ตอนที่ 1192 เย่หรูซี
วานรมารถูกฟาดด้วยดาบ
จนกระทั่งลอยไปไกลหลายร้อยเมตร ร่างของมันจึงถูกแยกออกเป็นสองส่วนก่อนตกลงสู่พื้น
ไม่มีโลหิตสักหยดไหลออกมา
ทั้งสองร่างกลายเป็นกระแสโคลนก่อนหลอมรวมเข้าด้วยกันอีกครั้ง
“เปล่าประโยชน์ เจ้านี่ฆ่าข้าไม่ได้หรอก”
วานรมารยืนขึ้นก่อนแผดเสียงคำราม
วานรยักษ์อีกตัวถูกยิงสองครั้ง ตอนนี้ มันไม่ได้สู้กับจางหยิงห่าวและเย่เฟยหลี แต่พุ่งมาหาวานรยักษ์อีกตัว
ร่างของสองวานรมารค่อยๆ หลอมรวมเป็นวานรสองหัวสี่แขน
กลิ่นอายที่โหดเหี้ยมและทรงพลังยิ่งกว่าแผ่ออกมาจากสัตว์ประหลาดตัวนี้
ตึง!
ตึง!
ตึง!
มันเดินเข้าหาทุกคนทีละก้าว
“พวกเจ้าถึงกับสามารถกดดันให้ข้าจนถึงขนาดนี้ได้ ดูท่าจะคู่ควรให้ข้าใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีเข้าสู้แล้วล่ะ” วานรสองหัวสี่แขนกล่าวอย่างเคร่งขรึม
กู่ฉิงซานยืนอยู่พร้อมดาบ
จางหยิงห่าวยุ่งกับการใส่กระสุนให้กับปืน
เดือยสีแดงคมปลาบเจ็ดถึงแปดอันปรากฏขึ้นด้านหลังตัวตลก
เมื่อเห็นว่าการต่อสู้ดุเดือดไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เสียงร้องเร่งรีบพลันมาจากสุดขอบเมืองไกลลิบ
“กุ๊กๆๆ … เจี๊ยบ!”
“กุ๊กๆๆ … เจี๊ยบ!”
วานรสองหัวสี่แขนนิ่งไปสักพัก
มันเห็นภาพตาสีดำบินอยู่ในเมืองขณะส่งเสียงกรีดร้องต่อเนื่องทั่วบล็อกที่กำลังเผาไหม้ด้วยความเร็วสูงสุด
“ผู้พันหลี่ เกิดอะไรขึ้น” กู่ฉิงซานตะโกนเสียงต่ำ
หลี่ต้าจุนรีบตอบว่า “นี่คือเสียงของเหยี่ยวขนเหล็กมาร พวกมันคือนกที่ใช้ในการถ่ายทอดคำสั่ง”
วานรสองหัวสี่แขนคล้ายกับเข้าใจบางสิ่งขณะก้มมองผู้คนด้วยสีหน้าแปลกประหลาดแล้วกล่าวว่า “มนุษย์ มนุษย์ผู้น่าสงสาร”
หลังจากพูดจบ มันหันหลังแล้ววิ่งหนีโดยไม่เหลียวหลังกลับมา
มันจากไปเร็วมาก เพียงไม่กี่อึดใจก็จากไปจนพ้นสายตา
ทุกคนตกตะลึง
มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่
ไม่ช้า ทุกคนพบว่าไม่เพียงแค่วานรสองหัวสี่แขนเท่านั้น แต่สัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกตัวอื่นทั่วเมืองเปลี่ยนทิศทางก่อนถอยออกจากวงเวียนเมือง
“ปรับจูนดาวเทียม ข้าต้องดูสถานการณ์!” ผู้หญิงในชุดนายพลกล่าวทันที
ทหารคนหนึ่งวิ่งไปข้างหน้าแล้ววางเครื่องสื่อสารอวกาศแบบพกพาที่อยู่ด้านหลังไว้บนพื้น มันกางออกก่อนเชื่อมต่อกับดาวเทียมอวกาศ
“จำเป็นต้องได้รับอนุญาตขอรับ นายพล” ทหารคนนั้นกล่าว
ผู้หญิงก้าวมาข้างหน้าก่อนยื่นดวงตาสีอำพันเข้ามาแล้ววางมือบนเครื่องทดสอบพร้อมกัน
สาม
สอง
หนึ่ง
ผ่าน!
ภาพหนึ่งปรากฏบนจออิเล็กทรอนิกส์
ทหารรีบระดมอุปกรณ์ตรวจสอบดาวเทียมเพื่อนำภาพรอบเมืองทั้งหมดขึ้นมา
พวกเขาเห็นสัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนรวมตัวรอบเมืองขณะก่อตัวเป็นวงล้อมหนาแน่นจนน้ำไม่อาจแทรกผ่านเข้ามาได้
พวกมันล้อมทั้งเมืองไว้แน่นหนา ไม่ยอมให้ใครออกไปจากที่นี่
ด้วยสีหน้าสับสนบนใบหน้าของผู้หญิง นางพึมพำกับตัวเองว่า “ทำไมถึงล้อมแต่ไม่สู้ล่ะ หรือพวกมันจะมีกำลังเสริม… ผู้พันหลี่ เจ้าได้รับคำใบ้อะไรจากบัญญัติหรือเปล่า”
หลี่ต้าจุนมองความว่างเปล่าตรงหน้าแล้วตอบว่า “ภารกิจของข้าคือประจำตำแหน่งภาคพื้นดินเอาไว้ นอกเหนือจากนั้น ไม่มีคำใบ้อะไรเลย”
ผ่านไปสักพัก เปลวเพลิงสงครามมอดดับลง
ไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้นอีก
ตัวตลกเคลื่อนลงมาจากท้องนภาก่อนถอดหน้ากากแล้วถามว่า “ข้าไม่ได้อุ่นเครื่องเลย ทำไมมันถึงจบแล้วล่ะ”
จางหยิงห่าวครุ่นคิดพลางตอบว่า “แปลกนิดหน่อยแหะ…”
ดวงตาของกู่ฉิงซานจับจ้องผู้หญิง
…นี่คือผู้หญิงผู้มีเส้นผมสีดำและดวงตาสีน้ำตาล หน้าตางดงามมาก ทั่วร่างดูสบายตา ความผันผวนบนร่างของนางไม่ได้แย่ไปกว่าใคร สิ่งที่แปลกคือนางไม่ได้สวมใส่อาวุธใดๆ
นี่คือเทพโกลาหลธรรมชาติหรือเปล่า
กู่ฉิงซานลอบครุ่นคิด
ในเวลาเดียวกัน
สถานที่ที่ไกลห่างจากเมือง
ศูนย์บัญชาการของกองกำลังพันธมิตรโลกมนุษย์
ทุกคนยุ่งวุ่นวาย
“บราวน์แบร์วัน รับภารกิจลับสุดยอด”
“รับเรียบร้อย ยืนยันภารกิจ ทำการเปิดช่องทางที่สาม โปรดตรวจสอบระบบพลังงานและกำลังสำรอง”
“บราวน์แบร์วันรายงาน ทุกอย่างพร้อมแล้ว”
“ในสามวินาทีจะสามารถออกตัวได้!”
“สาม”
“สอง”
“หนึ่ง”
“ออกตัว!”
ท่ามกลางเสียงคำราม เครื่องบินพุ่งออกจากฐานทัพก่อนบินสู่ท้องนภา
…
“แสดงว่าพวกเราติดอยู่ในเมืองแล้วสินะ” กู่ฉิงซานถาม
“ใช่แล้ว กู่ฉิงซาน ข้ารู้ว่าเจ้ากับสหายของเจ้ามาจากเมืองนี้ แถมเพิ่งปลุกความสามารถขึ้นมาได้ไม่นาน ทำให้ต้องใช้เวลาฝึกและชี้แนะสักพัก แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว ข้าขอถามเจ้า เจ้าเต็มใจเข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรโลกมนุษย์เพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกหรือไม่” ผู้หญิงถาม
กู่ฉิงซานเผยความตึงเครียดและความกังวลก่อนถามว่า “เข้าร่วมได้จริงๆ หรือ เพื่อปกป้องบ้านเกิดพวกเรา ไม่จำเป็นต้องถามอีกแล้วล่ะ”
ผู้หญิงยิ้มแล้วกล่าวว่า “แน่นอน เจ้าเป็นคนบริสุทธิ์ แถมยังร่วมมือกันฆ่างูนั่นได้อีก พละกำลังแข็งแกร่งมาก พวกข้าต้องการคนที่มีสายเลือดเช่นเจ้าเป็นอย่างมาก”
กู่ฉิงซาน จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีมองหน้ากัน
“พวกข้าเต็มใจ” ทั้งสามคนกล่าวพร้อมกัน
ผู้หญิงพยักหน้า ดูพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“ดีมาก ข้าคือนายพลใหญ่ของกองทัพตะวันตกเฉียงใต้แห่งอาณาจักรเซี่ยในทวีปตะวันออกของกองกำลังพันธมิตรโลกมนุษย์ เย่หรูซี”
ผู้หญิงยื่นมือออกไปหาพวกเขาสามคน
“นายพลเย่ ตอนนี้พวกเราต้องเตรียมตัวยังไง”
หลังจากจับมือแล้ว กู่ฉิงซานถาม
“ในเมื่อเจ้าคือผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกพบโดยผู้พันหลี่ต้าจุน เจ้าควรติดตามเขาไปก่อน ศึกษาความรู้ขั้นสูงจากคนที่มีความสามารถเพื่อเตรียมต่อสู้ทุกเมื่อ”
“ได้”
“ส่วนยศทหาร วันนี้เจ้าทำคุณงามความดีไว้มากก็จริง แต่การเลื่อนขั้นตำแหน่งทหารมีขั้นมีตอนมากมาย ดังนั้นอย่าเพิ่งไปคิดถึงมันสักพัก เจ้าจะได้มันอย่างแน่นอนในอนาคต”
“เข้าใจแล้ว”
เมื่อเห็นทั้งสามคนให้ความร่วมมือดีแบบนี้ เย่หรูซีลอบพยักหน้า
นางยิ้มให้พวกเขาสามคนและกำลังจะจากไป
เมื่อก้าวออกไปได้ไม่กี่ก้าว นางพลันหยุดอีกครั้ง เผยท่าทีลังเลเล็กน้อยก่อนหันศีรษะมามองกู่ฉิงซานแล้วถามว่า “กู่ฉิงซาน เจ้ารู้วิธีใช้ดาบงั้นหรือ”
กู่ฉิงซานตกตะลึงเล็กน้อย
สีหน้าของจางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีแปลกประหลาดเช่นกัน
นี่ช่างน่าสนใจ
กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วตอบว่า “ข้าศึกษาดาบมาสักพักน่ะ หากเป็นกระบวนท่าพื้นฐานก็สามารถใช้ได้อย่างช่ำชอง”
เย่หรูซีถามว่า “ดาบของเจ้า… ข้าขอดูได้หรือไม่”
ทั้งสามคนตกตะลึงพร้อมกัน
เย่หรูซีรู้สึกอายเล็กน้อยเช่นกันก่อนส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “โทษที ข้าเผลอไปหน่อย”
นางจากไปหลังจากพูดจบ
จิตของกู่ฉิงซานขยับ
ความรู้สึกแปลกประหลาดก่อเกิดขึ้นในใจ
เขาเหมือนจะเคยประสบกับเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อน
ตอนนี้ หลี่ต้าจุนรีบเข้ามาพร้อมเสบียงกองทัพพิเศษสี่ชุดก่อนส่งสามชุดให้พวกเขาสามคน
“ข้าไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง พูดง่ายๆ พวกเราจะกินก่อน จากนั้นพักสักครู่เพื่อรอคำสั่ง” หลี่ต้าจุนเปิดอาหารส่วนของเขาก่อนเริ่มกิน
“ได้” ทั้งสามคนกล่าวพร้อมกัน
คนจำนวนมากยังขยับช้าๆ จุดหมายของพวกเขาคือค่ายชั่วคราวของกลุ่มกองทัพ
นักรบอย่างกู่ฉิงซานและจางหยิงห่าวอยู่ในซากปรักหักพังของใจกลางเมืองเพื่อนั่งกิน
กู่ฉิงซานฉีกห่ออาหารเรียบง่ายขณะตรวจสอบรายละเอียด
เสบียงกองทัพส่วนตัวเช่นนี้ประกอบด้วยข้าวเนื้อตุ๋นอุ่นๆ เนื้อสตูถั่วเย็น เนื้อห่านหมัก เค้กหวาน บิสกิตอัด ผลไม้ ช็อกโกแลต ถุงชา กาแฟ น้ำตาล เกลือและผงยี่หร่าหนึ่งซอง
เย่เฟยหลีและจางหยิงห่าวฉีกห่อเช่นกัน
“คือว่านะ” จางหยิงห่าวกล่าวติดตลก “ถ้าไม่ใช่เพราะมีสัตว์ประหลาดเหล่านั้น ข้าคิดจริงๆ นะว่าพวกเรามาเข้าชมรมภาคสนาม”
กู่ฉิงซานหยิบช้อนขึ้นมาเพื่อเริ่มกิน
“ผู้พันหลี่ อาวุธที่นายพลเย่ใช้คืออะไรหรือ” เขาถามขณะกิน
“มือเปล่าน่ะ น่าทึ่งมากเลยล่ะ” หลี่ต้าจุนตอบ
“ไม่มีอาวุธหรือ ช่างทรงพลังจริงๆ แต่ข้าไม่รู้เลยว่าใครทรงพลังที่สุดในกองกำลังพันธมิตรโลกมนุษย์” กู่ฉิงซานถามอีก
หลี่ต้าจุนจ้องเขาด้วยดวงตาเบิกกว้างแล้วตอบอย่างเป็นธรรมชาติว่า “บัญญัติและยอดฝีมือคือตัวตนแข็งแกร่งที่สุดที่ใช้ต่อกรกับสัตว์ประหลาด”
“ไม่ๆ” กู่ฉิงซานหัวเราะแล้วกล่าวว่า “ข้าถามถึงอาวุธเทคโนโลยีก่อนที่จะเกิดวันสิ้นโลกน่ะ”
“อ๋อ นี่น่ะหรือ เสี่ยวกู่ เจ้าไม่รู้เรื่องนี้ด้วยหรือ” หลี่ต้าจุนเผยสีหน้าสงสัยออกมา
กู่ฉิงซานก้มศีรษะแล้วตอบว่า “ข้าอ่านเขียนไม่เก่ง เริ่มทำงานด้านประมงตอนอายุสิบสอง เพราะงั้นความรู้จึงมีไม่มาก”
หลี่ต้าจุนมองเขาด้วยความประหลาดใจในตอนแรก แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกอายเล็กน้อย
“เออ อ่านเขียนมันไม่สำคัญมากหรอก ความสามารถของเจ้ายอดเยี่ยมมากเลย ไว้ค่อยไปศึกษาทีหลังก็ได้”
“จะว่าไปแล้ว สิ่งที่ทรงพลังที่สุดที่มนุษย์สร้างได้ก็ต้องเป็นระเบิดนิวเคลียร์อยู่แล้ว”
กู่ฉิงซานถามด้วยความสับสนว่า “ทำไมพวกเราไม่ระเบิดสัตว์ประหลาดพวกนี้ด้วยระเบิดนิวเคลียร์ล่ะ”
“เปล่าประโยชน์น่า” หลี่ต้าจุนตอบเสียงต่ำ “นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นบอกว่ามีพลังบางอย่างมากดทับพวกมันเอาไว้ พวกเขาไม่อาจทำความเข้าใจความจริงของสิ่งนั้นด้วยเทคโนโลยีตอนนี้ได้”
“ใช้ไม่ได้กับสัตว์ประหลาดหรือ”
“ใช่ เพราะอย่างนั้น พวกเราจึงยังต้องพึ่งบัญญัติ” เขามองทั้งสามคนก่อนเสริมว่า “รวมถึงยอดฝีมือเช่นพวกเจ้าด้วย”
กู่ฉิงซาน จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีมองหน้ากัน
ใช่แล้ว นี่เหมือนกับโลกดั้งเดิม
อาวุธเทคโนโลยีทรงพลังไม่สามารถใช้งานได้
จางหยิงห่าวกระซิบ “เทพธิดาแห่งความยุติธรรมคล้ายกับวิจัยบางสิ่งอยู่ เลี่ยวสิงรู้เรื่องนี้ด้วย”
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ในสถานการณ์แบบนี้ จะไปติดต่อเลี่ยวสิงได้ยังไง”
ตอนนี้ ทหารสองสามคนยกอุปกรณ์สื่อสารเข้ามาแล้วคำนับ “ผู้พันหลี่ สัญญาณการติดต่อถูกรบกวน ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร โปรดช่วยมาดูด้วย”
“ที่ไหนที่สัญญาณถูกรบกวน” หลี่ต้าจุนถามขณะเงยหน้ามอง
“ทั่วทั้งเมืองเลย เมื่อครู่พวกข้าพยายามหลายครั้งแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้เลย” เสียงของทหารเผยร่องรอยความแตกตื่นออกมา
“ว่าไงนะ! ไป! ไปเลย!”
หลี่ต้าจุนทิ้งเสบียงกองทัพไป ก่อนยืนขึ้นแล้วตามพวกทหารสื่อสารไป
กู่ฉิงซาน จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีกินอาหารเสร็จเงียบๆ แต่ยังไม่เห็นหลี่ต้าจุนกลับมา
ตอนนี้ใกล้จะมืดแล้ว
กู่ฉิงซานพลันกล่าวว่า “ข้ารู้สึก… ไม่สบายใจชอบกล”
จางหยิงห่าวกล่าวว่า “ข้าก็เหมือนกัน”
เขากางแขนออกเพื่อให้ทั้งสองคนดู
เส้นขนทั้งหมดบนแขนของเขาตั้งชูชัน
“มีเพียงอันตรายแห่งความเป็นความตายเท่านั้นที่ทำให้ข้ามีอาการแบบนี้” จางหยิงห่าวกล่าว
เย่เฟยหลีถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่รู้สึกอะไรเลย…แต่ข้าคิดได้อย่างหนึ่ง… ทำไมเย่หรูซีถึงสนใจดาบของเจ้า เจ้ามีเบาะแสอะไรหรือเปล่า”
“นางกระตือรือร้นที่อยากจะได้ดาบเล่มนั้นอยู่พักหนึ่ง มันเป็นช่วงเวลาราวกับตกอยู่ในภวังค์” กู่ฉิงซานตอบ
ความคิดของกู่ฉิงซานขยับ
เขาได้รับดาบพันมือที่เพิ่งตื่นขึ้นมาแล้วเช่นกัน
ตื่นขึ้น!
หรือจะเหมือนกับเย่หรูซี นางต้องได้ดาบเพื่อทำให้ตัวตนของเทพโกลาหลตื่นขึ้นมา
กู่ฉิงซานถามความว่างเปล่าว่า “พวกเจ้ารู้สึกอะไรได้บ้าง”
ดาบหลายเล่มเงียบ
มีเพียงดาบเสียงคลื่นที่ส่งเสียงร้องแจ่มชัด
“นางกำลังมองหาเจ้าหรือ” กู่ฉิงซานถามด้วยความประหลาดใจ
ดาบเสียงคลื่นกรีดร้องอีกครั้ง
กู่ฉิงซานขมวดคิ้วช้าๆ
ทำไมเย่หรูซีถึงตามหาดาบเล่มนี้ล่ะ
นางสัมผัสอะไรได้จากดาบเสียงคลื่น
ตอนนี้เอง เย่เฟยหลีกล่าวว่า “ช่างเรื่องดาบเถอะ ตอนนี้พวกเราพบตัวนางแล้ว จะลงมือยังไงต่อดี”
“จะช่วยนางให้ตื่นขึ้นหรือพาตัวนางไป แต่เพื่อสองสิ่งนี้ ต้องได้รับความเชื่อใจจากนางก่อน” จางหยิงห่าวกล่าว
กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพเพื่อตรวจสอบรอบข้าง
ทุกอย่างดูสงบ
เย่หรูซียืนอยู่กับนายพลอีกสองคนขณะสนทนาบางสิ่งอย่างเคร่งขรึม
ตรงข้ามพวกนาง คนส่งสัญญาณล้วนพยายามติดต่อกับโลกภายนอก
หลี่ต้าจุนนอนอยู่ใต้เครื่องจักรขณะยุ่งอยู่กับถอดชิ้นส่วนอุปกรณ์ออกมา
เขารู้สึกว่ามันแปลกประหลาดนิดหน่อย…
สัตว์ประหลาดห้อมล้อม
การติดต่อถูกรบกวน
จู่ๆ วานรสองหัวสี่แขนถอย
…ปัญหาอยู่ตรงไหนกัน
น่าเสียดายที่ข้อมูลในการวิเคราะห์มีน้อยเกินไป
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก จากนั้นยืนขึ้นแล้วกล่าวว่า
“ไปกันเถอะ ไปดูร่างงูยักษ์เพื่อหาเบาะแสกัน”
…
ราตรีคล้อยต่ำ
เครื่องบินเคลื่อนอยู่ใต้ราตรีอย่างรวดเร็ว
บางครั้ง สัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกขนาดเล็กบางส่วนจะบินมาตรวจสอบสถานการณ์ก่อนบินจากไปอย่างรวดเร็ว
หายากมากที่พวกมันจะไม่โจมตีเครื่องบิน แต่เลือกที่จะคุ้มกัน
บนเครื่องบิน
เครื่องมือสื่อสารทำงาน คนขับทำการรายงานครั้งสุดท้าย
“บราวน์แบร์วันเข้าสู่ระยะไกลที่สุดแล้ว สามารถทำการโจมตีได้ ขอคำสั่งด้วย”
เสียงหนึ่งดังมาจากเครื่องมือสื่อสาร
“อนุญาตให้โจมตี”
“รับทราบ”
เครื่องมือสื่อสารปิดการทำงาน
คนขับเปิดระบบควบคุมการยิง สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพึมพำว่า “ขอทวยเทพอำนวยพรให้กับคนบริสุทธิ์เหล่านั้นด้วย”
เขากดปุ่มสีแดงเจิดจ้าลงไป
ขีปนาวุธนิวเคลียร์ยุทธวิธีพุ่งออกจากเครื่องบิน ข้ามผ่านท้องนภาเพื่อมุ่งสู่เมืองที่อยู่ไกลลิบ
……………………………………