webnovel

1033 ช่วยตายหน่อยแล้วกัน

ตอนที่ 1033 ช่วยตายหน่อยแล้วกัน

‘ติ๋ง’

โลหิตหลั่ง

หลินเต็มไปด้วยโลหิตขณะกำซากศพไว้ในมือแล้วโยนออกไปข้างหน้าอย่างแผ่วเบา

ซากศพวาดเป็นวิถีโค้งก่อนตกลงบนกองซากศพที่อยู่ไกลออกไป

อีกคนถูกสังหาร

หลินเช็ดโลหิตจากมุมปากก่อนตั้งท่าป้องกัน

นางเหมือนกับหินผา ถึงแม้จะเงียบ แต่ก็ขวางทางกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์ไม่ให้เข้าหาแอนนา

นั่นคือกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์ทรงพลัง

ขณะหวาดกลัวพละกำลังของหลิน พวกเขาโจมตีเป็นกลุ่ม ผลาญพละกำลังของหลินไม่หยุดหย่อน

หลินไม่สามารถไล่ตามไกลจนเกินไปได้

เพราะนางต้องคุ้มกันรอบข้างแอนนาเพื่อให้แน่ใจว่าแอนนาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ

การต่อสู้แบบนี้มันช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ

แต่มันไม่มีทางอื่นแล้ว

บนยอดเขาที่มีมรดกของเทพแห่งความตาย การต่อสู้ค่อยๆ มาถึงจุดสิ้นสุด

หลินใช้พลังไม่มากนักในการหยุดผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้เพื่อไม่ให้เข้ามาใกล้

บนแท่นบูชาภูเขาที่อยู่ด้านหลัง แอนนาลอยอยู่ในอากาศเงียบๆ มือถือเคียวสีดำ ดวงตาหลับ ปากท่องคาถาบางอย่างราวกับพิธีพิเศษกำลังดำเนินไป

นางยังรับมรดกของเทพแห่งความตายไม่เสร็จ

ตรงกันข้ามกับผู้หญิงสองคน ชายชราเดินออกมาจากกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์

“ช่างเป็นพลังและทักษะวิชายุทธ์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ชายชราเฝ้าสังเกตการณ์มานาน นับว่าได้ประโยชน์มากนัก หลังจากชายชราถอยกลับไปแล้ว ระดับการฝึกฝนจะต้องขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน”

ปากของหลินกระตุกเล็กน้อยขณะพูดประชดประชันว่า “ได้ประโยชน์มากงั้นหรือ เจ้าไม่แม้แต่จะกล้าสู้ด้วยซ้ำ เอาแต่ส่งลูกน้องให้มาตายอย่างเดียว การรับรู้ของเจ้ามันผิดเพี้ยนไปหมด”

ใบหน้าของชายชราค่อย ๆ หมองหม่นลง

ใช่แล้ว ทั้งที่เป็นผู้นำ ทั้งที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เพราะเล็งเห็นถึงพละกำลังของอีกฝ่าย เขาจึงไม่กล้าลงมือเอง

นี่มันทำให้ชื่อเสียงของเขาป่นปี้อย่างแท้จริง

ชายชรารู้สึกเกลียดชังอยู่ในใจ แต่ใบหน้ายังสงบ เขายกมือขึ้นเพื่อปรบมือ

ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งก้าวมาข้างหน้าแล้วรายงานว่า “ผู้อาวุโส ตามที่ท่านสัมผัสได้ นางยังเหลือพละกำลังอีกครึ่งหนึ่งและได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นนางไม่สามารถต่อสู้ด้วยพละกำลังทั้งหมดได้แล้ว”

ชายชรายิ้มอย่างมีชัย

“นักรบสาว ถึงแม้เจ้ากำลังจะตาย แต่เจ้าถึงกับสามารถเรียนรู้บางสิ่งจากเหตุการณ์นี้ได้ นั่นก็คือ”

“เจ้าไม่ควรเป็นศัตรูเลย”

หลินได้ยินดังนั้นจึงกล่าวอย่างสงบว่า “ความตายคือบ้านของนักรบ ข้าไม่แปลกใจหรอกนะ”

นางยกมือขึ้น ข้างหนึ่งเป็นรูปหมัด อีกข้างเป็นฝ่ามือ กลิ่นอายของนางพลันเปลี่ยนไป

“ฮ่า!”

นางตะโกนออกมาเสียงดัง แสงสีขาวปั่นป่วนพุ่งออกมาจากร่างของนาง

ใต้เท้านาง ยอดเขาคล้ายกับถูกพลังมหาศาลบางอย่างครอบงำจนสั่นสะเทือนเล็กน้อย

เพราะมองเห็นชัดเจน ผู้ฝึกยุทธ์จึงอดที่จะก้าวถอยออกมาไม่ได้

หลินรักษาท่วงท่าขณะเฝ้ามองด้านหลังอย่างเงียบงัน

น่าเสียดาย แอนนายังหลับตาอยู่ราวกับกำลังสื่อสารกับแท่นบูชา

หลินลอบถอนหายใจก่อนหันความสนใจกลับมามองผู้ฝึกยุทธ์ตรงหน้า

ไม่มีทางเลยจริงๆ

ภูเขาส่วนใหญ่ที่นางสามารถสำรวจได้นั้นว่างเปล่า

นางเป็นคนเดียวที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูเหล่านี้

นางตะโกนอีกครั้ง “มาสิ เข้ามาตายเลย!”

ผู้ฝึกยุทธ์มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร

ผู้หญิงคนนี้ลงมือโหดเหี้ยม วิชาไร้ที่สิ้นสุด ไม่มีใครกล้าลงมือบุ่มบ่าม

ผู้ฝึกยุทธ์ตะโกนว่า “ผู้อาวุโส นางเอาจริงแล้ว ไม่ผิดแน่ นี่เป็นการโจมตีสุดท้ายของนาง!”

ชายชราถอยมาอยู่ด้านหลังทุกคนอย่างไม่ลังเล

ใช่แล้ว เหตุการณ์ต่อจากนี้คือการต่อสู้อันหนักหน่วงที่ทำให้ถึงตายได้

ชายชราตะโกนอย่างวิตกว่า “ฟังคำข้า ทุกคนรับการโจมตีนางเท่าๆ กัน ไม่มีปัญหาแน่นอน”

“ขอรับ!”

ผู้ฝึกยุทธ์ขานรับ

พวกเขาพุ่งออกไป

ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝั่งหดลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายของหลินทะยานขึ้นอีกครั้ง นางเตรียมตัวที่จะตาย

ทันใดนั้น พื้นพลันสั่นสะเทือน

ทุกคนนิ่งด้วยความระแวดระวัง แม้แต่หลินก็ไม่เว้นเช่นกัน

เพราะครั้งนี้ มันไม่ใช่การสั่นไหวเล็กน้อย

ภูเขาทั้งลูกกำลังขยับ!

“เกิดอะไรขึ้น นางทำอะไร!” ชายชราถามเสียงดัง

“ข้าไม่รู้ นายท่าน ครั้งนี้ไม่ใช่ฝีมือนาง!” ผู้ฝึกยุทธ์ตอบอย่างวิตก

ขณะทั้งสองสนทนา พื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง

ทุกคนล้มลงก่อนพลันหยุดกับที่

ครั้งนี้ ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนรับรู้ถึงความจริงบางอย่าง

ภูเขาสีดำทั้งลูกกำลังจมลง

“นี่มันเป็นไปไม่ได้ พวกเราเคยลองแล้ว ภูเขาลูกใหญ่ขนาดนี้ หินทุกก้อนแข็งมาก ทุกส่วนสามารถใช้เป็นอาวุธได้เกือบทั้งหมด” ชายชราพึมพำ

ภูเขาสีดำยังคงจมลง

ทุกคนตกอยู่ในความตื่นตระหนกอย่างรวดเร็วขณะตรวจจับรอบข้างอย่างเต็มที่

ภูเขาไม่สามารถหายไปจากอากาศบางได้

ถ้างั้นมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ

หลินก้าวถอยหลังเพื่อปกป้องแอนนาให้ง่ายขึ้น

เมื่อผู้ฝึกยุทธ์เห็นดังนี้ พวกเขาก็ไม่กล้าบุกเข้าไป

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือรับรู้สถานการณ์

ไม่ช้าทุกคนก็รู้สึกได้

ภูเขาทั้งลูกไม่สั่นไหวอย่างรุนแรงอีกแล้ว

ราวกับว่าหลังจากการจมลงก่อนหน้านี้หลายครั้ง ภูเขาก็ชำนาญวิชาหดตัวก่อนเริ่มเคลื่อนลงมาช้าๆ อย่างเงียบงัน ชำนาญและนุ่มนวล

หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ

ความเร็วการจมลงของภูเขายังคงเพิ่มขึ้น ปฐพีค่อยๆ ปรากฏต่อสายตาทุกคน

“ผู้อาวุโส ดูนั่น!”

ผู้ฝึกยุทธ์ตะโกน

ชายชรามองไปทางที่อีกฝ่ายชี้อย่างรวดเร็ว

ชั่วพริบตา ทุกคนหันไปมองพื้นราบ

พวกเขาเห็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มีผ้าสีดำพันหน้ายืนอยู่ มือถือดาบเอาไว้ขณะกวัดแกว่งจนเกิดเป็นภาพติดตาแพรวพราว

เขาดูผ่อนคลายยิ่ง ทุกครั้งที่ตวัดดาบจะมีเสียงหวีดหวิวดังตามมา

ภาพติดตาของวิชาดาบฟาดใส่ภูเขาสีดำครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนกวาดชั้นละเอียดอ่อนของภูเขาอย่างรวดเร็ว

ยอดเขาไม่เบ้ออกเนื่องจากการกระหน่ำของพลังงานดาบ อีกทั้งยังเป็นส่วนที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่บุบสลายแต่อย่างใด

เงาดาบพุ่งออกไปไม่มีสิ้นสุด เพราะความเร็วสูงมาก ทำให้ผู้คนมองเห็นเป็นเพียงภาพติดตาเลือนราง

ภูเขาทั้งลูกหดลงอย่างรวดเร็ว สม่ำเสมอและเงียบงันภายใต้การฟันของเงาดาบ

นี่มันวิชาดาบอะไรกัน!

ขณะทุกคนมอง นอกเหนือจากแท่นบูชาที่แอนนาอยู่แล้ว ภูเขาทั้งลูกกลับราบเรียบ

ทุกคนยืนอยู่บนพื้น

ตอนนี้ ผู้ชายปิดผ้าสีดำบนใบหน้าชักดาบออกมา

เขาขยับคอ พาดดาบไว้บนบ่า หยิบขวดสุราแรงออกมาแล้วดื่มเข้าไป

หลังจากดื่มไปสักพัก ผู้ชายเก็บขวดก่อนกล่าวขอโทษว่า “ขอโทษที เพราะข้าฟันหนักไปนิดก็เลยทำให้คอแห้งนิดหน่อย แต่ในที่สุดข้าก็ฟันจนเสร็จ”

เขาพูดเหมือนกับเพิ่งฟันผลไม้มา ไม่ใช่ภูเขาที่มีมรดกเทพ

ผู้ฝึกยุทธ์มองเขาพลางคิดเช่นนั้น พูดอะไรไม่ออกสักพักใหญ่

ผู้ฝึกยุทธ์ “อาวุโส” คล้ายกับอยากพูดบางอย่าง

ชายชรายกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้หยุด

ชายชรากล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “วิชาดาบเช่นนั้นเป็นการรวมดาบทั้งหมดให้เป็นดาบเล่มเดียว เกรงว่ามันเกินกว่าขอบเขตของนักดาบนิรันดร์ พวกเรายังต้องให้ความเคารพยำเกรงไม่มากก็น้อย”

เขาประสานมือไปทางอีกด้านหนึ่งแล้วกล่าวว่า “เหยาอู๋ฉี ผู้อาวุโสจากสำนักชางอวี่ ไม่ทราบว่าท่านเป็นใครกัน”

ชายคนนั้นประสานมือเล็กน้อยเช่นกันก่อนตอบว่า “สำนักร้อยบุปผา กู่ฉิงซาน”

“ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไรหรือ”

“แค่มาตามหาความยุติธรรมน่ะ”

“โห ท่านกับข้าไม่รู้จักกัน ขอบังอาจถามได้หรือไม่ว่ามันเรื่องอะไร”

“การฝึกฝนไม่ใช่เรื่องง่าย โปรดรักชีวิตตัวเองแล้วออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”

ชายชราหรี่ตาขณะมองอีกฝั่ง

หลินยืนอยู่กับที่ ไม่พูดไม่จา

แต่นางคล้ายกับไม่สามารถหักห้ามรอยยิ้มที่มุมปากไว้ได้

เป็นพรรคพวกของพวกนางนี่เอง

ชายชราพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา

บัดซบ

เป็นเรื่องยากที่เอาชีวิตมนุษย์เข้าไปแลกจนกระทั่งลดทอนพลังของนักรบหญิงลงไปได้ แต่เขาต้องตัดใจเพียงเพราะนักดาบคนนี้หรือ

ถึงแม้วิชาดาบของนักดาบคนนี้จะน่าทึ่ง แต่ระดับการฝึกฝนถือว่าต่ำกว่า ไม่มีทางต้านทานคนเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน

ต้องฆ่า…

ต่อให้นักรบหญิงจะเข้ามาช่วยด้วยก็คงพรากได้แค่เจ็ดถึงแปดชีวิตเท่านั้น

ชายชราประเมินเล็กน้อยก่อนจะรับรู้อยู่ในใจ

เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “ถ้าพวกข้าไม่ถอย ท่านจะทำยังไงล่ะ”

พูดแบบนี้ ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนย่อมเข้าใจก่อนปลุกพลังขึ้นมา เป็นสัญญาณว่าพร้อมโจมตี

ตรงข้ามพวกเขา กู่ฉิงซานอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

เขาเปิดปากแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยตายหน่อยแล้วกัน”

“โห ท่านอยากฆ่าข้าหรือ” ชายชรายืนอยู่ด้านหลังกลุ่มคนก่อนยิ้มอย่างนึกสนุก

แต่ทันใดนั้นก็มีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น!

งูยาวสีดำและงูยาวสีขาวพลันปรากฏขึ้น พวกมันล้อมชายชราเอาไว้ พุ่งขึ้นจากฝ่าเท้าของเขาก่อนโอบรัดตัวอย่างรวดเร็ว

งูทั้งสองพลันกลายเป็นผู้หญิงชุดดำและผู้หญิงชุดขาวก่อนหายเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างช้าๆ

“ไม่ งูแฝดอมตะ! นี่มันทักษะวิเศษของพวกข้า นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

…………………………