webnovel

0874 ความลับของบัญญัติ

ตอนที่ 874 ความลับของบัญญัติ

หลุมในความว่างเปล่าปิดตัวลง

อาจจะเป็นการยาหที่ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวจะรวบรวมร่างกายได้ในเวลาอันสั้นก่อนจะโต้กลับอีกครั้ง

กู่ฉิงซานมองชายที่มีแสงและเงาปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย

“ข้ายังไม่ได้ถามเลย…”

“ชื่อของข้าคือซีสองสาม”

“ซีสองสามหรือ?”

“ใช่ ข้าไม่มีชื่อจนกว่าจะผ่านการทดสอบ”

ซีสองสามกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ข้าไม่คิดเลยว่าจะถูกใช้เพื่อแลกเปลี่ยนกับหุบเหว นี่คือความน่าอับอายในชีวิตของข้า”

กู่ฉิงซานมองเห็นความเกลียดชังในแววตาของอีกฝ่าย

ทันใดนั้น มีเสียงแผ่วเบาดังขึ้น

ศีรษะของ c23 ระเบิด ทั้งร่างล้มลงกับพื้น

เขาไม่จำเป็นต้องก้าวเข้าไปตรวจสอบ แค่ใช้จิตเทพสำรวจดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายตายแล้วจริงๆ

กู่ฉิงซานตกตะลึง

ไม่มีสัญญาณการตายของอีกฝ่าย เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบสนอง

ขืนเป็นแบบนี้ มันจะเต็มไปด้วยตัวตนของบัญญัติราชามาร แล้วจะถือว่าตายได้อย่างไร

ในความว่างเปล่าตรงหน้าเขา แถวตัวอักษรโลหิตขนาดเล็กพลันปรากฏขึ้น

“ร่างต้นแบบอยู่เหนือการควบคุม การทำลายเสร็จสิ้น”

“เริ่มทำการดึงแหล่งกำเนิดบัญญัติจากร่างต้นแบบเพื่อเสริมพลังบัญญัติ”

“ทำการดึงเสร็จสิ้น ได้รับพลังสำรองของอีกฝ่ายแล้ว”

“ท่านผู้ส่งสารแห่งบาป เมื่อท่านทำภารกิจบัญญัติเสร็จสิ้น บัญญัติจะวิวัฒนาการจนสำเร็จด้วยความเร็วสูงสุด”

กู่ฉิงซานชำเลืองมองมันแล้วถามว่า “ร่างต้นแบบคืออะไร”

บัญญัติราชามารตอบว่า “บัญญัติเพิ่งเริ่มพยายามโหลดร่างทดสอบบนตัวมนุษย์ พวกมันไม่เสถียรและอันตรายมาก ทันทีที่เป็นอิสระ พวกมันจะสร้างปัญหาอย่างใหญ่หลวง ดังนั้น ตอนแรกจึงติดตั้งการทำลายตัวเองในเผ่าพันธุ์มนุษย์”

“สิทธิ์ของรายละเอียดที่เกี่ยวข้องถือเป็นความลับสุดยอด ท่านไม่สามารถเข้าถึงได้ชั่วคราว”

“ท่านเพียงต้องจำไว้แค่อย่างเดียว นั่นก็คือในโลกนี้สามารถมีราชามารได้เพียงหนึ่งตนเท่านั้น”

กู่ฉิงซานเงียบ

ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวเองที่ตาย แต่คำพูดของบัญญัติมันช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก

“พูดแบบนี้มันก็แปลก” กู่ฉิงซานกล่าวขณะคิด “ขณะร่วมทางกันมาตลอด แต่ข้ากลับไม่คิดว่าบัญญัติจะยิ่งใหญ่ได้ถึงขนาดนี้”

บัญญัติราชามารกล่าวว่า “นั่นก็เพราะสถานการณ์พิเศษ บัญญัติยอมยกการทำงานและพลังทั้งหมดให้เพื่อวิวัฒนาการพละกำลังทั้งหมดมาช่วยท่านให้ไปถึงระดับราชามารแห่งบาป”

“เจ้าหมายความว่าตัวเองไม่มีเวลาผ่อนคลายเลยหรือ” กู่ฉิงซานถาม

บัญญัติราชามารตอบว่า “เพื่อช่วยท่าน บัญญัตินี้จะไม่พัฒนาการทำงานที่ทรงพลังตั้งแต่ระดับต้นเพลิงเพื่อนำมาใช้ในการวิวัฒนาการอย่างเต็มที่”

กู่ฉิงซานครุ่นคิดอย่างละเอียดก่อนจนอดที่จะพยักหน้าไม่ได้

เขาต้องยอมรับเรื่องนี้: เพื่อไปถึงระดับการจุติของราชามารให้เร็วที่สุด บัญญัติจึงยอมทำทุกอย่าง

แต่ว่า…

กู่ฉิงซานมองซากศพ รู้สึกเสมอว่ามีบางสิ่งแปลกประหลาดจากยุคโบราณที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคิดถึงเรื่องนี้

สถานการณ์จริงยุ่งยากกว่าที่เขาคิดเอาไว้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ กู่ฉิงซานมองด้านหลังของตำหนักราชาเทพ

ตอนนี้ เพื่อตามหาช่วงเวลาที่แท้จริงของเผ่าพันธุ์มนุษย์ “มนุษย์แสง” เทพลี่และ “เทพแห่งความเย็นยะเยือก” รับคำสั่งพร้อมกัน ดังนั้นเทพทั้งหมดจึงไปที่ภาพซ้อนทับแห่งเวลา

“มนุษย์แสง” รับคำสั่งนี้ก็เพื่อตัวเอง

“เทพแห่งความเย็นยะเยือก” เชื่อฟังการส่งจิตเทพของกู่ฉิงซานก่อนจะยอมรับคำสั่งนี้

ส่วนเทพลี่ก็ตอบรับเช่นกัน

…ถึงแม้จิตใจจะไม่สู้ดีก็ตาม

ดังนั้นนี่จึงเป็นฉากที่หาได้ยาก

ทั่วท้องนภาว่างเปล่า ไม่มีเทพองค์อื่นอยู่ในตำหนักราชาเทพเว้นแต่เทพแห่งความเย็นยะเยือก

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจของกู่ฉิงซานขณะเดินไปยังด้านหลังของตำหนักราชาเทพ

“เจ้าจะไปไหน” ลั่วปิงหลีถามด้วยความสับสน

“ดูรอบๆ น่ะ” กู่ฉิงซานตอบ

เขาเอื้อมมือไปหาฉานนู่

ฉานนู่รู้งานก่อนโยนคทาราชาเทพให้เขา

กู่ฉิงซานรับคทามาก่อนเดินข้ามระเบียงจนมาถึงคลังสมบัติมรดกเผ่าพันธุ์เทพ

กู่ฉิงซานเดินไปตามทางของตำหนักจนถึงประตูของคลังสมบัติมรดก

ประตูโลหะยักษ์ของคลังสมบัติมรดกเผ่าพันธุ์เทพปิดอย่างแน่นหนา อักขระลึกลับซับซ้อนจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ที่ประตู แค่มองดู เขาก็รู้สึกเหมือนวิญญาณได้รับผลกระทบเล็กน้อย

ทุกการโจมตีใส่ประตูโลหะยักษ์จะเป็นการเปิดใช้มาตรการตอบโต้ให้กับประตู

“เจ้าไม่สามารถเข้าได้หรอก ราชาเทพแต่ละองค์สามารถเข้าได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น” ลั่วปิงหลีกล่าว

“ข้ารู้ แต่คทาของข้ามาจากโลกคู่ขนาน แถมข้ายังไม่ได้แตะต้องคลังสมบัติของที่นี่เลยด้วย”

กู่ฉิงซานจ้องประตูโลหะก่อนกล่าวต่อว่า “ถ้าจะลองอีกสักครั้งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่”

ดูเหมือนมันจะสัมผัสถึงการมาของคทาราชาเทพ อักขระทั้งหมดบนประตูเหล็กยักษ์ส่องแสง

พวกมันก่อตัวเป็นวังวนหมุนไปมารอบศูนย์กลางประตูเหล็กยักษ์

กู่ฉิงซานชูคทาราชาเทพขึ้นก่นสอดมันเข้าไปในหลุมดำที่อยู่ตรงกลางอักขระทั้งหมด

เพียงพริบตา ลำแสงตกลงมาจากประตูโลหะยักษ์ก่อนฉายมาที่กู่ฉิงซาน

เขาหายไปจากประตูโลหะยักษ์

ลั่วปิงหลีและฉานนู่มองหน้ากัน

“เขาจะทำอะไรน่ะ” ลั่วปิงหลีถาม

“ข้าไม่รู้ การต่อสู้อันดุเดือดใกล้เข้ามาแล้ว นายท่านอาจจะมีแผนก็ได้ รออย่างอดทนเถอะ” ฉานนู่กล่าว

พวกนางรออยู่นานก่อนกู่ฉิงซานจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

มีแขนจักรกลเรียวจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ในอ้อมแขนของเขา ดูน่าสะพรึงกลัวไม่ใช่น้อย

ฉานนู่ตกตะลึงจนอดที่จะถามไม่ได้ว่า “นายท่าน…”

“ไม่เป็นไร ของเล็กๆ น้อยๆ น่ะ”

ขณะกู่ฉิงซานพูด เขาวางแขนจักรกลอย่างระมัดระวัง

เขาดูเหนื่อยล้า แต่ดวงตากำลังทอประกาย

ตอนนี้เขาต้องไปเอาดาบศักดิ์สิทธิ์แล้ว!

สายตาของเขากวาดมองคนอื่น

ลั่วปิงหลี

เสี่ยวซีที่กำลังหลับอยู่

และฉานนู่ผู้กลายเป็นเทพแห่งความเย็นยะเยือก

กู่ฉิงซานมองลั่วปิงหลีก่อนถามว่า “ข้าจะไปช่วงเวลานั้นแล้ว เจ้าไปได้หรือเปล่า”

…ช่วงเวลาที่แท้จริงแยกจากเส้นเวลา กลายเป็นเกาะเวลา

ทันทีที่ลั่วปิงหลีสองคนปรากฏตัวขึ้นบนเกาะเวลา หนึ่งในพวกนางจะต้องถูกลบล้างโดยกฏเกณฑ์แห่งเวลา

ลั่วปิงหลีมองเขาแล้วพลันกล่าวว่า “ความจริง ข้าออกมาจากช่วงเวลาที่แท้จริงนั่นแหละ”

กู่ฉิงซานถามทันทีว่า “ทำไมเจ้าสามารถออกมาจากช่วงเวลานั้นได้ล่ะ”

ลั่วปิงหลีตอบว่า “ข้าคือวิญญาณอาวุธของอาวุธนั่น เมื่ออาวุธหุบเหวแตกหัก นั่นหมายความว่าข้าจะตายเช่นกัน แต่กลายเป็นว่าการหลอมดาบศักดิ์สิทธิ์ยังขาดไปขั้นหนึ่ง”

“เจอปัญหาอะไรเข้าล่ะ” กู่ฉิงซานวิตกขึ้นมา

เขานึกถึงความฝันของเซี่ยเต้าหลิง เขาเคยได้ยินนักพรตโบราณกล่าวว่า

“ดาบศักดิ์สิทธิ์ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังเหลือขั้นตอนการหลอมที่สำคัญอยู่อีก”

ลั่วปิงหลีกล่าวว่า “ดาบศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ได้ให้กำเนิดวิญญาณ”

“ราชาอมตะให้สัญญากับข้าว่าตราบที่นำผู้แสวงหาดาบเผ่าพันธุ์มนุษย์มาหาเขา เขาจะยอมให้ข้าอยู่ในดาบศักดิ์สิทธิ์ สำหรับดาบศักดิ์สิทธิ์เองก็ถือว่าได้ความคล่องตัวไปด้วย”

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างช้าๆ ว่า “อาวุธหุบเหวนิรันดร์แตกหักเพราะราชาอมตะ มีเหตุผลที่เจ้าจะเกลียดเขานะ”

ลั่วปิงหลีจ้องเขาแล้วกล่าวว่า “ข้าเห็นตั้งแต่ต้นจนจบว่าเจ้าพยายามอย่างหนักแค่ไหนในการช่วยอาวุธ ข้าคิดว่าจุดหมายนี้ก็ดีเหมือนกัน”

กู่ฉิงซานตกตะลึง

สีหน้าของลั่วปิงหลีค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้นมา

“ช่วงเวลาที่แท้จริงนั่นถูกเล่นซ้ำไปมาไม่มีสิ้นสุด ราชาอมตะคาดเดาช่วงเวลานับไม่ถ้วนและพยายามร่วมกับยอดนักพรตมากมายเพื่อออกแบบวิธีการเอาดาบมาอย่างระมัดระวัง ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงมังกรหุบเหวและวิญญาณกรีดร้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

“กู่ฉิงซานกล่าวว่า “หรือก็คือ ตราบที่ข้าเดินไปตามทางนั่น ข้าจะได้ดาบศักดิ์สิทธิ์มาในตอนท้ายใช่หรือไม่”

“ถูกต้อง พวกเขาฝึกซ้อมมานับครั้งไม่ถ้วนก็เพื่อช่วงเวลานี้แหละ” ลั่วปิงหลีกล่าว

กู่ฉิงซานพึมพำว่า “เพื่อหลีกเลี่ยงมังกรหุบเหวและวิญญาณกรีดร้อง พวกเขาต้องพยายามสุดความสามารถ”

“ใช่” ลั่วปิงหลีกล่าว “ทันทีที่เจ้าเข้าสู่ช่วงเวลาที่แท้จริง ราชาอมตะจะคลายวิชาเวลาเพื่อให้เจ้าสามารถเอาดาบศักดิ์สิทธิ์มาได้”

“ถึงตอนนั้น ทุกสิ่งก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้อีก”

“จำเอาไว้ เวลาของเจ้ามีจำกัดมาก มีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว มังกรหุบเหวและวิญญาณกรีดร้องจะลงมือในไม่ช้า”

“เข้าใจแล้ว” กู่ฉิงซานวิตกขึ้นมาช้าๆ

…ไม่ใช่แค่ช่วงเวลานั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้เท่านั้น

ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในวิชาย้อนเวลา ทำให้ไม่สามารถลงมือทำได้อีกหายตายขึ้นมา

ยิ่งกว่านั้น หากเขาไม่ได้ดาบศักดิ์สิทธิ์มา ดาบพิภพจะตาย

“เจ้าไม่ได้เตรียมมาตรการรับมือเลยหรือ” เขาอดที่จะถามไม่ได้

“แน่นอนว่ามีมาตรการเตรียมการสำหรับเรื่องสำคัญแบบนี้” ลั่วปิงหลีอ้าแขนออก “ราชาอมตะออกแบบภาพซ้อนทับแห่งเวลาขึ้นมาให้เหมือนกับช่วงเวลาที่แท้จริง เจ้าต้องไปดูที่นั่นก่อนเพื่อเรียนรู้วิธีไปเอาดาบศักดิ์สิทธิ์มา เมื่อเจ้าเข้าใจขั้นตอนดีแล้ว พวกเราจะเริ่มช่วงเวลาที่มุ่งสู่โลกจริงอย่างเป็นทางการ”

กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วกล่าวว่า “แบบนั้นก็ดี”

ลั่วปิงหลีหยิบแผ่นหยกเรืองรองออกมาก่อนโยนขึ้นในอากาศ

แผ่นหยกพลันส่องแสง ทันท้วนตัวกลายเป็นแสงและเงาคู่หนึ่ง

กู่ฉิงซานได้เห็นฉากการต่อสู้อันดุเดือด

นักพรตยอมสละชีวิตเพื่อต่อสู้

เผ่าพันธุ์มนุษย์ๆ ค่อยถูกกวาดล้าง

ทุกคนตายกันหมด

กู่ฉิงซานอดที่จะถอนหายใจไม่ได้

ลั่วปิงหลีกล่าวทันทีว่า “เมื่อเริ่มช่วงเวลานั้น มังกรหุบเหว วิญญาณกรีดร้องและผู้ถักทอชีวิตหุบเหวล้วนอยู่ใจกลางของสมรภูมิ พวกมันล้อมดาบศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ขณะสู้กันเองเพื่อแก่งแย่งมัน”

“ในช่วงเวลาสุดท้าย ราชาอมตะรู้ว่าเขาจะยกอาวุธให้สัตว์ประหลาดสามตัวที่น่าหวาดกลัวไม่ได้เด็ดขาด”

“เขาจึงปลดปล่อยพลังของอาวุธหุบเหวนิรันดร์ออกมา สร้างยุคที่ทำซ้ำไปมาก่อนซ่อนชั่วโมงนี้เอาไว้”

“ช่วงเวลานั้นแหละที่ดาบศักดิ์สิทธิ์จะได้รับอิสระจากอาวุธนั่น”

“หลังจากนั้น มังกรหุบเหว วิญญาณกรีดร้องและผู้ถักทอชีวิตหุบเหวจะมาพร้อมกันเพื่อแย่งดาบศักดิ์สิทธิ์”

“เจ้าต้องไปเอาดาบศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะถึงช่วงเวลานั้น ข้าจะได้สามารถผสานไปได้”

“เมื่อข้าผสานเข้าไปแล้วจึงจะสามารถหลอมดาบศักดิ์สิทธิ์ได้จนสามารถปลดปล่อยพลังของสามเหรียญเพื่อกลับสู่อนาคตได้”

กู่ฉิงซานตั้งใจฟังขณะสังเกตแสงและเงา

สมรภูมิปั่นป่วน ทุกคนตาย

นี่มันช่างน่าเวทนาเกินไป

“ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวถูกลบล้างไปแล้ว” กู่ฉิงซานกลับมาสงบขณะกล่าวเช่นนั้น

“ใช่ แต่มังกรหุบเหวกลับวิญญาณกรีดร้องก็ไม่ใช่สิ่งที่จะรับมือได้” ลั่วปิงหลีกล่าว

“หลังจากพวกเราเข้าสู่ช่วงเวลานั้น พวกเราจะไปปรากฏตัวที่ไหนล่ะ”

“พวกเราจะปรากฏตัวที่สุดขอบของสมรภูมิ เจ้าต้องหาทางเข้าสู่ใจกลางสมรภูมิให้ได้ เจ้าต้องซ่อนตัวจากมังกรหุบเหวและวิญญาณกรีดร้องเพื่อไปเอาดาบศักดิ์สิทธิ์มา”

“เข้าใจแล้ว”

………………………………………