webnovel

1105 เทวภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งหุบเหว หอกและโล่

ตอนที่ 1105 เทวภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งหุบเหว หอกและโล่

เสียงหัวเราะดังก้องในโบสถ์

กู่ฉิงซานหลุบตาขณะมองหินที่ร่วงลงมา

พวกมันร่วงลงพื้นเป็นจำนวนมากด้วยขนาดที่แตกต่างกัน ข้างในเผยให้เห็นเนื้อสีเทาขาวแห้งก่อนกลายเป็นพายุทรายที่กระจัดกระจายจนมองไม่เห็น

นางฟ้าขับขานหยุดหัวเราะในที่สุด

นางถอนหายใจเล็กน้อย “ขอบคุณที่ช่วยให้ข้าหลุดพ้นจากคำสาปของข้าอย่างสมบูรณ์ จะว่าไปแล้ว การชมคนมันเป็นเรื่องยากขนาดนั้นเชียวหรือ”

กู่ฉิงซานตอบอย่างจริงจังว่า “ข้าพยายามสุดความสามารถแล้ว พูดตามตรง… ในด้านประสิทธิภาพ วิทยาศาสตร์ยังเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้”

เขาดึงดาบกลับ หันศีรษะเล็กน้อยแล้วจับด้ามดาบไว้ในมือ

ในที่สุดภารกิจก็เสร็จสิ้น

นางฟ้าขับขานยังคงพูด แต่เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นในอากาศ

“ไป!”

ทันทีที่สิ้นเสียง กู่ฉิงซานหายไปจากหน้านาง

นางฟ้าขับขานตกตะลึง

นางเงยหน้าขึ้นช้าๆ ขณะมองท้องนภา

“ท่านพ่อบนสวรรค์…”

บิดาบนสวรรค์เคลื่อนลงมาแล้วกล่าวอย่างพึงพอใจว่า “ลูกข้า อาการของลูกดีขึ้นแล้ว ดังนั้นพักสักหน่อยเถอะ”

นางฟ้าขับขานรีบกล่าวว่า “เมื่อครู่มันเสียงยักษ์แห่งการเริ่มต้น…”

“เจ้าหนูนั่นมาจากช่วงเวลาหนึ่งร้อยเก้าสิบล้านปีต่อมา ตอนนี้เขากลับไปแล้ว” บิดาบนสวรรค์กล่าว

นางฟ้าขับขานเงียบแล้วพลันผ่อนคลาย “เขาเหมือนจะเชี่ยวชาญพลังแปลกประหลาดนิดหน่อย ดูท่าหลังจากผ่านไปหนึ่งร้อยเก้าสิบล้านปี โลกธุลีจะไม่ถูกใครพิชิตอีกแล้วใช่หรือเปล่า”

“ถูกต้อง ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสเช่นลูกหรอกนะ”

บิดาบนสวรรค์ตอบ

นางฟ้าขับขานเผยรอยยิ้มงดงามให้กับผู้เป็นพ่อ

บิดาบนสวรรค์กล่าวว่า “ไปกันเถอะ พ่อจะพาลูกออกจากเกาะเวลาแห่งนี้เพื่อกลับสู่ช่วงเวลาปกติ”

“ลูกจะปรากฏตัวช่วงไหนหรือ” นางฟ้าขับขานถาม

“ช่วงเก้าสิบล้านปีต่อมา ที่นั่น พ่อจะสร้างโลกปิดตายไว้ให้ลูก หวังว่าลูกจะเข้าใจ”

“ลูกรู้ ท่านพ่อ ตลอดหนึ่งร้อยเก้าสิบล้านปีที่ผ่านมา ลูกไม่สามารถมีอิทธิพลอะไรได้เลย…”

นางฟ้าขับขานครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “คงจะดีกว่าที่ให้ลูกปรากฏตัวอีกครั้งในช่วงเวลาที่คนเมื่อครู่จากไป แบบนั้นลูกจะได้สามารถหลบเลี่ยงอิทธิพลจากเส้นเวลาและประวัติศาสตร์ได้ ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกปิดตายเป็นเวลาหนึ่งร้อยล้านปี”

บิดาบนสวรรค์จนใจเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “แต่ว่านะ ลูกของพ่อ พลังที่พ่อใช้ทั้งหมดก็เพื่อรักษาเกาะแห่งเวลานี้ไว้ มันสามารถพาลูกกลับไปได้มากสุดที่เก้าสิบล้านปี นี่คือระยะปลอดภัยที่สุดที่พ่อสามารถพาไปได้ ไม่มีทางถูกค้นพบโดยสัตว์ประหลาดในแม่น้ำแห่งกาลเวลา”

นางฟ้าขับขานยิ้มให้กับผู้เป็นพ่อ “ไม่เป็นไร ท่านพ่อไม่ต้องคิดมากหรอก เดี๋ยวลูกจัดการเอง”

พลังวิเศษพุ่งออกจากตัวนาง

“ตอนนี้คำสาปถูกคลายแล้ว พลังที่ลูกได้จากโลกธุลีย่อมสามารถ…”

หมู่เมฆ

ยักษ์แห่งการเริ่มต้นก้าวถอยกลับ

มันไอเล็กน้อย หยิบสมุดบันทึกออกมาก่อนแสร้งทำเป็นพลิก

ฟรึ่บ

กู่ฉิงซานพลันปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่าก่อนลงมาอยู่บนขั้นบันไดในหมู่เมฆ

“เจ้าหนู ทำได้ดี” ยักษ์ชื่นชม

“ทำไมจู่ๆ ท่านให้ข้ากลับมาล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

“แหงล่ะ! ธุรกิจสำคัญขนาดนี้ ข้าต้องมาดูให้เห็นกับตาตัวเอง อีกอย่าง ข้าเกรงว่าเจ้าจะไปสร้างปัญหาเข้าน่ะ”

ยักษ์วามือไว้ใต้หมู่เมฆเพื่อรวบรวมเหรียญทองหายาก

นี่คือรางวัลส่วนตัวจากบิดาบนสวรรค์ผู้ขอให้พาเจ้าหนูคนนี้ออกไปทันที

“ทำไมล่ะ ได้เห็นนางฟ้างดงามขนาดนี้ก็เลยไม่เต็มใจที่จะกลับอย่างนั้นหรือ” ยักษ์หยอก

ถึงจะประหลาดใจ แต่กู่ฉิงซานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“เปล่า ขอบคุณท่านมาก”

เขาดูผ่อนคลาย

เมื่อยักษ์เห็นเขาแสดงอาการเช่นนี้ มันจึงโล่งอก

มันยื่นสองนิ้วออกไป หยิบหนังสือมอบอำนาจแล้วเขย่ามัน

กรุ้งกริ้งๆ!

อัญมณีหลากสีสันร่วงลงจากหนังสือมอบอำนาจก่อนถูกยักษ์คว้าไว้ด้วยความเร็วที่ไม่สอดคล้องกับรูปลักษณ์ของมัน

ยักษ์กระจายอัญมณีทั้งหมดไว้ในมือ ใช้นิ้วสะกิดพวกมันทีละเม็ดเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด

“อืม ของดีนี่มันดีจริงๆ แต่รอบนี้บิดาบนสวรรค์จัดเต็มมาก”

เขาเคาะในความว่างเปล่า

แสงหลากสีสันพลันส่องสว่างในหมู่เมฆ

ผู้ทำลายทุกสิ่ง

มันปรากฏตรงหน้ากู่ฉิงซานอีกครั้ง

“หอกเล่มนี้เป็นของเจ้าแล้ว… ข้าพึงพอใจกับการแลกเปลี่ยนครั้งนี้มาก ข้าเชื่อว่าเจ้าเองก็เหมือนกัน” ยักษ์กล่าว

กู่ฉิงซานยิ้มแล้วพยักหน้าขณะมองหอกหลากสีสัน

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาพลันนึกถึงคำพูดของผู้สร้างปฐพีคนก่อนขึ้นมา

“จงถือมันไว้ มันจะพาเจ้าไปหาหอก… ข้าไม่สามารถบอกได้ว่าทำไม แต่ข้าคิดเสมอว่าหอกเล่มนี้คือกุญแจเพื่อขัดขืนวิญญาณกรีดร้อง”

กู่ฉิงซานเงียบ

ในที่สุดช่วงเวลานี้ก็มาถึง

…ไม่ว่าหอกเล่มนี้จะสถานมารจัดการวิญญาณกรีดร้องได้หรือไม่ อีกไม่ช้าก็จะได้รู้กัน

กู่ฉิงซานตบถุงเก็บของก่อนหยิบชิ้นส่วนหลากสีสันออกมา

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กพลันปรากฏขึ้น

“ชิ้นส่วนของผู้ทำลายทุกสิ่ง”

“เมื่อถือมันไว้ ท่านสามารถสัมผัสได้ว่าหอกอยู่ที่ไหน”

“จงคืนชิ้นส่วนนี้ให้ผู้ทำลายทุกสิ่งแล้วความประทับใจของมันที่มีต่อท่านจะเปลี่ยนไป”

กู่ฉิงซานสะบัดชิ้นส่วนเพื่อให้มันลอยไปหาหอกหลากสีสัน

หอกหลากสีสันส่งเสียงก่อนเริ่มทักทายมัน

ชิ้นส่วนหลอมรวมกับหอกอย่างเงียบงันราวกับหยดน้ำกลับคืนสู่ทะเล

เพียงพริบตา แสงหลากสีสันทั้งหมดบนหอกหายไป

มันลอยมาอยู่ตรงหน้ากู่ฉิงซานก่อนสั่นไหวอย่างรุนแรง ทำให้เกิดเสียงที่ดูเจ็บปวด

กู่ฉิงซานตกตะลึง

ไม่น่ามีอีกชิ้นส่วนนี่ หรืออาวุธชิ้นนี้มันพังกันนะ

“เจ้าโง่ จับมันไว้!” ยักษ์กล่าว

กู่ฉิงซานรีบจับหอกไว้

มีข้อความเกิดขึ้นในใจของเขาทันที

หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบรับด้วยแถวตัวอักษรขนาดเล็กสองสามแถว

“หนึ่งในเจ็ดนักบุญแห่งหุบเหว ผู้ทำลายทุกสิ่ง เคยอยู่ในมือของวิญญาณกรีดร้องมาตั้งแต่เกิด ทำให้ไม่มีใครรู้คุณค่าที่แท้จริงของมัน”

“อาวุธชิ้นนี้ยอมรับทุกสิ่งที่ท่านได้ทำลงไป ทำให้มันกลายเป็นอาวุธหรือเกราะของท่านอย่างเป็นทางการ”

“เมื่ออาวุธยอมรับเจ้าของ จะมีสองร่างให้เจ้าของเลือก”

“หนึ่ง หอกของผู้ทำลายทุกสิ่ง”

“สอง โล่ของผู้พิทักษ์ทุกสิ่ง”

“หอกที่คมที่สุดหรือโล่ที่แข็งแกร่งที่สุด”

“นี่คือคำถามที่จะคงอยู่ตลอดไป”

“ท่านต้องเลือก เลือกหนึ่งในสองร่างนี้”

“โปรดทราบ ทางเลือกนี้ไม่สามารถย้อนกลับได้ โปรดตัดสินใจให้ดี”

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก จากนั้นกล่าวกับหอกในมือว่า “ข้าเลือกโล่”

ใช่แล้ว เขาเคยต่อสู้กับวิญญาณกรีดร้องที่ถือหอกในยุคโบราณมาก่อน; เขายังเคยสู้กับตัวหอกเองในยมโลกอีกด้วย

กู่ฉิงซานคุ้นเคยกับวิญญาณกรีดร้องและหอกผู้ทำลายทุกสิ่งแล้ว

ถ้าวิญญาณกรีดร้องซ่อนบางสิ่งเอาไว้ มันก็ต้องเป็นโล่ในร่างนักบุญนี้แน่ๆ

…ร่างโล่คือสิ่งที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

หลังจากได้ฟังคำพูดของกู่ฉิงซาน หอกพลันสลัดออกจากมือของเขาก่อนทะยานขึ้นในอากาศ

แสงอันวิจิตรสาดส่องจากหอกไปทุกทิศทาง

หอกค่อยๆ สั้นลง ค่อยๆ บางลงก่อนกลายเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีขอบมน

มันกลายเป็นโล่หลากสีสัน

โล่เคลื่อนลงมาช้าๆ ก่อนกลับมาอยู่ในมือกู่ฉิงซาน

วิ้ง

โล่ส่งเสียงสั่นเครือราวกับกำลังบอกบางสิ่ง

มีการตอบสนองฉับพลันบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“ในฐานะเทวภัณฑ์ ผู้พิทักษ์ทุกสิ่งกำลังบอกความสามารถให้ท่านทราบ”

“หนึ่งในเจ็ดนักบุญแห่งหุบเหว โล่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหุบเหว เทวภัณฑ์ ผู้พิทักษ์ทุกสิ่ง”

“ผู้พิทักษ์ทุกสิ่งมีความสามารถต่อไปนี้”

“ผู้พิทักษ์จุติ โล่นี้ซ่อนอยู่ในความว่างเปล่า ไม่มีใครสังเกตเห็น มีเพียงตอนที่ท่านไม่สามารถขัดขืนการโจมตีได้ โล่จะจุติลงมาจากความว่างเปล่าเพื่อขัดขืนการโจมตี”

“คำสาปพันธสัญญาหุบเหว เมื่อใดที่โล่ขัดขืนการโจมตี โล่จะอัญเชิญตัวตนสุ่มจากหุบเหวมาต่อสู้เพื่อท่าน”

“ต่อไปนี้คือคำแนะนำพิเศษ”

“โล่นี้ครอบครองหนึ่งในเจ็ดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของหุบเหวนิรันดร์ ผู้พิทักษ์วิญญาณ”

“พรมแดนผู้พิทักษ์วิญญาณ ทั้งท่านและคนที่ท่านอยากคุ้มกันจะได้รับการปกป้องจากวิชาวิญญาณทั้งหมด”

“…ร่างกายผลัดเปลี่ยน วิญญาณคงอยู่ชั่วนิรันดร์ นั่นคือความหมายที่แท้จริงของหุบเหว”

กู่ฉิงซานยังคงจำมันไว้ในใจจนกระทั่งมาถึงส่วนสุดท้าย ท้ายที่สุดเขาถอนหายใจยาวออกมาด้วยความโล่งอก

ผู้สร้างปฐพีไม่ได้คิดผิดเลย มันใช่จริงๆ

ไม่สงสัยเลยว่าวิญญาณกรีดร้องเก็บอาวุธชิ้นนี้ไว้ตั้งแต่เกิด เพราะนี่คือศัตรูตัวฉกาจ

นี่คือพรมแดนผู้พิทักษ์วิญญาณเชียวนะ!

มันสามารถทำให้ทุกคนไม่ต้องหวาดกลัวความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของวิญญาณกรีดร้อง… ดึงวิญญาณ ได้!

กู่ฉิงซานยินดีและกำลังจะกล่าวลายักษ์แห่งการเริ่มต้น ใครจะนึกล่ะว่าโล่ของผู้พิทักษ์ทุกสิ่งพลันกระแทกอกของเขาอย่างแผ่วเบา

ลำแสงหลากสีสันกระจายออกมา

พรมแดนผู้พิทักษ์วิญญาณเปิดออกมาทันที!

ตึง… ตัง…

เมื่อพรมแดนทำงาน กลุ่มวัตถุส่องแสงพุ่งออกจากร่างของกู่ฉิงซาน

สีหน้าของกู่ฉิงซานเปลี่ยนไป เขาคว้าดาบพิภพเอาไว้ จากนั้นหยิบวัตถุดังกล่าวด้วยปลายดาบขึ้นมา

ต่างหู

ต่างหูเพชร

“หืม อาวุธกลายเป็นโล่ แถมยังสามารถหาสิ่งนี้เจอด้วย” ยักษ์แห่งการเริ่มต้นหัวเราะ

กู่ฉิงซานเงียบสักพักแล้วกล่าวว่า “นี่คือพลังของนางฟ้าขับขานในร่างข้า”

ยักษ์แห่งการเริ่มต้นกล่าวว่า “ใช่ มันเสริมการใช้พลังของเจ้า แถมยังสามารถทำให้นางฟ้าขับขานรับรู้ตำแหน่งของเจ้าได้อีกด้วย นางอาจจะกำลังมาหาเจ้าก็ได้”

กู่ฉิงซานพึมพำ “ไม่สงสัยเลยว่าในตอนนั้นข้า…”

เขาปิดปากก่อนตวัดดาบ

ต่างหูเพชรพุ่งออกมาก่อนตกลงที่มือของยักษ์แห่งการเริ่มต้น

“เจ้าไม่ต้องการสิ่งนี้หรือ นี่ของดีเลยนะ มันสามารถเอาไปขายได้เงินเยอะเลยล่ะ” ยักษ์ดูประหลาดใจ

“อืม ท่านสามารถขายมันได้ ข้าให้ท่านฟรีๆ เลย” กู่ฉิงซานกล่าว

ยักษ์กล่าวว่า “ขอบคุณมาก… แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ นี่มันแปลกเกินไป เจ้าไม่คิดอย่างนั้นหรือ”

กู่ฉิงซษนตอบว่า “นางแข็งแกร่งกว่าทุกคนที่อยู่รอบกายข้า แถมยังแข็งแกร่งกว่าข้าด้วย ข้าไม่อยากให้นางรู้เกี่ยวกับข้าและผู้ที่ข้องเกี่ยวกับข้า… ยังไงก็ตาม หากระวังตัวเอาไว้ก่อน ปัญหาที่ไม่จำเป็นก็จะหายไป”

ยักษ์แห่งการเริ่มต้นมองเขา เผยสีหน้าขอบคุณ

“ช่างเถอะ ข้าสามารถขายสิ่งนี้เป็นเงินได้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ข้าจะส่งเจ้าออกจากที่นี่… ข้าสามารถส่งเจ้าไปที่ทางเข้าได้ หลังจากออกไปแล้วก็จะเจอขอบเขตอิทธิพลจากคำสาบานของสี่เทพ… ข้าจะไม่ไปสถานที่มากปัญหาเด็ดขาด”

“ขอบคุณมาก โปรดเร่งมือด้วย”

“เจ้ารีบงั้นหรือ”

“ใช่ คนของข้าอาจจะตกอยู่ในอันตราย ข้าต้องรีบไป”

ยักษ์ยื่นมือออกไปเพื่อปล่อยลำแสงมาปกคลุมกู่ฉิงซานเอาไว้

การแยกจากใกล้เข้ามา ยักษ์จึงอดที่จะถามไม่ได้ว่า “ดูเหมือนเจ้าจะมีอคติกับนางฟ้าขับขานอยู่นะ”

กู่ฉิงซานชำเลืองมองยักษ์ ท้ายที่สุดก็กล่าวว่า “ที่จริง ตอนการเต้นบูชายัญเสร็จสิ้น คำสาปได้ถูกทำลายจนสิ้นแล้ว”

หลังจากพูดจบ ทั่วร่างของเขาถูกแสงยกขึ้นสู่ท้องนภาก่อนจะพาเขาไปยังที่ที่จากมา

ยักษ์แห่งการเริ่มต้นเงียบอยู่หลายอึดใจ

คำสาปถูกทำลายแล้ว แต่นางฟ้าขับขานยังอยากให้อีกฝ่ายไปอยู่ตรงหน้านาง

เรื่องราวดูมีอะไรแอบแฝงชอบกล

“เวลาผ่านมานานกว่าหนึ่งร้อยล้านปี หลังจากนางฟ้าขับขานได้รับพลังจากโลกธุลีมา คำสาปบนร่างของนางถูกทำลายในท้ายที่สุด…”

ยักษ์กล่าวกับตัวเอง

“นางจะกลายเป็นตัวตนทรงพลังยิ่ง อาจจะเหนือกว่าข้าในสักวันจนไล่ตามเรนี่โดลในตำนานทันก็ได้”

“…แต่นางฟ้าขับขานจะจดจำไปตลอดว่าคำสาปทำให้นางเจ็บปวดมานานนับปี คำสาปที่ทำให้นางอับจนหนทางนั่นได้ถูกคลายโดยมนุษย์เพศชาย”

“ชายคนนี้ครอบครองพลังแปลกประหลาดอย่างแท้จริงและถูกจับตาดูโดยตัวตนจากโลกอดีต!”

ตาหนึ่งข้างของยักษ์พลันเบิกกว้าง ไม่ช้ามันหรี่เป็นเส้นตรงอีกครั้ง

“นาง… เริ่มกลัวเจ้าหนูนี่งั้นหรือ”

“ชิ เจ้าหนูนี่…”

“…ระวังตัวเกินแล้ว…”

………………………………….