webnovel

1076 พบเจอ

ตอนที่ 1076 พบเจอ

กลุ่มคนเดินเข้าหากู่ฉิงซานอย่างไร้ความปรานี

กู่ฉิงซานไม่ทนอีกต่อไป

เขาหันหน้าไปทางทุกคนขณะถือดาบสองเล่มไว้ในมือ

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอม ผู้นำของอีกฝ่ายตะโกนทันทีว่า “เขากำลังชั่งน้ำหนักอยู่”

กลุ่มคนหยุดนิ่ง

หนึ่งในพวกเขาร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว คทาวางแนบอกก่อนเขย่าอย่างรุนแรง

“ออกมา ช้างยักษ์ขยี้มาร!”

แปร๋น!!!

ช้างยักษ์สวมเกราะสีขาวปรากฏขึ้นจากอากาศบางก่อนลงสู่จัตุรัสขนาดเล็ก

ขนาดของมันน่าทึ่ง ทำเอาพื้นจัตุรัสสั่นสะเทือน

ผู้คนรอบข้างล้วนเดินออกมาด้วยความหวาดกลัว

นี่คือสิ่งมีชีวิตมารพิเศษ ไม่เพียงแค่หนาและทนทานเท่านั้น แต่ยังทนทานต่อคาถาทรงพลังจำนวนมากอีกด้วย เหมาะสำหรับการต่อสู้และการสำรวจในสภาพแวดล้อมอันตรายเป็นอย่างยิ่ง

ทุกคนต่างมีทักษะพิเศษ

วิชาอัญเชิญนี้เป็นเพียงวิชาเดียวที่คนคนนี้เก็บเอาไว้หลังจากเสียพลังทั้งหมดไป

การต่อสู้กับช้างยักษ์ขยี้มารไม่เป็นเพียงแค่การทดสอบพละกำลังของศัตรูเท่านั้น แต่ยังเป็นการหลีกเลี่ยงความเสียหายที่เกิดกับฝั่งตัวเองอีกด้วย

นี่นับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ถูกต้องนัก

แต่น่าเสียดายที่พวกเขามาพบกับกู่ฉิงซาน

นักดาบที่มีพลัง “แดนศักดิ์สิทธิ์” ถือดาบพิภพเอาไว้

ช้างยักษ์พุ่งเข้าหากู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานไม่ขยับแต่อย่างใด เขาเพียงก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว ดาบยาวพุ่งไปข้างหน้าก่อนฟาดฟันอย่างรุนแรง!

“แดนศักดิ์สิทธิ์” ทำงาน!

ดาบนี้มีน้ำหนักมากกว่าช้างยักษ์ขยี้มารหนึ่งพันเอ็ดเท่าก่อนฟาดเขาใส่ศีรษะของช้างยักษ์

ทุกคนเห็นเพียงลวดลายละลานตาตรงหน้า

สีแดงขาวเลือนรางท้วนตัวกับราวพายุเฮอริเคนขณะห้อมล้อมคนที่ซ่อนอยู่หลังช้างยักษ์เอาไว้ก่อนพัดอย่างรุนแรงด้วยความเร็วที่พวกเขาไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

ตอนนี้ทุกคนเป็นคนธรรมดา เขาจะตอบสนองกับดาบนั่นได้อย่างไร

คนเหล่านั้นถูกกระแสอากาศรุนแรงกวาดจนกลายเป็นเลือดเนื้อก่อนกระแทกใส่กลุ่มแสงสีดำที่อยู่สุดทางของเส้นทางลับ

กลุ่มแสงสีดำเป็นเพียงปีศาจกลืนกินความโกลาหล ทำหน้าที่คุ้มกันทางเข้าทางเดินลับตามข้อกำหนดของสัญญา

ตอนนี้ สัญญากำลังจะหายไป แต่คาดไม่ถึงว่ามันจะได้รับอาหารอย่างใจกว้างเช่นนี้ จะไม่ให้ลิ้มลองเสียหน่อยได้อย่างไร

เมื่อฟังเสียงจากกลุ่มแสงสีดำ มีเพียงเสียงเคี้ยวดังขึ้นไม่มีสิ้นสุด

“อา!”

เสียงกรีดร้องโหยหวนนับไม่ถ้วนปกคลุมจัตุรัส

คนเหล่านี้แต่ละคนครอบครองวิชาทรงพลังยิ่งที่เหลือไว้ใช้สำหรับต่อสู้และสำรวจทางเดินลับเป็นกลุ่มโดยเฉพาะ แต่ตอนนี้ พวกเขาไม่ทันได้ใช้วิชาก่อนถึงแก่ความตาย

หนึ่งดาบ

ทำลายหนึ่งกลุ่ม

ผู้ชมตกอยู่ในความเงียบ

“พลังเหนือธรรมชาติหรือ ไม่สิ ดูท่าจะยิ่งกว่านั้นอีก” ใครบางคนพึมพำ

กู่ฉิงซานมองเจ็ดแปดคนที่สวมหน้ากาก

“ข้าได้ยินมาว่าที่นี่ ต้องมีพละกำลังถึงจะมีสิทธิ์อยู่รอด” เขากล่าว

คนสวมหน้ากากมองหน้ากัน

เสียงของคนก่อนหน้านั้นดังมาจากหลังหน้ากาก “ด้วยพละกำลังของเจ้า เจ้าย่อมสามารถมีชีวิตรอดได้อยู่แล้ว”

จิตสังหารของกู่ฉิงซานก่อตัวขึ้นแล้ว ตอนนี้พวกเขาต้องชวนคุยต่อ

ใครจะนึกล่ะว่าจู่ๆ สถานการณ์จะเปลี่ยนไป

กลุ่มแสงสีดำที่ขวางปลายทางของเส้นทางลับไว้พลันระเบิดแสงอันร้อนแรงออกมา จากนั้นจึงหายไปในความว่างเปล่า

หายไปแล้ว

คำสาปหนึ่งร้อยล้านปีสิ้นสุดลง ณ ตอนนี้

เส้นทางที่ปลายทางเดินลับไม่ถูกปิดกั้นอีกต่อไป ทำให้สามารถมองเห็นตั้งแต่แรกว่ามันถูกปกคลุมด้วยฝุ่น

เส้นทางนี้เงียบสงบมานานเกินไป แต่ตอนนี้มันเปิดต้อนรับทุกคนอีกครั้ง!

“ไป!”

ใครบางคนตะโกนเสียงต่ำ

กลุ่มคนพุ่งไปยังปลายทางของเส้นทางลับ… ไม่สิ ไม่มีใครสามารถเหาะได้ในตอนนี้ พวกเขาทำได้เพียงวิ่งไปยังปลายทางของเส้นทางลับด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี

หลายคนที่รีบพุ่งเข้าทางเดินลับก่อนก็เพื่ออยากเป็นคนแรกที่จะได้หาสมบัติ

แต่มีคนส่วนน้อยที่ยังไม่ขยับ

คนเหล่านี้บางคนระแวดระวัง บางคนครุ่นคิด

“อย่าเข้ามาใกล้นะ” เสียงของซูเสวี่ยเอ้อร์ดังขึ้น

กู่ฉิงซานหันไปมองอย่างรวดเร็ว

เขาเห็นว่าหลายสิบคนหยุดอยู่ห่างจากซูเสวี่ยเอ้อร์สามสิบเมตร

ซูเสวี่ยเอ้อร์ถือไพ่ทะเลโลหิตไว้ในมือ เตรียมจะขว้างออกไปทุกเมื่อ

ผู้นำคนกลุ่มนั้นก้าวออกมาแล้วกล่าวอย่างสงบว่า “แม่นาง โปรดวางใจได้ พวกข้าไม่ได้คิดร้าย ผู้เชี่ยวชาญไพ่ที่แข็งแกร่งเช่นเจ้าควรมาเข้าร่วมทีมแข็งแกร่งอย่างพวกข้าถึงจะมีประสิทธิภาพมากกว่า”

ผู้นำยื่นมือออกไป

หนึ่งในคนของเขาส่งขวดยามาให้

“ดูนะ นี่คือยารักษาบาดแผล หากเจ้าเต็มใจเข้าร่วมกับพวกข้า ข้าจะรักษาบาดแผลให้ทันที” ผู้นำกล่าว

ซูเสวี่ยเอ้อร์เย้ยหยัน “ถ้าเจ้าจริงใจล่ะก็ ทำไมไม่ให้คนรอบตัวลองยานั่นดูก่อนล่ะ ทำไมตอนแรกถึงไม่ให้ยากับข้า ทำไมถึงไม่เข้ามาคุยกับข้าทันทีที่การต่อสู้จบลง แต่พอเห็นว่าข้าไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออีกแล้วก็เลยเข้ามาพูดกับข้าแบบนี้ใช่หรือเปล่า”

ผู้นำนิ่ง ไม่สามารถพูดอะไรได้สักพัก

คนของเขากล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “แม่สาวน้อย พวกข้าอยากรับเจ้าเข้ามาจริงๆ นะ แต่เจ้ากลับปฏิเสธที่จะดื่มสุราเลิศรสเอง!”

เสียงของซูเสวี่ยเอ้อร์เย็นเยือกขณะกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการยาของพวกเจ้า รีบไปเลย ขืนยังเข้ามาอีก ข้าจะตายไปพร้อมกับพวกเจ้า!”

ไพ่ในมือนางระเบิดวิชาสีชาดออกมาราวกับถูกบางอย่างกระตุ้น

คนเหล่านั้นอดที่จะก้าวถอยหลังไม่ได้

ทุกคนได้เห็นการต่อสู้ของแม่นางคนนี้มาก่อนแล้ว

ไพ่ใบนั้นทรงพลังจริงๆ

ตอนนี้ทุกคนสามารถใช้ได้เพียงหนึ่งวิชาเท่านั้น ไพ่ใบนั้นยากที่จะขัดขืนจริงๆ

กู่ฉิงซานลอบกล่าวชื่นชมอยู่ในใจ

ในที่สุดเสวี่ยเอ้อร์ก็เติบโตแล้วเหมือนกันสินะ

เขามองรอบข้าง

เขาเห็นคนที่ยังไม่ออกไป ทุกคนล้วนมองไพ่ในมือของซูเสวี่ยเอ้อร์ ดวงตาพวกเขาทอประกายเล็กน้อย

กู่ฉิงซานค่อยๆ เข้าใจว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงไม่ไป

ในโลกหลายร้อยล้านใบ ไพ่นับว่าล้ำค่ายิ่ง

ยิ่งกว่านั้น ซูเสวี่ยเอ้อร์มีสำรับทะเลโลหิต ไพ่ในมือนางสามารถเลือกออกมาได้ ในฐานะที่เป็นเพียงทักษะเดียว มันคือตัวตนที่ล้ำค่ายิ่ง

ใช่ว่าทุกคนจะสามารถจั่วไพ่หลายร้อยใบได้อย่างสบายๆ เหมือนกับลอร่า

คงมีเพียงลอร่าเพียงคนเดียวในโลกเก้าร้อยล้านชั้นเท่านั้นที่สามารถทำได้

“อืม…” ซูเสวี่ยเอ้อร์พลันขมวดคิ้ว

โลหิตบนแขนนางทะลักออกมามากขึ้น

ดูท่าบาดแผลของนางจะสาหัสมากยิ่งขึ้น

กู่ฉิงซานไม่อาจรอได้อีกต่อไปแล้ว

ขณะถือดาบยาวเอาไว้ เขาเดินไปหาซูเสวี่ยเอ้อร์อย่างรวดเร็ว

ผู้คนสังเกตเห็นการกระทำของเขาทันที

หมอนี่อยากลิ้มลองความสามารถของแม่นางคนนี้หรือ

อีกอย่าง คนคนนี้มาทีหลัง จึงยังไม่ได้เห็นว่าแม่นางทรงพลังขนาดไหน

ปล่อยให้รนหาที่ตายแล้วกัน เขาอาจจะถึงขั้นพ่ายแพ้แต่ยังรอดจากการต่อสู้มาได้

ผู้คนเปลี่ยนความคิดคนแล้วคนเล่าขณะก้าวมาด้านข้าง

ซูเสวี่ยเอ้อร์พบผู้ชายหล่อเหลาที่น่าขยะแขยงคนนี้ทันที

เมื่อครู่เขาทำลายกลุ่มคนได้ด้วยดาบเดียว มันช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ!

“เจ้าอย่าเข้ามานะ เว้นแต่ว่าเจ้าอยากตาย!”

ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าวอย่างเย็นชา

แสงสีชาดบนไพ่ในมือนางเจิดจ้ามากยิ่งขึ้น

ตอนนี้ กู่ฉิงซานอยู่ห่างจากนางไม่ถึงยี่สิบก้าวขณะกล่าวว่า “อย่าสร้างปัญหาเลย บาดแผลสาหัสแบบนั้น อยู่นิ่งๆ ดีกว่าน่า”

ฟังดูเหมือนบทสนทนาระหว่างคนรู้จักชะมัด

ซูเสวี่ยเอ้อร์ตกตะลึง

ตอนนี้ หลายคนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้าซูเสวี่ยเอ้อร์

นางไม่รู้จักเขา

ใครบางคนจงใจพูดว่า “พี่ชาย เห็นได้ชัดว่าทุกคนใจดี แต่แม่นางคนนี้ไม่รับความใจดีเลย เจ้าระวังเอาไว้ดีกว่า”

อีกคนกล่าวว่า “เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องระวังคนอื่นเอาไว้ ใครจะรู้ล่ะว่าหัวใจของคนที่เจ้าอยากเข้าใกล้ด้วยมันเป็นยังไง”

ผู้นำลอบกล่าวเช่นกันว่า “ยอดฝีมือคนนี้ ถ้าเขาสามารถ…”

คำพูดของพวกเขาถูกกู่ฉิงซานขัด

กู่ฉิงซานมองซูเสวี่ยเอ้อร์แล้วกล่าวว่า “ตีนไก่สามชิ้น หอยนางรมสองตัว แฮมหนึ่งชิ้น เต้าหูเหม็นหนึ่งก้อน ของเผ็ดเล็กน้อย น้ำผลไม้ไม่น้ำมะนาวก็น้ำส้ม”

จิตสังหารของซูเสวี่ยเอ้อร์หายไป ดวงตางดงามของนางเบิกกว้าง นางชี้ไปที่กู่ฉิงซานด้วยนิ้วที่ถือไพ่

นางไม่อยากเชื่อตัวเองจนตกตะลึงอยู่นานก่อนถามว่า “เจ้า… นั่น… ยังไม่อิ่มอีกหรือ”

“ก๋วยเตี๋ยวผัดอีกจาน… แต่กินได้เพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งเหลือไว้ให้ข้า” กู่ฉิงซานกล่าว

“ทำไมต้องเหลือไว้ให้เจ้าล่ะ”

“เพราะเจ้าจะอ้วนหากกินมากเกินไป ไม่มีใครอยากอ้วนหรอกนะ”

“ก็นะ…”

ซูเสวี่ยเอ้อร์จ้องอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ รู้สึกแค่ว่าหัวเราะกำลังสั่นไหว

นี่คือสิ่งที่นางชอบสั่งที่ร้านบาร์บีคิวของกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานยักไหล่แล้วกล่าวว่า “รูปลักษณ์ของข้าไม่เหมือนเดิม เพราะการทำศัลยกรรมพลาสติกเล็กน้อยของเทพธิดาแห่งความยุติธรรม ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่รังเกียจนะ”

เทพธิดาแห่งความยุติธรรม!

ช่างเป็นชื่อที่คุ้นเคยนัก

หรือว่าเทพธิดาแห่งความยุติธรรมจะบอกเส้นทางเพื่อขอให้เขาตามนางมา

หากมองมุมนี้ หลังจากกลับไปแล้ว นางต้องขอบคุณเทพธิดาแห่งความยุติธรรมแล้ว

ซูเสวี่ยเอ้อร์ลอบสาบาน

“คือแบบนี้เจ้าดูหล่อก็จริง แต่ข้าไม่สบายใจเล็กน้อย เจ้าเปลี่ยนกลับได้หรือเปล่า” ซูเสวี่ยเอ้อร์หัวเราะขณะถาม

“ได้อยู่แล้ว” กู่ฉิงซานตอบ

“งั้นก็ดี”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะผ่อนคลายทั้งร่าง

ร่างของนางสั่นไหวเล็กน้อย

โอกาสดี!

หลายคนกระตือรือร้นที่จะลอง

แต่ภาพติดตาสองสามร่างพลันปรากฏขึ้นข้างกู่ฉิงซานเพื่อขวางหน้าทุกคนเอาไว้

อะไรเนี่ย!

คนคนนี้มีอีกวิชาได้อย่างไร

ทำไมถึงใช้ภาพติดตาเหล่านี้ได้

ทุกคนก้าวถอยหลังอย่างระแวดระวัง

ตอนนี้ กู่ฉิงซานก้าวมาข้างหน้าเพื่อสวมกอดซูเสวี่ยเอ้อร์

“ไม่เป็นไรนะ ข้าอยู่นี่แล้ว”

เขากระซิบอย่างแผ่วเบา

………………………………….