webnovel

1293 ข้อมูลไม่ถูกต้อง

ตอนที่ 1293 ข้อมูลไม่ถูกต้อง

กู่ฉิงซานทะยานไปข้างหน้าก่อนกระโดดลงไปในถ้ำลึก

ลมกระโชกแรงกระแทกชุดเกราะหนักอัศวินมังกร ทำให้เกิดเสียงหึ่งยาว

นี่คือพลังแรงกล้าของคลื่นทมิฬที่สามารถฉีกกระชากยอดฝีมือธรรมดาให้กลายเป็นชิ้น ๆ ได้

โชคยังดี ชุดเกราะหนักอัศวินมังกรแข็งแกร่งและมีความต้านทานพลังธาตุจำนวนมากได้ กู่ฉิงซานไม่จำเป็นต้องกังวลที่จะต้านทานพายุที่เกิดจากการปรากฏของคลื่นพลัง

เขากลั้นหายใจขณะบินลงไปตามทางที่ข้อมูลบอกเอาไว้

“ความสามารถของแมลงตัวนี้คือลิดรอน โชคยังดี มันมีเพียงตัวเดียวเท่านั้น ดังนั้นพวกเจ้าเข้ามาในทะเลแห่งความตระหนักรู้ให้หมด อย่าเปิดเผยว่าข้าเป็นผู้ใช้ดาบ ให้ข้ายกเลิกความสามารถของมันก่อน” เขากล่าวกับดาบยาวสี่เล่ม

ดาบยาวสี่เล่มซ่อนอยู่ในทะเลแห่งความตระหนักรู้ของเขา

กู่ฉิงซานยังคงดิ่งลงไป

ไม่ช้า เขาได้กลิ่นเหม็น

ปล่องภูเขาไฟหลายจุดค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนหน้าผาตลอดทาง

นี่คือร่องรอยแห่งความตายที่หลงเหลือโดยผู้กลืนกินสมอง

รังของมันอยู่ใกล้ ๆ

กู่ฉิงซานลดความเร็วลงช้า ๆ ก่อนยื่นมือออกไปเพื่อร่ายวิชา

พลังวงเวทอัสนีบาตเอ่อล้นขึ้นในมือของเขา

ถึงแม้จะไม่เชี่ยวชาญมาก แต่ด้วยรากฐานการฝึกฝนของเขา ทำให้ยังสามารถปลดปล่อยวิชาได้อย่างง่ายดาย

วินาทีต่อมา…

สีหน้าของกู่ฉิงซานขยับเล็กน้อย

ในจิตเทพของเขา ภาพติดตาที่เข้าใกล้อย่างรวดเร็วพลันปรากฏขึ้น

กู่ฉิงซานพลันก้าวถอยออกมา

ภาพติดตาบินผ่านตำแหน่งเดิมของเขาขณะกระแทกใส่ผนังสีดำ

ฉึก!

หนามยาวคมปลาบแทงลึกเข้าไปในผนัง

ไม่ไกลกันนัก สิ่งมีชีวิตอ่อนนุ่มหลากสีสันปรากฏขึ้นแก่สายตาของกู่ฉิงซาน

ผู้กลืนกินสมอง!

มันพยักหน้ามาทางกู่ฉิงซานเล็กน้อย

กู่ฉิงซานตกตะลึง

…นี่มันกำลังกล่าวทักทายงั้นหรือ

ทันใดนั้น เขาพบว่าอัสนีบาตที่ร่ายไว้บนมือได้หายไปจนสิ้นแล้ว

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวคำแนะการต่อสู้วูบไหวขึ้นมาทันที

“ท่านได้ต่อต้านวิชา ‘ลิดรอน’ ”

“ความสามารถของระบบวิชาท่านถูกลิดรอน ทำให้ไม่สามารถใช้ได้ชั่วคราวจนกว่าอีกฝ่ายจะตาย”

“หมายเหตุ: ผู้กลืนกินสมองสามารถร่าย ‘ลิดรอน’ ได้เพียงหนึ่งเป้าหมายเท่านั้น”

…กลายเป็นว่าที่มันพยักหน้าก็เพื่อปลดปล่อยวิชานี่เอง!

ผู้กลืนกินสมองดีดดิ้นไปทั่วก่อนค่อย ๆ หยดของเหลวกลิ่นเหม็นออกมาจนยืดเป็นหนามแหลม

ภาพติดตาเจ็ดถึงแปดร่างวูบไหวก่อนแทงเข้าหากู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานไม่กล้าสัมผัสหนามพิษที่ไม่รู้จักก่อนใช้ก้าวพริบตาเพื่อหายไปจากที่ที่เคยอยู่

หนามพิษแทงหน้าผาสีดำจนเกิดเสียงดังกึกก้อง

แฉ่ ๆๆ ...

ผนังหน้าผาค่อย ๆ ถูกกัดกร่อน

กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว

หน้าผานี้คือโครงกระดูกของสัตว์ประหลาดโบราณนั่น ความทนทานของมันมหาศาลนัก

“พลังการกัดกร่อนนั่น ที่จริงข้าก็มี…”

กู่ฉิงซานพึมพำขณะดึงคันธนูยาวสีเขียวเข้มออกมา

สิ่งประดิษฐ์วิญญาณระดับความฝัน ธนูแห่งวิญญาณล่วงลับ!

วินาทีต่อมา

กู่ฉิงซานเข้าใจว่าเขาลืมวิธีง้างธนูไปจนสิ้น

เป็นแบบนี้ได้อย่างไร!

เขาจ้องคันธนูและลูกธนูในมือ แต่ไม่รู้ว่าจะใช้งานได้อย่างไร

…จากข้อมูลแล้ว ผู้กลืนกินสมองสามารถผนึกได้เพียงความสามารถเดียวเท่านั้น

หรือว่า…

กู่ฉิงซานมองรอบข้างก่อนเห็นว่าผู้กลืนกินสมองตัวใหม่ปรากฏขึ้นข้างผู้กลืนกินสมองตัวเดิม

ผู้กลืนกินสมองตัวใหม่นี้พยักหน้าให้เขา

…กลายเป็นว่ามีผู้กลืนกินสมองสองตัว!

นี่แตกต่างจากข้อมูลที่ได้รับมาอย่างสิ้นเชิง

ข้อความแจ้งเตือนยังคงปรากฏบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“ผู้กลืนกินสมองตัวที่สองลิดรอนวิธีต่อสู้ด้วยคันธนูและลูกธนูของท่าน”

เพียงชั่วพริบตา กู่ฉิงซานเก็บคันธนูยาวก่อนเปลี่ยนเป็นหมัดทันที

ปู้โจว หุ่นเชิดขุนเขา!

“ย้ากกกกก…”

เขาคำรามก่อนซัดหมัดออกไป แต่กลับพบว่าหมัดไม่อาจต่อยโดนอะไรได้

แถวหิ่งห้อยรีตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว

“ผู้กลืนกินสมองตัวที่สามลิดรอดวิธีการใช้หมัดในการต่อสู้ของท่าน”

ในเวลาเดียวกัน ผู้กลืนกินสมองหลากสีสันอีกตัวปรากฏขึ้นตรงหน้ากู่ฉิงซานจากอากาศบาง

มันพยักหน้าให้กู่ฉิงซาน

หัวใจของกู่ฉิงซานค่อย ๆ ดิ่งวูบ

ข้อมูลผิดเพี้ยนไปหมดแล้ว

หรือก็คือ เกิดความผิดพลาดใหญ่หลวงกับข้อมูล

วินาทีต่อมา หนามพิษพุ่งออกมาจากร่างของผู้กลืนกินสมองทั้งสามตัว

ร่างของกู่ฉิงซานวูบไหว เขาเริ่มก้าวพริบตาอีกครั้งเพื่อถอยออกมาไกล ๆ

เขาหยิบเหรียญตราออกมาแล้วกดลงไปก่อนกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ฉิน มีถึงสาม… ไม่สิ มีผู้กลืนกินสมองถึงสี่ตัว”

“ว่าไงนะ!” ฉินอุทาน

เกิดเสียงดังสนั่น

“เจ้ายื้อเอาไว้ก่อน ข้าจะเรียกกำลังเสริมให้ไปช่วยต่อสู้เดี๋ยวนี้แหละ!” นางรีบกล่าว

กู่ฉิงซานเก็บเหรียญตราขณะมองผู้กลืนกินสมองสี่ตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

ไม่สงสัยเลยว่านักฆ่าที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้ถึงได้ตายกันหมด

มีผู้กลืนกินสมองสี่ตัว ทำให้วิชาต่อสู้สี่วิชาถูกลิดรอน คนส่วนใหญ่ย่อมไม่มีทางต่อสู้ได้ เกรงว่าพวกเขาคงถูกสังหารเพราะท่าเมื่อครู่

ที่ฝั่งตรงข้าม ผู้กลืนกินสมองตัวที่สี่มองกู่ฉิงซานขะรอเงียบ ๆ

…มันกำลังรอดูว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง

อีกด้าน ผู้กลืนกินสมองอีกสามตัวพุ่งเข้ามาหากู่ฉิงซานแล้ว

“เหอะ จะยอมให้ความร่วมมือด้วยก็ได้”

กู่ฉิงซานพึมพำก่อนยื่นมือออกไปแตะความว่างเปล่า

ดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพปรากฏขึ้นในมือของเขา

ทันทีที่ดาบยาวปรากฏขึ้น ผู้กลืนกินสมองตัวที่สี่พยักหน้าทันที

แต่มันจะลงมือไวกว่ากู่ฉิงซานได้อย่างไร!

ดาบยาวกลายเป็นแสงเย็นเยือก ตัดผ่านความว่างเปล่าขณะปลดปล่อยประกายดาบออกมาเป็นจำนวนมาก

…ดาบลับ · กระแสพลังขั้นสูง!

ดาบนี้ออกมาอย่างรวดเร็วจนผู้กลืนกินสมองตัวที่สี่ถูกฟันก่อนจะได้ใช้ ‘ลิดรอน’

ประกายดาบถาโถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ครอบงำผู้กลืนกินสมองสามตัวก่อนลามไปยังตัวที่สี่

ในวินาทีสุดท้าย ผู้กลืนกินสมองใช้ “ลิดรอน” ได้สำเร็จ

วิธีการต่อสู้ด้วยดาบยาวของกู่ฉิงซานถูกผนึกเช่นกัน

ครืนนนน...

คลื่นประกายดาบเหมือนกับม้าที่กำลังวิ่งควบ มันพุ่งลงไปยังหน้าผาราวกับน้ำตกที่งามงด

กู่ฉิงซานเก็บดาบ สัญญาณเตือนภัยในใจของเขายิ่งลึกล้ำมากขึ้น

วงเวทห้าธาตุ วิชาหมัด คันธนูยาวกับลูกธนู รวมถึงวิชาดาบล้วนถูกลิดรอน ไม่มีสัญญาณว่าจะคลายออกได้

หรือก็คือ ไม่มีผู้กลืนกินสมองสี่ตัวไหนตาย!

น่าแปลก นี่เป็นภารกิจลอบสังหารระดับแค่ “3+” แท้ ๆ ทำไมผู้กลืนกินสมองถึงสามารถต้านทานดาบของเขาได้!

ด้วยการรับรู้ทางวิญญาณ เงาแห่งความตายยิ่งมายิ่งเข้าใกล้ ทำเอาหายใจไม่ออก

รอต่อไปไม่ไหวแล้ว

กู่ฉิงซานใช้งานวิชาโลกที่อยู่ในดวงตาทันที

วิชาเนตรลึกลับ การจุติของโลกหมอก!

หมอกเคลื่อนลงมาจากความว่างเปล่าก่อนปกคลุมกู่ฉิงซานเอาไว้

ช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนจะไป กู่ฉิงซานเห็นบุคคลแปลกประหลาดเข้า

คนคนนั้นเหมือนกับมนุษย์ แต่มันมีขายาวคมปลาบหกข้าง ร่างกายกำยำ ศีรษะเต็มไปด้วยเส้นผมราวกับเขายาว

สัตว์ประหลาดตัวนี้ยืนอยู่หน้าผู้กลืนกินสมองสี่ตัวเพื่อขวางประกายดาบเอาไว้จนมิด

…กลายเป็นว่ามันหยุดการโจมตีสุดกำลังของเขาเอาไว้ได้

นี่มันอะไร

มันดูเหมือนกับปีศาจนิดหน่อย…

ความคิดหนึ่งวูบไหวผ่านจิตใจของกู่ฉิงซาน

วินาทีต่อมา เขาหายไปจากที่ที่ตัวเองอยู่

เมืองแห่งความว่างเปล่า

สมาคมนักฆ่า

มีผู้คนมารวมตัวตรงหน้าประตูหมายเลขเจ็ด

“กลายเป็นว่ามีผู้กลืนกินสมองสี่ตัว ไม่สงสัยเลยว่าทำไมคราวที่แล้วถึงมีคนตาย” ชายผมยาวผู้พาดมีดสองเล่มไว้ที่แผ่นหลังกล่าว

ฉินกล่าวอย่างวิตกว่า “นายท่าน โปรดส่งคนไปช่วยเหลือด้วย นักฆ่านามแฝง ‘เดรดลอร์ด’ อาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้”

ชายผมยาวกล่าวอย่างไม่รีบร้อนว่า “ไม่ต้องห่วง เขาคือนักฆ่าที่ได้รับนามแฝงจากชายชราคนนั้นเชียวนะ เขาจะมาตายแบบนี้ได้ยังไง”

“ท่าน!” ฉินกล่าวด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“ทำไมล่ะ เจ้าก็แค่เจ้าหน้าที่ตัวน้อยนิด คิดจะมาสั่งข้าอย่างนั้นหรือ” ชายผมยาวหรี่ตา

เสียงของกู่ฉิงซานพลันดังขึ้น

“ไปกลั่นแกล้งผู้หญิงตัวน้อย ๆ เพื่ออะไรน่ะ”

เขาเดินออกจากหมอกขณะดึงฉินไปอยู่ด้านหลัง

ชายผมยาวมองเขาด้วยสีหน้าคาดไม่ถึง

ทุกคนมองกู่ฉิงซาน

…เพราะร่างกายของเขาส่องแสงหลากสีสันเลือนรางสี่ชั้น หากไม่มองดี ๆ ก็จะสังเกตไม่เห็น

ชายผมยาวกล่าวว่า “โห ขนาดโดน ‘ลิดรอน’ ไปสี่ชั้นก็ยังไม่ตาย ดูท่าคะแนนของข้ายังปลอดภัยต่อไปสินะ”

กู่ฉิงซานไม่เข้าใจขณะมองฉิน

ฉินกระซิบว่า “ ‘เดรดลอร์ด’ คนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าคือท่าน ‘ผึ้งอสรพิษ’ เขาคือนักฆ่าระดับ ‘ไม่มีชีวิต’ เขาเป็นผู้จัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับผู้กลืนกินสมอง”

ตอนนี้กู่ฉิงซานเข้าใจแล้ว

“ ‘ผึ้งอสรพิษ’ ข้อมูลของเจ้าผิดพลาดจนทำให้ข้าเกือบตาย” กู่ฉิงซานกล่าว

“ก็แค่ข้อผิดพลาดเล็กน้อย แถมเจ้าก็รอดกลับมาได้ไม่ใช่หรือ” ผึ้งอสรพิษกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

ขณะแผ่จิตสังหาร กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปหยิบดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพออกมา

ฉินปรามเขาก่อนขอร้องว่า “อย่าทำแบบนี้ นักฆ่าจะมาฆ่ากันเองไม่ได้ ไม่อย่างนั้นทั้งสมาคมจะตามล่าเจ้า!”

ผึ้งอสรพิษกอดอกแล้วกล่าวว่า “เจ้าได้ยินหรือเปล่า เจ้าหนู ต้องโทษตัวเจ้านั่นแหละที่โชคไม่ดี”

กู่ฉิงซานเก็บดาบช้า ๆ สีหน้ากลับมาสงบดังเดิม

“มีผู้กลืนกินสมองสี่ตัวอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม ข้าไม่สามารถรับมือกับพวกมันได้ทั้งหมด ดูท่าเจ้าก็คงหนีมาในตอนแรก แต่เพราะเกรงว่าจะถูกจับได้ ดังนั้นเจ้าก็เลยตัดสินใจมอบข้อมูลเพื่อแลกกับคะแนน… หรือไม่ก็เดิมทีเจ้ามีความแค้นกับนักฆ่าที่ตายไปก่อนหน้านี้ก็เลยจงใจสร้างข้อมูลเท็จแล้วหาทางให้เขารับภารกิจจนได้” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างแผ่วเบา

ผึ้งอสรพิษหันศีรษะขวับ ดวงตาของเขาจับจ้องกู่ฉิงซานราวกับใบมีด

หมอนี่มันรู้ทันอย่างนั้นหรือ

ไม่ ไม่มีทาง

คนคนนี้เพิ่งเข้าสมาคมมาเมื่อวาน ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับนักฆ่าที่ตายไปแล้วสักหน่อย

เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้มากขนาดนี้

ถ้างั้น มีสถานการณ์เดียวที่จะสามารถอธิบายเรื่องนี้ได้

…หมอนี่ที่มีนามแฝงว่า ‘เดรดลอร์ด’ ความคิดของเขาเฉียบคมเกินไป

“เจ้าหนุ่ม หัดคิดก่อนพูดบ้าง ผึ้งอสรพิษอย่างข้าไม่เคยหนีมาก่อนและก็ไม่เคยคิดจะฆ่าใครด้วย” เขากล่าวอย่างแผ่วเบา

กู่ฉิงซานได้ยินดังนั้นก็ครุ่นคิดถึงผู้กลืนกินสมองเงียบ ๆ

ผึ้งอสรพิษชำเลืองมองแสงหลากสีสันสี่ชั้นรอบตัวกู่ฉิงซานพลางครุ่นคิดเหมือนกัน

กู่ฉิงซานชำเลืองมองเขาแล้วพลันกล่าวว่า

“ผึ้งอสรพิษ นักฆ่าระดับ ‘ไม่มีชีวิต’ เจ้าสามารถรับมือกับผู้กลืนกินสมองสี่ตัวได้หรือเปล่า”

ดวงตาของผึ้งอสรพิษขยับ เขาพลันยิ้มกว้างออกมา “ผู้กลืนกินสมองสี่ตัวควรค่ากับสี่คะแนน… นั่นสิ ให้เจ้าได้เห็นความทรงพลังของนักฆ่าระดับ ‘ไม่มีชีวิต’ หน่อยก็แล้วกัน”

เขาเดินไปที่ประตูหมายเลขเจ็ดแล้วตะโกนว่า “ทุกคนเตรียมส่งท่านอาผู้นี้ไปหน่อย จงดูว่าท่านอาผู้นี้จะหั่นผักผลไม้พวกนั้นยังไง!”

เจ้าหน้าที่ง่วนอยู่สักพัก ไม่ช้าก็ทำให้ประตูทำงาน

ผึ้งอสรพิษชักมีดยาวออกมาก่อนชี้ไปที่กู่ฉิงซานแล้วกล่าวว่า “ไม่ช้าเจ้าจะรู้ว่า เมื่อเผชิญหน้ากับพละกำลังสุดหยั่ง ขอบเขตของข้อมูลก็หาสำคัญไม่”

แสงสว่างวูบไหว

เขาเคลื่อนย้ายพริบตา

“พรืด…”

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะดังขึ้น

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อู้เกอยืนอยู่ด้านหลังทุกคน

มีนักฆ่าคนอื่นอีกมากที่มาพร้อมกับนาง

“ข้าได้ยินมาว่ามีผู้กลืนกินสมองสี่ตัวและพวกมันใช้ความสามารถไปหมดแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะถูก ‘ผึ้งอสรพิษ’ ตัดหน้าไปได้” ใครบางคนกล่าวอย่างเสียดาย

“นั่นน่ะสิ โอกาสทองเลยนะนั่น…”

“ผู้กลืนกินสมองสี่ตัวไร้ความสามารถเมื่ออยู่ต่อหน้าข้า แต่ผึ้งอสรพิษลงมือไวจริง ๆ ”

นักฆ่าเหล่านั้นพูดไม่หยุด

อู้เกอมองกู่ฉิงซานแล้วหัวเราะออกมา “เจ้าโง่ ผู้กลืนกินสมองสามารถใช้ได้แค่ ‘ลิดรอน’ กับหนึ่งเป้าหมายเท่านั้น เพราะงั้นผึ้งอสรพิษจึงสามารถเก็บเกี่ยวผู้กลืนกินสมองที่ไร้ความสามารถน่าปวดหัวอย่าง ‘ลิดรอน’ ได้อย่างง่ายดาย”

“จริงหรือ ข้อมูลที่ผิดพลาดของเขาฆ่าคนไปแล้วและเกือบฆ่าข้าด้วย คนแบบนั้นมีจุดจบไม่สวยหรอก” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างแผ่วเบา

เสียงเพิ่งดังได้ไม่นาน

ไพ่ใบหนึ่งในมือของเจ้าหน้าที่พลันกลายเป็นสีดำ

เจ้าหน้าที่กล่าวอย่างตกตะลึงว่า “ผึ้งอสรพิษตายแล้ว!”

ทุกคนประหลาดใจ

“เกิดอะไรขึ้น มีแค่ผู้กลืนกินสมองสี่ตัวไม่ใช่หรือ” อู้เกอถามขณะมองกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานตอบว่า “เป็นความจริงที่ผู้กลืนกินสมองสี่ตัวสู้กับข้า ถึงจุดนี้ข้าเต็มใจพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ว่า…”

“แต่ว่าอะไร” ใครบางคนอดที่จะถามไม่ได้

กู่ฉิงซานเผยสีหน้าจริงจังและลังเล จากนั้นกล่าวว่า “การต่อสู้ก่อนหน้านี้ของข้าออกจะหนักหนานิดหน่อย… เหมือนมันจะไปดึงดูดบางสิ่งในอดีตเข้าน่ะ”

.........................................................................