webnovel

0995 ผู้คนหาฝั่งลี้ลับ!

ตอนที่ 995 ผู้คนหาฝั่งลี้ลับ!

กู่ฉิงซานแบ่งทุกสิ่งที่เขารู้ ครุ่นคิดทีละน้อย อนุมานทีละอย่าง

สุดท้ายแล้ว เขาถอนหายใจ

มีข้อมูลน้อยเกินไป

เทพวารีหลับใหลอยู่บนไพ่

ผู้สร้างปฐพีดึงไพ่ใบนั้นออกมา จากนั้นส่งเข้าสู่ห้วงเวลาอันยาวนานโดยตรง

เขาไม่รู้ว่าผู้สร้างปฐพีเอาเทพวารีไปไว้ที่ไหน

เขาควรทำอย่างไรถ้าไม่สามารถตามหาไพ่เทพวารีเจอจริงๆ

อืม เขาต้องไปติดต่อกับบัญญัติอื่นด้วยเหมือนกัน

บัญญัติเทพ

แต่บัญญัติเทพคือศัตรูตัวฉกาจของบัญญัติราชามาร ต่อให้สามารถตามหาเจอได้อีกครั้ง บัญญัติราชามารจะตายทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับมัน

เขาทำได้เพียงไปหาซากศพขนาดใหญ่เมื่อมีอะไรคืบหน้า

แต่ตอนนี้เขาไปไม่ได้

ยิ่งกว่านั้น บัญญัติเทพและบัญญัติราชามารเป็นปรปักษ์ต่อกัน เกรงว่าพละกำลังจะไม่ดีเท่ากับเทพวารี

ดังนั้นพวกเขายังต้องตามหาเทพวารีก่อนอยู่ดี

กู่ฉิงซานส่ายหน้า นั่งลงที่ขอบชั้นดาดฟ้าช้าๆ ก่อนเริ่มคิดวิธีตามหาเทพวารีอย่างจริงจัง

ยานอวกาศราชินีหนามเคลื่อนผ่านความว่างเปล่าไม่มีสิ้นสุดขณะบินตรงไปข้างหน้า

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

กู่ฉิงซานยังไม่พบหนทาง

ในช่วงเวลานั้น ลอร่าถามหลายครั้งว่าควรให้ยานอวกาศราชินีหนามไปทางไหน

กู่ฉิงซานไม่สามารถบอกจุดหมายของยานอวกาศได้

เขาทำได้เพียงคิดและก็คิดเท่านั้น

หลายชั่วโมงต่อมา

ลอร่าออกมาจากห้องพักก่อนมานั่งข้างกู่ฉิงซาน

นางเอียงศีรษะขณะลอบมองกู่ฉิงซาน

ดวงตาของกู่ฉิงซานถูกซ่อนอยู่ในชุดสีดำ ริมฝีปากเม้มแน่น นิ้วหัวแม่มือจับตรงคาง

เขายังคิดอยู่

เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ ลอร่ายืนขึ้นก่อนจากไปเงียบๆ

อีกสามชั่วโมงผ่านไป

ลอร่ากลับมาอีกครั้ง

ครั้งนี้นางไม่ได้แอบมอง แต่เผชิญหน้ากับกู่ฉิงซานตรงๆ

กู่ฉิงซานยังอยู่ในท่าเดิม ไม่แปรเปลี่ยนแม้แต่นิดเดียว

เขายังคิดอยู่

ลอร่าลอบถอนหายใจก่อนเอานิ้วจิ้มกู่ฉิงซาน

“หืม ลอร่าเหรอ” กู่ฉิงซานคล้ายกับได้สติ

“กู่ฉิงซาน เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าน่ะ” ลอร่าถาม

กู่ฉิงซานมองสาวน้อยน่ารักตรงหน้า ทันใดนั้นก็นึกบางอย่างออก

“อา จะว่าไปแล้ว ลอร่าเจ้ามีสมบัติที่สามารถช่วยตามหาบางสิ่งได้หรือเปล่า” เขาถาม

“มีสิ เจ้ากำลังตามหาอะไรล่ะ” ลอร่าตอบอย่างมีความสุข

“บัญญัติ”

“บัญญัติหรือ บัญญัติราชามารก็อยู่กับเจ้าแล้วไม่ใช่หรือไง”

“ข้ากำลังตามหาบัญญัติอื่นอยู่น่ะ”

“…ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีสมบัติที่สามารถตามหาบัญญัติได้มาก่อน”

“อืม พูดให้ถูกก็คือมันเป็นไพ่ที่มีบัญญัติอยู่ข้างในน่ะ ลองคิดอีกรอบที อย่างไรเสีย เจ้าคือคนที่มีสมบัติมากที่สุด” กู่ฉิงซานกล่าว

ลอร่าส่ายหน้าก่อนถอนหายใจ “การค้นหาสมบัตินั้นยากมาก ของมีค่าอย่างแท้จริงล้วนเป็นสิ่งที่สรรค์สร้างจากฝั่งลี้ลับ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเบื้องต้นก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้”

เมื่อเห็นว่ากู่ฉิงซานร้อนใจมาก ลอร่าครุ่นคิดสักพัก จากนั้นกล่าวว่า “ส่วนใหญ่ของพวกนี้สามารถพบในสภาพที่จับต้องได้ แต่สิ่งที่เจ้าตามหาคือไพ่และบัญญัติ ไม่อยู่ในหมวดหมู่ของวัตถุทั่วไป หลังจากคิดดูแล้ว หากไม่ใช่พวกฝั่งลี้ลับที่มีความสามารถการล่าสมบัติและมีปัญญาเป็นของตัวเองก็เลิกคิดได้เลย ข้าทำได้เพียงแค่สัมผัสสมบัติเท่านั้น ไม่ใช่การล่าสมบัติ”

เมื่อได้ฟังคำอธิบายของลอร่า กู่ฉิงซานก็พลันนึกถึงไก่หลากสีสัน

ไก่หลากสีสันคือวัตถุที่มีข่าวกรองของหน้าต่างระบบเทพสงครามติดเอาไว้ ดังที่ลอร่ากล่าว มันครอบครองปัญญาเอาไว้ส่วนหนึ่งเช่นกัน

ไก่อาจจะสามารถตามหาเทพวารีเจอหรือเปล่า

น่าเสียดายที่ยังไม่หมดวัน ไก่หลากสีสันยังไม่สามารถใช้งานได้

กู่ฉิงซานเพียงถามหน้าต่างระบบเทพสงครามตรงๆ ว่า

“หน้าต่างระบบเทพสงคราม ข้าอยากตามหาไพ่เทพวารี ไก่หลากสีสันสามารถเผยเบาะแสได้หรือเปล่า”

‘ติ๊ง!’

เสียงคมชัดดังขึ้น

หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบว่า “น่าเสียดาย ข่าวกรองของเทพสงครามสามารถรวบรวมได้เพียงสิ่งที่ข้องเกี่ยวกับท่านในโลกเก้าร้อยล้านชั้นเท่านั้น ไม่ได้มีฟังก์ชันในการค้นหาสิ่งของจริงๆ ”

กู่ฉิงซานถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ ลอร่ามองหน้าเขาด้วยสีหน้าซีดเผือดจนอดที่จะเปลี่ยนใจไม่ได้

นางโบกมือแล้วกล่าวว่า “อย่าคิดมากเลย ข้าหิวแล้ว อยากกินอาหารฝีมือเจ้า”

“ได้”

กู่ฉิงซานไม่มีทางเลือกนอกจากตอบเช่นนั้น

ตอนนี้ลอร่ามีความสุขแล้ว

นางเข้าไปทักทายจางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีก่อนขอให้มาช่วยจัดโต๊ะกับเก้าอี้ด้วยกัน

กู่ฉิงซานหยิบหม้อ กระทะ ช้อนส้อมและเครื่องปรุงรสออกมาก่อนวางพวกมันทีละอย่าง

ใช่แล้ว

หาอะไรกินก่อน ปรับเปลี่ยนสภาพจิตใจสักหน่อย อาจจะทำให้ตอนหลังคิดอะไรออกขึ้นมาก็ได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ กู่ฉิงซานตัดสินใจทำอาหารอร่อยขึ้นมา

ขณะถือมีดทำครัวไว้ เขากล่าวกับทุกคนว่า “เอาล่ะ วันนี้ข้าจะทำอาหาร เป็นการฉลองที่พวกเราได้มารวมตัวกัน บอกสิ่งที่พวกเจ้าอยากกินมาได้เลย”

“ข้าอยากกินก๋วยเตี๋ยว” เย่เฟยหลียกมือขึ้น

“ไม่ วันนี้ไม่เหมาะกับก๋วยเตี๋ยวน่ะ” กู่ฉิงซานปฏิเสธทันที

“ถ้าอย่างนั้นข้าอยากกินข้าวผัดไข่” เย่เฟยหลีเปลี่ยนรายการ

“ง่ายๆ แบบนั้นเลยหรือ ได้” กู่ฉิงซานตกลง

จางหยิงห่าชำเลืองมองเย่เฟยหลีก่อนกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าไม่รีบร้อนไปหน่อยหรือ นานๆ ทีเขาจะทำอาหารแท้ๆ แต่เจ้าอยากกินข้าวผัดไข่เนี่ยนะ”

“ฮ่าๆ ข้าเคยกินตอนที่ยังร่ำเรียนอยู่น่ะ ถ้ามีเครื่องดื่มสักหน่อยคงสมบูรณ์แบบไปเลย” เย่เฟยหลีตอบจากก้นบึ้งของหัวใจ

“แล้วเจ้าล่ะ” กู่ฉิงซานมองจางหยิงห่าว

“ไม่ต้องสนที่ข้าพูดหรอก เอาข้าวผัดไข่เพิ่มอีกจาน เพิ่มไส้กรอกแฮมและก็เอาสุราด้วย” จางหยิงห่าวกล่าว

กู่ฉิงซานมองลอร่า

“ข้าไม่เคยกินข้าวผัดไข่มาก่อน ฟังดูดีไม่เบา ข้าเอาจานนี้ด้วยละกัน” ลอร่ากล่าว

กู่ฉิงซานมองเหล่าต้าอีกครั้ง

“ข้าไม่เคยกินข้าวผัดไข่มาก่อน เอาด้วยละกัน” เหล่าต้ายิ้ม

“ได้ วันนี้กินข้าวผัดไข่”

กู่ฉิงซานตัดสินใจได้

จางหยิงห่าวถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “หายากนะที่จะสามารถกินข้าวผัดไข่ในความว่างเปล่าของโลกนับพันล้านใบในช่วงที่วันสิ้นโลกใกล้เข้ามา”

ลอร่าดึงเย่เฟยหลีเข้ามาแล้วกระซิบว่า “ท่านเอิร์ลของข้า ข้าวผัดไข่มันคืออะไรกันแน่”

เย่เฟยหลีกระซิบตอบเช่นกันว่า “ท่านหญิง สิ่งนี้ทำง่ายมาก ใครๆ ก็รู้จัก ข้าเองก็ทำเป็นจนหลายคนที่กินแล้วชมไม่ขาดปาก แต่เพิ่งเคยเห็นกู่ฉิงซานทำนี่แหละ”

กู่ฉิงซานหยดพูดจาเหลวไหล เตรียมวัตถุดิบอย่างรวดเร็ว จากนั้นทำอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ ข่าวผัดไข่ห้าจานใหญ่ก็เสร็จสิ้น

หนึ่งคนต่อหนึ่งจาน

เขาส่งน้ำผลไม้ให้ลอร่า ส่งแชมเปญให้เย่เฟยหลีและเครื่องดื่มวิญญาณให้จางหยิงห่าว

“เจ้าอยากดื่มอะไร” กู่ฉิงซานถามเหล่าต้า

เหล่าต้ามองคนอื่นก่อนตอบว่า “ขอทั้งหมดนั่นละกัน ข้าอยากลองชิมดูน่ะ”

“ได้”

หกู่ฉิงซานส่งเครื่องดื่มทั้งสามมาให้เขาก่อนทำค็อกเทลให้ตัวเอง

“เอาล่ะ มาดื่มกินด้วยกันเพื่อฉลองให้กับพวกเราที่ยังไม่ตายกันเถอะ” เย่เฟยหลีกล่าวพลางชูแก้วขึ้น

จางหยิงห่าวชูแก้วเช่นกันก่อนจ้องเย่เฟยหลีแล้วกล่าวว่า “เหอะ เจ้าจะมาชนแก้วเพราะเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน ต้องฉลองให้กับเรื่องที่พวกเรามารวมตัวกันจนได้กินอาหารอร่อยๆ สิ”

“เห็นได้ชัดว่านี่มันวันสิ้นโลก ระหว่างที่พวกเราคุยกัน โลกมากมายถูกทำลายด้วยวันสิ้นโลกของโลกคู่ขนาน โลกอีกมากมายกำลังตกอยู่ในความโกลาหล” เย่เฟยหลีกล่าว

“เจ้ามีทางแก้ไหมล่ะ” จางหยิงห่าวยังจ้องอีกฝ่ายอยู่

“ไม่มี” เย่เฟยหลีตอบอย่างสิ้นหวัง

“ดังนั้นพวกเราต้องทำให้แน่ใจว่าตอนนี้อยู่ในสภาพที่พร้อมเพื่อให้สามารถลงมือได้ทันทีหากมีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมา” จางหยิงห่าวกล่าว

“ได้” เย่เฟยหลีเห็นด้วย

“พูดได้ดี” กู่ฉิงซานเห็นด้วยเช่นกัน

เมื่อทุกคนชนแก้วเรียบร้อย พวกเขาเริ่มรับประทานอาหาร

แน่นอนว่าทักษะการทำอาหารของกู่ฉิงซานไม่ต้องพูดอะไรมาก ทุกคนกินดื่มกัน สนทนาสองสามประโยคเป็นครั้งคราว มันคือช่วงเวลาพักผ่อนที่หาได้ยากนัก

หลังจากรับประทานแล้ว เหล่าต้าเดินไปหาที่นอน เย่เฟยหลียังคงเล่นกับแผงควบคุมความโกลาหล ลอร่าไปห้องพัก จางหยิงห่าวหยิบถุงออกมาแล้วส่งให้กู่ฉิงซาน

“ช่วยข้าหน่อยสิ ข้าจะป้อนอาหารเจ้าตัวเล็กหน่อย”

กู่ฉิงซานมองในถุงก่อนพบว่ามีชิ้นหัวปลาสดอยู่ข้างใน ขนาดราวสองฝ่ามือและสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของเวทมนตร์

กู่ฉิงซานอดที่จะถามไม่ได้ว่า “วัตถุดิบดี มันไม่กินพายไข่แดงกับพายสตรอเบอรี่แล้วหรือ”

จางหยิงห่าวตอบว่า “อืม พวกนั้นมันก็แค่อาหารขยะ ตอนนี้เลิกให้มันกินแล้ว”

กู่ฉิงซานถามอีกว่า “ปลานี่มาจากโลกเวทมนตร์หรือ คนกินเข้าไปได้อยู่หรอก แต่มันจะอาจจะกินของพวกนี้ไม่ได้นะ”

“มันสามารถกินได้หลังจากเข้าโลกเก้าร้อยล้านชั้น ความจริง มันกำลังโตขึ้นช้า ๆ การกินอาหารทรงพลังเหล่านี้จะสามารถเร่งความเร็วการพัฒนาและวิวัฒนาการได้” จางหยิงห่าวตอบ

“อย่างนี้นี่เอง”

“อา ใช่ มันชอบรสชาติหวานๆ น่ะ”

“อืม”

กู่ฉิงซานหยิบหัวปลาออกมา เติมหญ้าวิญญาณที่เป็นประโยชน์เข้าไปบางส่วนก่อนเริ่มปรุงอย่างพิถีพิถัน

ผ่านไปสักพัก

หัวปลาปรุงเสร็จก่อนถูกเสิร์ฟบนจาน

เหล่าต้าที่นอนอยู่ได้อันกลิ่นหวนก่อนตะโกนมาจากอีกฝั่งของชั้นดาดฟ้าว่า “นี่มันอะไร กลิ่นช่างหอมหวานนัก”

จางหยิงห่าวตอบเสียงดังว่า “ของที่จะให้สัตว์เลี้ยงข้ากินน่ะ”

เหล่าต้าไม่พูดอะไรอีก

กู่ฉิงซานวางจนลงกับพื้น เขยิบมาด้านข้าง รินน้ำวิญญาณหนึ่งแก้วก่อนดื่มเข้าไปช้าๆ

จางหยิบห่าวหยิบไพ่ใบหนึ่งออกมาอย่างระวังก่อนส่งเสียงเรียกอย่างแผ่วเบาว่า

“ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ออกมา”

ไพ่ถูกปาออกไปก่อนตกลงบนชั้นดาดฟ้า

มีหลุมอยู่บนชั้นดาดฟ้า

แมวสีดำออกมาจากหลุม

มันมองจางหยิงห่าวก่อน ส่งเสียงร้องเหมียวเบาๆ จากนั้นถูกหัวปลากลิ่นหอมหวานดึงดูด

“วันนี้สหายเก่าของข้า กู่ฉิงซาน เป็นคนทำหัวปลานี้ให้เองเลยนะ” จางหยิงห่าวกล่าว

แมวสีดำได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานยิ้มก่อนโบกมือทักทาย

แมวสีดำพยักหน้าให้เขาก่อนเดินไปที่จานด้วยฝีเท้าอันแผ่วเบา

มันเริ่มกินหัวปลา

จางหยิงห่าวยืนอยู่ด้านข้างและกำลังจะจุดบุหรี่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเพล้ง

ถ้วยในมือของกู่ฉิงซานตกลงพื้น

“เกิดอะไรขึ้น” จางหยิงห่าวถาม

กู่ฉิงซานไม่ได้ยินที่ถาม ดวงตาของเขาจ้องตรงขณะก้าวเดินออกไปทีละก้าว

ทั่วร่างของเขาดูไม่มั่นใจเท่าไหร่

แต่จางหยิงห่าวรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

หายากนักที่กู่ฉิงซานจะตื่นเต้นแบบนี้แม้ว่าจะพยายามหักห้ามอารมณ์เอาไว้ก็ตาม

“เกิดอะไรขึ้น”

เย่เฟยหลีคล้ายกับรู้สึกได้ว่ากู่ฉิงซานผิดปกติเช่นกันจึงรีบมาดู

กู่ฉิงซานโบกมือไปที่เย่เฟยหลี เป็นสัญญาณว่าไม่มีอะไร

เขาเดินไปหาแมวสีดำ

..............................................