webnovel

0986 ประตูทองแดง

ตอนที่ 986 ประตูทองแดง

ระหว่างที่ยานอวกาศราชินีหนามเผชิญหน้ากับพวกโจรในโลกลี้ลับ

อีกด้าน

โลกดินแดนรกร้างที่ตายแล้ว

โลกทั้งใบถูกปกคลุมด้วยดินแดนรกร้างกว้างใหญ่ ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในดินแดนรกร้าง เว้นเพียงอาณาเขตเวทมนตร์โบราณของเทพแห่งความตายกับอาคารสีดำหลังหนึ่งเท่านั้น

วิหารสีดำสูงตระหง่านตั้งอยู่ใจกลางโลก

วิหารแห่งความตาย

ใจกลางวิหารคือโถงแห่งความตาย

วิหารแห่งความตายคือสถานที่ที่มีเพียงข้ารับใช้ของเทพแห่งความตายเท่านั้นที่สามารถเข้าได้

แม้กระทั่งสังฆราชก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้ามาที่นี่

ประตูถูกปิดอย่างแน่นหนา

ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อีกาแห่งความตายสีดำนำแอนนาและหลินเข้ามา สุนัขแห่งความตายได้กลับมาถึงที่นี่แล้ว

สุนัขสีดำตรวจสอบรูปปั้นแห่งความตายที่อีกาสีดำส่งมาให้อย่างละเอียด ในที่สุดก็ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “เป็นของแท้ รูปปั้นนี้คือสิ่งที่ใช้เปิดเส้นทางใต้ดิน”

“ถ้าเป็นแบบนี้ คนคนนั้นน่าจะเป็นมิตร ไม่ใช่ศัตรู” อีกาสีดำกล่าว

ข้ารับใช้เทพทั้งสองมองหลินพร้อมกัน

“เจ้าจะเข้าเส้นทางลับของเทพแห่งความตายจริงหรือ” สุนัขสีดำถามอย่างไม่แน่ใจ

“คนที่มอบหลักฐานของเทพแห่งความตายให้สั่งให้ข้าปกป้องผู้สืบทอดของเทพแห่งความตาย” หลินกล่าวอย่างแผ่วเบา ทำให้ไม่สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ได้

นางหยิบชุดเกราะสีทองออกมาก่อนเอามือสัมผัสอย่างแผ่วเบา

ชุดเกราะกระจายออกก่อนประกอบเข้ากับตัวนางอย่างพอดีด้วยความเร็วที่สูงยิ่ง

หลังจากสวมหมวกและปิดกะบังสีทองตรงใบหน้า ทำให้ไม่มีใครสามารถเห็นสีหน้าของหลินได้อีก

หลินหยิบถุงมือเพลิงออกมาก่อนสวมมันไว้ที่มือ

ทั้งเกราะและถุงมือเป็นสิ่งที่ลอร่าเลือกให้ หากเป็นสิ่งที่ต้องตาลอร่า พวกมันย่อมเป็นอุปกรณ์ชั้นยอด

ข้ารับใช้เทพทั้งสองมองหน้ากัน

ตัดสินจากรูปลักษณ์ของผู้หญิงคนนี้ นางเตรียมพร้อมที่จะรับใช้ในฐานะอารักขาของแอนนาอย่างแน่นอน

สุนัขสีดำลังเลสักพักก่อนถามอย่างสงสัยว่า “ข้าขอบังอาจถามหน่อย ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร…”

หลินไม่พูด

นางยื่นมือออกไป ธาตุไฟติดที่ถุงมือทันทีขณะร่ายรำอยู่ที่นิ้วเรียว

นิ้วกำลังสั่นไหว

เปลวเพลิงลากยาวเป็นเส้นอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นลวดลายหนึ่งขึ้นมา

เหนือประกายไฟเล็กๆ ราวกับดวงดาว มงกุฎเปล่งประกายเจิดจ้า

แอนนาพลันถอดสีเมื่อเห็นสิ่งนั้นเข้า

ผู้หญิงคนนี้ทรงพลังจนสามารถวาดลวดลายลึกลับซับซ้อนขึ้นมาจากนิ้วได้เพียงแค่ใช้พลังธาตุไฟเพียงน้อยนิดเท่านั้น

การควบคุมธาตุของนางไปถึงจุดสูงสุดแล้ว

ทว่า คนที่ประหลาดใจยิ่งกว่าแอนนาคือข้ารับใช้เทพทั้งสอง

“สัญลักษณ์นี่…ช่างคุ้นเคยนัก…”

สุนัขสีดำตกอยู่ในความทรงจำอันยาวนาน

แต่อีกาสีดำจำได้แล้วว่าตัวตนของสัญลักษณ์นี้เป็นตัวแทนของอะไร

“อัครสาวกผู้ถูกเนรเทศ คนแรกที่ได้อยู่บนมงกุฎแห่งดวงดาว…เป็นเขา”

อีกาสีดำลูบขนก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและหวาดกลัว

สุนัขสีดำพลันตกตะลึง

“เป็นเขาจริงด้วย! มันเป็นแบบนี้เองสินะ”

สุนัขสีดำก้มศีรษะจนอดเผยสีหน้าเคารพยำเกรงออกมาไม่ได้

ข้ารับใช้เทพทั้งสองคารวะหลินด้วยความเคารพ

“พวกเจ้าไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ ข้าเองก็ทำตามคำสั่งเหมือนกัน พวกเจ้ามีอะไรจะถามหรือเปล่า” หลินถาม

“ไม่มี”

ข้ารับใช้เทพทั้งสองตอบพร้อมกัน

“แอนนา ข้าขอมอบมันให้เจ้าก็แล้วกัน” อีกาสีดำกล่าว

แอนนาตกตะลึงก่อนถามว่า “มอบให้ข้าหรือ ท่านหมายความว่าอย่างไร”

“ยังไม่สายเกินไป แอนนาและก็อารักขา พวกเจ้าสองคนสามารถเข้าเส้นทางนี้ได้แล้ว รีบไปเถอะ” สุนัขสีดำกล่าว

“เดี๋ยว พวกท่านไม่มากับข้าหรือ” แอนนาถาม

“พวกข้าคือข้ารับใช้เทพ ไม่สามารถเข้าที่นั่นได้ มีเพียงคนที่สืบทอดพลังแห่งความตายกับอารักขาเท่านั้นที่สามารถเข้าได้” สุนัขสีดำตอบ

“ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองครอบครองพลังแห่งความตายอะไร” แอนนากล่าวด้วยความสับสน

อีกาสีดำอธิบายว่า “ความจริง ทุกคนในวิหารแห่งความตายได้ทำพิธีปลุกพลังขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว พวกเขาได้ปลุกพลังแห่งความตายในร่างขึ้นมาด้วยการสัมผัสฮอร์ครักซ์ที่ถูกปลุกพลัง”

“ในหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมา ไม่มีใครปลุกพลังแห่งความตายขึ้นมาได้ พวกข้าคิดว่าคงหมดหวังแล้ว แต่แล้วเจ้าปรากฏตัวขึ้น แอนนา เจ้าปลุกพลังนั่นขึ้นมาได้” สุนัขสีดำกล่าว

แอนนายกมือขึ้น เปลวเพลิงสีดำยังคงโชติช่วงอยู่ในมือ

“เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพียงพลังที่ข้าเลือก” นางกล่าวด้วยความสับสน

สุนัขสีดำกล่าวว่า “นี่คือการอำพราง แอนนา ตอนเจ้าปลุกพลังขึ้นมา อาวุธที่เจ้าเลือกจากสวรรค์ก็ได้เปลี่ยนไป เจ้าจำได้หรือเปล่า”

แอนนาครุ่นคิดอย่างละเอียด

ใช่แล้ว ในตอนนั้น นางรู้สึกว่าทุกคนได้ของดีจากพิธี ส่วนตัวนาง…

จากนั้น เคียวแห่งความตายก็เปลี่ยนไป

สุนัขสีดำกล่าวต่อว่า “แอนนา ตอนนี้ชะตากรรมและเวลามาบรรจบกันแล้ว เจ้าคือผู้สืบทอดที่แท้จริง ถ้าเจ้าอยากเห็นความจริงของโลก เจ้าต้องยอมรับมรดกของเทพแห่งความตาย”

แอนนาลังเลก่อนหันมามองหลิน

นี่คือพี่สาวของกู่ฉิงซาน…

แอนนามองหลินแล้วถามว่า “ข้าไม่รู้จะเรียกเจ้าว่าอะไร”

“ชื่อของข้าคือหลิน”

“หลิน ถ้าเจ้าไม่อยากเสี่ยง โปรดรอข้าอยู่ในวิหารแห่งความตายสักพัก หลังจากเสร็จเรื่องราวตรงนี้แล้ว ข้าจะออกมาตามหาเจ้าแล้วค่อยกลับอาณาจักรหนาม”

“ไม่ เจ้าไม่แข็งแกร่งพอที่จะเข้าสู่เส้นทางนั้น ข้าจะไปกับเจ้าเพื่อรับหน้าที่ปกป้องให้” หลินกล่าวอย่างแผ่วเบา

แอนนาตกตะลึงเล็กน้อย

เวลาอยู่กับพี่สาวของกู่ฉิงซาน…

ทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยกันล่ะ

แอนนาอดที่จะมองข้ารับใช้เทพทั้งสองไม่ได้

ข้ารับใช้เทพทั้งสองพยักหน้าพร้อมกัน

“มันอันตรายจริงๆ” อีกาสีดำกล่าว

“เจ้าจำเป็นต้องให้นางปกป้อง แม้กระทั่งคำทำนายในยุคโบราณ ผู้สืบทอดเทพแห่งความตายก็เดินเคียงข้างกับอารักขา”

“ได้”

แอนนาไม่มีทางเลือกนอกจากตอบรับ

ตอนนี้ กระแสอากาศรอบข้างพลันเปลี่ยนไป

ปฐพี ความว่างเปล่าและทุกสรรพสิ่งล้วนสั่นไหวเล็กน้อย

สายลมเริ่มปรากฏ

นี่คือสายลมที่มองไม่เห็น แต่มันทำให้ข้ารับใช้เทพทั้งสองหน้าถอดสีพร้อมกันได้

“ยุคแห่งความโกลาหลมาถึงแล้ว” สุนัขสีดำกล่าวเสียงต่ำ

“ใช่ เห็นได้ชัดว่ายุคสมัยที่แม้ทุกสิ่งจะพังทลาย แต่ความโกลาหลและบัญญัติจะยังต่อสู้กันอยู่” อีกาสีดำถอนหายใจ

หลินรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก นางจึงไม่ขยับ

ไม่มีใครสามารถมองเห็นสีหน้าของนางที่ซ่อนอยู่หลังกะบังสีทองได้

สุนัขสีดำมองแอนนาแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “แอนนาเอ๋ย ข้ารู้ว่าเจ้ามีความปรารถนามากมายอยู่ในใจ แต่เพื่อความอยู่รอด เพื่อผู้คนที่เจ้ารักและคอยช่วยเหลืออย่างแข็งขัน เจ้าต้องเป็นสักขีพยานกับความจริงของโลกและส่งต่อความตาย มีเพียงพลังแห่งความตายเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงเสมอ”

แอนนาพยักหน้าก่อนให้กำลังใจตัวเอง “ดีล่ะ! นี่คือประโยคที่ปลุกใจข้าได้ดีที่สุดในวันนี้”

เมื่อเห็นว่าพวกนางเตรียมพร้อมแล้ว อีกาสีดำบินไปที่ปลายทางของห้องลับก่อนร่อนลงตรงหน้าภาพผนัง

มันคือจิตรกรรมฝาผนังหมองหม่น เป็นรูปตัวตนหนึ่งถือเคียวด้ามยาวเอาไว้ หันแผ่นหลังไปทางภาพ ลอยอยู่เหนือความมืดไร้ที่สิ้นสุดอย่างเงียบงัน

จิตรกรรมฝาผนังกินพื้นที่ทั้งผนัง เผยประวัติศาสตร์อันงดงามและมีความหมายให้ได้เห็น

อีกาสีดำมองจิตรกรรมฝาผนัง แววตาเผยอารมณ์อันไร้ที่สิ้นสุดออกมา

สุนัขสีดำอธิบายแอนนาและหลินว่า “ปกติแล้วข้ากักเก็บพลังแห่งความตายเอาไว้และรับหน้าที่ดูแลเรื่องการต่อสู้ในกรณีฉุกเฉินทั้งหมด”

“อีกาดำแตกต่างจากข้า พลังแห่งความตายของมันไม่สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ ได้”

“ทำไมล่ะ” แอนนาอดที่จะถามไม่ได้

เมื่อตอนนี้มานึกให้ถี่ถ้วนแล้ว นางก็ไม่เคยเห็นอีกาสีดำลงมือมาก่อนจริงๆ

“เพราะพลังของอีกาดำตกทอดมาจากเทพแห่งความตายเมื่อนานมาแล้ว เพื่อการมาถึงของผู้สืบทอด อีกาดำจึงรับผิดชอบเรื่องการสำรองพลังนี้เอาไว้จนกระทั่งช่วงเวลานั้นมาถึง”

อีกาสีดำกล่าวว่า “ใช่ ซึ่งก็คือช่วงเวลานี้”

มันยื่นจะงอยปากยาวออกไปก่อนจิกจิตรกรรมฝาผนังเบาๆ

จิตรกรรมฝาผนังเกิดรอยร้าวทั้งสองฝั่งอย่างเงียบงัน เผยให้เห็นรายละเอียดที่แท้จริงที่อยู่ข้างใน

มันคือประตูทองแดงขนาดใหญ่สูงห้าเมตร

บานประตูว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดอยู่บนนั้น แต่กลับทำให้ผู้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่า

อีกาสีดำก้าวมาข้างหน้าก่อนเริ่มร่ายคาถา

“เทพแห่งความตายผู้เป็นนิรันดร์เอ๋ย ข้ามาจากจุดจบอันไร้ที่สิ้นสุด มาที่นี่เพื่อรายงานท่าน”

“นักบุญผู้เกิดมาพร้อมพลังแห่งความตาย กระจายความยิ่งใหญ่ไปทั่วโลก เดินตามวิถีท่าน ไม่แตกต่างจากสิ่งที่ท่านเคยทำมา”

“ตอนนี้ข้ากำลังจะให้นางใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านทิ้งไว้ให้เพื่อเข้าสู่เส้นทางใต้ดิน”

อีกาสีดำปล่อยความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุดออกมาก่อนจมเข้าสู่ประตูทองแดง

เกิดความเงียบชั่วครู่

‘ครืน!’

เสียงหนักอึ้งราวกับเสียงถอนหายใจจากความผันผวนของสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จบ

ประตูทองแดงเปิดออกช้าๆ

อีกาสีดำถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนก้าวมาอยู่ด้านข้าง

ในประตูทองแดง หุบเหวมืดมิดและลึกล้ำแผ่ขยายลงไปเบื้องล่าง ไม่อาจมองเห็นจุดสิ้นสุดได้

มีเพียงแผ่นหินลอยอยู่เหนือประตูเพื่อรอรับผู้ที่เข้ามา

สุนัขสีดำเตือนว่า “อีกาดำทำได้เพียงเปิดประตูบานนี้ด้วยพละกำลังทั้งหมดเท่านั้น แอนนา เจ้าต้องรักษาโอกาสนี้เอาไว้ เพราะนี่คือโอกาสเดียวของเจ้า เป็นโอกาสเดียวสำหรับนักบุญแห่งความตายทุกคน”

แอนนากัดฟันก่อนพยักหน้า

สุนัขสีดำมองหลินอีกครั้ง “โปรดดูแลนางด้วย”

หลินกล่าวว่า “อย่าห่วงไปเลย ข้าจะดูแลเอง”

สุนัขสีดำเปิดทางให้เช่นกัน

แอนนาและหลินเข้าประตูทองแดงก่อนยืนอยู่บนแผ่นหินที่ลอยอยู่

ร่างของพวกนางค่อยๆ ถูกความมืดกลืนกิน

ไม่ช้า

สุนัขสีดำไม่อาจหักห้ามตัวเองได้ก่อนกระซิบบอกว่า “แอนนาเอ๋ย หากไม่ได้ผลจริงๆ จงรักษาชีวิตตัวเองแล้วรอดกลับมาให้ได้”

แอนนามองสีหน้ากังวลของอีกฝ่าย หัวใจของนางเกิดความอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย นางพยักหน้าเงียบๆ

ประตูทองแดงขนาดใหญ่ปิดลงช้าๆ

………………………….