้ว คนที่ต้องตกน้ำวันนี้มีค่าตอบแทนเพิ่มให้ยี่สิบหยวน”
พูดจบเขาก็ปรบมือให้สัญญาน “โอเค เตรียมพร้อม”
การถ่ายทำฉากนี้ไม่ได้มีบทของพระเอกยอดเยี่ยมอย่างหลิวเย่ เช่นเดียวกับพวกดาราสาวที่หลูเป๋าเป่าได้โม้ไว้เช่นกัน มันก็เป็นแค่ฉากสั้นๆของหนังเรื่องนี้เท่านั้น
เจียงเซ่อถูกดันไปจนถึงริมแม่น้ำ ในแม่น้ำเองก็มีเบาะชูชีพลอยอยู่ห้าหกเบาะ หลูเป๋าเป่าโชคดีที่ไม่ต้องลงน้ำเพราะถูกมัดติดกับเสาไม้ แต่เจียงเซ่อกลับได้ไปยืนอยู่ขอบสุดของแม่น้ำ คิดว่ายังไงก็ต้องตกลงไปแน่นอน
ทุกคนต่างประจำที่ของตัวเอง จนกระทั่งผู้กำกับตะโกนว่า ‘Action’ “ลองดูครั้งหนึ่งก่อนนะ”
ผู้ช่วยผู้กำกับเอาชอล์คเขียนครั้งที่แสดงลงบนแผ่นบอร์ดนั่น “Take one”
นี่คือการถ่ายทำรอบแรก พอเสียงไม้บอร์ดกระทบกันหายไป ชายวัยกลางคนที่ใช่ชุดผู้ร้ายก็พูดออกมาด้วยสีหน้าอำมหิต
“ถ้าหากโจวหมิงฉงไม่ยอมมอบของสิ่งนั้นออกมา พวกแก ทุกคนจะต้องตาย!”
พอพูดจบ ทุกคนต่างชะงักนิ่ง และนั่นก็ทำให้ผู้กำกับโมโห
“คัท!”
ตัวประกอบกลุ่มนั้นยังไม่ทันได้ดึงสติตัวเองกลับมา ผู้ช่วยผู้กำกับก็เดินดุ่มๆ เข้าไปตะโกนใส่ทันที
“แม่งเอ้ย คุณบ้าหรือเปล่าเนี่ย ผมบอกแล้วไงว่าพอเกาหรงพูดบทของเขาเสร็จคุณก็ต้องพูดว่า ‘ถุย’ เลยไง?”
ผู้หญิงคนนั้นโดนด่าจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา พอชายคนนั้นบ่นเธอเสร็จก็สะบัดมือ
“เอาใหม่!”
ทุกคนกลับเข้าที่ตัวเองอีกครั้ง ไฟถูกส่องมาที่เจียงเซ่อและคนอื่นๆ แล้วนักแสดงชายที่ชื่อเกาหรงก็สวมบทบาทของตัวเองอย่างมืออาชีพ เขาเท้าเอวแล้วชี้มีดขึ้น
“ถ้าหากโจวหมิงฉงไม่ยอมมอบของสิ่งนั้นออกมา พวกแก ทุกคนจะต้องตาย!”
ครั้งนี้ผู้หญิงที่โดนด่าไปตอบสนองอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนว่าจะรีบไปหน่อย
“ถุย”
คงเพราะเพิ่งโดนด่ามา เสียง ‘ถุย’ ของหล่อนมันถึงได้เบาเหมือนไม่มีแรงเสียอย่างนั้น ผู้ช่วยผู้กำกับที่ถือปากกาอยู่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟหนักกว่าเดิม
“เธอทำได้หรือเปล่าเนี่ย? ไม่ได้ก็เปลี่ยนคนไปเลย!”
ผู้หญิงคนนั้นโดนดุจนน้ำตาไหลและก้มหัวขอโทษไม่หยุด จนพอโอเคขึ้นแล้วก็เริ่มถ่ายใหม่
“Take three”
เสียงแคลปบอร์ดดังขึ้น เกาหรงก็เล่นบทของตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่ทำพลาดไปถึงสองครั้ง ครั้งนี้เธอตะโกนขึ้นอย่างเสียงดัง “ถุย!”
ครั้งนี้ไม่โดนสั่งคัท เห็นแค่ผู้ช่วยและผู้กำกับกำลังคุยอะไรกันสักอย่าง ตอนที่มองมา ก็หน้านิ่วคิ้วขมวด
พอผู้หญิงนั้นพูดจบ คนที่แสดงเป็นคนร้ายบนใบหน้าก็ปรากฏสีหน้าขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน คำด่าถูกพ่นออกมาพร้อมๆ กับอาวุธปืนในมือที่ถูกยกขึ้น
การแสดงดำเนินมาถึงแค่ฉากนี้ ผู้กำกับให้สัญญาณมือและผู้ช่วยก็ตะโกนสั่งให้หยุด
เกาหรงหยุดแสดง ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธในกองถ่ายก็เข้ามาตรวจสอบอาวุธที่เขาถืออยู่
เจียงเซ่อเห็นประกายเย็นเยียบที่สะท้อนออกมาจากตัวปืน น่าจะเป็นปืนจริงแต่คงไม่ได้มีลูกกระสุนอยู่ในนั้น หนังเรื่องนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ คงไม่ใช้พวกอาวุธปลอมแน่ๆ และเพื่อความสมจริง จะถ่ายฉากที่ยิงปืนก่อนแล้วค่อยไปถ่ายตอนที่ถุงเลือดแตกก็ได้แล้ว
พวกเขาเข้าไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นที่ต้องพูดบทอีกครั้ง ท่ามกลางอากาศที่ร้อนขนาดนี้ เจียงเซ่อรู้สึกว่าเหงื่อเธอมันจะซึมทะลุเสื้อออกมาเสียแล้ว ยืนอยู่นานเพื่อรอถ่ายฉากถูกฆ่า ทุกคนต่างก็ได้แต่ยืนนิ่งๆ ขยับไปไหนไม่ได้
ช่างแต่งหน้าในกองถ่ายรีบเดินมาเติมหน้าให้ พอคนดูแลอาวุธตรวจเรียบร้อยว่าไม่อันตรายทุกคนก็เริ่มถ่ายต่อ
ครั้งนี้เกาหรงยกปืนขึ้นมา แต่ผู้หญิงคนที่ต้องพูดบทน่าจะเครียดเกินไปจนลืมบีบจุดที่ใส่ถุงเลือดให้แตกและเธอก็โดนด่าเสียๆ หายๆ ไปอีกยกใหญ่
“ฉากนี้เอาไว้ก่อนแล้วกัน เอาฉากอื่นให้เสร็จก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที”
ชายหนุ่มสวมแว่นดำที่นั่งอยู่ใต้ร่มใบนั่นมีสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก พอพูดประโยคนั้นจบผู้ช่วยก็ตะโกนมาทางที่เจียงเซ่อยืนอยู่ กล้องทุกตัวแพนไปยังจุดที่เธอและคนอื่นยืนอยู่ทันที
พอเสียงแคลปบอร์ดดังขึ้น สิ่งที่กล้องถ่ายเป็นสิ่งแรกคือฉากกำลังเตรียมปืน เจียงเซ่อยืนอยู่ที่ริมแม่น้ำ เธอเห็นชายคนหนึ่งถือมีดพุ่งเข้ามาหาเธอ เขาง้างมีดขึ้น ทำท่าทางว่ากำลังจะฟันลงมา
มีดเล่มนั้นสับลงบนหัวไล่ข้างซ้ายของเธอ ถึงมันจะไม่ใช่มีดจริงและก็คงไม่ได้ทำให้เกิดแผลร้ายแรงอะไร แต่แรงของผู้ชายที่กดลงมาก็ทำให้รู้สึกเจ็บไม่น้อย
เจียงเซ่อแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา เธอจำสิ่งที่คนบอกบทกำชับเธอเอาไว้ได้แม่น เธอร้องออกมาคำหนึ่ง เสียงถุงเลือดที่โดนมีดกดแตกออกมาดัง ‘ผุ’ ของเหลวสีแดงกระเซ็นออกมาและเธอไม่ลังเลที่จะสะบัดมือที่โดนเชือกมัดไว้เพื่อเหวี่ยงตัวให้ล้มลง ร่างทั้งร่างตกลงไปไปในแม่น้ำ!
วันที่อากาศร้อนๆ แบบนี้ แถมเสื้อหนาๆ ที่เธอใส่มันก็ร้อนจนแทบทนไม่ไหว หลังจากตกลงไปในน้ำแล้วก็เย็นสาบายขึ้นไม่น้อย
ร่างทั้งร่างของเธอถูกห่อหุ้มด้วยน้ำ เสื้อที่สวมอยู่ก็ดูดน้ำเข้าไปจนหนัก
ดีที่เจียงเซ่อว่ายน้ำเป็นบวกกับการ์ดน้ำที่รอรับอยู่แล้วและพาเธอฝั่งมาอย่างปลอดภัย
คนที่เหลือค่อยๆ ตามขึ้นมา เจียงเซ่อบิดน้ำออกจากเสื้อเพื่อให้เบาขึ้นพลางปาดน้ำบนใบหน้าตัวเอง
พอทำแบบนั้น เครื่องสำอางบนใบหน้าก็เลอะมอมแมม ผู้กำกับที่นั่งดูกล้องอยู่ก็ทำสัญญาณมือสั่งหยุดถ่าย
ถึงเวลาพักกอง ทุกคนต่างจับกลุ่มหาที่นั่งกัน
ฉากนี้ของเจียงเซ่อเหนื่อยไม่ใช่เล่น หลูเป๋าเป่าที่ถูกมัดติดกับเสาไม้เองก็ถูกปล่อยออกมาก่อน บนเสื้อของเธอเองก็มีเลือดปลอมเปรอะอยู่เช่นกัน แววตาของหล่อนยังคงมีความตกใจไม่น้อย
“ตกใจแทบตายแน่ะ”
หล่อนนั่งลงมา พอเห็นว่าทั้งตัวของเจียงเซ่อเปียกไปหมดก็เอ่ยออกมาอย่างกังวล
“ตอนที่เห็นเธอตกลงไปในน้ำฉันก็ตกในแทบแย่”
ดูเหมือนว่าการมาเป็นตัวประกอบในกองถ่ายจะไม่ได้เป็นเรื่องน่าสนุกสำหรับหลูเป๋าเป่าอีกต่อไป ไม่เพียงแค่ไม่ได้เจอดาราแล้วก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้ถ่ายหนังกับพวกเขา
“ตอนที่ปืนพวกนั้นหันมาที่ฉันก็ตกใจเหมือนกัน”
หล่อนดูหงอยๆ แววตาปรากฏความท้อแท้ ท่าทางค่อนข้างผิดหวังที่ตัดสินใจมาเป็นตัวประกอบในวันนี้
เจียงเซ่อยกมือขึ้นบีบน้ำออกจากผม
“การถ่ายทำคงต้องใช้ของจริงในการถ่าย แต่ว่ามีคนตรวจสอบแล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก”