webnovel

Chapter 6.5

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : ไอ้เก้า อยู่ไหน

ก็ ก็ไม่ได้อยากทักมันหรอกนะ

แต่ๆ ไม่เอาๆ ดีกว่า

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : *ยกเลิกส่งข้อความ*

ผมส่ายหัวแล้วเบะปากเชิดคาง "เรื่องอะไรจะง้อมึง ไม่เอาหรอก"

เออ เดี๋ยวมันหัวเราะเยาะผม ไม่เอาๆ เสียมาดหมด!

แต่มันแบบ...ถ้าไม่ถามมันก็จะไม่รู้วิธีจัดการกับควินซ์สิ

คิดแล้วก็หน้าบึ้งกลั้นใจพิมพ์ข้อความใหม่

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : มึงมีวิธีจีบคนมั้ย ขอหน่อย

นัยน์ตาขอผมเบิกโพล่งเมื่ออ่านข้อความซ้ำอีกรอบก็พบว่ามันดูกากฉิบหาย ไม่ได้ ลบ!

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : *ยกเลิกส่งข้อความ*

ไปถามแบบนั้นตรงๆ เดี๋ยวมันก็หัวเราะเยาะกันพอดี

แม่งไม่ถามแล้ว!

ผมชักสีหน้าหงุดหงิดแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งไว้บนเตียงข้างตัวจากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนเอามือประสานกันแล้วรองไว้ที่ท้ายทอยเพื่อนอนหนุน เงยหน้ามองเพดานไปสามนาทีก็ยื่นมือข้างหนึ่งไปคลำๆ หยิบหาโทรศัพท์อีกรอบ

"ถามพี่ออสตินดีกว่า"

เออ พี่แกก็มีเมียแล้วก็ต้องมีคำแนะนำดีๆ ให้ผมสิ

อีกอย่างนะ... ถ้าผมถามพี่ออสตินก็จะไม่เสียหน้าและไม่น่าอายเท่ากับถามไอ้เก้า ศัตรูหัวใจ!

คิดแบบนั้นแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย รีบพิมพ์ข้อความไปถามพี่เขาอย่างไม่รอช้า

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : พี่ ผมมีเรื่องจะถาม

รอไม่นานนักพี่ออสตินก็ตอบกลับ สงสัยจะว่างอยู่พอดีสินะ

Austin : ถามอะไร

Austin : ธุรกิจมีปัญหาเหรอ

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : ไม่ใช่

Austin : งั้นจะถามเรื่องอะไร

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : ตอนพี่จีบไนน์

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : พี่ทำยังไง

ผมจ้องหน้าจอแชทไลน์ตาแทบไม่กะพริบและเฝ้ารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

Austin : ไม่เคยจีบ

อ้าว ไม่ได้จีบแล้วทุกวันนี้มารักกันมาแต่งงานกันได้ยังไงอ่ะ

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : งั้นพี่ทำไงห้ไนน์ชอบ

Austin : ไม่ได้ทำอะไร อยู่เฉยๆ

Austin : ไนน์มาชอบเอง

"..." ผม

โอเค ผมถามผิดคนเอง

กลับไปถามไอ้เก้าก็ได้... ฮื

---------------------------

Austin : จู่ๆ มาถามแบบนี้

Austin : กำลังหาวิธีจีบควินซ์อยู่เหรอ

ตาของผมเบิกกว้างอย่างตกใจแล้วรีบพิมพ์ตอบลับไป

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : พี่รู้ได้ไงว่าเป็นควินซ์!

เออ อาจจะเป็นคนอื่นก็ได้มั้ย ผมยังไม่ได้บอกใครนอกจากนับสองเลยนะ แล้วพี่ออสตินก็เพิ่งกลับมาคงไม่มีเวลาคุยกับนับสองเท่าไรหรอก แล้วพี่เขาไปรู้ข่าวมาจากไหน

Austin : มีแต่คนตาบอดเท่านั้นแหละที่ไม่รู้ว่าแกชอบควินซ์

Austin : อ้อ แต่คนตาบอดยังดีกว่าคนโง่

Austin : คนที่โง่ไม่รู้ตัวว่าชอบเขา

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : ...พี่ด่าผมว่าโง่ตรงๆ เลยก็ได้นะ ไม่ต้องอ้อม

Austin : ได้ ไอ้น้องโง่

"..." ผมสะอึก

กูประชดมั้ยครับเฮีย แล้วไอ้คำด่าของเฮียเนี่ยเมื่อไรจะพัฒนาให้มันดุดันกว่านี้ครับ ไม่ว่าจะดุเมียดุน้องชายก็ล้วนเป็นคำมุ้งมิ้งไม่ได้รู้สึกระแคะระคายผิวหน้าเลย

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : ถ้างั้นพี่ช่วยบอกผมทีว่าตอนนี้ผมควรทำยังไง

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : เขาไม่รับรักผม

เมื่อเป็นพี่ชายสายเลือดเดียวกันแล้วก็ไม่ค่อยรู้สึกอับอายเท่ากับไปถามมารหัวใจ แอบรู้สึกวาดหวังในคำตอบอยู่หน่อยๆ

Austin : ใครจะไปอยากรับรักคนเจ้าชู้

Austin : อืม ควินซ์ทำถูกแล้ว

อ้าวเฮ้ย ผมน้องพี่รึเปล่า!

Austin : ไม่ช่วยหรอก คิดเอง

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : ไหนพี่บอกว่าจะช่วยไง

Austin : ยังไม่ได้บอกสักคำว่าจะช่วย

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : ...

โอเค มีแค่ผมคิดไปเองคิดเดียวครับ

ในเมื่อคุยกับพี่อออสตินแล้วไม่ได้สาระก็ตัดจบบทสนทนาอย่างรวดเร็ว ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วค่อยๆ พิมพ์ข้อความไปว่า...

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : เค

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : ผมไม่รบกวนพี่แล้ว

Austin : ไม่ได้รบกวน

Austin : มีอะไรก็ถามได้นะ

กูถามไปแล้ว

แล้วมึงตอบกูมั้ย ไอ้เฮีย

ผมส่ายหัวเล็กน้อยแล้วกดส่งสติ๊กเกอร์ไปตัวหนึ่งจากนั้นก็หนีออกจากแชทเลยโดยไม่สนใจว่าพี่ออสตินจะพิมพ์อะไรต่อมามั้ย ถ้ามีก็ค้างไว้งั้นแหละ เดี๋ยวตามอ่านทีหลัง

"หรือถามนับสองดี ไม่ ไม่ ไม่ถามดีกว่า" อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นยีหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด พอกำลังคิดจะทักนับสองไปก็เป็นอันต้องส่ายหัวพรืด

ไม่ใช่ว่านับสองให้คำแนะนำไม่ดี น้องให้คำตอบดีมากแต่เข้าใจมั้ยว่าช่วงนี้ผมหลอนและกลัวนับสองขึ้นมานิดๆ ตั้งแต่ที่รู้สาเหตุว่าความเข้าใจผิดของควินซ์ส่วนใหญ่มาจากนับสอง

ผมกลัวว่าถ้าคุยกับนับสองอยู่แล้วควินซ์ออกมาเจอและไอ้ผมดันพูดไม่รู้เรื่องพูดไม่ชัดเจนอีกก็ซวยสิ เพราะงั้นเลี่ยงนับสองก่อนดีกว่าในช่วงนี้

หลังจากนอนคิดสามสี่ตลบและนอนมองดูแชทไอ้เก้าแล้วสีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นซับซ้อน ในหนึ่งก็อยากทัก อีกใจก็ไม่อยากทักเพราะทิฐิในตัวผมมันสูงนี่แหละ

คิดดูแล้วคนที่น่าจะพึ่งได้ที่สุดในตอนนี้ก็เป็น...ไอ้เก้า

ขมวดคิ้วจนมันผูกโบว์ยุ่งเหยิงไปหมด สุดท้ายแล้วก็ยอมแพ้และทักไอ้เก้าไปในที่สุด...

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : มึง สอนวิธีจีบคนหน่อย

"เชี่ยยย" อุทานลั่นห้องแล้วรีบร้อนลบกดยกเลิกข้อความอย่างรวดเร็วพลางทุบหัวตัวเองไปด้วย

ไอ้หนึ่งเว้ย! มึงจะพิมพ์ตามที่คิดไม่ได้

เดี๋ยวคนเขารู้หมดว่ามึงมันกาก (แม้คนเขาจะรู้นานแล้วก็ตาม)

อย่าถามอะไรให้เด็กมันถอนหงอกสิ

เอ๊ะ หรือผมโดนมันถอนหงอกมานานแล้ววะ

เอาใหม่ พิมพ์ใหม่

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : ปกติเวลานับสองงอน

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : มึงทำยังไง

"เออ มันต้องแบบนี้สิ" ผมยิ้มกริ่มด้วยความพึงพอใจ "เรานี่มันฉลาดจริงๆ"

แค่นี้ก็ไม่ดูเป็นคนกากแล้ว (เหรอวะ)

ผมนั่งรอไอ้เก้าตอบอยู่เกือบห้านาทีด้วยใจที่เต้นโครมคราม พอจังหวะที่คิดจะกดส่งข้อความอีกรอบ ข้อความก่อนหน้าที่ส่งไปดันขึ้นว่าอ่านแล้วแต่มันก็ยังไม่ตอบในทันที

เวรเอ๊ย ไอ้เก้ามันต้องรู้แล้วแน่ๆ

และมันกำลังหัวเราะสะใจอยู่ชัวร์ป้าบ!

ใบหูของผมเริ่มขึ้นสีแดงอย่างอับอาย แต่ตอนนี้จะลบจะแก้อะไรก็ไม่ทันแล้ว!

เก้าไงเก้า : นับสองงอนหรือคุณควินซ์งอนกันแน่ครับ

เชี่ยยยยย มันรู้จริงๆ ด้วย ทำไมมันรู้อ่ะ

ผมยังไม่ได้พูดถึงควินซ์เลยนะ!

เก้าไงเก้า : ตอนนี้มีอยู่คนเดียวที่งอนคุณ

เก้าไงเก้า : ถ้าไม่ใช่คุณควินซ์หรือจะเป็นเด็กคนอื่นล่ะครับ?

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : เด็กมึงสิ!

ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : กูมีควินซ์แค่คนเดียวเว้ย!

เก้าไงเก้า : แหม แต่กว่าจะมีคุณควินซ์คนเดียวได้ก็เพิ่งไม่กี่ปีนี่เองนะครับ

เก้าไงเก้า : ปีก่อนยังมีเด็กเป็นโหลอยู่เลย

"ไอ้เด็กเปรต!" ตกลงมันจะให้คำปรึกษากับผมหรือด่าผมกันแน่วะ

ด้วยความที่พิมพ์คุยกันมันด่าไม่สะใจดังนั้นผมเลยกดโทรไลน์ทันทีและไอ้เก้ามันก็รับสาย แน่นอนว่าผมไม่รอให้มันพูดอะไรก่อนก็ชิงด่าเปิดก่อนเลย

"ไอ้เก้า ไอ้เด็กเหี้ย! ตกลงมึงจะช่วยกูหรือหาเรื่องกูกันแน่!" ผมผุดลุกขึ้นนั่งหน้าถลึงตึง "จะให้กูบอกนับสองมั้ยว่ามึงหนีไปแข่งรถเมื่อเดือนที่แล้ว!"

ผมนึกถึงเดือนก่อนที่ไอ้เก้ามันกลับมาบ้านดึกซ฿งผมกำลังนั่งเคลียร์งานอยู่พอดี พอซักไซ้สอบสวนแล้วก็ได้ความว่ามันแอบนับสองไปแข่งรถกับเพื่อนสนิทมา ชิ ไอ้ผมก็นึกว่ามันแอบไปมีกิ๊กซะอีก จะได้มีเรื่องแฉให้นับสองเลิกกับมัน!

พอนับสองเลิกกับไอ้เก้า น้องก็ต้องกลับมาเป็นของผม ฮึ แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้มีกิ๊ก

อ้อ แล้วถ้าถามว่าทำไมมันต้องแอบ ก็...ไอ้เก้าเคยกระดูกร้าวครั้งหนึ่งในตอนแข่งรถเล่นๆ แล้วมีการขับชนปะทะกันมั้งแต่ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนถึงกระดูกร้าวได้ เพราะงั้นนับสองเลยสั่งห้ามไปแข่งรถอีก

แต่ห้ามไปก็เท่านั้นแหละ น้องผมเผลอทีไรก็แอบไปแข่งรถเล่นตลอด

(เข้าเรื่องกันดีกว่า ตอนนี้คุณควินซ์คงกำลังทำสปาอยู่สินะครับ) น้ำเสียงสุภาพดังมาตามสายและถามตรงประเด็นไม่มีการแซะการแขวะทำเอาผมเบะปากหมั่นไส้ขึ้นมา

"ใช่ ควินซ์ทำสปาอยู่" ผมตอบไป

(งั้นรบกวนพี่เมียเล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ให้ฟังหน่อยได้มั้ยครับ ผมจะได้แนะนำถูกว่าควรทำยังไงต่อ)

ผมหน้างอทันทีเมื่อคิดถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องและพบว่ามันน่าอายเกินกว่าที่จะเล่าได้ก็เลยพูดกำกวมไป "สรุปสถานการณ์ตอนนี้คือควินซ์ไม่เชื่อว่ากูชอบเขาแล้วก็ดูเหมือนจะยังโกรธๆ งอนๆ นิดหน่อย"

(ผมว่าถ้าทำสปาเสร็จ คุณควินซ์น่าจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว) เก้าว่าเสียงเรียบ (คุณแค่ต้องเอาใจคุณควินซ์อีกหน่อย พาไปร้านอาหารที่ชอบ พาไปช้อปปิ้ง ทำอะไรที่เขาชอบ ให้ของที่เขาอยากได้ ทำทุกอย่างเป็นธรรมชาติรับรองว่าหายโกรธแน่นอน)

ผมนึกไปถึงขวดน้ำหอมที่ไนน์ซื้อมาฝากควินซ์ก็พยักหน้านิดหน่อย

"แล้วเรื่องที่ควินซ์ไม่เชื่อกูล่ะ" ถามต่ออย่างลืมทิฐิและอดไม่ได้ที่จะพูด "เขาบอกว่าแค่คำพูดจะไปเชื่ออะไรได้แล้วยังบอกว่าจะทำเป็นไม่ได้ยินด้วย"

ปลายสายคล้ายเงียบไปเล็กน้อยเหมือนใช้ความคิดอยู่

(มันก็จริงอย่างที่คุณควินซ์พูดแหละครับ จู่ๆ ถ้าพี่ไปบอกรักไปบอกชอบก็คงไม่เชื่อ) เก้าถอนหายใจเล็กน้อย (แต่พี่ไม่ต้องคิดมาก อย่าเพิ่งเสียกำลังใจ)

ไม่ทันแล้ว กูเสียกำลังใจไปแล้ว!

สีหน้าของผมหมองหม่นทันที

(พี่บอกไปแล้วก็แล้วไปเพราะสิ่งที่ต่อไปที่พี่ต้องทำมันสำคัญกว่าบอกชอบอีก)

"คืออะไร"

(ตามจีบไง)

"จีบยังไง"

(...) เก้าเหมือนจะอึ้งไปนิด (พี่เลี้ยงเด็กเป็นโหล มีคู่นอนเป็นสิบ พี่ยังจีบคนไม่เป็นอีกเหรอ)

เออ กูจีบไม่เป็น!

ผมพยายามจะไม่ด่าไอ้เก้าออกไป "คนพวกนั้นเข้ามาเอง กูไม่จำเป็นต้องไปจีบ"

(แต่กรณีคุณควินซ์ พี่ต้องจีบเขา) เก้าย้ำ

"รู้แล้ว ก็ถามมึงอยู่นี่ไงว่าต้องทำยังไง" ขืนปล่อยให้ผมไปจีบเองแบบตามใจฉัน คิดว่าชาตินี้ผมคงขึ้นคานแน่ๆ คานทองคงเป็นของผม โฮ

(ถ้าพี่จะจีบคุณควินซ์)

"..."

(สิ่งแรกที่พี่ต้องทำ)

"..."

(คือ...พี่ต้องเป็นฝ่ายดูแลคุณควินซ์)

"..."

(เลิกให้คุณควินซ์เป็นคนดูแลพี่ได้แล้ว)

ผมตกตะลึงไปกับคำแนะนำของอีกฝ่ายเป็นอย่างมากแต่มากกว่านั้นคือไม่เข้าใจ

"ทำไมต้องให้ควินซ์เลิกดูแลฉัน?" ไม่เข้าใจอ่ะ ผมชอบมากนะที่มีควินซ์ดูแล คิดว่าวันหนึ่งควินซ์เมินไม่สนใจผมปุ๊บก็นิ่วหน้าไม่ชอบใจปั๊บ

(ขอโทษ ผมพูดผิดไปนิด)

งั้นที่ถูกคือ...?

(เลิกให้คุณควินซ์ดูแลพี่ฝ่ายเดียวได้แล้ว)

(พี่ต้องดูแลเขาบ้าง)

(คงไม่มีใครอยากได้คนรักที่ไม่ใส่ใจดูแลกันหรอก)

(คุณควินซ์เป็นฝ่ายให้พี่มาตลอด)

ผมเม้มปากแน่นเพราะสิ่งที่เก้าพูดมันก็จริงทั้งหมด

(คราวนี้ก็เป็นตาของพี่แล้ว)

"..."

(ที่ต้องเป็นฝ่ายให้บ้าง)

เออ ถ้าฟังไอ้เก้าแล้วได้ความขนาดนี้

ผมไม่ไปทักหรอก ไอ้พี่ออสตินเนี่ย เสียเวลา!

เฮ้อ แต่โชคดีจริงๆ นะเนี่ย

มีน้องเขยฉลาดวุ้ย