ตอนที่ 1155 เทวภัณฑ์ของเหล่าภูต
พื้นที่เอกฐาน
สถานที่ที่อาณาจักรหนามเคยตั้งอยู่
ร่างของสัตว์ประหลาดสามร่างปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า
ความโกลาหลนับไม่ถ้วนห้อมล้อมเอาไว้เพื่อคุ้มกันพวกมันราวกับดวงดาวห้อมล้อมดวงจันทร์
เทพแห่งชีวิต
มังกรมาร
วิญญาณกรีดร้อง
ตอนกู่ฉิงซานเริ่มประกาศสงครามของบัญญัติกับความโกลาหลในโลกเก้าร้อยล้านชั้น สามเทพได้กลับมาจากอดีตมาสู่ปัจจุบัน
พวกมันอยู่ในความว่างเปล่าขณะมองระบำดาบของกู่ฉิงซานอย่างเงียบงัน
หนวดสีดำของเทพแห่งชีวิตดิ้นไปมา
“นี่ ให้ข้าได้แสดงฝีมือเอง ดูข้าฆ่ามันกลางอากาศให้ดี ๆ …”
ขณะกล่าว มันรวบรวมหนวดเข้าด้วยกัน
แสงเย็นเยือกหมองหม่นรวมตัวที่ปลายหนวดก่อนค่อย ๆ เกิดเสียงกรีดคม
“อย่าโจมตี” วิญญาณกรีดร้องกล่าว
“ทำไมล่ะ มันฆ่าเจ้ากับข้าไว้ยับเยิน ตอนนี้ข้าจะแก้แค้น!” เทพแห่งชีวิตกล่าวด้วยความเกลียดชัง
มังกรมารกล่าวว่า “ถ้าเจ้าไม่อยากตายก็รอให้มันระบำดาบจบก่อน จากนั้นค่อยหาทางจัดการมัน”
เทพแห่งชีวิตอดที่จะมองวิญญาณกรีดร้องและมังกรมารไม่ได้
มันเห็นว่าสีหน้าของอีกฝ่ายล้วนเคร่งขรึมมาก แถมมีความวิตกอยู่เล็กน้อย
เทพแห่งชีวิตตกตะลึงก่อนถามว่า “ทำไมข้าถึงไม่สามารถลงมือได้”
มังกรมารตอบด้วยเสียงต่ำว่า “ในยุคโบราณ เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่หลบหนีจากห้วงมิติและเวลาคู่ขนานได้ก่อตั้งสวรรค์และปีศาจดึกดำบรรพ์ขึ้นในความว่างเปล่า”
“ในตอนนั้นมีคนที่แข็งแกร่งยิ่งคนหนึ่งที่ได้รับมรดกมาจากโลกธุลี”
เทพแห่งชีวิตค่อย ๆ เข้าใจก่อนยักไหล่แล้วถามว่า “เป็นเพราะการร่ายรำนี้งั้นหรือ”
มังกรมารตอบว่า “ใช่ การร่ายรำของมันนี่แหละ เมื่อทำการร่ายรำมันสามารถตอบสนองกับโลกอดีตจำนวนนับไม่ถ้วนได้”
วิญญาณกรีดร้องกล่าวเช่นกันว่า “เมื่อการร่ายรำนี้ปรากฏขึ้น เจตจำนงของโลกในอดีตนับไม่ถ้วนจะมา พลังที่ซ้อนทับกันนั้นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าและข้าจะสามารถต่อสู้ได้”
มังกรมารกล่าวว่า “ยิ่งกว่านั้น การร่ายรำนี้เป็นเพียงขั้นแรกเท่านั้น ถ้าปล่อยให้มันฝึกฝนขั้นต่อ ๆ ไปขึ้นมา…”
เทพแห่งชีวิตถามอย่างเกรี้ยวกราดว่า “บัดซบ มดแค่นั้นจะฆ่ามันไม่ได้เลยงั้นหรือ”
วิญญาณกรีดร้องตอบว่า “ต่อให้การร่ายรำจบลงแล้ว เจ้าก็ไม่สามารถใช้วิชาการโจมตีระยะไกลมากได้ เพราะมันจะเลียนแบบวิชาลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราเพื่อโจมตีสวนกลับมา”
มังกรมารยิ้มกว้างและโหดเหี้ยม “ดังนั้นถ้าอยากฆ่ามัน ทางที่ดีที่สุดก็คือบุกไปหามัน!”
วิญญาณกรีดร้องเสริมว่า “ไม่ควรส่งคนมากเกินไป หากมีคนมากเกินไป พวกมันจะพบช่องโหว่ของเรา ดังนั้นคงดีกว่าที่พวกเราจะไปเอง ต่อให้เป็นมดก็ต้องฆ่าด้วยมือตัวเอง!”
“ขอแค่มันตาย สถานการณ์ก็จะปลอดภัย” มังกรมารกล่าว
เทพแห่งชีวิตมองสีหน้าระแวดระวังของทั้งสองจนพูดอะไรไม่ออกอยู่พักใหญ่
มันคือเทพนะ
ตอนนี้สหายสองคนที่มีพละกำลังทัดเทียมกับมันแต่กลับต้องลงมือฆ่ามนุษย์ขนาดนี้เชียวหรือ
สามเทพเพื่อเล่นงานหนึ่งมนุษย์
ต้องขนาดนี้เลยหรือ
ผ่านไปสักพัก เทพแห่งชีวิตก้าวเข้ามาแล้วกล่าวว่า “เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ”
พวกมันกลายเป็นแสงสามสายก่อนหายไปจากที่ที่เคยอยู่ทันที
สามเทพก้าวข้ามวังวนความว่างเปล่าราวกับสายลม
เพียงแค่ไม่กี่สิบวินาที พวกมันสามารถมาถึงตำแหน่งที่กู่ฉิงซานอยู่ได้!
ตอนนี้กู่ฉิงซานกำลังสนทนากับภูต
“พวกมันอาจจะมาถึงในไม่ช้า แน่ใจหรือว่าจะสามารถรับมือไว้ได้” กู่ฉิงซานถามอย่างระแวดระวัง
ชายชราเครายาวตบอกแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่กล้าพูดว่าจะฆ่ามันได้หรือเปล่า แต่ไม่ใช่ปัญหาที่จะรับมือตัวที่อ่อนแอที่สุด”
กู่ฉิงซานมองชายชราเครายาวแล้วกล่าวว่า “หากเป็นเช่นนี้ แผนของข้าก็จะมีหลักประกันมากขึ้น”
ตอนนี้แบร์รี่เดินเข้ามาแล้วกล่าวเสียงต่ำว่า “เสร็จแล้วล่ะ”
กู่ฉิงซานพยักหน้า
“ทุกคน ตามข้ามา!”
เขาคำรามใส่ความว่างเปล่า
หลังจากนั้นแบร์รี่ เสี่ยวเมียว ลอร่า แอนนาและคนอื่นขึ้นยานอวกาศไปพร้อมกับเขา
กู่ฉิงซานพยักหน้าให้ลอร่า
ลอร่าร่ายวิชาอย่างแผ่วเบา ไม่ช้าภาพมายาของต้นไม้หนามโบราณปรากฏขึ้นที่ด้านหลังนาง
ลอร่าคำนับต้นไม้หนามโบราณแล้วกล่าวว่า “โปรดติดตามกู่ฉิงซานไปด้วย นี่คือการต่อสู้ที่ยากลำบากที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น โปรดติดตามเขาไปตลอดการเดินทางด้วย”
ต้นไม้หนามโบราณเปล่งแสงสีเขียวมรกตออกมา
มันตกลง
เมื่อเห็นดังนี้ กู่ฉิงซานโยนสามเหรียญ
ต้นไม้หนามโบราณ บัญญัติราชามาร ทูตสวรรค์แห่งบาป
สามเหรียญ สามพลัง!
ย้อนมิติและเวลา ทำงาน…
หมอกสีดำผุดขึ้นจากพื้น ไม่ช้าก็ปกคลุมยานอวกาศทั้งลำเอาไว้
หมอกสีดำยังคงกระจายตัวก่อนค่อย ๆ ปกคลุมทั่วความว่างเปล่า
คนเหล่านั้นที่มาเข้าร่วมสงครามจากโลกต่าง ๆ ล้วนถูกปกคลุมในหมอกสีดำ
วิ้ง…
ท่ามกลางเสียงดังสนั่น ยานอวกาศและคนทั้งหมดค่อย ๆ ตกลงไปในหุบเหวแสงสีดำราวกับทะเลลึกที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
…มันคือความมืดที่ไม่สามารถวัดมิติและเวลาได้
ทุกสิ่งรอบข้างหายไป ฉากหนึ่งปรากฏขึ้นที่นี่
เวลากำลังย้อนกลับ
หมอกสีดำเจือจางลงอย่างช้า ๆ ก่อนกลายเป็นหมอกสีขาวอ่อน
ยานอวกาศเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อมุ่งสู่หมอกไม่มีสิ้นสุด
ใต้หมอกแห่งมิติและเวลา แม่น้ำแสงสายยาวไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง
นี่คือแม่น้ำแห่งเวลา ไม่เคยขยับไปไหน
…กลุ่มคนมุ่งสู่ทิศทางตรงข้ามกับการไหลของแม่น้ำสายยาว
ในแม่น้ำแห่งเวลาสายยาว บางครั้งจะมีสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่กระโดดขึ้นมาเพื่อกินตัวตนที่อธิบายไม่ได้จำนวนมากที่ปกคลุมอยู่ในแม่น้ำและในหมอก
โชคยังดียานอวกาศไม่ตกลงไปในยุคต่าง ๆ จึงไม่ได้รับผลจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นจึงไม่ได้รับความสนใจจากสัตว์ประหลาดดังกล่าว
ผู้คนย้อนไปตามกระแสเวลาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงวันที่หอคอยถูกทำลาย…
อีกด้าน
สามเทพเหาะมาได้ครึ่งทาง ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงบางสิ่ง
“ไม่นะ บัญญัติออกจากกระแสเวลาไปแล้ว!” วิญญาณกรีดร้องคำราม
มังกรมารโยนสามเหรียญก่อนยิ้มกว้าง “คิดจะหนีทั้งที่พวกเราอยู่ด้วยกันงั้นหรือ ฝันไปเถอะ!”
หมอกสีดำไม่มีสิ้นสุดปกคลุมสามเทพเอาไว้ก่อนหายไปจากความว่างเปล่าทันที
พวกมันย่างเท้าเข้าสู่แม่น้ำแห่งเวลาสายยาวขณะไล่ตามยานอวกาศ
ทันใดนั้น…
ร่างขนาดใหญ่เคลื่อนลงมาจากความว่างเปล่า
เทพแห่งชีวิต
มันตามมังกรมารเพื่อย้อนกลับอดีตไม่สำเร็จ!
“น่าแปลก เกิดอะไรขึ้น…” เทพแห่งชีวิตถามด้วยความสับสน
มันมองรอบข้างอย่างตื่นกลัว
“ไม่ต้องมองหาหรอก วันนี้ภูตอย่างพวกข้าเป็นผู้ที่ทิ้งเจ้าไว้ที่นี่ยังไงล่ะ”
ชายชราเครายาวปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า
หนวดสีดำของเทพแห่งชีวิตยังคงดีดดิ้นขณะจิ้มไปทุกทิศทาง
ภูตนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นก่อนล้อมมันเอาไว้อย่างแน่นหนา
“น่าสนใจ” มันกล่าวพลางเผยรอยยิ้มแปลกประหลาด “พวกเล็กจ้อยกลับกล้ามาทำให้ข้าอับอายถึงเพียงนี้ ดูท่าพวกเจ้าอยากสูญพันธุ์ไปจากโลกเก้าร้อยล้านชั้นสินะ”
ชายชราเครายาวไอเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “พวกข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้อยู่แล้ว ยังไงเสีย เจ้าก็เคยเป็นเทพในโลกมาก่อน”
“แล้วเจ้าเรียกข้ามาเพื่อให้ถูกกินอย่างนั้นหรือ” เทพแห่งชีวิตถาม
มันกำลังร่ายรำพร้อมกับหนวดสีดำนับไม่ถ้วนเพื่อเตรียมบุกเข้าใส่
ชายชราเครายาวส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “พวกข้าเพียงแค่ต้องการรั้งตัวเจ้าไว้เพื่อซื้อเวลาให้เขาก็เท่านั้น”
ทันทีที่สิ้นเสียง ค้อนไม้สั้นขนาดเท่าฝ่ามือปรากฏขึ้นในมือของชายชราเครายาว
จากนั้นโต๊ะไม้หนักหมองหม่นปรากฏขึ้นตรงหน้าชายชรา
ชายชราเครายาวฟาดโต๊ะไม้ด้วยค้อนสั้นจนเกิดเสียงดัง “ตูม ๆ ”
“เตรียมเปิดศาล!”
ชายชราเครายาวตะโกน
คลื่นแปลกประหลาดแผ่ออกมาจากค้อนสั้นก่อนกระจายไปรอบข้าง
เทพแห่งชีวิตพลันรู้สึกไม่ดี
หนวดสีดำนับไม่ถ้วนยื่นออกมา พวกมันเลื้อยเข้าหาชายชราแต่กลับทะลุร่างเสียอย่างนั้น
ชายชราคล้ายกลับไปอยู่ช่วงมิติและกาลเวลาอีกแห่ง ทำให้ไม่ถูกโจมตีแต่อย่างใด
“นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
เทพแห่งชีวิตกล่าวเสียงหลง
หนวดสีดำเข้มแผ่ออกมาจากมันขณะกวาดผ่านไปทั่วความว่างเปล่า
ไม่โดนภูตแม้แต่ตนเดียว
เทพแห่งชีวิตตกตะลึงก่อนพลันตอบสนอง
…ไม่ใช่!
ไม่ใช่ชายชราที่อยู่ช่วงมิติและกาลเวลาอีกแห่ง แต่เป็นมันเอง!
เทพแห่งชีวิตวูบไหวและกำลังเตรียมจะจากไป
แต่ไม่ว่าจะใช้การเหาะ วูบไหวหรือเคลื่อนไหวแบบใด มันก็ยังอยู่ที่เดิม
ชายชราเครายาวจ้องเทพแห่งชีวิตแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึกว่า “ค้อนเคาะลงไปแล้ว เจ้าไม่สามารถไปไหนได้จนกว่าการเปิดศาลนี้จะสิ้นสุดลง”
เทพแห่งชีวิตครุ่นคิดสักพัก จากนั้นพลันหัวเราะออกมา
“ข้าได้ยินมาว่าภูตมีค้อน กฎเกณฑ์แห่งเหตุและผลแข็งแกร่งจนสามารถตรวจสอบแทบจะทุกตัวตนได้ ข้าคิดว่าเรื่องนี้มันไร้สาระมาโดยตลอด แต่ดูท่าจะเป็นความจริงสินะ”
มันกล่าวช้า ๆ ด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจ
“ทว่า ค้อนนี้คือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับความเที่ยงตรงและความยุติธรรม ถ้าไม่มี ‘โจทก์’ ปรากฏตัวขึ้นหลังจากการไต่สวนเริ่มขึ้น เช่นนั้นการไต่สวนนี้จะกลืนกินเผ่าพันธุ์ภูตทั้งหมดจนถูกฆ่าไปกว่าครึ่ง”
ลูกตาของชายชราเครายาวหดลงเมื่อได้ยินความหมายจากคำพูดของอีกฝ่าย
“เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะไม่เคยฆ่ามาสักคน หลายร้อยล้านชีวิตถูกฆ่าเพราะเจ้า เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มี ‘โจทก์’ !”
ชายชราตะโกนแล้วกล่าวว่า “จงมาที่นี่…ด้วยกฎเกณฑ์แห่งเหตุและผล ใครก็ตามที่เกลียดชังเทพแห่งชีวิตสามารถปรากฏตัวในศาลเพื่อกล่าวหาเขาได้! นี่คือโอกาสอันดีที่พวกเจ้าจะได้แก้แค้น!”
หนึ่งอึดใจ
สองอึดใจ
สามอึดใจ
ไม่มีใครปรากฏตัว
ชายชราเครายาวหลั่งเหงื่อเย็นออกมาแล้วกล่าวด้วยความไม่อยากเชื่อว่า “เป็นแบบนี้ได้ยังไง เห็นได้ชัดว่าเจ้าเป็นเทพบาปหนา…”
เทพแห่งชีวิตหัวเราะเสียงดังแล้วตอบว่า “เจ้าคำนวณผิดแล้ว…หากใครบางคนเป็นศัตรูกับข้า เช่นนั้นพวกมันก็ต้องเป็นผู้รอดชีวิตจากเมืองเรเควี่ยม แต่พวกมันล้วนถูกกู่ฉิงซานพาตัวไปหมดแล้ว!”
ชายชราเครายาวตะโกนว่า “นี่มันไม่ถูก! หลังจากเจ้าเป็นส่วนหนึ่งกับความโกลาหล เจ้าก็ได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตไปนับไม่ถ้วนแล้ว!”
เทพแห่งชีวิตจงใจถอนหายใจออกมาก่อนตอบอย่างโหดเหี้ยมว่า “ข้าแตกต่างจากมังกรมาร ทุกครั้งที่ข้าสังหารโลกจะไม่มีสิ่งมีชีวิตหลงเหลือ แม้แต่วิญญาณก็ไม่เว้น ข้ากินทุกสิ่งจนเกลี้ยง คิก ๆ ๆ ๆ ๆ ขอโทษด้วย ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘โจทก์’ แล้วล่ะ”
ชายชราเครายาวหน้าซีดราวกับคนตาย
ค้อนในมือเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับผลย้อนกลับจะระเบิดขึ้นในวินาทีต่อมา
เหล่าภูตเริ่มสะอื้น
ถ้ากฎเกณฑ์แห่งเหตุและผลล้มเหลว พวกเขาก็ต้องรับผลด้วยความตาย
ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นในความว่างเปล่า
“ข้าอยากกล่าวหามัน”
ชายชราเครายาวหันศีรษะไปมองทางต้นเสียงทันที
เขาเห็นชายวัยกลางคนที่ดูโอ่อ่าผึ่งผายปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าภูต
เสียงนับร้อยดังมาจากเขา
“พวกข้าคือราชาของเมืองเรเควี่ยม พวกข้าลอยล่องอยู่ในความว่างเปล่านี้มาช้านาน ตอนนี้พวกข้าจะกล่าวหาเทพแห่งชีวิตผู้เป็นบรรพบุรุษของพวกข้า”
เขามองเทพแห่งชีวิตด้วยสีหน้าเศร้าโศก
“ข้าขอกล่าวหาที่มันทิ้งชื่อเทพเพราะความละโมบในชีวิตและกลัวความตายจนกลืนกินลูกหลานอย่างไม่ไยดี มันสมควรตกนรกทั้งเป็น”
ชายชราเคราวยาวเคาะค้อนแล้วตะโกนว่า “โจทก์มาถึงแล้ว ขอทำการเปิดศาลอย่างเป็นทางการ!”
..............................