webnovel

0989 นักล่าจากป่าแห่งความตาย

ตอนที่ 989 นักล่าจากป่าแห่งความตาย

โจรหลายร้อยคนค่อยๆ ล้อมยานอวกาศราชินีหนามเอาไว้

ตอนนี้ จิตเทพของกู่ฉิงซานกวาดผ่านความว่างเปล่าจนเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ทันที

อีกฝ่ายกำลังจะลงมือแล้ว

เขาสื่อสารกับลอร่าทันที “ลอร่าออกยาน! พวกเราจะมัวแต่ติดอยู่ที่นี่ไม่ได้”

“ได้ กู่ฉิงซาน เมื่อครู่เจ้าหล่อมากเลย!”

ลอร่าง่วนกับการควบคุมยานอวกาศแต่ก็ไม่ลืมที่จะชื่นชมเขา

ยานอวกาศเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว

คนเหล่านั้นสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของยานอวกาศชัดเจน

พวกเขาเริ่มสั่งกองยานให้ปรับทิศทางเพื่อขวางยานอวกาศราชินีหนามเอาไว้

ผู้คนเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น

พวกเขาพุ่งเข้าใส่ยานอวกาศด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี

หน้าต่างโกลาหลทั้งหมดกำลังแจ้งภารกิจด้วยหวังว่าพวกมันจะสามารถสังหารกู่ฉิงซานได้

ขณะมองความโกลาหล กู่ฉิงซานพลันคิดถึงคำถามหนึ่งขึ้นมาด้วยความสงสัย “ตั้งแต่ยุคแห่งความโกลาหลเริ่มขึ้น ทำไมความโกลาหลถึงไม่โหลดมาที่พวกเราเลยล่ะ”

เหล่าต้าตอบว่า “เจ้าคือผู้โหลดบัญญัติ บัญญัติราชามารกำลังไปถึงขั้นการจุติของราชามาร เพราะว่าแข็งแกร่งกว่า มันเลยไม่มาหาเจ้า”

“แล้วเจ้าล่ะ” กู่ฉิงซานถามอีกครั้ง

“สถานะของข้าสูงศักดิ์ มันไม่กล้ามายุ่งกับข้าหรอก” เหล่าต้าตอบ

จางหยิงห่าวกล่าวอย่างเสียดายว่า “ข้าสนใจในความโกลาหลแท้ๆ ทำไมมันถึงไม่มาหาข้าล่ะ”

กู่ฉิงซานและเหล่าต้ามองเขาพร้อมกัน

“นี่เจ้าอยากลองจริงหรือ” เหล่าต้าถาม

“มันอันตรายหรือไง” จางหยิงห่าวถามกลับ

“มีความโกลาหลมากมายที่อยากฆ่าเจ้าน่ะ” เหล่าต้าเน้นย้ำ

“แค่นั้นเหรอ”

“แค่นั้นแหละ ยุคแห่งความโกลาหลมาถึงแล้ว ผู้ส่งสารจะแข็งแกร่งขึ้นเพราะมันก็จริง แต่ก็ต้องเสียความสามารถในการควบคุมความโกลาหลไปจนหมดสิ้น ดังนั้นเจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องวิญญาณกรีดร้องอีกแล้ว” เหล่าต้าอธิบาย

กู่ฉิงซานฟังก่อนพยักหน้าเล็กน้อย

ตอนแรก ในซากปรักหักพังของโลกโกลาหล หน้าต่างระบบเทพสงครามไม่หยุดการโหลดความโกลาหล

หน้าต่างระบบเทพสงครามเพียงเตือนเขาว่าต้องคิดและตัดสินใจให้ดีๆ

ความจริง ในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย ความเป็นปรปักษ์ของความโกลาหลที่มีต่อเขาส่วนใหญ่เป็นเพราะเขามีบัญญัติสุดท้ายอยู่ในร่างกาย

“ถ้าแบบนี้ ข้าก็พอเข้าใจ”

จางหยิงห่าวครุ่นคิดก่อนพยักหน้า

เขายืนขึ้น หันหน้าออกจากยานอวกาศแล้วยกมือ

ปืนพกสีดำปรากฏขึ้นในมือ

จางหยิงห่าวเล็งด้วยสายตาคมปลาบก่อนเหนี่ยวไกออกไป

เสียงสั่นสะเทือนมาจากปืนพก

‘ฟิ้ว’

เปลวเพลิงพุ่งออกจากปากกระบอกปืน

ถึงแม้เสียงจะฟังดูรื่นหูเล็กน้อย แต่มันทรงพลังจริงๆ

หมอกโลหิตระเบิด

ผู้นำที่อยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นถูกยิงเข้าที่ศีรษะโดยตรง

จางหยิงห่าวมองความว่างเปล่าตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป

“ฟู่ นี่หรือความโกลาหล”

จางหยิงห่าวกล่าวอย่างสนใจ

ทันทีที่อีกฝ่ายตาย หน้าต่างระบบสีเทาโปร่งแสงปรากฏขึ้นจากอากาศบางตรงหน้าเขา

“ได้ความโกลาหลแบบไหนมาล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

“มันเตือนข้าว่าไม่ช้าจะกลายเป็นผู้ส่งสารการขโมยฝึกหัด” จางหยิงห่าวตอบ

กู่ฉิงซานจมสู่ความคิด

ตอนแรก เขาสังหารห้าความโกลาหลในอึดใจเดียว จากนั้นสังหารผู้ส่งสารความโกลาหล ปิดท้ายด้วยการได้แผงควบคุมส่วนตัวใหม่เอี่ยมมาครอง

นักฆ่ามังกรมาร

ตอนนี้ยุคแห่งความโกลาหลมาถึงแล้ว จางหยิงห่าวอยากมีแผงควบคุมส่วนตัว มันจำเป็นต่อการสังหารผู้ส่งสารหรือเปล่า

เพราะถ้าทุกความโกลาหลต้องสังหารผู้ส่งสารความโกลาหล จะต้องมีเพียงคนเดียวที่สามารถมีแผงควบคุมส่วนตัวได้

แบบนี้มันไร้เหตุผลสิ้นดี

“อืม...จางหยิงห่าว ข้ามีหน้าต่างระบบเหมือนกัน เจ้าสามารถลองได้นะ” กู่ฉิงซานกล่าว

ในความว่างเปล่าตรงฝั่งตรงข้าม คนเหล่านั้นพุ่งมาหาทั้งสี่พร้อมกับแผดเสียงคำราม

“พวกเจ้า”

“ฆ่าความโกลาหลแบบนี้ได้อย่างไร”

“ไม่ตายดีแน่”

จางหยิงห่าวหยิบปืนพกขึ้นมา มือจั่วไพ่ก่อนปาออกไป

‘ปัง!’

กิ้งก่าสีเขียวเข้มขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน

มันมองทุกคนด้วยลูกตาแนวขวางหนึ่งคู่ หมอกสีเขียวหม่นเลือนรางปกคลุมรอบข้างอย่างไม่มีสิ้นสุด

“มีคนอยากดื่มชายามบ่ายมากขนาดนี้เลยหรือ” กิ้งก่าถาม

“ใช่ที่ไหน ให้ฆ่าทิ้งต่างหาก”

จางหยิงห่าวกล่าวขณะถือไพ่ไว้ในมือทั้งสองข้างก่อนออกแรงบีบ

หมอกสีขาวสองสายหายไปจากมือของเขา

ไพ่หายไป

กริชทรงกรวยแหลมสีดำกับกริชจันทร์เสี้ยวสีชาดอยู่ในมือของจางหยิงห่าว

ขณะถือกริชไว้ในมือทั้งสองข้าง เขากระโดดขึ้นหลังกิ้งก่าก่อนหายไปจากสายตาของทั้งสามพร้อมกิ้งก่า

ตอนนี้ ความโกลาหลที่เพิ่งเกิดใหม่ได้เข้าใกล้ยานอวกาศราชินีหนามแล้ว

ถึงแม้จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง แต่รูปแบบและการประสานงานในการต่อสู้กลับไม่ปั่นป่วนแต่อย่างใด

เมื่อมองแวบแรก พวกมันคือนักรบที่กระหายโลหิต

แต่น่าเสียดาย พวกมันมาเจอกับนักฆ่าตัวจริง

หมอกสีเขียวพลันกระจายมาที่คนเหล่านี้

กริชสองเล่มลากแสงสีดำแดงอย่างรวดเร็ว พุ่งจากปลายด้านหนึ่งของสายตาไปยังอีกด้าน

เส้นโค้งเรียบง่ายปาดเข้าใส่ศัตรูทั้งหมดพร้อมกัน

จางหยิงห่าวกลายเป็นเงาก่อนพุ่งมาอยู่ด้านหลังทุกคนในพริบตา

เขายื่นกริชไปข้างหน้าขณะเฉือนคอของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา

บางครั้งองศาไม่อำนวย จางหยิงห่าวจึงตัดใจจากการเฉือนคอมาเป็นแทงกริชใส่แผ่นหลังของศัตรู จากนั้นออกแรงบิดอีกครั้ง

ทุกคนตายหมด

ร่างของพวกมันปลิวไปตามสายลมในวังวนความว่างเปล่าก่อนค่อย ๆ ลอยไปไกล

“ข้าได้ยินมาว่าผู้ใช้ไพ่เป็นอาชีพที่แข็งแกร่งมาก แต่ไม่คิดเลยว่าจางหยิงห่าวจะกลายเป็นผู้ใช้ไพ่ที่ทรงพลังขนาดนี้” เย่เฟยหลีครุ่นคิด

“เขาแค่ใช้ไพ่ในฐานะเครื่องมือ ความจริง อาชีพหลักของเขายังเป็นนักฆ่า” กู่ฉิงซานกล่าว

“ใช่ วิธีการต่อสู้ของผู้ใช้ไพ่ไม่ใช่แบบนี้ หมอนี่เป็นยอดฝีมือจำพวกที่ใช้ทุกสิ่งเพื่อทำการฆ่า” เหล่าต้าเห็นด้วยเช่นกัน

จางหยิงห่าวปรากฏตัวขึ้น

เขายืนอยู่บนหลังกิ้งก่าขณะมองความว่างเปล่าตรงหน้าราวกับกำลังหาบางสิ่ง

“เป็นอย่างไรบ้าง!” กู่ฉิงซานตะโกนถามจากไกลๆ

จางหยิงห่าวตะโกนตอบเช่นกันว่า “แป๊บหนึ่งนะ มีหน้าต่างระบบมากมายอยู่ตรงหน้าข้า พวกมันเหมือนกับกำลังเปลี่ยนสภาพ”

กิ้งก่าบินกลับมาที่ยานอวกาศราชินีหนาม

ขณะมองความว่างเปล่า จางหยิงห่าวกล่าวว่า “หน้าต่างระบบเหล่านี้เริ่มรวมเข้าด้วยกัน พวกมันเตือนข้าว่าข้าได้รับหน้าต่างระบบโกลาหลพิเศษ: นักล่าจากป่าแห่งความตาย”

“ในราวสิบนาที หน้าต่างระบบที่ยุ่งเหยิงเป็นพิเศษนี้จะรวมเข้าด้วยกัน”

“แล้วก็เมื่อพละกำลังเพิ่มขึ้น หน้าต่างระบบนี้สามารถอัปเกรดกลายเป็นเทมเพลตอื่นที่ทรงพลังได้ การวิวัฒนาการเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดเลย”

จางหยิงห่าวกล่าวด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย

ไม่ว่ามันจะคืออะไร ขอแค่ควบคุมตัวเองได้ก็พอแล้ว

คนรอบข้างข้ามีแต่พวกที่แข็งแกร่งกว่า

ข้าต้องไล่ตามพวกเขาให้ทัน!

เย่เฟยหลีหักห้ามใจไม่ไหวเมื่อได้ฟังสิ่งที่น่าสนใจจากเขา

“นี่ดูเหมือนเกมเซอร์เรียลเลย น่าสนใจ ข้าน่าจะ…”

เย่เฟยหลีมองออกไปขณะค้นหาความว่างเปล่าทั้งหน้าหลังเพื่อพยายามหาเป้าหมายที่สามารถสังหารได้

น่าเสียดายที่พวกโหลดความโกลาหลเหล่านั้นล้วนถูกจางหยิงห่าวสังหารไปหมดแล้ว

ส่วนกองยานที่อยู่ไกลออกไป พวกเขาเห็นเพียงอีกฝ่ายส่งหนึ่งคนออกมาสังหารฝั่งพวกเขาไปมากมาย ทำให้ตัดสินใจถอยหนี

“ช่างเถอะ ไว้ทีหลังก็ได้” เย่เฟยหลีกล่าวอย่างเสียดาย

เหล่าต้าตบบ่าเขาแล้วกล่าวว่า “ที่จริง เจ้าไม่ต้องโหลดความโกลาหลหรอก”

“ทำไมล่ะ” เย่เฟยหลีถาม

“ในฐานะผู้ทำลายโลก พลังของเจ้ามีชะตาที่จะทรงพลังมากยิ่งขึ้น” เหล่าต้าตอบ

“ช่างมันเถอะ” เย่เฟยหลีถอนหายใจ

กู่ฉิงซานพยักหน้าเงียบๆ

ดูท่าจะเหมือนกับที่เขาคาดเดาเอาไว้ หากมีความโกลาหล ไม่จำเป็นต้องสังหารผู้ส่งสารก็สามารถพัฒนาความโกลาหลได้

ด้วยแผงควบคุมความโกลาหลส่วนตัวนี้ พละกำลังของจางหยิงห่าวจะเพิ่มขึ้นมหาศาล

ถ้าว่ากันตามตรง นี่คือกำลังรบเสริมที่ดีมาก กู่ฉิงซานเข้าอกเข้าใจจางหยิงห่าวจึงเห็นด้วยที่จะให้ใช้มัน

กู่ฉิงซานเองก็ไม่ได้ปฏิเสธแผงควบคุมความโกลาหลมากนัก

ทว่า เพราะธรรมชาติของความโกลาหล สิ่งนี้จึงไม่เหมาะที่จะผลักดันเข้าสู่โลกเก้าร้อยล้านชั้น

เพราะรากฐานของอารยธรรมของที่นั่นมาจากบัญญัติ

ความโกลาหลที่สมบูรณ์แบบจะทำลายทุกสิ่ง

ทั่วโลกเก้าร้อยล้านชั้นจะไปถึงจุดจบเพราะความโกลาหล

ยิ่งกว่านั้น วิญญาณกรีดร้องยังไล่ตามเขาอยู่

เมื่อคิดถึงตรงนี้ กู่ฉิงซานก็ไม่ชักช้าอีก

“ลอร่า”

“ข้าอยู่นี่แล้ว”

“มุ่งหน้าสู่โลกลี้ลับเต็มกำลัง”

“ได้เลย!”

ยานอวกาศราชินีหนามค่อยๆ เร่งความเร็วก่อนบินไปตามเส้นทางลับ

.........................................