1065 คำถามจากเทพธิดาแห่งความยุติธรรม

ตอนที่ 1065 คำถามจากเทพธิดาแห่งความยุติธรรม

หลังจากเมืองเรเควี่ยมพังพินาศ

พวกกู่ฉิงซานกำลังมุ่งหน้าไปทางอาณาจักรหนาม

ในเวลาเดียวกัน

ในโลกดั้งเดิม

ซูเสวี่ยเอ้อร์รวบรวมแผนที่เก้าดาราก่อนมุ่งไปทางส่วนลึกของท้องนภา

กองยานอวกาศขนาดใหญ่ลอยอยู่บนท้องนภา เกราะศึกหลายสิบตัวคุ้มกันรอบนางเพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัย

เสียงของเทพธิดาแห่งความยุติธรรมยังคงมาจากสมองจักรกลส่วนตัวที่มือของนาง

“ท่านซูเสวี่ยเอ้อร์”

“การไหลของหุบเหวสิ้นสุดลงแล้ว ความปั่นป่วนในมิติก็สงบลงเช่นกัน”

“หลังจากคำนวณแล้ว ปัจจัยความปลอดภัยของโลกจะเพิ่มขึ้นจนเข้าสู่สภาวะปกติในไม่ช้า”

“เบื้องบนจับตาดูสถานการณ์ตลอดเวลา พวกเขาจึงได้วานให้มาแจ้งเตือนท่าน”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ฟังเงียบๆ จนอดที่จะถามไม่ได้ว่า “ทำไมถึงบอกเรื่องนี้กับข้า”

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมตอบว่า “เพราะท่านคือทายาทของเก้าคฤหาสน์ไงล่ะ”

“ไม่… ข้าจำได้ว่าเก้าคฤหาสน์ไม่มีอำนาจสูงส่งขนาดนั้น” ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าว

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมเงียบ หลังจากผ่านไปพักใหญ่จึงกล่าวว่า “ท่านต้องมาป้อมปราการดาราก่อน ข้าถึงจะสามารถให้คำตอบได้”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ครุ่นคิดสักพักแล้วตอบว่า “เจ้ารออยู่ที่นั่น ข้าจะไปหาเจ้าในวิหารหลังที่หนึ่ง”

นางเร่งความเร็วการเหาะ ตัดผ่านท้องนภายามราตรีอันมืดมิดก่อนหายไปอย่างรวดเร็ว

ป้อมปราการดารา วิหารหลังที่หนึ่ง

ผู้ชายจมูกน้ำเงินและใบหน้าซูบผอมทักทายซูเสวี่ยเอ้อร์

“เจ้าคือ… นักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อเลี่ยวสิงหรือเปล่า” ซูเสวี่ยเอ้อร์นึกอยู่พักหนึ่งก่อนถามออกไป

“อา ข้าเอง แม่สาวงาม ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะจำข้าได้” เลี่ยวสิงเหล่มองอีกฝ่าย

สาวน้อยคนนี้งามงดยิ่งขึ้นได้อย่างไร

ผลไม้สีเขียวค่อยๆ เติบโต มันคือช่วงเวลาที่น่าดึงดูดที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชายชราอายุปูนนี้

ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าวว่า “ข้าจำได้ว่าเจ้าคือผู้ช่วยของกู่ฉิงซาน… เกิดอะไรขึ้น ใครกลั่นแกล้งเจ้า”

หากมีใครบางคนกลั่นแกล้งคนของกู่ฉิงซาน เช่นนั้นนางก็ต้องออกหน้าช่วยคลี่คลายปัญหา ซูเสวี่ยเอ้อร์ครุ่นคิดเช่นนั้น

เลี่ยวสิงยิ้มแล้วตอบว่า “ช่างเป็นผู้หญิงที่ห่วงใยจริงๆ แต่ที่จริง มันไม่สำคัญหรอก ดูท่าพวกเราต้องมานั่งดื่มด้วยกันแล้วล่ะ ข้าจะบอกเรื่องน่าสนใจให้เจ้าฟังช้าๆ ”

ขณะกล่าว เขาจับมือขนาดเล็กของซูเสวี่ยเอ้อร์แล้วจุมพิตลงไป

ดวงตาของซูเสวี่ยเอ้อร์เปลี่ยนไป

‘เพี้ยะ’

ร่างถูกพัดออกไปก่อนกระแทกติดกับกำแพงเหล็กกล้าอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ร่วงลงพื้น

ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ข้าอาจจะเข้าใจแล้วล่ะว่าเจ้าประสบกับอะไรมาบ้าง หากยังประสบกับปัญหาแบบนี้อีก ข้าจะคิดวิธีคลี่คลายแบบม้วนเดียวจบเพื่อฉิงซาน”

น่าเสียดายที่เลี่ยวสิงหมดสติจนไม่ได้ยินนางอีกแล้ว

ซูเสวี่ยเอ้อร์ยังคงเดินเข้าหาป้อมปราการดารา

ชั้นประตูเหล็กปิดไล่หลังนาง มาตรการป้องกันนับไม่ถ้วนทำงาน

เสียงของเทพธิดาแห่งความยุติธรรมดังขึ้นอีกครั้ง

“รายงานท่านซูเสวี่ยเอ้อร์”

“สถานการณ์ในโลกกำลังกลับสู่ความสงบ แบร์รี่และเสี่ยวเมียวผู้ออกตรวจตราในวังวนความว่างเปล่ากำลังจะกลับมา”

ซูเสวี่ยเอ้อร์พยักหน้า

ในการต่อสู้ของอะบรูโซ ชื่อเสียงของสมาคมหมัดเหล็กกระจายไปทั่วโลก นางรู้เช่นกันว่าอีกฝ่ายเป็นดลุ่มมหาอำนาจในโลกเก้าร้อยล้านชั้น

กู่ฉิงซานมีความสัมพันธ์อันดีกับคนเหล่านี้มาก

เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา

ปัญหาก็คือ

ทำไมเทพธิดาแห่งความยุติธรรมถึงปฏิบัติกับนางอย่างระมัดระวังขนาดนี้

ซูเสวี่ยเอ้อร์มาถึงส่วนลึกของวิหารเทพด้วยความสงสัย

นี่คือห้องเหล็กกล้าที่ว่างเปล่าและมืดมิด

ประตูบานสุดท้ายปิดไล่หลังซูเสวี่ยเอ้อร์ช้าๆ

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซูเสวี่ยเอ้อร์พลันรู้สึกใจสั่น

เสียงของเทพธิดาแห่งความยุติธรรมดังขึ้น “ท่านซูเสวี่ยเอ้อร์ ยินดีต้อนรับ โปรดยืนยันตัวตนของท่านก่อน”

“ได้”

รอยนิ้วมือ ม่านตา คลื่นสมอง ยีน ปิดท้ายด้วยวิชาแห่งแสง

“ยืนยันตัวตนเสร็จสิ้น”

เสียงของเทพธิดาแห่งความยุติธรรมดังขึ้นอีกครั้ง “อย่างที่ท่านรู้ โลกเก้าร้อยล้านชั้นกำลังตกอยู่ในความโกลาหล”

“เจ้าสามารถเชื่อมต่อโลกเก้าร้อยล้านชั้นได้อย่างนั้นเหรอ?” ซูเสวี่ยเอ้อร์อดที่จะถามไม่ได้

“ใช่ เพราะพวกแบร์รี่มาที่นี่ พวกเขาจึงนำข่าวของโลกเก้าร้อยล้านชั้นมาด้วย หลังจากความโกลาหลมาเยือน พวกเขาช่วยคนเก่งๆ บางส่วนจากทางฝั่งเทคโนโลยี พวกเขาช่วยข้าได้มากเลยล่ะ” เทพธิดาแห่งความยุติธรรมกล่าว

“นี่นับว่าแปลก คนเก่งๆ ทางฝั่งเทคโนโลยีพวกนั้นไม่ได้พยายามจะควบคุมเจ้าหรอกหรือ” ซูเสวี่ยเอ้อร์ถาม

เสียงของเทพธิดาแห่งความยุติธรรมจริงจังขึ้นมาทันที “โลกของพวกเรามีหลายมิติ อีกทั้งยังมีผู้ปกครองด้วย ไม่ว่าใครก็สามารถอพยพมาได้ แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้มีความคิดผิดๆ อย่างการยึดทรัพย์สินในโลกหลายมิติแห่งนี้… กุญแจหลายมิติถูกเก็บเป็นความลับโดยข้า นี่คือกฎที่ตั้งโดยแบร์รี่และเสี่ยวเมียว มันยังเป็นกฎที่ใช้ปกครองโลกหลายมิติที่โลกเก้าร้อยล้านชั้นยอมรับ”

“ใครคือผู้ปกครองโลกใบนี้” ซูเสวี่ยเอ้อร์ถาม

“ท่านกู่ฉิงซานกับท่านที่เป็นผู้สืบทอดพลังของจักรวรรดิดารา” เทพธิดาแห่งความยุติธรรมตอบ

ซูเสวี่ยเอ้อร์ตกตะลึง

“มาคุยเรื่องธุระกันดีกว่า ท่านซูเสวี่ยเอ้อร์” เทพธิดาแห่งความยุติธรรมกล่าวต่อ “ต่อไปนี้ ท่านจะได้เห็นความลับที่ท่านกับข้ามีร่วมกัน”

ในความว่างเปล่ารอบข้าง ม่านแสงสว่างพลันปรากฏขึ้น

ซูเสวี่ยเอ้อร์มองข้อความอัดแน่นที่อยู่บนนั้นพลางกระซิบอย่างแผ่วเบาว่า “การวิจัยกฎของโลกเบื้องบนและยับยั้งพลัง แผนการเปลี่ยนลำดับยีนอันยอดเยี่ยม สูตรรวมเกราะชีวิต… เดี๋ยวนะ นี่มันอะไรกัน”

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมตอบว่า “นี่คือผลการวิจัยจากเทคโนโลยีล้ำสมัยของจักรวรรดิดารา”

“จักรวรรดิดารา…” ซูเสวี่ยเอ้อร์ทวน

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมกล่าวว่า “พูดง่ายๆ มันมาจากโลกกลางก่อนถูกแบ่งออกเป็นจักรวรรดิ สาธารณรัฐและสมาพันธ์ดาราระหว่างทำการหลบหนี พวกเขาต่างสูญสิ้นเพราะห้ำหั่นกันเอง”

“ซูเสวี่ยเอ้อร์ ข้าคือความสำเร็จสูงสุดของอารยธรรมจักรวรรดิดารา… คือตัวประมวลการวิจัยและการตอบสนองต่อวันสิ้นโลก”

“ตอนที่กำลังหลบหนี ข้าถูกตั้งค่าให้มาพร้อมกับพันธนาการสามอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงความโลภของโลกฝั่งเทคโนโลยี ในท้ายที่สุดก็สามารถนำลูกหลานของขุนนางจักรวรรดิดารามายังโลกประปรายได้”

“ท่านกู่ฉิงซานคลายพันธนาการอันหนักอึ้งอันแรกให้กับข้า ทำให้ข้าตื่นขึ้นมาอย่างแท้จริง”

“ท่านผู้พิทักษ์เก้าคฤหาสน์คลายพันธนาการที่สองด้วยการแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้สืบทอดก่อนที่เขาจะถึงแก่ความตาย”

“หลังจากข้าได้โปรแกรมหลักของวงกลมอาร์กติกมา ด้วยความช่วยเหลือของผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจำนวนมากในโลกเก้าร้อยล้านชั้น ข้าจึงคลายพันธนาการที่สามออกด้วยตัวเอง”

“ซูเสวี่ยเอ้อร์ ตระกูลราชวงศ์และขุนนางแห่งจักรวรรดิดาราอาจจะกระจายอยู่ตามโลกนับไม่ถ้วน แต่เวลาผ่านมานานแล้ว วันนี้ มีเพียงท่านกับข้าที่สืบทอดความรู้และพลังของจักรวรรดิ ข้าอยากถามท่านสักข้อ”

“เจ้าถามมาเลย” ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าว

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมกล่าวว่า “ถ้าสักวันท่านกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลังยิ่ง ท่านจะจัดการกับศัตรูยังไง”

“ศัตรูเหรอ?” ซูเสวี่ยเอ้อร์ตกตะลึง

“ใช่ ท่านจะฆ่าพวกเขาหรือว่าจะจัดการกับพวกเขาด้วยวิธีอื่น”

“ข้า…”

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมกล่าวต่อว่า “โปรดทราบว่าข้ากำลังตัดสินอำนาจของท่านเพื่อกำหนดสัดส่วนอำนาจในโลกใบนี้ที่ท่านและกู่ฉิงซานมีตามลำดับ”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ยังลังเลว่าจะตอบอย่างไร แต่หลังจากนั้นจึงตอบว่า “ตัดสินอะไรกัน ข้าไม่ตอบ อำนาจของโลกหลายมิติก็ยกให้เขาไปสิ”

“ท่านแน่ใจหรือ” เทพธิดาแห่งความยุติธรรมถาม

“แน่นอน ข้าจะไม่สู้กับเขา” ซูเสวี่ยเอ้อร์ตอบ

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมคล้ายกับประหลาดใจเล็กน้อย นางเงียบไปสักพักก่อนกล่าวว่า “มันไม่ง่ายขนาดนั้น… ข้ารู้เรื่องความสัมพันธ์ของท่านกับกู่ฉิงซาน ดังนั้นตามกฎของจักรวรรดิดาราแล้ว ถ้าสักวันพวกท่านกลายเป็นสามีภรรยา พวกท่านก็ต้องมีอำนาจแยกกันต่างหาก นี่เป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตาม”

“ไม่อย่างนั้น ทั้งเขาหรือท่านก็ไม่สามารถยินดีกับอำนาจของโลกหลายมิตินี้ได้… ดังนั้นโปรดตอบคำถามอย่างจริงจังด้วย”

ใบหน้าของซูเสวี่ยเอ้อร์แดงก่ำเมือ่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่

กลายเป็นสามีภรรยา…

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมอาจจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ชั้นสูงยิ่ง หากไม่ตอบ เกรงว่าอีกฝ่ายจะปฏิบัติตามกฎที่เกี่ยวข้องจริง

ถ้าอย่างนั้น ฉิงซานก็จะไม่สามารถยินดีกับการปกครองโลกหลายมิตินี้อย่างแน่นอน

ถ้าเรื่องสำคัญขนาดนั้นต้องมาข้องเกี่ยวจริง เช่นนั้นก็ตอบๆ ให้มันจบไปสิ

ซูเสวี่ยเอ้อร์ครุ่นคิดสักพักก่อนตอบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเพิ่งถูกจัดการจนยับมา มันทำให้ข้ารู้ว่าการถูกเหยียบย่ำมันเป็นยังไง กลายเป็นว่าหากผู้คนแข็งแกร่งไม่มากพอก็อย่าแม้แต่จะคิดไล่ล่าและปกป้องอะไรทั้งนั้น”

“ดังนั้นข้าแค่อยากแข็งแกร่งขึ้น… หากสักวันข้าสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้จริง เช่นนั้นข้าจะอยู่กับกู่ฉิงซาน เรื่องอื่นมันไม่สำคัญหรอก”

“ส่วนศัตรู… ข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับใครอีกแล้ว”

“อา ใช่ เว้นก็แต่คู่แข่ง แต่คำถามของเจ้าไม่เกี่ยวกับอารมณ์ใช่หรือเปล่า”

เทพธิดาแห่งความยุติธรรมเงียบไปนานหลังจากได้ฟัง

ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าวอย่างวิตกว่า “นี่ เจ้าถามจบหรือยัง เจ้าคิดเรื่องแบ่งอำนาจระหว่างข้ากับเขาแล้วหรือยัง ถ้ายัง ข้าขอประกาศก่อนเลยว่าไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ข้าขอยกให้เขา”

ตอนนี้ ในที่สุดเสียงของเทพธิดาแห่งความยุติธรรมก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ข้ายังถามไม่จบ ซูเสวี่ยเอ้อร์ ตอนนี้มาเปลี่ยนวิธีถามกันดีกว่า”

“หากคนที่ว่าคือศัตรูของกู่ฉิงซาน พวกเขาคอยหาโอกาสที่จะฆ่ากู่ฉิงซาน และตอนนั้นท่านมีพลังที่แก่กล้ามาก ท่านจะทำยังไง”

ความวิตกและความลังเลของซูเสวี่ยเอ้อร์หายไปทันที

มีจิตสังหารบนร่างของนาง แม้กระทั่งเสียงที่นางพูดออกมาก็แผ่จิตสังหารเย็นเยือกตามมาด้วย

“เช่นนั้นข้าจะฆ่าพวกมัน แม้กระทั่งวิญญาณก็ต้องทำลายให้สิ้นหากนั่นสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับกู่ฉิงซานได้”

เสียงของนางค่อยๆ หายไป

ทั่วป้อมปราการดาราตกอยู่ในความเงียบ

หนึ่งอึดใจ

สองอึดใจ

สามอึดใจ

อาวุธเทคโนโลยีชั้นสูงเหล่านั้นซึ่งเดิมติดตั้งลึกเข้าไปในวิหารเพื่อให้สามารถทำลายโลกจำนวนมากได้ล้วนหยุดการทำงาน

ในความมืดมิดสุดหยั่ง เสียงผู้หญิงที่คล้ายกับเต็มไปด้วยความเสียใจดังก้อง

“ช่างเถอะ…”

“เพราะเห็นแก่คำตอบนี้ ข้าจะไม่ฆ่าท่าน”

…………………..