webnovel

1148 ความลับของผู้ฝึกยุทธ์!

ตอนที่ 1148 ความลับของผู้ฝึกยุทธ์!

มีขุนเขานับไม่ถ้วนอยู่ทั่วโลก

ชั้นต่าง ๆ ของโลกสลับไปมา เชื่อมต่อและสื่อสารซึ่งกันและกันตั้งแต่ตีนเขายันยอดเขาไม่มีการตัดขาด

กู่ฉิงซานและเซี่ยเต้าหลิงมุ่งไปตามสายลม

โลกที่แห้งแล้งใบหนึ่งปรากฏต่อหน้าทั้งสอง

สัตว์ประหลาดแปลกประหลาดนานาชนิดพยายามทำลายโลก

กู่ฉิงซานปล่อยหอกปีศาจแดงไปตามทาง เมื่อใดที่เห็นเป้าหมายคู่ควรต่อการจัดการ เขาจะสังหารด้วยหอกปีศาจแดงทันที

ด้วยพลังมังกรคู่ เขาเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตบนขุนเขาเซียวหมี แม้กระทั่งวิญญาณชั่วร้ายชางอู๋จางที่อยากจะเล่นงานก็ยังต้องติดตั้งกับดักล่วงหน้าเพื่อยับยั้งพลังของเขาเอาไว้ก่อน

สัตว์ประหลาดเหล่านั้นจะเป็นศัตรูของกู่ฉิงซานได้อย่างไร

ระหว่างทาง สัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนแตกสลายด้วยหอกปีศาจแดง พลังของพวกมันกลับคืนสู่ขุนเขาเซียวหมี

ในที่สุดเมื่อกำลังจะถึงยอดเขาเซียวหมี เสียงแจ่มชัดดังมาจากหอกปีศาจแดง

กู่ฉิงซานและเซี่ยเต้าหลิงหยุดอยู่กลางอากาศ

เซี่ยเต้าหลิงมองหอกแล้วกล่าวว่า “เจตจำนงของขุนเขาจุติมาอยู่ที่อาวุธชิ้นนี้ ดูท่ามันอยากสื่อสารกับเจ้า”

กู่ฉิงซานมองหอกปีศาจแดงแล้วกล่าวว่า “พลังเหนือธรรมชาติระดับราชาแห่งอิสรภาพคล้ายกับพัฒนาขึ้นแล้ว ขอดูหน่อยแล้วกันว่าเป็นยังไงบ้าง”

เขาหลับตาลงเพื่อสื่อสารกับเจตจำนงบนหอกปีศาจแดง

ในเวลาเดียวกัน แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“ท่านฆ่าปีศาจไปเป็นจำนวนมากแล้วฝืนเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นแหล่งกำเนิดพลังของขุนเขาศักดิ์สิทธิ์”

“ท่านกำลังจะก้าวข้ามภัยพิบัตินี้สำเร็จ”

“ในช่วงวิกฤตินี้ ขุนเขาศักดิ์สิทธิ์มอบทางเลือกให้ท่านสองทาง”

“หนึ่ง หากออกไปหลังจากถึงยอดเขา ท่านจะผ่านการก้าวข้ามภัยพิบัตินี้ พลังเหนือธรรมชาติระดับราชาแห่งอิสรภาพจะได้รับความก้าวหน้าสองอย่าง”

“สอง การทำลายล้างขุนเขาศักดิ์สิทธิ์คือความลับ ถึงแม้ท่านจะได้เรียนรู้แล้วว่าทั้งหมดนี้มาจากวิญญาณชั่วร้าย แต่มันเป็นแบบนี้จริง ๆ หรือ ความจริง แม้กระทั่งเจตจำนงของขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับความตื้นลึกหนาบางของทุกสิ่ง”

“หากท่านสามารถช่วยขุนเขาตามหาแหล่งกำเนิดการทำลายล้างและช่วยขุนเขาจากการทำลายล้างได้สำเร็จ ขุนเขาจะช่วยท่านวิวัฒนาการพลังเหนือธรรมชาติระดับราชาแห่งอิสรภาพตามสถานการณ์จริงของท่านให้สมบูรณ์”

“…ไม่ต้องรีบตัดสินใจ ท่านสามารถตัดสินใจได้ในนาทีสุดท้าย”

กู่ฉิงซานลืมตาขึ้น มีความรู้สึกงุนงงอยู่ในแววตาของเขา

ถ้าเวลาไม่บีบรัดเกินไป เขาย่อมเต็มใจอยู่ช่วยขุนเขาเซียวหมีตามหาแหล่งกำเนิดการทำลายล้าง

แต่เขาต้องเข้าสู่สมรภูมิตอนเที่ยง

มันคือศึกระหว่างบัญญัติและความโกลาหล เป็นการต่อสู้ของโลกเก้าร้อยล้านชั้น

ต้องไปจะอยู่ต่อไม่ได้

“เป็นไงบ้าง” เซี่ยเต้าหลิงถาม

กู่ฉิงซานอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง

“กลายเป็นว่าแม้กระทั่งเจตจำนงของขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น” เซี่ยเต้าหลิงกล่าวด้วยความสงสัย

“ต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่ ๆ ข้าเดาว่ามันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะสามารถสำรวจได้” กู่ฉิงซานกล่าว

เซี่ยเต้าหลิงครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “ฉิงซาน ก่อนข้ามาในครั้งนี้ ข้ามีลางสังหรณ์บางอย่าง แต่ช่างเถอะ มุ่งสู่ยอดเขากันดีกว่า”

“ข้ารู้ อาจารย์สามารถทำสำเร็จได้โดยไม่ต้องก้าวข้ามภัยพิบัติ” กู่ฉิงซานพยักหน้า

เซี่ยเต้าหลิงกล่าวต่อว่า “ใช่แล้ว ข้าคิดว่าข้าต้องมาที่นี่เพื่อนึกสิ่งสำคัญให้ออก…ไปกันเถอะ บางทีหลังจากไปถึงยอดเขาแล้ว ข้าอาจจะพบบางอย่างก็ได้”

กู่ฉิงซานถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ถ้าไม่ไป พวกเราก็ทำได้เพียงก้าวข้ามภัยพิบัตินี้ให้สำเร็จเพื่อออกไปจากที่นี่ได้…ไม่รู้ว่าทำไม แต่ข้าอยากทำแบบนี้มากกว่า”

เซี่ยเต้าหลิงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนเผยรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไปกันเถอะ เจ้าไม่สามารถหลบเลี่ยงมันได้หรอก”

ในบรรดาโลกต่าง ๆ มีความลับนับไม่ถ้วน

เบื้องหลังทุกความลับมีอันตรายที่สอดคล้องกันหรือแม้กระทั่งสิ่งแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้ออยู่

ถึงแม้กู่ฉิงซานจะกล่าวได้อย่างน่าผิดหวัง แต่เซี่ยเต้าหลิงรู้ว่าเขาแค่ระบายอารมณ์และเตือนให้นางระวังตัว

ความจริง มักมีสิ่งหนึ่งที่ขวางหน้าผู้ฝึกยุทธ์ ผู้ฝึกยุทธ์จะต้องเผชิญหน้ากับมัน

เพราะการฝึกฝนคือการเผชิญหน้ากับความยากลำบาก

ทั้งสองพุ่งขึ้นไปเพื่อมุ่งสู่ยอดเขาเซียวหมี

…ผ่านโลกแล้วโลกเล่า

…สังหารกลุ่มปีศาจ

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอันมหาศาลของกู่ฉิงซาน ศัตรูทั้งหมดก็ถูกกวาดล้าง

ในที่สุดศิษย์อาจารย์ก็มาถึงโลกสุดท้าย

…ขุนเขาเซียวหมี

นี่คือโลกที่มีขนาดเล็กที่สุด มีเพียงหินโล้นเท่านั้น

เหนือยอดเขาไป มีกระแสวังวนความว่างเปล่าไม่มีสิ้นสุด

นี่คือยอดเขาหรือ

กู่ฉิงซานมองไกลออกไป แต่ไม่เห็นอะไร

ด้วยความไม่เต็มใจ เขาจิ้มหินด้วยหอกปีศาจแดง หินแตกสลายทันที

…เป็นแค่หินธรรมดาจริง ๆ

“ไม่ต้องตรวจสอบหรอก ฉิงซาน ตามบันทึกแล้ว มันควรเป็นแบบนี้แหละ”

เซี่ยเต้าหลิงกลับคืนสู่ร่างสาวน้อยอีกครั้ง นางหลับตาลงก่อนกล่าวด้วยเสียงที่ยังไม่เติบใหญ่

“อาจารย์ ท่านจำอะไรได้งั้นหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“ข้ารู้สึกถึงความทรงจำมากมายกำลังเข้ามาที่ตัวข้า…ฉิงซาน ถ้าข้าไม่สามารถพูดอะไรได้ เจ้าต้องใช้คำพูดเพื่อชี้นำข้านะ” เซี่ยเต้าหลิงกล่าว

“ขอรับ”

ไม่ช้า

เซี่ยเต้าหลิงลืมตาขึ้นก่อนชำเลืองมองความว่างเปล่าไม่มีสิ้นสุด สายตาพร่าเลือนจนสูญเสียสติ

นางคล้ายกับกำลังมองภาพกับแสงและเงาที่มองไม่เห็นอยู่

ความผันผวนพลังวิญญาณในร่างนางไม่เป็นระเบียบและปั่นป่วน ทั่วร่างลอยขึ้นช้า ๆ

เสียงกระซิบอันแผ่วเบาของนางดังขึ้น “เมื่อนานมาแล้ว ขุนเขาเซียวหมีเคยเป็นอาวุธวิเศษทั้งหกที่ใช้คัดเลือกผู้ฝึกยุทธ์โดยเฉพาะ”

กู่ฉิงซานรอจนเห็นว่านางไม่ได้พูดต่อ เขาจึงพยายามชี้นำให้ “ทำไมขุนเขาเซียวหมีถึงต้องคัดเลือกผู้ฝึกยุทธ์ล่ะ”

เมื่อเซี่ยเต้าหลิงถูกเตือนเช่นนี้ สีหน้าของนางสับสนมากยิ่งขึ้น หลังจากลังเลสักพัก นางตอบช้า ๆ ว่า “เลือกผู้ฝึกยุทธ์…สู่เส้นทางก้าวขึ้นสู่สวรรค์…”

หัวใจของกู่ฉิงซานแทบทะยานออกมา

เขาพลันนึกเส้นทางสู่สวรรค์ที่พังทลายตอนอยู่ในโลกฝั่งผู้ฝึกยุทธ์

หอคอยสี่ทิศ

ตำหนักที่พังทลาย

บันไดปรากฏขึ้นจากอากาศบาง ทอดยาวไปสู่ท้องนภา ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด

…บางทีเมื่อนานมาแล้ว ยามผู้ฝึกยุทธ์เข้าสู่วิถีเต๋าครั้งแรก การคัดเลือกแบบนี้ก็ได้เกิดขึ้น

แต่ว่า มันเพื่ออะไรกันล่ะ

กู่ฉิงซานสูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะตระหนักถึงเรื่องนี้ในใจ

เขาบังคับให้ตัวเองสงบลงก่อนถามอย่างช้า ๆ ว่า “ทำไมผู้ฝึกยุทธ์ถึงต้องมุ่งสู่เส้นทางสวรรค์ด้วย”

หลังจากได้ยินคำถามนี้ เซี่ยเต้าหลิงพลันคิดฟุ้งซ่านมากขึ้น นางกุมหน้าผากด้วยมือทั้งสองข้าง คล้ายกับกำลังคิดถึงบางสิ่งอย่างยากลำบาก

“ผู้ฝึกยุทธ์!”

นางพลันตะโกนออกมาก่อนกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ที่สามารถผ่านบททดสอบของกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์กับปฐพีเพื่อกลายเป็นเซียนที่แท้จริงและครอบครองพลังทั้งหกได้!”

หัวใจของกู่ฉิงซานดิ่งวูบ

ผู้ฝึกยุทธ์ก้าวข้ามภัยพิบัติเหมือนกับปลาคาร์ปข้ามแม่น้ำ แต่ภายใต้ภัยพิบัติแต่ละชั้น จะมีกี่คนที่ต้องตายอย่างน่าเวทนากัน!

กลายเป็นว่าผู้ฝึกยุทธ์สามารถกลายเป็นเซียนเพื่อยึดครองทั้งหกภพได้!

ทุกสิ่งพลันกระจ่าง!

ไม่สงสัยเลยว่ายอดฝีมือคนอื่นถึงสามารถพัฒนาได้ดังใจต้องการ มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ที่ต้องเผชิญกับภัยพิบัติทุกครั้งที่พัฒนา

ไม่สงสัยเลย…

ไม่สงสัยเลยว่าวิญญาณชั่วร้ายถึงทำได้ทำลายอาณาจักรนภายามค่ำ รวมถึงทำลายขุนเขาเซียวหมีด้วย!

ผู้ฝึกยุทธ์สามารถกลายเป็นเซียนในสวรรค์เพื่อดูแลหวนคืนชาติภพหกวิถี วิญญาณชั่วร้ายจะเต็มใจให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร ใครกันที่จะกล้าปล่อยให้เกิดขึ้น

เซี่ยเต้าหลิงได้สติทันทีก่อนล้มลงกับพื้นด้วยความอ่อนแรง

กู่ฉิงซานไปพยุงนางทันที

เซี่ยเต้าหลิงดูเหนื่อยล้า แต่สายตาแน่วแน่ยิ่งขณะพึมพำว่า “คาดไม่ถึง…ที่ผู้ฝึกยุทธ์รุ่นพวกเราต้องผ่านอุปสรรคขวากหนามและต้องผ่านความยากลำบากมากมายก็เพราะหลักกฎเกณฑ์ทั้งหกในการคัดเลือกเซียน”

หัวใจของกู่ฉิงซานตกตะลึงยิ่งเช่นกัน

ตอนนี้หินลอยขึ้นในอากาศเสียงเซียนห้อมล้อม ดอกไม้นับไม่ถ้วนลอยอยู่ในท้องนภา ภาพมายาของสัตว์อสูรและภูตจำนวนมากปรากฏขึ้นในท้องนภาเช่นกัน

ขุนเขาเซียวหมีสร้างความรู้สึกอันแรงกล้าขึ้นมาจนกลายเป็นนิมิตไร้ที่สิ้นสุดก่อนปรากฏตรงหน้าทั้งสอง

กู่ฉิงซานรู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณในร่างกายเริ่มก้าวกระโดดก่อนทะลวงอุปสรรคได้ในอึดใจเดียว เขามุ่งสู่พลังระดับราชาแห่งอิสรภาพแล้ว!

เขากำลังจะพัฒนา!

ความผันผวนพลังวิญญาณของเซี่ยเต้าหลิงค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเช่นกัน

นางกำลังจะกลายเป็นจ้าวแห่งขุนเขาเซียวหมีคนแรกในรอบหลายพันปีของโลกผู้ฝึกยุทธ์!

วินาทีต่อมา

สัตว์อสูรกิเลนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทั้งสองคน

“ยินดีด้วย ในที่สุดพวกเจ้าก็ก้าวข้ามภัยพิบัติได้สำเร็จ”

มันกล่าวด้วยเสียงอบอุ่นว่า “ไม่เพียงแค่นั้น จ้าวแห่งขุนเขาเซียวหมียังตระหนักถึงความลับของโลกอดีตด้วย หากถูกเผยแพร่ออกไปในอนาคต มันจะต้องเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนอย่างแน่นอน”

“ตอนนี้พวกเจ้าไปได้แล้ว”

กู่ฉิงซานและเซี่ยเต้าหลิงมองหน้ากัน

เซี่ยเต้าหลิงตัดสินใจได้ก่อนกล่าวว่า “เรื่องนี้สำคัญเกินไป ข้าต้องรีบกลับไปแจ้งเรื่องนี้ให้โลกผู้ฝึกยุทธ์ทราบ”

กู่ฉิงซานกล่าวเช่นกันว่า “เช่นนั้นรบกวนอาจารย์แล้ว เวลาของข้ากระชั้นนัก ข้าต้องไปหาสหายเดี๋ยวนี้เลย!”

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ” เซี่ยเต้าหลิงกล่าว

ทั้งสองยืนขึ้นและกำลังจะออกจากยอดเขาเซียวหมี

ก่อนจะไปเซี่ยเต้าหลิงพลันประสานมือให้กับกิเลนแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณที่ครั้งนี้ท่านช่วยปกป้อง ข้าสงสัยจริงว่าท่านคือวิญญาณของขุนเขาเซียวหมีแห่งนี้หรือเปล่า”

สัตว์อสูรกิเลนพูดออกมาสองคำว่า “ใช่แล้ว”

กู่ฉิงซานมองสัตว์อสูรกิเลน จากนั้นเผยรอยยิ้มออกมาแล้วกล่าวว่า “ขุนเขาถูกกัดกร่อนโดยวิญญาณชั่วร้ายและกำลังจะถูกทำลาย แต่ก่อนหน้านี้ ขุนเขาเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรเลย”

สัตว์อสูรกิเลนจ้องเขาแล้วกล่าวว่า “แน่นอน ทุกสิ่งที่เกิดจากวิญญาณชั่วร้ายมันช่างน่ารังเกียจจริง ๆ ”

กู่ฉิงซานและเซี่ยเต้าหยิงหยุดเคลื่อนไหวก่อนยืนนิ่ง

ตอนนี้พวกเขาไม่รีบร้อนที่จะจากไป

การทำลายล้างของขุนเขาศักดิ์สิทธิ์คือความลับ แม้กระทั่งเจตจำนงของขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่ชัดเจน ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของทุกสิ่ง

…มันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับขุนเขาศักดิ์สิทธิ์

สัตว์อสูรกิเลนถูกพวกเขาทั้งสองคนถาม แต่ทุกคำถามกลับได้รับคำตอบว่าทุกสิ่งเป็นฝีมือของวิญญาณชั่วร้าย

หากมันบอกว่าเป็นวิญญาณของขุนเขาเซียวหมี เช่นนั้นมันก็กำลังโกหกอยู่

ถ้าไม่ใช่วิญญาณ ทุกอย่างที่ว่ามาก็เป็นเรื่องโกหก

กู่ฉิงซานก้าวไปข้างหน้า

ทันใดนั้น ทุกสิ่งรอบตัวเขาพลันหายไป

เซี่ยเต้าหลิง ขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ สัตว์อสูรกิเลนและวังวนความว่างเปล่าล้วนหายไป

วิชาเนตร…วิชาย้อนเวลา

“เอาล่ะ สัตว์อสูรกำลังโกหก ขอดูหน่อยเถอะว่าอะไรที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำของเจ้า”

กู่ฉิงซานกระซิบ

..............................