webnovel

1006 ของว่าง

ตอนที่ 1006 ของว่าง

ในห้องโถง กลุ่มต่างๆ กำลังสนทนาเกี่ยวกับการเข้ามาใหม่ของพวกกู่ฉิงซาน

ผู้ชายสวมมงกุฎกล่าวว่า “จู่ๆ พวกเขาก็ปรากฏตัวในเมืองเรเควี่ยม จะต้องดึงดูดสายตาสงสัยใคร่รู้มากมายอย่างแน่นอน แบบนั้นจะเป็นปัญหากับชีวิตในอนาคตของพวกเรา”

ผู้อาวุโสถามว่า “ราชาพูดเช่นนี้หมายความว่ายังไง”

พวกกู่ฉิงซานหันไปมองพร้อมกัน

กลายเป็นว่าคนที่สวมมงกุฎคือราชาของเมืองเรเควี่ยม

ราชากล่าวว่า “ให้พวกเขาเข้าอารักขาอาณาจักร ตัวตนของอารักขายังคงเป็นความลับ นอกจากข้าก็ไม่มีใครกล้าจงใจสืบเรื่องพวกเขาอย่างละเอียดหรอก”

เจ้าหน้าที่ทหารเงียบ

ผู้อาวุโสครุ่นคิด

ในโถง คนส่วนใหญ่เงียบ มีไม่กี่เสียงที่เห็นด้วย “ราชาพูดถูก”

มีความยำเกรงอย่างเห็นได้ชัดอยู่ในชั้นบรรยากาศ

ราชามองผู้คนแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อทุกคนไม่คัดค้าน”

“ไม่ นั่นมันไม่เหมาะสมเอาเสียเลย”

เทพวารีแห่งสี่เสาหลักขัดราชาเสียงดัง

ราวกับจู่ๆ ทุกคนกลับมามีชีวิต พวกเขากล่าวพร้อมกันว่า “ขอให้ท่านเทพประทานเจตจำนงด้วย”

ราชาโน้มตัวเช่นกันแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่คิดให้ถี่ถ้วนเอง ท่านเทพโปรดยกโทษให้ข้าด้วย”

โดยไม่แม้แต่เหลียวแลราชา เทพวารีแห่งสี่เสาศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า “เพราะอัครสาวกเป็นผู้พาตัวพวกเขามา พวกเราควรจัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่เพื่อให้ทุกคนรับรู้ถึงตัวตนของพวกเขา”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งในกลุ่มผู้อาวุโสเดินออกมา คุกเข่าลงข้างหนึ่งต่อหน้าเทพวารีเพื่อคารวะ “ตามแต่เจตจำนงของท่านเทพ พวกเราควรจัดงานฉลองเช่นไร ยังไงเสีย พวกเราไม่เคยต้อนรับคนนอกมาก่อน”

“นี่คือปัญหาเช่นกัน พวกเจ้าสามารถออกความเห็นได้อย่างเต็มที่เลย”

หลังจากเทพวารีพูดจบ เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “ให้แขกยืนดูพวกเราคุยกันมันไม่ดีเท่าไหร่นัก เริ่มจากพาพวกเขาไปพักก่อน หาอะไรให้กิน จากนั้นก็เปลี่ยนชุด”

“รับทราบ”

สาวใช้หลายคนก้าวมาข้างหน้าเพื่อพาพวกกู่ฉิงซานออกจากโถง

เทพวารีจ้องแผ่นหลังของคนกลุ่มนั้น รอยยิ้มอบอุ่นปรากฏบนใบหน้า

“ในที่สุดพวกเราก็มีเลือดบริสุทธิ์มาเข้าร่วมแล้ว”

นางกล่าวอย่างมีอารมณ์

ในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่

อักขระอันวิจิตรถูกสลักบนผนัง พรมเป็นขนสัตว์นุ่มสีขาว

ชาและของว่างเตรียมพร้อมแล้ว

สาวใช้หลายคนมารวมตัวรอบด้าน ทันทีที่พบปัญหาอะไร พวกเขาจะเข้ามาทำตามคำสั่งในทันที

“เวลาสนทนายังอีกนานนัก โปรดทานของว่างก่อน”

สาวใช้คนหนึ่งหยิบจานของว่างมา เดินมาหากลุ่มคนแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบา

ทุกคนไม่ขยับ

ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยนี้ มีเพียงทวยเทพเท่านั้นที่รู้ว่าจะได้พบเจอกับความสามารถอะไร ใครเล่าจะกล้ากินอาหารของคนอื่นด้วยความเต็มใจ

สาวใช้เผยสีหน้าผิดหวัง ริมฝีปากเบ้เล็กน้อย “ของว่างนี้ทำขึ้นด้วยความเอาใจใส่ แถมรสชาติก็อร่อยด้วย”

หลังจากกล่าวจบ นางเดินกลับเพื่อเตรียมจะเอาของว่างวางไว้บนโต๊ะ

กู่ฉิงซานมองรูปลักษณ์ของสาวใช้ หัวใจพลันกระตุก

“ขอข้าสักชิ้นสิ”

เขากล่าว

สาวใช้ก้าวมาข้างหน้าพร้อมกับถือจานมาให้

กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปของว่างมาชิ้นหนึ่ง รอจนกระทั่งจี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนตรวจจนแน่ใจว่าไม่มีวิชาอยู่ในของว่างจึงนำเข้าปาก

อาหารอร่อยจริงๆ ไม่รู้ว่ามันทำอย่างไร แถมกู่ฉิงซานไม่เคยเห็นมันมาก่อน

“รสชาติอร่อยจริงๆ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าทำของว่างนี้ยังไง”

กู่ฉิงซานหยิบของว่างขึ้นมาอีกชิ้นขณะถามสาวใช้

สาวใช้คนอื่นๆ ประหลาดใจเล็กน้อย

คราวนี้เป็นจางหยิงห่าวที่อธิบาย “เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารชั้นยอด เป็นที่เลื่องชื่อในโลกเก้าร้อยล้านชั้น ทุกคนภาคภูมิใจที่ได้กินอาหารฝีมือของเขา”

สาวใช้เผยสีหน้าตกตะลึงออกมา

สาวใช้คนเดิมยิ้มอย่างสุภาพแล้วตอบว่า “นี่คือของว่างสำหรับตระกูลราชวงศ์ มีเพียงตระกูลราชวงศ์เท่านั้นที่รู้จักมัน ทว่า เพราะเป็นแขกผู้มีเกียรติที่นานๆ จะได้พบ พวกข้าจะไปถามให้ว่าสามารถบอกสูตรได้หรือเปล่า”

กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ถ้างั้นก็ขอบคุณมาก”

เขากับสาวใช้สบตากัน

สาวใช้ก้มศีรษะก่อนก้าวถอยกลับไปเงียบๆ

ทุกคนเพียงพักผ่อนเงียบๆ

ผ่านไปสักพัก สาวใช้คนอื่นมาพร้อมกับชุดของพวกเขา

“โปรดเปลี่ยนชุดของพวกท่านด้วย” พวกสาวใช้กล่าวพร้อมกัน

จางหยิงห่าวก้าวมาข้างหน้าเพื่อสัมผัส จากนั้นสื่อสารทางจิตกับกู่ฉิงซานว่า “ไม่มีปัญหา”

“ของมันแน่อยู่แล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรกับชุดพวกนี้มันก็ออกจะแปลกสักหน่อย” กู่ฉิงซานกล่าว

สาวใช้มองลอร่าแล้วกล่าวว่า “คงไม่ดีนักที่ท่านจะเปลี่ยนชุดที่นี่ โปรดตามข้าไปอีกห้องก่อนแล้วค่อยกลับมาทีหลัง”

ลอร่ามองกู่ฉิงซานด้วยสีหน้าลังเล

ชายหญิงมีความแตกต่างกัน อีกทั้งนางคือราชินีสูงศักดิ์ เป็นธรรมดาที่จะไม่สามารถเปลี่ยนชุดที่นี่ได้

แต่การห่างจากกู่ฉิงซานมันก็ออกจะน่ากลัวไปสักหน่อย

กู่ฉิงซานยิ้มแล้วกล่าวว่า “มานี่สิ พี่ชายคนนี้มีอะไรจะบอกเจ้า”

ลอร่ามาหาเขา

กู่ฉิงซานหยิบชุดคลุมสีดำแห่งความเงียบออกมา เขาบดบังสายตาของสาวใช้ก่อนเอามาคลุมให้ลอร่า

เพียงหนึ่งอึดใจ

ชุดคลุมกางออก

“จำที่ข้าบอกได้หรือยัง” กู่ฉิงซานถาม

ลอร่าพยักหน้าแล้วตอบว่า “อื้ม ข้าจะจำคำพูดของพี่ชาย จะไม่ทำเรื่องเสียมารยาทตอนอยู่ที่นี่”

นางพยักหน้าให้คนอื่นก่อนตามสาวใช้ไป

ไม่ช้า

พวกสาวใช้เหมือนจะได้รับข่าวบางอย่าง

พวกนางมองหน้ากันก่อนกล่าวด้วยท่าทางสุภาพว่า “โปรดเปลี่ยนชุดของพวกท่านที่นี่ พวกข้าจะกลับมาทีหลัง”

“ได้ ไปเถอะ พวกเจ้ามีงานหนักต้องทำนี่นะ” กู่ฉิงซานโบกมือ

พวกสาวใช้จากไป

กู่ฉิงซานมองจางหยิงห่าวทันที

จางหยิงห่าวสูดหายใจเข้าก่อนกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้ามีทางหลบหนีจากการไล่ล่ามากมาย แต่นี่คือโลกปิดตาย ศัตรูก็ทรงพลัง ต่อให้รอดจากกับดักไปได้ก็ไม่มีที่ให้หนีเลย”

“ไม่เป็นไร ตอนนี้เตรียมตัวก่อน พวกเขาน่าจะเริ่มลงมือแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม

“ได้”

จางหยิงห่าวเริ่มจั่วไพ่ในความว่างเปล่าทันที

เหล่าต้าเงียบอยู่นาน จากนั้นจึงถามว่า “ก่อนหน้านี้ที่เจ้าบอกว่าเทพวารีตรวจสอบพวกเรา นางพบอะไรหรือเปล่า”

กู่ฉิงซานตอบว่า “ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน”

หลังจากพูดจบ เขาสะบัดมือเพื่อปล่อยแสงสีน้ำเงินเข้มที่เทพวารีปล่อยออกมาตอนอยู่ในห้องโถง

แสงเจิดจ้านี้ตกลงมาก่อนห่อหุ้มทุกคนเอาไว้

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กพลันปรากฏขึ้น

“ท่านโหลดฟังก์ชันการตรวจจับขั้นสูงของระบบสงครามมนุษย์ขนาดใหญ่ชั่วคราว”

“ท่านได้รับข้อมูลต่อไปนี้”

“จางหยิงห่าว มนุษย์ สภาพการต่อสู้ เพียบพร้อม พละกำลังต่อสู้ ขั้นที่แปด”

“เย่เฟยหลี ผู้ทำลายล้างโลก สภาพการต่อสู้ อ่อนแอเล็กน้อย พละกำลังต่อสู้ ขั้นที่สิบ”

“กู่ฉิงซาน ไม่สามารถรับรู้ตัวตนได้ สภาพการต่อสู้ เพียบพร้อม พละกำลังต่อสู้ ขั้นที่ยี่สิบเอ็ด”

“เหล่าต้า ตัวตน ราชาแห่งแหล่งกำเนิดพลังอันไร้ขีดจำกัด สภาพการต่อสู้ อ่อนแอมาก พละกำลังต่อสู้ ขั้นที่เก้าสิบเก้า”

กู่ฉิงซานชำเลืองมอง

น่าแปลก

ถึงแม้เทพวารีองค์นี้จะไม่ใช่เทพวารีตัวจริง แต่กลับมีการโหลดฟังก์ชันการตรวจจับขั้นสูงของระบบสงครามมนุษย์ขนาดใหญ่เอาไว้ด้วย

นางเป็นใครกัน

ตอนที่เปิดปากถามเกี่ยวกับตัวตนข้า นางพยายามจะทำอะไรกันแน่

เวลาไม่คอยท่า กู่ฉิงซานไม่มีเวลามาคิดแล้ว เขาจึงตรงไปหาเหล่าต้าแล้วกล่าวว่า “พวกเขาอาจจะรู้แล้วว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส”

เหล่าต้าสัมผัสแสงสีน้ำเงินก่อนเข้าใจความหมายของคำพูดกู่ฉิงซาน

เขาถอนหายใจ “ข้าอยากใช้ตัวตนข้าเพื่อหยุดยั้งพวกเขา แต่ดูท่าคงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ”

กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “หยิงห่าว สถานการณ์แย่มาก พวกเราต้องเริ่มเดี๋ยวนี้”

จางหยิงห่าวแสดงไพ่ต่อหน้าทุกคนแล้วกล่าวว่า “นี่คือไพ่ตายข้า โปรดให้ความร่วมมือด้วย”

เขาเห็นนักฆ่าถือกริชคู่ถูกวาดอยู่บนไพ่ใบนั้น

ข้างนักฆ่า เงาของเขากลายเป็นคนจริงๆ ที่ทำท่าเหมือนกับนักฆ่า

จางหยิงห่าวโยนไพ่ออกไปแล้วกล่าวว่า “นี่คือไพ่หุ่นเชิดเลือดเนื้อที่สามารถรับความเสียหายแทนเราในจังหวะที่จะตายได้ มันจะแสดงบาดแผลเหมือนกัน ท้ายที่สุดจะกลายเป็นศพจริงๆ”

“เพื่อให้ทำงาน ต้องใช้พละกำลังเจ็ดสิบส่วนกับหยดเลือดหนึ่งหยดเพื่อปลอมเป็นศพของตัวเอง”

กู่ฉิงซานไม่ลังเลที่จะปล่อยลำแสงดาบออกไปเพื่อเฉือนนิ้ว หยดเลือดตกลงไปบนไพ่

ไพ่ส่องสว่างเล็กน้อย

เย่เฟยหลีปล่อยหยดเลือดลงบนไพ่เช่นกัน

เหล่าต้าลังเล “เลือดหยดสุดท้ายของข้าถูกใช้ไปแล้ว ควรทำยังไงดีล่ะ”

จางหยิงห่าวกล่าวว่า “เส้นผมก็ได้เหมือนกัน”

เหล่าต้าขมวดคิ้วก่อนดึงเส้นผมไปวางบนไพ่

กู่ฉิงซานมองจางหยิงห่าว

จางหยิงห่าวสัมผัสอยู่สักพักก่อนพยักหน้า “เจ้าสามารถใช้งานได้ทุกเมื่อ แต่หลังจากใช้งานแล้ว พละกำลังของข้าจะอ่อนแอลงมากจนไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้สักพัก”

“ไม่เป็นไร ตอนนี้พวกเรามารอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนท้าย”

กู่ฉิงซานกล่าว

เขาหยิบเศษกระดาษออกจากก่อนคลี่ออกต่อหน้าทุกคน

พวกเขาเห็นแถวข้อความศักดิ์สิทธิ์เขียนอยู่บนนั้น

“ข้าสามารถถ่วงเวลาได้สักพัก พวกท่านรีบหนีไป ไม่งั้นจะตายเอาได้”

ใต้ข้อความนั่น มีเส้นทางหลบหนีแบบเรียบง่ายถูกวาดเอาไว้

………………………………….