webnovel

1290 การตื่นขึ้นของวิชาโลก

ตอนที่ 1290 การตื่นขึ้นของวิชาโลก

สมาคมนักฆ่า

บนชั้นดาดฟ้า

ชายชราผมขาวหลังใหญ่กำลังให้อาหารอีกาสีดำที่อยู่บนไหล่

ทันใดนั้น เงาสีดำสี่กลุ่มปรากฏขึ้นไม่ไกลจากด้านหลังของเขา

ชายชราไม่หันหลังไปมอง เพียงกล่าวว่า

“วันนี้ ‘เดรดลอร์ด’ คนใหม่กำลังทำอะไรอยู่”

กลุ่มเงาตอบว่า “เขาเลือกภารกิจระดับสาม จากนั้นก็เลือกชุดเกราะ”

ชายชรากล่าวกับตัวเองว่า “กำลังใจเยอะทีเดียว อยากเลื่อนขั้นไวขนาดนั้นเชียวหรือ”

เงาสีดำอีกกลุ่มอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “ท่านประธาน พวกเรามีนักฆ่าระดับ ‘ไร้หนทาง’ และระดับ ‘ไร้ชีวิต’ อยู่มากมาย ทำไมท่านถึงสนใจเด็กใหม่นัก”

ชายชราหัวเราะแล้วตอบว่า “ข้าพบว่าช่วงนี้ตัวเองนิ่งเฉยเกินไป นับจากนี้ ข้าจะให้ความสนใจกับนักฆ่าระดับ ‘ผนึก’ มากยิ่งขึ้น พวกเจ้าไม่ต้องประหลาดใจไปหรอก”

นักฆ่าสี่คนโล่งอก

“เอาล่ะ กลับไปได้แล้ว”

“ขอรับ”

นักฆ่าสี่คนหายไปจากชั้นดาดฟ้า

หลังจากไปแล้ว สายตาของชายชราพลันคมปลาบ

“เขาใครกันนะ ขนาดความสามารถของข้ายังไม่สามารถตามรอยตัวตนที่แท้จริงได้…”

เขากระซิบก่อนเอื้อมมือไปสัมผัสอีกาสีดำ

อีกาพลันตอบว่า “ข้ามองเห็นเพียงหนังแกะม้วนที่เต็มไปด้วยชื่อของผู้พิทักษ์”

“เจ้ามองเห็นชัดเจนหรือเปล่า” ชายชราถาม

“เป็นไปไม่ได้… แม้กระทั่งจ้าวแห่งความว่างเปล่าอย่างเจ้ากับข้าก็ไม่สามารถตรวจจับตัวตนได้ คงไม่มีใครในโลกสามารถมองเห็นชื่อเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนแล้วล่ะ” อีกาตอบ

ชายชราเงียบไปนานก่อนกล่าวกับตัวเองว่า “ในเมื่อเขาเต็มใจรับใช้สมาคมนักฆ่า นั่นก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่าเขาอยู่ข้างพวกเรา อย่างน้อยก็ชั่วคราว…”

อีกาตอบว่า “ขอแค่อยู่ข้างพวกเรา เช่นนั้นก็ปล่อยเขาไปก่อน เจ้าไม่ต้องผูกมิตร ไม่ต้องปรนนิบัติเป็นพิเศษ การให้เขาคิดว่าพวกเรารู้บางอย่างจะยิ่งสร้างความน่าสงสัยเอาเปล่า ๆ ”

“ข้าเห็นด้วยกับเจ้า” ชายชรากล่าว

ในเวลาเดียวกัน

อีกด้าน

ห้องเก็บของในสมาคมนักฆ่า

กู่ฉิงซาน ฉินและชายชราหลังค่อมมองชุดเกราะเต็มยศสีดำเข้มที่อยู่ตรงหน้า

มันหนักเกินไป ชุดเกราะจมลงพื้นเล็กน้อยแม้จะแค่วางลงไป

“ลองดู ถ้าเจ้ารู้สึกว่ามันหนักเกินไป สามารถเปลี่ยนเป็นชุดอื่นได้”

ฉินกล่าวอย่างไม่มั่นใจ

กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปแตะบนชุดเกราะหนักอัศวินมังกรอย่างแผ่วเบา

ตูม!

เสียงทุบอย่างแรงดังขึ้น

ชุดเกราะทั้งชุดพลันแยกออก กลายเป็นส่วนประกอบหลายสิบส่วนก่อนหมุนรอบกู่ฉิงซานอย่างรวดเร็ว

หลังจากผ่านไปไม่กี่อึดใจ ชุดเกราะถูกสวม

กู่ฉิงซานสวมเกราะหน้า

เขาเดินสองสามก้าวทั้งหน้าและหลัง กวัดแกว่งดาบตามใจอยากราวกับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ

ทว่า ใต้เท้าของเขา รอยเท้าลึกประทับอยู่บนพื้น

“ข้าใช้วิชาแบกรับน้ำหนักไว้ล่วงหน้าแล้วนะ… น่าปวดหัวจริง ๆ ” ชายชราหลังค่อมพึมพำขณะมองพื้น

กู่ฉิงซานหยุดเดิน

เขาเห็นแถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“ชุดเกราะหนักอัศวินมังกร ชุดเกราะเต็มยศ”

“ต้านเวทมนตร์ ต้านธาตุ ต้านคำสาป ทนทาน”

“คำอธิบาย: นี่คือชุดเกราะที่ดีของสมาคมนักฆ่า มันใช้โลหะล้ำค่าจำนวนมาก ทำให้สามารถต้านการโจมตีทางกายภาพและเวทมนตร์ได้ทั้งหมด”

ในฐานะผู้ใช้ดาบ กู่ฉิงซานเพียงต้องการชุดเกราะที่สามารถป้องกันได้

เขาสามารถลงมือสังหารศัตรูด้วยตัวคนเดียวได้

ที่จริง เขาดูดกลืนพลังทั้งหมดของมังกรสามตัวด้วยพลังของ “จักรพรรดิส้ม” ไปแล้ว ต่อให้ไม่พูดถึงสิ่งอื่น เอาแค่ร่างกายภาพเพียงอย่างเดียวก็เหนือกว่าคนธรรมดามากโขแล้ว

เขายืนกรานที่จะฝึกฝนวิชายุทธ์ที่สอนโดยหลินเช่นกัน ความเชี่ยวชาญด้านเส้นลมปราณของมัดกล้ามและโครงกระดูกในร่างกายเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแล้ว

ชุดเกราะหนักอัศวินมังกรป้องกันได้ดีที่สุดในบรรดาชุดเกราะทั้งสี่ มันก็เท่านั้น

ส่วนน้ำหนัก เมื่ออยู่ต่อหน้าเผ่ามังกร เรียกว่าไม่ใช่ปัญหาใด ๆ

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างพึงพอใจว่า “ข้าต้องการชุดเกราะชุดนี้”

ทันใดนั้น เขาเพียงรู้สึกว่าดวงตาของเขาเกิดอาการคันอีกครั้ง

แถวหิ่งห้อยอีกแถวปรากฏขึ้นมา

“เพราะแหล่งกำเนิดโลกมีพลังอุดมสมบูรณ์ วิชาโลกวิชาแรกของท่านจึงเสร็จสมบูรณ์แล้ว”

“โปรดมอบแหล่งกำเนิดพลังวิญญาณจำนวนหนึ่งเพื่อใช้งานวิชานี้ให้สมบูรณ์”

กู่ฉิงซานสงบลงทันที

“เจ้าไม่ดูชุดอื่นหรือ” ฉินถาม

“อา ไม่ ข้าอยากกลับไปห้องนั่งเล่นสักพัก” กู่ฉิงซานตอบ

“ได้ มาลงนามตรงนี้ มาหาข้าเพื่อรับเหรียญตราก่อนออกไปด้วยล่ะ… น่าจะเสร็จในไม่ช้า” ฉินเตือน

“อืม”

กู่ฉิงซานรีบลงนามลงไป

ขณะแสร้งทำตัวสงบ เขากลับไปพื้นที่พักผ่อนของนักฆ่าก่อนเปิดห้องนั่งเล่นหมายเลข 21 ด้วยกุฯแจทองเหลือง

เขากลับมาที่เกาะ

“ต้องใช้พลังวิญญาณเท่าไหร่” เขาถาม

หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบว่า “วิชาโลกนี้พร้อมแล้ว โปรดมอบพลังวิญญาณหนึ่งหมื่นแต้มเพื่อใช้งาน”

หลังจากพูดจบ พลังวิญญาณหนึ่งพันแต้มถูกเอาไปเงียบ ๆ

“ข้ายอมจ่าย” กู่ฉิงซานกล่าว

หลังจากนั้น แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กรีอย่างต่อเนื่อง

“ในตาข้างซ้ายของท่าน ท่านใช้กฎเกณฑ์ของโลกภายใน พลังแห่งความโกลาหล ดิน น้ำ ไฟ ลม วิชาเนตรดาบและแหล่งกำเนิดพลังของโลกคู่ขนานเพื่อสร้างสองความสามารถขึ้นมา”

“แต่ในระบำดาบสังเวย การหลอมรวมของโลกอดีตได้กลืนกินสองความสามารถนี้เข้าไปอย่างสมบูรณ์แล้ว”

“ตอนนี้ วิชาโลกใหม่เอี่ยมได้ก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างและกลายเป็นวิชาเนตรลึกลับ: การจุติของโลกหมอก”

“การจุติของโลกหมอก: เมื่อท่านใช้งานวิชาเนตรนี้ ท่านจะอยู่ในโลกเนตรตัวเองชั่วคราว จากนั้นจะถูกเคลื่อนย้ายพริบตาไปสถานที่อื่นทันที”

“หมายเหตุ: ท่านสามารถเคลื่อนย้ายพริบตาได้มากสุดแค่ระหว่างสองโลกเท่านั้น สถานที่ที่ท่านเคลื่อนย้ายพริบตาจะต้องเป็นสถานที่ที่ท่านเคยอยู่ด้วย”

กู่ฉิงซานมองแถวหิ่งห้อยขนาดเล็กจนตกตะลึงสักพัก

ความสามารถนี้…

ดูท่าจะมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง…

เขาครุ่นคิดสักพัก ยืนขึ้น เดินออกจากห้องนั่งเล่นแล้วเดินออกจากสมาคมนักฆ่าไป

ขณะเคลื่อนผ่านห้องโถง เขามาถึงเคาน์เตอร์คณะกรรมการก่อนทักทายฉิน “ข้าพร้อมไปทำภารกิจแล้ว”

“เอาล่ะ เหรียญตราของเจ้าพร้อมแล้ว… ข้าจะไปกับเจ้าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจแรก” ฉินกล่าว

นางส่งเหรียญตราสีม่วงเข้มให้กู่ฉิงซาน

เหรียญตรานี้ถูกสลักเป็นรูปมีดกับดาบ อาวุธสองชิ้นเหลื่อมกันจนเกิดเป็นสัญลักษณ์ของสมาคมนักฆ่า

“ไปทำงานล่ะ” กู่ฉิงซานพยักหน้าก่อนรับเหรียญตรามา

ฉินนำเขาผ่านชั้นสิ่งกีดขวางและสิ่งปลูกสร้างเพื่อไปยังแท่นปล่อยภารกิจทันที

เจ้าหน้าที่เจ็ดถึงแปดคนง่วนกับการทำงาน

พวกเขาล้อมประตูขณะเริ่มเตรียมการจำนวนมาก

ฉินกล่าวเสียงดังว่า “ภารกิจปีนี้ หมายเลขหกร้อยเก้าสิบสอง ระดับสาม เตรียมให้พร้อม”

“ขอรับ!” ทุกคนขานรับ

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งมาหากู่ฉิงซานก่อนรีบกล่าวว่า “หนึ่งชั่วโมงครึ่งก่อน เป้าหมายปรากฏตัวที่งานเลี้ยงของเจ้าชายแห่งจักรวรรดิซวีจือ ตอนนี้เขาเพิ่งออกมา ยานอวกาศกำลังเดินทางกลับ”

“สถานการณ์ตอนนี้เหมาะที่จะทำการลอบสังหาร”

“พวกเราคำนวณตำแหน่งที่ดีที่สุดในการลอบสังหารและได้เตรียมวิชาเคลื่อนย้ายมิติที่สอดคล้องเอาไว้แล้ว”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ข้าขอดูรายละเอียดเป้าหมายหน่อย”

“ได้”

เจ้าหน้าที่กล่าวขณะเอื้อมมือไปแตะในความว่างเปล่าอย่างแผ่วเบา

ทันใดนั้น ชายชราดูอ่อนโยนปรากฏขึ้นต่อหน้ากู่ฉิงซาน

“นายกรัฐมนตรีแห่งจักรวรรดิซวีจือ แวนเดอร์ซาร์ สังหารเผ่าพันธุ์แห่งความว่างเปล่าสิบห้าคน กวาดล้างราชวงศ์เพื่อเข้ายึดอำนาจ”

“ระดับความยากของภารกิจนี้คือสาม เหตุผลที่ทำไมยากก็เพราะแวนเดอร์ซาร์มีตัวแทนหลายสิบคน ทำให้ยากที่จะหาจุดหมายที่แท้จริงของเขาได้”

“สอง ทุกครั้งที่แวนเดอร์ซาร์เดินทาง เขาจะนำกองกำลังติดอาวุธระดับหัวกะทิไปด้วย แถมตัวเขายังครอบครองวงเวทต้องห้ามระดับสูงอีกด้วย ทันทีที่ภารกิจลอบสังหารเสร็จสิ้น นักฆ่าจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายพริบตาได้ ต้องใช้พละกำลังตัวเองเพื่อหลบหนีออกมาเอง”

หลังจากกู่ฉิงซานได้ฟัง เขากล่าวว่า “ข้าเข้าใจล่ะ พร้อมเริ่มงาน”

เขาก้าวเข้าประตูก่อนยืนนิ่ง

ฉินรีบแตะในความว่างเปล่าแล้วถามว่า “มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับข้อมูลหรือไม่ แล้ววิชาเคลื่อนย้ายพริบตาล่ะ”

“ทุกอย่างพร้อมแล้ว” กลุ่มคนกล่าว

“ดีมาก ภารกิจนี้จะเสร็จสิ้นด้วยฝีมือของนักฆ่าผู้มีนามแฝง ‘เดรดลอร์ด’ การเคลื่อนย้ายพริบตาจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า”

“เตรียมพร้อม”

“สาม”

“สอง”

“หนึ่ง”

“ทำงาน!”

ชั้นแสงสว่างสีขาวพุ่งออกจากประตูขณะปกคลุมกู่ฉิงซานเอาไว้

เพียงพริบตา เขาหายไปจากสายตาของทุกคน

วังวนความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุด

กู่ฉิงซานพลันปรากฏขึ้นในความว่างเปล่ามืดมิด

ไม่ไกลกันนั้น ยานอวกาศยักษ์กำลังบินอย่างช้า ๆ

“สมกับเป็นผลงานของยอดฝีมือจริง ๆ ตำแหน่งและช่วงเวลาเหมาะเจาะเหลือเกิน”

กู่ฉิงซานพึมพำขณะปล่อยชุดเกราะหนักอัศวินมังกรแล้วสวมมันอย่างรวดเร็ว

“มีตัวแทนมากมายเลย…”

กู่ฉิงซานครุ่นคิด

คำสาปมังกรฟ้า · พันธนาการ ต้องให้ศัตรูตอบรับคำเรียกขานของเขาก่อนจึงจะสามารถหยุดศัตรูเอาไว้ได้

คำบรรยายของหน้าต่างระบบเทพสงครามในตอนนั้นผุดขึ้นมา

“ตัวตนที่ท่านขานชื่อจะถูกจองจำอยู่กับที่ทันทีที่ตอบรับคำเรียกขาน ในสภาพนี้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะสามารถรับมือการโจมตีของท่านได้ แต่ก็ไม่สามารถขยับหรือหลบหนีได้”

ถ้าอย่างนั้น เขาสามารถกำหนดขอบเขตการตอบรับนี้ได้หรือเปล่า

จิตของกู่ฉิงซานขยับ ร่างของเขาดิ่งในแนวตั้ง จากนั้นบินไปที่ด้านข้างของยานอวกาศยักษ์

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ กระตุ้นพลังวิญญาณแล้วตะโกนว่า “แวนเดอร์ซาร์! เจ้าเฒ่าหัวหงอก ออกมาสู้กับข้าถ้าแน่จริง!”

ไม่มีเสียงจากยานอวกาศยักษ์

แต่ไม่ช้า ยานอวกาศปรับส่วนหัวก่อนพุ่งเข้าชนกู่ฉิงซาน

“…สถานการณ์นี้น่าจะเรียกว่าการตอบรับสินะ…”

กู่ฉิงซานกล่าวกับตัวเอง

หากสำเร็จ นั่นหมายความว่าความสามารถของบรรพบุรุษหมื่นมังกรที่สืบทอดมาจะเป็นมากกว่าแค่การตะโกนเรียก พลังของเหตุและผลที่พวกมันครอบครองมีพื้นที่ให้ใช้มากมาย

จิตของกู่ฉิงซานขยับเล็กน้อย

ดาบพิภพปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าก่อนกลายเป็นลำแสงแล้วบินเข้าไปในความว่างเปล่า

ทันใดนั้น เงาดาบยักษ์เจิดจ้าพลันระเบิดในความมืดขณะฟาดฟันใส่ยานอวกาศยักษ์ในคราวเดียว

ดาบลับ ดาบเหล็กเหิงเจียง

ตูม…

ยานอวกาศยักษ์ทั้งลำถูกฟันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที

ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในวังวนความว่างเปล่า

“เจ้าคนสารเลว!”

“เจ้านั่นไม่ใช่เล่น ๆ เลย!”

“ใช่!”

“ท่านนายกมีคำสั่งให้ฆ่ามันทันที!”

ทุกคนร่วมแรงกัน!

ไม่ช้าพวกเขารวมตัวกันเป็นค่ายกลก่อนเปิดศึกบุกเข้าหากู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานยกมือขึ้นตั้งท่าขณะมองซากยานอวกาศ

ท่ามกลางกลุ่มคนหนาแน่น มีคนที่ดูไม่ธรรมดาแข็งทื่ออยู่ในความว่างเปล่าไม่ขยับไปไหน

กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปเพื่อคว้าดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพ

“ได้ตัวเจ้าแล้ว”

เขากล่าวอย่างแผ่วเบา ทั่วร่างหายไปจากที่ที่เคยอยู่

……………………………………………………………