webnovel

0957 วิวัฒนาการความโกลาหล

ตอนที่ 957 วิวัฒนาการความโกลาหล

ศีรษะของเด็กผู้ชายตกลงอย่างช้าๆ

กู่ฉิงซานนิ่ง

“หน้าต่างระบบเทพสงคราม เจ้าบอกว่าเจ้าไม่สามารถบอกความลับได้ แต่ข้าลงมือทำไปแล้ว ต้องทำอย่างไรต่อ” เขาถาม

เมื่อกู่ฉิงซานพูดขึ้นมา หน้าต่างโกลาหลห้าอันหายไปจากสายตาของเขาทันที

ไม่มีอะไรอยู่ตรงหน้ากู่ฉิงซาน

ตอนนี้ ในสายตาของเขา มีเพียงหน้าต่างระบบเทพสงครามที่ยังอยู่

แถวข้อความแจ้งเตือนบนหน้าต่างระบบเทพสงครามยังคงผุดขึ้นมา

“ท่านได้รวบรวมความโกลาหลรองห้าชุดเพื่อนำมาผสานกัน”

“ท่านมีคุณสมบัติที่จะแพร่กระจายความโกลาหล”

“ถึงเงื่อนไขในการวิวัฒนาการขั้นต่ำแล้ว”

“จากเหตุการณ์มากมายที่ท่านทำสำเร็จ ความโกลาหลได้ทำการประเมินเบื้องต้นกับท่านแล้ว”

“ท่านอยู่ในค่ายโกลาหล ได้รับฉายาต่อไปนี้”

“นักฆ่ามังกร ผู้พิทักษ์ความลับ ผู้ครอบครองอาวุธทั้งหก เจ้าของกุญแจแห่งโลกคู่ขนาน ผู้เยาะเย้ยบัญญัติ เนตรแห่งโลกอนันต์”

“เพราะพลังโกลาหลย่อยที่ท่านผสานตื้นเขินเกินไป ดังนั้นท่านจึงปลุกแผงส่วนตัวพิเศษเบื้องต้นขึ้นมา”

“จำเอาไว้ นี่คือพลังโกลาหลที่เป็นของท่านเพียงคนเดียว ไม่มีใครสามารถแทนที่ท่านหรือมาโหลดแทนท่านได้”

“นี่คือพลังที่ความโกลาหลมอบให้ท่าน!”

หิ่งห้อยขนาดเล็กหายไปสิ้น

ข้างหน้าต่างระบบเทพสงคราม หน้าต่างระบบใหม่เอี่ยมปรากฏขึ้น

นี่คือหน้าต่างระบบที่ถูกผนึกด้วยหินสีดำ ทำให้มองไม่เห็นข้างใน ทำได้เพียงตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกว่ามันจะไม่ทำงานเมื่อไม่ถึงเวลา

เหนือหน้าต่างระบบ มีแถวตัวอักษรขนาดเล็กจำนวนมากปรากฏขึ้นมา

“หน้าต่างระบบความโกลาหลพิเศษ: นักฆ่ามังกร (เพียงผู้เดียว)”

“โปรดถ่ายพลังวิญญาณหนึ่งแสนแต้มให้หน้าต่างระบบนี้เพื่อใช้งานแผงส่วนตัวนี้”

“โปรดทราบว่าแผงคุณลักษณะส่วนตัวนี้มีทิศทางการวิวัฒนาการไร้ขีดจำกัด ฉายากับคุณลักษณะจะยังคงเปลี่ยนแปลงตราบที่ท่านแข็งแกร่งพอ!”

กู่ฉิงซานมองข้อความอธิบายบนหน้าต่างระบบนี้จนอดที่จะตกตะลึงไม่ได้

“น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ”

มุมปากของเขายกขึ้นขณะกระซิบเสียงต่ำ

คาดไม่ถึง สิ่งที่เรียกว่าความลับจะกลายมาเป็นแบบนี้

กลายเป็นว่าการหลอมรวมระหว่างความโกลาหลควบคู่กับพลังของผู้ส่งสารจะสามารถทำให้ความโกลาหลวิวัฒนาการได้

การวิวัฒนาการนี้จะสร้างหน้าต่างระบบพิเศษขึ้นมาเพื่อคนคนเดียวเท่านั้น

ดูเหมือนว่าหน้าต่างระบบที่พิเศษและส่วนตัวนี้จะยังมีพื้นที่ให้วิวัฒนาการอีก

สิ่งที่เรียกว่าข้อตกลงระหว่างความโกลาหลกับบัญญัติหมายถึงแบบนี้หรือ

รวมถึงสิ่งอื่นด้วย

กู่ฉิงซานค่อยๆ จมสู่ความคิด

แบบนี้ ความโกลาหลและบัญญัติก็มีความแตกต่างกันจริงๆ

ความโกลาหลจะวิวัฒนาการด้วยการกลืนกินกันเอง

ส่วนบัญญัติ มันจะวิวัฒนาการด้วยเช่นกัน

ดูอย่างบัญญัติราชามารเป็นตัวอย่าง ลำดับการวิวัฒนาการของมันคือ “ต้นเพลิง จุดกำเนิด การปฏิวัติ คลื่นมารกำลังมาและราชามารกำลังจุติ”

แต่ว่า

ไม่ว่าบัญญัติจะวิวัฒนาการอย่างไร ผู้ใช้บัญญัติก็สามารถเป็นไปได้หลายคน

ทุกคนสามารถโหลดและใช้บัญญัติเหมือนกับเป็นช่วงชีวิตที่แล้วของตัวเอง รวมถึงเป็นผู้ใช้บัญญัติในพื้นที่ควบคุมได้

ความโกลาหลต่างออกไป

หลังจากความโกลาหลวิวัฒนาการ มันจะกลายเป็นหน้าต่างระบบส่วนตัวที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ

มีเพียงคนเดียวที่สามารถใช้มันได้

หรือก็คือ ตราบที่เจ้าของความโกลาหลทุกคนวิวัฒนาการสู่ระดับที่สูงขึ้นก็จะมีหน้าต่างระบบความโกลาหลเป็นของตัวเอง

“หน้าต่างระบบเทพสงคราม ความสัมพันธ์ระหว่างความโกลาหลและบัญญัติคืออะไร”

กู่ฉิงซานอดที่จะถามไม่ได้

หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบว่า “พวกมันต่อสู้กันเอง ขอบคุณสำหรับพลังวิญญาณสิบแต้ม”

กู่ฉิงซานพยักหน้าเงียบๆ

หากถามตัวเอง ความโกลาหลมันเป็นยิ่งกว่าความอยากอาหาร

เพราะลักษณะเฉพาะของหน้าต่างระบบความโกลาหลระดับสูงถึงกับลึกลับมาก ตราบที่ไม่ยอมพูดก็จะไม่มีใครรู้รายละเอียด

แต่บัญญัติเองก็มีข้อดีเหมือนกัน

บัญญัติสามารถมอบหมายภารกิจขนาดใหญ่ให้หลายคนพร้อมกันได้และรวมความพยายามของทุกคนให้ทำสิ่งเดียวได้

ยกตัวอย่างเช่น ในโลกสะสมของทริสเต้ แม่มดสองร้อยล้านคนรับบัญญัติราชามารพร้อมกันเพื่อให้มาลงโทษเขา

กล่าวได้ว่าพวกเขามีคุณลักษณะเป็นของตัวเอง

เสียงของหน้าต่างระบบเทพสงครามดังขึ้นอีกครั้ง

“กู่ฉิงซาน ท่านได้รับพลังโกลาหลพิเศษมาแล้ว ตอนนี้ท่านสามารถเปิดใช้มันได้”

กู่ฉิงซานครุ่นคิด “ข้าจำได้ว่าเจ้าเคยบอกว่าตราบที่ลองทำแบบนี้ก่อนแล้วค่อยเอามันออกภายหลัง ข้าต้องใช้พลังวิญญาณทั้งหมดเลยใช่หรือเปล่า”

“ถูกต้อง”

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะเอาออก”

“…ท่านหมายความว่าอย่างไร” หน้าต่างระบบเทพสงครามถาม

กู่ฉิงซานประสานมือเข้าด้วยกันแล้วกล่าวอย่างประจบว่า “คือว่านะ ข้าไม่ได้ใช้พลังวิญญาณในการเปิดมัน ตอนนี้ข้าเข้าใจเรื่องพลังโกลาหลพิเศษคร่าวๆ แล้ว ข้าไม่จำเป็นต้องดูอะไรอีก เพราะอย่างนั้นโปรดสำรองพลังวิญญาณให้ข้าสักหน่อยเถอะ”

หน้าต่างระบบเทพสงครามเงียบไปสักพักก่อนกล่าวว่า “ถ้าแบบนี้ ข้าสามารถเหลือพลังวิญญาณให้ท่านได้ แต่มันไม่มีความหมายที่จะทำแบบนั้น”

“ทำไมล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบว่า “ต่อให้ท่านไม่ใช้พลังโกลาหลส่วนตัวแล้วเอามันออกไป มันก็ไม่ถูกทำลาย แต่จะกระจายไปที่อื่นแทน ท่านก็จะไม่สามารถออกจากโลกนี้ได้”

“นี่มันคือโลกมายาไม่ใช่หรือ ความโกลาหลนี้เป็นของจริงอย่างนั้นหรือ”

“ใช่ ความโกลาหลที่อยู่ในซากปรักหักพังของโลกคู่ขนานที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นของจริงเท่านั้น แต่มันยังทำลายโลกคู่ขนานอีกด้วย ดังนั้นท่านต้องเอาชนะความโกลาหล เจตจำนงที่เหลืออยู่ของโลกคู่ขนานจะเชื่อฟังคำสั่งท่านก่อนจะพาออกไป”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่แปลกใจเลยที่ข้ารู้สึกว่าหน้าต่างระบบนี้คล้ายกับมีพลังพิเศษ ไม่ได้เหมือนกับสิ่งที่เรียกว่าภาพมายา” กู่ฉิงซานพยักหน้า

เขายืนอยู่บนภูเขาโดดเดี่ยว มองดูความว่างเปล่าทุกทิศทาง

โลกใบนี้ที่เต็มไปด้วยพลังอันยอดเยี่ยมและอนาคตอันสดใสถูกความโกลาหลทำลาย

เจตจำนงที่เหลืออยู่ของโลกคู่ขนานไม่เต็มใจจะให้เป็นแบบนั้น

แต่ว่า

เขาสังหารความโกลาหลไม่ได้

ความโกลาหลจะคงอยู่เสมอและไม่มีวันตาย

หน้าต่างระบบพิเศษของ “นักฆ่ามังกร” ตรงหน้าคือสิ่งที่เขาอยากเอาชนะ

แล้วทำอย่างไรถึงจะชนะล่ะ

กู่ฉิงซานครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง

ท้องนภาค่อยๆ มืดมน

รุ่งอรุณมาเยือน

ดวงอาทิตย์ขึ้น จากนั้นก็ตกอีกครั้ง

โลกถูกปกคลุมด้วยความมืด

คืนที่สองผ่านไป

แสงยามเช้าสาดส่องลงมาเล็กน้อย

กู่ฉิงซานยืนอยู่แบบนี้สองวันสองคืน แทบไม่ได้ขยับไปไหนสักก้าว

เมื่อน้ำค้างยามเช้าทำให้ชุดของเขาเปียกชื้น เขาค่อยๆ กลับมามีสติอีกครั้ง

“หน้าต่างระบบเทพสงคราม” กู่ฉิงซานกล่าว

“ข้าอยู่นี่แล้ว” หน้าต่างระบบตอบ

“ข้ามีคำถาม”

“ขอบคุณสำหรับพลังวิญญาณสิบแต้ม เชิญท่านถามมาได้”

“บัญญัติถูกสร้างขึ้นมาได้หรือเปล่า”

หน้าต่างระบบเทพสงครามเงียบ

ผ่านไปสักพัก หน้าต่างระบบจึงยอมแพ้ก่อนถามว่า “ทำไมท่านถึงคิดจะสร้างบัญญัติล่ะ”

“ความโกลาหลเป็นปฏิปักษ์กับบัญญัติ เมื่อโลกมีบัญญัติ ข้าก็สามารถทำให้พวกมันอยู่ในความสมดุลได้”

กู่ฉิงซานคร่ำครวญก่อนกล่าวต่อว่า “โลกจะเติบโตและพัฒนาเพราะเกิดสมดุล มันจะไม่ถูกทำลาย”

หน้าต่างระบบเทพสงครามกล่าวว่า “นี่นับว่าเป็นกลยุทธ์ที่น่าทึ่งเสียจริงแต่น่าเสียดาย ท่านไม่สามารถทำแบบนี้ได้”

“เจ้าหมายความว่าข้าไม่สามารถทำได้ด้วยพละกำลังตอนนี้ใช่หรือไม่” กู่ฉิงซานถาม

“ใช่ บัญญัติไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะสามารถสร้างได้” หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบ

กู่ฉิงซานตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

เขาคิดอยู่นาน ทันใดนั้นก็พลันมองท้องนภา

หรือบางที…

จะสามารถทำแบบนี้ได้

กู่ฉิงซานสูดหายใจเข้า เงยหน้าขึ้นก่อนถามเสียงดังว่า

“เจ้าอยากแก้แค้นหรือเปล่า”

หลังจากรอหลายอึดใจ

เหนือท้องนภา มีเสียงฟ้าร้องฉับพลันสั่นสะเทือนไปทุกหนแห่ง

เจตจำนงที่เหลืออยู่ของโลกคู่ขนานให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของกู่ฉิงซานเสมอ เมื่อเขาตะโกน มันตอบรับในทันที

กู่ฉิงซานถามเสียงดังอีกครั้งว่า “ดีมาก ข้าก็คิดแบบนั้น ถ้าเจ้าสามารถสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับข้าได้ พวกเราก็สามารถเอาชนะความโกลาหลได้ เจ้าอยากทำเรื่องนี้ร่วมกับข้าหรือเปล่า ”

‘ครืน!’

อสนีบาตเป็นประกายเจิดจ้าฟาดลงมาก่อนระเบิดในความว่างเปล่านอกภูเขาโดดเดี่ยว

เจตจำนองที่เหลือของโลกคู่ขนานตอบรับด้วยเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราด

กู่ฉิงซานพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

“เอาล่ะ ฉานนู่ เจ้าอยู่ที่นี่ คอยดูแลร่างของหมอนี่ที”

“ได้เลย นายท่าน”

กู่ฉิงซานมองท้องนภาอีกครั้ง “ถ้าเช่นนั้น ให้ข้าจัดการเอง”

เขาทะยานขึ้นสูงก่อนพุ่งเข้าใส่ท้องนภา

พุ่งขึ้น!

พุ่งขึ้นไป!

พุ่งขึ้นไปไม่หยุด!

กู่ฉิงซานพุ่งเข้าใส่หอคอยขนาดใหญ่ของสมาคมจอมเวท ศูนย์กลางอารยธรรมของโลกนี้

หายากนักที่หน้าต่างระบบเทพสงครามจะเป็นฝ่ายถาม “กู่ฉิงซาน ท่านจะทำอะไร”

ปากของกู่ฉิงซานยกขึ้นเล็กน้อย

“ไม่มีอะไร มันก็แค่บัญญัตินั่น ข้าคุ้นเคยกับมันดี” เขากล่าว

...........................................