webnovel

1202 ยังไม่ได้คิด

ตอนที่ 1202 ยังไม่ได้คิด

“เร่งการส่ง!”

กู่ฉิงซานรีบคลิกบนคีย์บอร์ดด้วยมือทั้งสองข้าง

จัมเปอร์ทั้งหมดกำลังทำงาน ภายในระยะเวลาอันสั้น สัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกถูกส่งด้วยขีดจำกัดสูงสุด

“เจ้าดูรีบร้อนเกินไปหรือเปล่า” เย่หรูซีถาม

“แน่นอน โอกาสดีแบบนี้…”

กู่ฉิงซานเคาะปุ่มสุดท้าย

ทุกคนมองจอ

บนจอ สัตว์ประหลาดที่ทะลวงผ่านกำแพงใหญ่อันแรกล้วนถูกเคลื่อนย้ายพริบตาไปยังสถานที่ที่วิญญาณกรีดร้องและผู้บำเพ็ญเพลิงอยู่

เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ สัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกในถิ่นทุรกันดารก็กองเป็นภูเขา

…จนไม่อาจมองเห็นวิญญาณกรีดร้องและผู้บำเพ็ญเพลิงได้อีก

พวกมันถูกฝังอยู่ในกลุ่มสัตว์ประหลาด ไม่อาจทราบได้ว่าลึกแค่ไหน

วินาทีต่อมา

เสียงร้องเกรี้ยวกราดดังมาจากกองสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลก

“สารเลว พวกเจ้าทั้งหมดต้องตายที่นี่!”

ตูม!

ภูเขาแปลกประหลาดทั้งหมดถูกแผดเผา

เปลวเพลิงโชติช่วงแผดเผาสวรรค์และปฐพีผ่านหลุมขนาดใหญ่ กระแสวังวนความว่างเปล่าปรากฏขึ้นจากถ้ำ

ไม่มีเสียงกรีดร้อง

สัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกตายจนหมดสิ้นในครั้งเดียว

ยักษ์ที่เกิดจากเปลวเพลิงมุ่งสู่ท้องนภา ข้างใต้มีลาวาไม่มีสิ้นสุด มันยืนอยู่ตำแหน่งเดิมกับภูเขาสัตว์ประหลาด

…ผู้บำเพ็ญเพลิง

มันกลายร่างก่อนสังหารสัตว์ประหลาดทั้งหมดที่ถูกส่งมาในอึดใจเดียว

ติ๊ง!

เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ของกู่ฉิงซานส่งข้อความมา

“คำเตือน จัมเปอร์ทั้งหมดในพื้นที่นี้ถูกทำลาย สลับไปใช้จอสังเกตการณ์ดาวเทียม”

กู่ฉิงซานโล่งอกเมื่อเห็นเช่นนั้น

“เพราะแบบนี้ข้าถึงได้วิตกยังไงล่ะ” เขากล่าวกับเย่หรูซี “เพราะข้าต้องรีบจัดการกับสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลก ไม่อย่างนั้นจัมเปอร์จะได้รับความเสียหายจนเกิดข้อผิดพลาด”

เขาแตะบนคีย์บอร์ดอย่างต่อเนื่องเพื่อนำภาพจำนวนมากขึ้นมาพร้อมกัน

ที่กำแพงใหญ่อันที่หนึ่ง สัตว์ประหลาดที่เหลืออยู่ถูกส่งไปตามส่วนต่างๆ ของโลก พวกมันยังคงถูฏจัดการอย่างต่อเนื่อง

ที่กำแพงใหญ่อันที่สอง สัตว์ประหลาดทั้งหมดถูกกวาดล้าง

…พวกมันถูกแผดเผาจนสิ้นด้วยพลังพิเศษของผู้บำเพ็ญเพลิง

หรือก็คือ

สัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกถูกสังหาร

พื้นที่ในทะเลบางส่วนอาจจะมีสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่สุดจะจินตนาการอยู่ แต่โดยปกติแล้ว สัตว์ประหลาดที่อาละวาดไปทั่วโลกได้ถูกกำจัดแล้ว

“วันสิ้นโลก… จบลงแล้ว…”

เย่หรูซีจ้องจอคอมพิวเตอร์อย่างเหม่อลอยด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

ไม่ต้องลงมือด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีการต่อสู้หลั่งโลหิต ไม่ต้องมีหายนะแห่งความเป็นความตาย

วันสิ้นโลกถูกทำลายแล้ว

นี่มันช่าง…

“จะว่าไปแล้ว นี่นับว่ากำไรเลยนะ” จางหยิงห่าวกล่าว “พวกเราได้เห็นพลังพิเศษของผู้บำเพ็ญเพลิงด้วย นี่เป็นข้อมูลที่สำคัญมาก”

เย่เฟยหลีกล่าวว่า “มันดูไม่เหมือนยักษ์เพลิงธรรมดาเลย เหมือนกับเป็นกฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้างมากกว่า ถ้าไปสัมผัสมันเข้า ถึงตายแน่นอน… รับมือได้ไม่ง่ายเลย”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “พละกำลังของมันมีจำกัด ข้าว่าร่างนั้นทำให้ปลดปล่อยพละกำลังออกมาได้ก็จริง แต่ไม่สามารถคงอยู่ได้นาน ไม่อย่างนั้นพลังจะย้อนมาฆ่ามันเอง”

หลังจากนั้น เมื่อสัตว์ประหลาดถูกสังหารแล้ว ผู้บำเพ็ญเพลิงคืนร่างอย่างรวดเร็ว

มันมองไปทางวิญญาณกรีดร้องก่อนมุ่งหน้าไปสู่ทิศทางที่พวกกู่ฉิงซานอยู่

“ด้วยความเร็วของพวกมัน ใช้เวลาสามชั่วโมงก็คงมาถึงที่นี่” กู่ฉิงซานกล่าว

“พวกเราต้องคิดหาทางฆ่าพวกมันที่นี่ใช่หรือเปล่า” จางหยิงห่าวถาม

“แน่นอน” กู่ฉิงซานตอบ

“ข้าหวังว่าจะมีโอกาสที่จะฆ่าพวกมันสักตัว ทำแบบนีจะทำให้ข้าได้พลังวิวัฒนาการเป็นจำนวนมาก” เย่เฟยหลีเลียริมฝีปากขณะกล่าว

“ถ้างั้นเจ้าก็ต้องมีแผนที่สมบูรณ์แบบด้วย” กู่ฉิงซานกล่าว

“ข้าจะคิดดู…” จางหยิงห่าวจมสู่ความคิด

ด้านข้าง

เย่หรูซีมองพวกเขาสามคนขณะฟังบทสนทนา

ทั้งสามคนจ้องจอขณะจดจ่อกับการคิดและการสนทนาถึงวิธีรับมือสัตว์ประหลาดสองตัวนี้

…สัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกถูกสังหารหมู่จนโลกปลอดภัยแล้ว นั่นนับเป็นเรื่องที่ดี

ทว่า พวกเขาก็เริ่มคิดหาทางเผชิญหน้ากับปัญหาต่อไป

คนประเภทนี้…

นับว่า…

เย่หรูซีเงียบสักพัก ทันใดนั้นก็ตัดสินใจได้

“กู่ฉิงซาน” นางเรียก

“หืม” กู่ฉิงซานได้สติกลับมา

ดวงตาของเย่หรูซีราวกับอัญมณีในราตรีมืดมิด สีหน้าสดใส เผยแสงเจิดจ้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ตามข้อตกลงแล้ว หลังจากเจ้าช่วยข้าปกป้องโลกเอาไว้ ข้าต้องเข้าร่วมกับเจ้าเพื่อกลายเป็นหุ้นส่วนสินะ” นางกล่าว

“ใช่” กู่ฉิงซานกล่าว

เย่หรูซียื่นมือออกไป

กู่ฉิงซานหัวเราะก่อนยื่นมือออกไปบ้าง

ทั้งสองจับมือกัน

“ยินดีต้อนรับ”

กู่ฉิงซานกล่าว

จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีหัวเราะเช่นกัน พวกเขาอดที่จะนึกถึงฉากตอนพวกเขามาเข้าร่วมไม่ได้

ในช่วงคืนหนึ่ง ทั้งสองคนหาซากศพของสัตว์ประหลาดจักรวาลด้วยกัน

ในการกลับมาพบกันครั้งนั้น พวกเขาถูกเชิญให้กลับสู่ตัวตนมนุษย์

…พอมาคิดดูแล้ว มันช่างยาวนานเหลือเกิน

“ยินดีต้อนรับ”

จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีกล่าวอย่างจริงใจ

เย่หรูซีกล่าวอย่างวิตกว่า “ขอบคุณ ทีนี้ข้าขอถามพวกเจ้า… ในเมื่อพวกเราล้วนเป็นหุ้นส่วนกันแล้ว ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น กลุ่มอย่างพวกเราจะถูกเรียกว่าอะไรหรือ”

“คำสาบานแห่งดาบ” จางหยิงห่าวตอบ

“ไม่ใช่” เย่เฟยหลีโบกมือ “ข้าถามแบร์รี่แล้ว แบร์รี่คล้ายกับตอบว่านี่เป็นข้อตกลงลับที่หละหลวมไปหน่อย คนที่ริเริ่มไม่ใช่เขา ดังนั้น เพื่อให้พวกเรามีส่วนร่วมกับหุ้นส่วนมากขึ้น จึงจำเป็นต้องคิดชื่อใหม่อีกครั้ง”

กู่ฉิงซานขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ยุ่งยากขนาดนั้นเลยหรือ ใช้ชื่อนั้นก็ดีอยู่แล้วนี่”

“ไม่มีทาง พวกเราจะใช้ชื่อของคนอื่นได้ยังไง ไม่อย่างนั้นแบร์รี่และเสี่ยวเมียวได้โกรธแน่ๆ ” เย่เฟยหลีตอบ

“ดูท่าพวกเราต้องคิดชื่อกลุ่มไม่สินะ”

จางหยิงห่าวจุดบุหรี่ขณะครุ่นคิด

“ครั้งที่แล้วที่พวกเราคุยกันเรื่องนี้ เลี่ยวสิงก็อยู่ด้วย พวกเราคิดกันมานานแล้วแต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้เลย” กู่ฉิงซานกล่าว

“งั้น… อยากคิดตอนนี้เลยไหมล่ะ” เย่เฟยหลีแนะนำ

“ทำไมต้องตอนนี้ล่ะ” จางหยิงห่าวถาม

“หลังจากมีผู้มาใหม่เข้ามา พวกเราก็ไม่ยอมคิดชื่อเลย หากมีผู้มาใหม่เข้ามาอีกในอนาคต แบบนี้มันจะไม่แย่เอาหรือ” เย่เฟยหลีถามกลับ

กู่ฉิงซานและจางหยิงห่าวครุ่นคิดสักพักก่อนพยักหน้าพร้อมกัน “มีเหตุผล…”

เย่หรูซีฟังเงียบๆ จนกระทั่งถึงตรงนี้ นางอดรนทนไม่ไหวจนขัดว่า “เดี๋ยวนะ… กลุ่มของพวกเรายัง

ไม่มีชื่ออีกหรือ”

ทั้งสามคนดูเขินอายเล็กน้อย

“ช่วงนี้ยุ่งมากจริงๆ ข้าเลยไม่มีเวลาคิดน่ะ เจ้าจะช่วยคิดก็ได้นะ นั่นเพราะเจ้าเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งแล้ว” กู่ฉิงซานแนะนำจากใจจริง

“เอาเถอะ… ข้าไม่เก่งเรื่องตั้งชื่อแบบนี้ด้วยสิ… เอาเป็นว่ามาระดมสมองกันดีกว่า” เย่หรูซีกล่าว

“ทำไมไม่ตั้งชื่อว่านักท่องราตรีล่ะ” จางหยิงห่าวถาม

“ทำไมต้องชื่อนั้น”

“นักฆ่ามักลอบเร้นและลงมือในที่มืดเสมอ” จางหยิงห่าวตอบ

“ข้าก็ชอบอยู่นะ แต่ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น มีกลุ่มที่ใช้ชื่อนี้เป็นโหลแล้ว” กู่ฉิงซานยักไหล่

“งั้นก็ยากแล้วล่ะ” จางหยิงห่าวส่ายหน้า “เป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ตั้งชื่อซ้ำในโลกเก้าร้อยล้านชั้น โลกหลายร้อยล้านใบและก็กลุ่มจำนวนนับไม่ถ้วนอีก”

ทุกคนครุ่นคิด

นี่นับว่ายากจริงๆ

“ถ้าเป็นเชิ่งถัง (โถงมีชัย) ล่ะ” เย่เฟยหลีถาม

“ทำไมต้องชื่อนั้น”

“มันสื่อถึงความสามัคคีและความไร้เทียมทานน่ะ” เย่เฟยหลีตอบ

“ทะเลสาบไท่เจียง แย่ไปหน่อยแหะ” เย่หรูซีส่ายหน้า

นางหันมาแนะนำว่า “ข้าคิดว่าพวกเราควรตั้งชื่อที่ไม่มีใครคาดถึง”

“มันก็จริง แต่จะตั้งว่าอะไรล่ะ” กู่ฉิงซานถามขณะอ้าแขน

“ต้องค่อยๆ คิดล่ะนะ…”

พวกเขาสี่คนสนทนาอยู่นาน หลังจากกินดื่มเรียบร้อยก็มาสนทนากันต่อ…

จนกระทั่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นบนเมนเฟรมคอมพิวเตอร์

“นายท่าน อีกยี่สิบห้านาที ศัตรูจะมาถึงที่มั่นนี้”

ทั้งสี่คนหยุดสนทนา

จางหยิงห่าวเงยหน้าขึ้นแล้วกล่าวว่า “อา ปวดหัวชะมัด ตอนที่พวกเราต่อสู้เพื่ออนาคตอยู่ อย่าเพิ่งคิดถึงปัญหานี้ก็แล้วกัน”

“สัตว์ประหลาดสองตัวนั้นทรงพลังมากงั้นหรือ ข้าคิดว่าพวกมันดูธรรมดามากเลยนะ” เย่หรูซีกล่าวด้วยความสับสน

ทั้งสามคนเงียบพร้อมกัน

กู่ฉิงซานอธิบายว่า “พวกมันเหมือนกับพวกข้า ถึงพละกำลังจะโดนลดทอนไป แต่ก็ยังทรงพลังมากอยู่ดี”

“แล้วเรื่องชื่อล่ะ พวกเราอุตส่าห์คุยกันตั้งนาน มันต้องได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้างสิ” เย่เฟยหลีถามด้วยความไม่พอใจ

กู่ฉิงซานตัดสินใจแล้วตอบว่า “ในโลกหลายร้อยล้านใบ เป็นการยากที่จะคิดชื่อไม่ให้ซ้ำใคร แต่ชื่อก็เป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้คนอื่น หากคนอื่นมาถามพวกเราในอนาคต พวกเราก็จะตอบไปว่ายังไม่ได้คิด (เหมยเสี่ยงจูไหล)”

“ยังไม่ได้คิดหรือ” ทั้งสามคนถามพร้อมกัน

“ใช่ ยังไม่ได้คิด”

จางหยิงห่าว เย่เฟยหลีและเย่หรูซีเงียบพร้อมกัน

“ก็… จริงนิดหน่อย” จางหยิงห่าวกล่าว

“น่าประทับใจมาก” เย่เฟยหลีเห็นด้วย

ยังไงเสีย เย่หรูซีที่พึ่งพาได้มากกว่าคนอื่นได้คิดถึงผลลัพธ์ของเรื่องนี้เอาไว้แล้ว

ในอนาคต ตอนนางก้าวเข้าสู่โลกใหม่แล้วต่อสู้กับศัตรู จู่ๆ ศัตรูทำการประกาศชื่อเสียงเรียงนามออกมา “ข้าคือ… จาก… เจ้าล่ะเป็นใคร”

แล้วจะให้นางตอบว่าอย่างไร

จะให้บอกว่า “ข้าคือเย่หรูซี เป็นคนที่ยังไม่ได้”

…แบบนี้ยังจะสู้ได้อย่างไร

ศัตรูไม่หัวเราะตายเอาหรอกหรือ

เย่หรูซีกัดฟันแล้วกล่าวว่า “ถ้าเกิดพวกเราเจอชื่อที่ดีกว่าในอนาคตล่ะ”

“แน่นอนว่ามันเป็นชื่อที่ดี!”

กู่ฉิงซาน จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีกล่าวพร้อมกัน

เย่หรูซีมองทั้งสามคน ทันใดนั้นก็เข้าใจอย่างหนึ่ง

พวกเขาคิดชื่อดีๆ ไม่เป็นจริงด้วย

สรุปแล้วข้าอยู่กลุ่มแบบไหนกันแน่

……………………………………