webnovel

1099 ตัวตนในหกภพ

ตอนที่ 1099 ตัวตนในหกภพ

หน้าต่างระบบเทพสงครามไม่ได้ระแวดระวังมาเป็นเวลานานแล้ว

หลังจากอ่านข้อความแจ้งเตือนแล้ว กู่ฉิงซานก็สงสัยเล็กน้อยเช่นกัน

ยักษ์ตนแรก…

เขาไม่รู้ว่ามันมีชีวิตอยู่มากี่ปี…

ไม่ น่าจะต้องพูดว่าเวลาได้สูญเสียพลังไปเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน

กู่ฉิงซานปิดปาก ไม่พูดไม่จา ทำแค่รอร่วมกับอีกฝ่ายเงียบๆ

ยังไงเสีย ตามที่ยักษ์กล่าวก่อนหน้านี้ แสดงว่ามีคนมาก่อนหน้าเขา

หลังจากรอสักพัก

คนแรกที่เข้าไปยังไม่ปรากฏตัวออกมา

ตอนนี้ ยักษ์เบื่อเล็กน้อยขณะบ่นกับตัวเองว่า “มีคนที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับชะตากรรมตัวเองอยู่ด้วยหรือ ข้าล่ะเกลียดคนที่ไม่ตรงต่อเวลาแบบนี้จริงๆ ”

หลังจากพูดจบ มันมองกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานยิ้ม พยักหน้าอย่างเห็นด้วยแล้วไม่กล่าวอะไร

ยักษ์เมินเขา

ความคิดของกู่ฉิงซานวูบไหวก่อนนึกถึงสิ่งที่ยักษ์พูดตอนเขาปรากฏตัวครั้งแรกทันที

“ไม่ว่าจะเป็นมดหรือเทพ ทุกคนที่มาที่นี่มีชะตากรรมที่ทำให้ต้องมา ข้าได้เตรียมชะตากรรมให้เจ้าไว้แล้ว”

ชะตากรรมคือสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ชะตากรรมของทุกสิ่งช่างผันผวน แต่ละชีวิตต่างมีชะตากรรมเพียงหนึ่งเดียว

เหตุและผล

กฎแห่งเหตุและผลไม่สามารถขัดขืนได้ ต่อให้จะเดินทางผ่านมิติและเวลาก็ต้องเจอกับเหตุและผล

หรือก็คือ ยักษ์จะนำผลบางอย่างมาสู่ผู้ที่มาถึงที่นี่

กู่ฉิงซานยังคงดำเนินตามความคิดนี้ต่อไป

…แล้วผลคืออะไรล่ะ

จุดจบของทุกสิ่งคือผล

จุดจบของชีวิตคือผลเช่นกัน

หนึ่งคำขอ หนึ่งคำพูด หนึ่งสิ่ง

ตราบที่เป็นตัวแทนของผลบางอย่าง มันย่อมเป็นไปได้

นี่เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดา…

แต่กู่ฉิงซานกลับผ่อนคลายลงช้าๆ

เมื่อมองเหตุที่สร้างขึ้น เขายังมั่นใจถึงผลที่ตามมาเล็กน้อย

ตอนนี้ คนคนหนึ่งพลันปรากฏตัวตรงฝั่งของยักษ์

ผู้ชายสวมชุดเกราะหลากสีสันเต็มยศ มือถือดาบใหญ่เอาไว้

พลังบนร่างอ่อนไหวกับหมู่เมฆ เขาถอยออกมาขณะตวัดกวาดอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่คนคนนั้นปรากฏตัว เขาเห็นยักษ์

เขามองยักษ์ จากนั้นมองกู่ฉิงซาน จากนั้นมองทะเลหมู่เมฆไร้พรมแดน

…เห็นได้ชัดว่าเขาสับสนกับสถานการณ์ตอนนี้เล็กน้อยไม่ต่างจากกู่ฉิงซาน

“ว่าไง ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่จนได้”

ยักษ์ตนแรกกล่าว

เสียงของมันดังจนความว่างเปล่าสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง

ผู้ชายในชุดเกราะหลากสีสันยืนนิ่ง ชักดาบใหญ่ออกมาขวางหน้าเอาไว้ก่อนถามอย่างระแวดระวังว่า “เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่”

“ข้าหรือ ข้าคือยักษ์ อืม ยักษ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ยักษ์ตนแรกแนะนำตัวเอง

“ยักษ์หรือ โอ้ ข้าขอถามหน่อยสิ เหมือนเจ้าจะรอข้าอยู่ที่นี่ ใช่หรือเปล่า” ผู้ชายถาม

ยักษ์ตนแรกพยักหน้าแล้วตอบว่า “ใช่แล้ว ข้ารออยู่ที่นี่มาได้สักพัก ที่จริง ทุกคนที่มาที่นี่จะต้องได้พบกับชะตากรรมของตัวเอง…”

ยักษ์หยิบสมุดบันทึกที่ชำรุดออกมาเปิดจนพบเครื่องหมายที่ทำไว้ตลอดเวลา

มันหรี่ตาขณะพูดรายละเอียดอย่างไม่ใส่ใจว่า

“ราชาเทพของหมื่นอาณาจักรในโลกคู่ขนานที่เก้าร้อยเก้าสิบแปด อืม ถูกต้อง”

“วันที่กำหนดไว้คือวันนี้ ถูกต้อง”

“ราชาเทพของหมื่นอาณาจักรทำลายโลกนับไม่ถ้วนจนได้รับหนึ่งโอกาสมา ท้ายที่สุดก็มาถึงหมู่เมฆจนมายืนอยู่ตรงหน้าข้า ดังนั้นชะตากรรมของเขาคือ…”

“ความตาย”

ก่อนจะทันได้กล่าวจบ กู่ฉิงซานรู้สึกถึงแสงหลากสีสันตรงหน้า

ก่อนจะทันได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเห็นผู้ชายในชุดเกราะหลากสีสันถูกยักษ์จับโยนเข้าปาก

กึดๆ!

กร็อบ!

จากนั้น มีเสียงเคี้ยวดังขึ้น

ยักษ์พึมพำขณะกินว่า “ให้ตายสิ เกราะหนาจริงๆ แต่อาหารเปลือกหนาแบบนี้นี่แหละคือของว่างชิ้นโปรดของข้า”

มันยื่นนิ้วเข้าไปจุ่มน้ำโลหิตในปากก่อนกากบาทบนสมุดบันทึกอย่างแผ่วเบา

ใช่ ธุรกิจแรกของวันนี้ได้รับการจ่ายแล้ว… ได้กำไรเล็กน้อยโดยบังเอิญ

หลังจาพูดจบ ยักษ์พ่นก้อนเนื้อหลากสีสันออกมา

มันคือชุดเกราะที่ราชาเทพของหมื่นอาณาจักรสวมใส่เมื่อครู่!

ยักษ์ตนแรกชั่งน้ำหนักอย่างพึงพอใจก่อนโยนเข้าไปใต้หมู่เมฆ

หลังจากทำทั้งหมดนี้ มันหามาเผชิญหน้ากับกู่ฉิงซาน

สีหน้าของกู่ฉิงซานเฉยชา

“ช่างเป็นคนที่น่าสนใจ… เจ้ามีเวลาหนีเหลือเฟือแต่กลับไม่หนีอย่างนั้นหรือ” ยักษ์ถาม

กู่ฉิงซานตอบว่า “ในเมื่อมันคือชะตากรรม ดูสักหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร”

ยักษ์นิ่งไป

“เจ้าเห็นชะตากรรมของคนเมื่อครู่ไหมล่ะ” มันถาม

“ข้าเห็นแล้ว” กู่ฉิงซานตอบ

“เจ้าไม่กลัวหรือ”

“ข้าว่าชะตากรรมตัวเองไม่ใช่แบบนั้น”

ยักษ์เกิดสงสัย “ทำไมล่ะ”

กู่ฉิงซานตอบว่า “เพราะชะตากรรมมาจากเหตุและผล พอข้ามาคิดดูแล้ว ข้าไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาตายที่นี่”

ยักษ์กล่าวว่า “เจ้าไม่กลัวว่าจะมีศัตรูอยู่เลยหรือ เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้าทำธุรกิจ เจ้าอาจจะต้องรับคำขอจากข้าเพื่อตายอยู่ที่นี่ก็ได้”

กู่ฉิงซานยิ้มแล้วตอบว่า “ข้าคือคนที่ได้รับความเป็นห่วงเป็นใยเสมอ ได้รับความสัมพันธ์อันดี ไม่เคยกระทำชั่ว ดังนั้นข้าไม่กลัวหรอก”

ยักษ์เผยสีหน้าไม่เชื่อออกมาก่อนถามว่า “เจ้าไม่เคยฆ่าใครมาก่อนหรือ”

กู่ฉิงซานตอบว่า “ข้าฆ่าพวกมันจนไม่เหลือซากแล้ว”

“ดะ…”

“สะอาดหมดจด ไม่มีโอกาสมาที่นี่เพื่อมาขอให้ท่านฆ่าข้าหรอก”

ยักษ์ถือสมุดบันทึกไว้ในมือ สายตามองอีกครั้งแล้วกล่าวด้วยความหมดสนุกว่า “คนฉลาดนี่น่าหงุดหงิดจริงๆ ”

กู่ฉิงซานคล้ายกับนึกบางอย่างออก จากนั้นกล่าวว่า “จริงสิ ข้าลืมพูดไปเลย… คนที่ทำธุรกิจกับข้าน่ะ หลังจากนั้นไปร่ำรวยกันหมดเลย”

“โห จริงหรือ” ยักษ์พลันสนใจขึ้นมา

“เรื่องธุรกิจทั้งที ข้าจะกล้าพูดจาไร้เหตุผลได้ยังไง อีกอย่าง ปกติแล้วข้าไม่โกหกหรอกนะ” กู่ฉิงซานตอบอย่างเคร่งขรึม

ยักษ์ถามอย่างกระตือรือร้นว่า “แล้วเมื่อไหร่เจ้าถึงจะโกหกล่ะ”

กู่ฉิงซานตอบว่า “เมื่อไม่ยอมคุยธุรกิจกันดีๆ เอาแต่คิดที่จะฆ่าแกงข้า”

ยักษ์ครุ่นคิดสักพักก่อนพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “นั่นมันน่าหงุดหงิดจริงๆ ”

สีหน้าของมันอ่อนลงขณะหยิบแผ่นหยกจากข้างหลังมาส่งให้กู่ฉิงซาน

“นี่คือชะตากรรมที่เจ้าเคยเจอมา ตอนนี้มันส่งต่อมาที่มือข้าเพื่อมอบให้กับเจ้า”

ที่เคยเจอมาหรือ

ขณะมองแผ่นหยก สีหน้าของกู่ฉิงซานเคร่งขรึมขึ้นมา เขากล่าวว่า “ข้าไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ โปรดอธิบายอย่างละเอียดที มันจะเป็นพระคุณกับข้ายิ่งนัก”

ยักษ์อธิบายอย่างอดทนว่า “แผ่นหยกนี้เคยเป็นของตัวเจ้าอีกคนที่มาจาโลกคู่ขนานทรงพลังยิ่ง เจ้าคนนั้นแข็งแกร่งกว่าเจ้าตอนนี้หลายสิบเท่า ทว่า โลกคู่ขนานนั้นถูกทำลายไปแล้ว เจ้าคนนั้นก็ตายแล้วเช่นกัน ขอโทษด้วย”

“ส่วนทำไมเขาทิ้งแผ่นหยกขนาดเล็กนี้ไว้กับเจ้านั้นข้าไม่สนหรอก ข้าแค่เก็บเงินเพื่อทำสิ่งต่างๆ เท่านั้น”

“โปรดมอบแผ่นหยกนี้ให้กับใครบางคนที่สามารถมาที่นี่ได้… นี่คือคำพูดเดิมของเจ้าคนนั้น”

ตอนนี้กู่ฉิงซานเข้าใจแล้ว

เขาถามทันทีว่า “มีโลกคู่ขนานอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แต่ที่นี่มีเพียงแค่แห่งเดียวอย่างนั้นหรือ”

ยักษ์ตนแรกมองเขาแล้วตอบด้วยความนับถือว่า “ใช่ ที่นี่คือเส้นทางสู่หมู่เมฆ การจะไปถึงที่นั่นได้ย่อมมีเพียงแค่ทางเดียวเท่านั้น”

มันถอนหายใจอีกครั้ง “เห็นได้ชัดว่าทั้งฉลาดและแข็งแกร่งแท้ๆ ทำไมเจ้าถึงรีบรนหาที่ตายนัก ข้าไม่เข้าใจเลย แต่ก็ช่างเถอะ พวกเราแค่มีความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกันเท่านั้น”

กู่ฉิงซานจนคำพูด

มันแปลกนิดหน่อยที่ได้ฟังการตายของตัวเอง

เขารับแผ่นหยกมาเพื่อตรวจสอบพลางครุ่นคิด

ทันใดนั้น เสียงหนึ่งส่งผ่านมาจากแผ่นหยกสู่ทะเลแห่งความตระหนักรู้

นี่คือเสียงของเขาเอง

“ข้าทิ้งเงาเอาไว้ในโลกดั้งเดิม ดังนั้นเจ้าน่าจะรู้หกสิ่งแล้ว”

“ตลอดทุกย่างก้าวของข้า แทบจะไม่มีข้อบกพร่อง”

“สิ่งเดียวที่ข้าไม่ควรทำคือละทิ้งตัวตนของราชาภูตผีแห่งยมโลก”

“อย่าละทิ้งตัวตนในหกภพ ไม่งั้นเจ้าจะเสียใจ”

“อีกอย่าง ข้าไม่มีอะไรจะบอกเจ้า เพราะถ้าบอกสิ่งเหล่านั้นไป เจ้าจะตายเมื่อได้ฟัง”

“จำให้ดี ถึงหกภพจะแตกสลายไปแล้ว แต่เจ้าจะละทิ้งหกภพไม่ได้”

หลังจากฟังอยู่เงียบๆ กู่ฉิงซานขยี้แผ่นหยกเป็นผุยผง

“ขอบคุณ ข้าได้รับชะตากรรมแล้วล่ะ” เขาประสานมือให้กับยักษ์ตรงหน้า

ยักษ์จ้องเขาแล้วถามแปลกประหลาดว่า “ได้ฟังความตายของเจ้าแล้ว ไม่กลัวบ้างเลยหรือ หรือว่าเจ้าไม่กังวลเรื่องความตายกันแน่”

กู่ฉิงซานตอบอย่างหนักแน่นว่า “ไม่ต้องคิดถึงมันหรอก ความตายก็แค่การเริ่มต้นอีกครั้ง ข้าจะกลายเป็นสิ่งอื่นเพื่อต่อสู้อย่างหนัก ตราบที่ยังมีลมหายใจ ข้าก็จะไม่มีวันยอมแพ้ ข้าเชื่อว่าจะต้องทำแบบนี้”

………………………………….