webnovel

1068 แอนนาและเสี่ยวเมียว

ตอนที่ 1068 แอนนาและเสี่ยวเมียว

แอนนาและเสี่ยวเมียวตัวปลอมถูกมัดให้นอนอยู่บนพื้น

“อย่าขยับ ถ้าขยับ พวกเจ้าตาย”

กู่ฉิงซานคุกเข่าลง มือวางบนหน้าผากของแอนนาตัวปลอมก่อนใช้งานวิชาสืบค้นวิญญาณ

ผ่านไปสักพัก

“อืม… มันเป็นแบบนี้เองสินะ” กู่ฉิงซานพึมพำกับตัวเอง

“แบบไหนหรือ” เหล่าต้าถาม

กู่ฉิงซานตอบว่า “พวกนางคือสมาชิกกองกำลังโกลาหล พวกเขากลับมาจากอดีตจริงๆ”

“ในตอนนั้น ตอนโลกหอคอยถูกทำลาย พวกเราสู้กับกองกำลังโกลาหลของวิญญาณกรีดร้องหลายครั้ง ไม่มีใครสามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้”

“เสี่ยวเมียวและแอนนาอยู่กลุ่มพวกเราและกำลังจะข้ามกลับมาหาข้า”

“แต่ผลที่ได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของวิญญาณกรีดร้องก่อน ดังนั้นวิญญาณกรีดร้องและมังกรมารจึงตระเตรียมพวกตัวเองให้ปลอมเป็นเสี่ยวเมียวกับแอนนาแล้วส่งมาหาข้าก่อนเพื่ออยากล่อให้ไปติดกับ”

ทุกคนมองสองคนที่อยู่บนพื้น

หากมองเพียงแค่รูปลักษณ์ พวกนางสองคนก็คือแอนนากับเสี่ยวเมียวจริงๆ

ลอร่าอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “ทำไมพวกเจ้าถึงยังกล้าแสร้งเป็นพวกเราอยู่อีก รีบเปลี่ยนกลับเป็นรูปลักษณ์เดิมเดี๋ยวนี้!”

พวกนางสองคนไม่มีทางเลือกนอกจากคลายวิชาบนร่างออก

พวกเขาคือชายร่างกำยำสองคน

ผู้หญิงงดงามสองคนถึงกับเกิดจากผู้ชายสองคนนี้

ทุกคนมองพวกเขา มีกระเทียมติดอยู่ที่ฟัน เห็นขนจมูกลอดออกมา จากนั้นเห็นรอยสักตรงท่อนบนที่ไม่สวมเสื้อผ้า

คนหนึ่งสักลายกุหลาบ อีกคนสักลายลิลลี่

ทุกคนเงียบไปสักพัก

เย่เฟยหลีกระซิบว่า “สองบุปผา… พวกเจ้าเป็นพี่น้องงั้นหรือ”

“พี่ชายตาแหลมนัก” ชายร่างกำยำมีเคราเผยรอยยิ้มประจบออกมาก่อนพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “พี่ชาย ข้าไม่อยากแสร้งเป็นผู้หญิงหรอกนะ แต่เหล่าเทพสั่งมาแบบนี้ พวกข้าจำต้องทำ อภัยให้พวกข้าด้วย”

“ใช่ พี่ชายปล่อยพวกข้าไปเถอะ” ชายร่างกำยำอีกคนที่มีใบหน้าบึ้งตึงกล่าว

ลอร่าพึมพำว่า “ข้าไม่รู้ว่าทำไม… แต่ข้ารู้สึกอยากฆ่ามากขึ้นเฉยเลย…”

ตอนนี้ สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป

ในวังวนความว่างเปล่าอันมืดมิด สายลมเริ่มพัดหวีดหวิวอย่างรุนแรง

บางสิ่งกำลังมาจากสถานที่ที่คาดเดาไม่ได้อย่างรวดเร็ว

มีคนมาช่วยสองคนนี้งั้นเหรอ?

...

ทุกคนคิดเหมือนกัน

หลังจากพักได้สักพัก เหล่าต้ากลับมามีพละกำลังกายภาพขึ้นมาก ตอนนี้ เขาหยิบตรีศูลสีดำจากแผ่นหลังออกมา มือข้างหนึ่งถือตรีศูลเอาไว้ อีกข้างถือหนังสือ สายตาจ้องมองความว่างเปล่าแล้วกล่าวว่า

“ถ้าหากเป็นศัตรู ข้าจะเปิดฉากก่อน”

“ได้ พวกข้าจะหนุนหลังให้” กู่ฉิงซานกล่าว

ทุกคนเตรียมรับมือศัตรูอย่างรวดเร็ว

เวลานับถอยหลังอย่างรวดเร็ว

ภาพติดตาสองร่างวูบไหวมาจากความว่างเปล่าก่อนปรากฏตัวตรงหน้ายานอวกาศหนามทันที

เทียบกับชายร่างใหญ่สองคนเมื่อครู่แล้ว คนที่มารอบนี้นับว่าไวกว่า!

ทุกคนมองอีกฝ่าย

ผู้หญิงผมดำงดงามถือเคียวยาวแผ่ความลึกลับไปทั่วทั้งร่าง

ผู้หญิงงดงามอีกคนสวมเสื้อเชิ้ตลายทาง กระโปรงยาว ผ้าไหมสีดำและมีหูแมวสองข้างบนศีรษะ

แอนนา

เสี่ยวเมียว

กลายเป็นว่าพวกนางโผล่มาอีกแล้ว!

ทั้งสองคล้ายกับวิตกเล็กน้อย ตามร่างกายมีบาดแผลบางส่วน

“หิวน้ำจะตายอยู่แล้ว!” แอนนาอุทาน

นางโยนเคียวสีดำบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ เคลื่อนผ่านฝูงชน ตรงไปที่โต๊ะ เปิดขวดสุราแล้วเริ่มดื่ม

เสี่ยวเมียวกล่าวเสียงดังเช่นกันว่า “ต้องเดินทางข้ามมิตินับไม่ถ้วน เหนื่อย เหนื่อยเหลือเกิน!”

นางพบเก้าอี้ บั้นท้ายลงนั่ง แผ่นหลังพิงเก้าอี้ก่อนหอบหายใจเล็กน้อย

“กู่ฉิงซาน เอาของว่างมาให้กินหน่อย ข้ารีบมาจนพลังงานไม่เหลือ ต้องเติมเต็มพลังงาน” เสี่ยวเมียวกล่าว

ทุกคนมองหน้ากัน

กู่ฉิงซานตบถุงเก็บของ หยิบของว่างวิญญาณบางส่วนออกมา จัดวางบนถาดแล้วส่งไปตรงหน้าเสี่ยวเมียวอย่างเบามือ

ดวงตาของเสี่ยวเมียวทอประกาย นางรีบคว้าของว่างสองชิ้นแล้วเริ่มกิน

กู่ฉิงซานนั่งลงข้างนอกแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “กินช้าๆ ไม่ต้องห่วงนะ”

“ไม่มีทาง จะให้ช้าได้ไง อีกอย่าง พี่ชายข้ายังกินเร็วกว่าอีก”

เสี่ยวเมียวกล่าวอย่างคลุมเครือขณะกิน

กู่ฉิงซานหัวเราะก่อนส่ายหน้าอย่างจนใจ

เสี่ยวเมียวและแบร์รี่ยาจกมาหลายปี ทำให้หิวอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นเวลาพวกเขาเห็นอาหาร พวกเขาอดใจที่จะยัดมันเข้าปากไม่ได้ด้วยความกลัวว่าจะถูกคนอื่นแย่งไป

ตอนนี้ นาฬิกาปลุกสีขาวพลันปรากฏขึ้นระหว่างสองสาว

บนนาฬิกาปลุก เข็มชั่วโมงกับนาทีกำลังขยับ

เสียงกลไกดังขึ้นจากนาฬิกาปลุก “โปรดทราบ! โปรดทราบ!”

“พวกเจ้าสามารถอยู่ได้อีกสามนาที!”

สองสาววิตกเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“นี่… นี่มันอะไรน่ะ” กู่ฉิงซานถามสองสาว

แอนนารีบตอบว่า “พวกข้ากลับมาจากอดีตเพื่อส่งข้อมูลให้กับเจ้า เพราะพวกข้ามีนาฬิกาปลุกเรือนนี้ก็เลยมาหาเจ้าโดยตรงได้ พวกข้าจะต้องรีบกลับเมื่อเวลาบนนาฬิกาปลุกสิ้นสุดลง”

เสี่ยวเมียวตอบว่า “เพราะงั้นพวกข้าถึงต้องรีบ!”

หลังจากสองสาวกล่าวจบ พวกนางเมินกู่ฉิงซาน

เสี่ยวเมียวกลืนอาหารเข้าไปขณะเร่งความเร็วในการกิน

แอนนาดื่มสุราจนหมดขวดก่อนโยนขวดลงกับพื้นดังตุบ จากนั้นเปิดอีกขวดแล้วเทใส่ปากต่อ

ทุกคนพูดไม่ออก

เย่เฟยหลีกระซิบว่า “พวกนางมาที่นี่เพื่อส่งข้อมูลไม่ใช่หรือ”

ลอร่ากระซิบตอบว่า “อืม ก็อย่างที่พวกนางว่ามานั่นแหละ”

กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนโบกมือ “พวกเจ้าไม่ต้องระวังตัวกันแล้วล่ะ”

ทุกคนเก็บอาวุธ

ผ่านไปหนึ่งนาที

ผ่านไปหนึ่งนาทีครึ่ง

เสี่ยวเมียวกล่าวอย่างจริงจังขณะกินอยู่ว่า

“แอนนา เวลาเลยมาเยอะแล้ว พูดเข้าเรื่องเลยดีกว่า!”

แอนนาวางสุราขวดที่สองลงบนโต๊ะก่อนหยิบขวดสุราที่เหลือบนโต๊ะเข้ามิติส่วนตัวของตัวเอง

หลังจากทำแบบนี้ นางหันหลัง ก้าวมาข้างหน้าแล้วกอดกู่ฉิงซานก่อนกล่าวว่า “พวกข้ามาที่นี่เพื่อส่งมอบบางสิ่ง… เดี๋ยวนะ สองคนนั้นเป็นคนของเจ้าหรือ”

นางมองชายร่างกำยำสองคนที่อยู่บนพื้นอย่างระแวดระวัง

“อ๋อ พวกเขาปลอมตัวเป็นพวกเจ้าเมื่อครู่เพื่ออยากลากพวกข้าไปติดกับน่ะ” กู่ฉิงซานตอบ

แอนนาขมวดคิ้ว

“ผู้หญิงคนนี้คือเทพแห่งความตาย ผู้ที่ปลอมเป็นเทพแห่งความตายย่อมสมควรตาย” นางกล่าว

ชายร่างกำยำสองคนพลันเอียงศีรษะ ชีวิตดับดิ้น

พวกเขาตายแล้ว

แอนนาหันศีรษะมากล่าวกับกู่ฉิงซานว่า “ณ ช่วงเวลานั้นในอดีต พวกข้าต่อสู้กับกองทัพโกลาหลหลายต่อหลายครั้ง ชนะบ้างแพ้บ้าง ท้ายที่สุด เสบียงทั้งหมดถูกใช้ แต่พวกข้าก็ยังไม่ชนะอย่างเบ็ดเสร็จ”

ทุกคนตกตะลึง

ไม่สงสัยเลยว่าสองคนนี้ถึงคล้ายกับภูตผีหิวกระหาย

แอนนากล่าวต่อว่า “หลายครั้งที่พวกข้าชนะเห็นๆ แต่สุดท้ายก็ยังลงมือช้าไปหนึ่งก้าว สาเหตุหลักเป็นเพราะวิญญาณกรีดร้องหาทางหนีได้ พวกข้าจึงไม่สามารถฆ่าได้”

“ฉิงซาน เจ้ายังคงเป็นผู้นำการต่อสู้ เป็นไปไม่ได้ที่จะออกจากสมรภูมิ ยิ่งมาพบตัวเองในตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ดังนั้นเขาเลยอยากให้พวกข้ากลับมาบอกเจ้าเรื่องหนึ่ง”

กู่ฉิงซานอดที่จะถามไม่ได้ว่า “ตัวข้าอยากบอกอะไรหรือ”

“วิญญาณกรีดร้องไม่สามารถถูกฆ่าได้อย่างสมบูรณ์ มันสามารถกลืนกินวิญญาณจากคนอื่นเพื่อฟื้นฟูตัวเองได้ตลอด”

“ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบกลับอดีต หาสิ่งนั้นให้เจอก่อน”

“หาอะไรหรือ” กู่ฉิงซานถาม

แอนนาดูไม่พึงพอใจ “ตัวเจ้าระวังเกินไป ไม่ยอมบอกข้าด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร เอาแต่บอกข้าว่าเจ้ามีชิ้นส่วนของสิ่งนั้น”

ชิ้นส่วน!

กู่ฉิงซานนึกถึงฉากในตอนนั้น

ด้วยความประหลาดใจ เสียงของผู้สร้างปฐพีดังก้องในหูของเขาอีกครั้ง

“เมื่อเจ้าถือชิ้นส่วนนี้ไว้ เจ้าจะสามารถสัมผัสตำแหน่งของหอกได้”

“จงถือมันไว้ มันจะพาเจ้าไปหาหอก ข้าบอกไม่ได้ว่าทำไม ข้าคิดเสมอว่าหอกนี้คือกุญแจสู่การยับยั้งวิญญาณกรีดร้อง”

“ความหวังทั้งหมดเริ่มจากตรงนั้น”

“เวลา… กระชั้นเข้ามาแล้ว”

กู่ฉิงซานครุ่นคิดถึงตอนนั้นอย่างละเอียด นาฬิกาปลุกสีขาวพลันกรีดร้อง

“ห้าวินาทีสุดท้าย!”

แอนนาหน้าแดงก่อนจูบแก้มกู่ฉิงซานต่อหน้าทุกคน

เสี่ยวเมียวรีบเก็บของว่างที่เหลือ

“เวลาหมดแล้ว!”

นาฬิกาปลุกส่งเสียงร้องคมปลาบ

‘ฟรึ่บ’

สองสาวหายไปทันที

ทุกคนเงียบ

เย่เฟยหลีถามว่า “นี่มันสถานการณ์บ้าอะไรกันเนี่ย”

…………………………