webnovel

0687 การล่มสลายของหอคอยสูง

ตอนที่ 687 การล่มสลายของหอคอยสูง

ย้อนเวลากลับไปอีกสักเล็กน้อย

ในช่วงเวลาที่กู่ฉิงซานยังคงซ่อนตัวอยู่ในซากยานอวกาศ แต่สุดท้ายก็ถูกอัญเชิญโดยวังเฉิง

อีกด้านหนึ่ง

ภายนอกดินแดนชิงอำนาจ

ณ โลกของหอคอยสูง

สงครามโศกนาฏกรรมที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนกำลังจะสิ้นสุดลง

ตูม...

ในระยะไกลออกไป หอคอยสูงที่เชื่อมต่อระหว่างผืนฟ้าและผืนดินหักโค่นลงอย่างกะทันหัน

หอคอยแห่งความรู้ของเหล่าทวยเทพถูกทำลายลงแล้ว!

เสียงกรีดร้องแหลมของผู้หญิงกังวานไปทั้งโลก “เจ้าพวกสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นโดยทวยเทพเอ๋ย พวกเจ้ามันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความสิ้นหวัง”

เสียงของผู้ชายที่ดูบ้าคลั่งดังตามมา “ค่าของพวกเจ้ามีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือจิตวิญญาณที่จะกลายมาเป็นสารอาหารให้แก่พวกเรา!!”

ตามด้วยสองเสียงผสานแผดร้องทั้งชายหญิง “จิตวิญญาณ! จงมอบจิตวิญญาณของพวกเจ้าแก่ข้า! อ๊า”

ท่ามกลางเสียงแผดร้อง มอนสเตอร์ที่ยืนอยู่ใจกลางสนามรบก็เริ่มอ้าปากกว้าง

เหล่าผู้คนที่กำลังต่อสู้อยู่พลันร่วงกระแทกลงกับพื้น

จิตวิญญาณผุดออกจากร่างของพวกเขา ถูกดูดเข้าไปในปากของมอนสเตอร์

ตลอดทั้งสนามรบ จิตวิญญาณนับไม่ถ้วนถูกดึงดูดไปทางมอนสเตอร์

เฉพาะเพียงคนจากสถาบันเทพเท่านั้นที่ไม่หวั่นเกรงต่อการดูดวิญญาณนี้ นอกเหนือไปจากพวกเขา คนอื่นๆ ล้วนต่างตกอยู่ในความหวาดกลัว สิ้นหวังเป็นประวัติการณ์

ตัวตนทรงอำนาจที่กำลังต่อกรกับคนจากสถาบันเทพ จำต้องละทิ้งพวกมัน หันไปโถมโจมตีด้วยพลังที่รุนแรงที่สุด ทุ่มสุดกำลังเข้าใส่มอนสเตอร์แทน

ทว่าการโจมตีของพวกเขากลับไร้ประโยชน์

มอนสเตอร์ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างปลอดภัย ไร้ซึ่งอันตรายใดๆ มันยังคงดูดวิญญาณอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งเหล่าจ้าววงการจำนวนมากก็ยังไม่สามารถต้านทานการถูกดูดกลืนนี้ได้ จิตวิญญาณของพวกเขาเริ่มถูกแยกออกจากร่างกาย ลอยเข้าไปในปากมอนสเตอร์

และบรรดาผู้คนที่พอมีความสามารถในการต้านทานมัน ก็มิใช่จะรอดพ้น ต้องตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เพราะในทุกๆ วินาทีที่ขัดขืน ร่างกายของพวกเขาจะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ค่อยๆ ถูกทำลายลง

ภายในไม่กี่ลมหายใจ หลายร่างของพวกเขาก็ถูกทำลายลงด้วยพลังที่มองไม่เห็น จิตวิญญาณไร้ซึ่งที่พึ่งพิงอีกต่อไป

จวบจนถึงสถานการณ์นี้ จิตวิญญาณของพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานการดูดกลืนของมอนสเตอร์ และจำต้องลอยไปหามัน ถูกกินแม้จะไม่ยินยอม

ตลอดทั้งสนามรบ จำนวนผู้รอดชีวิตลดน้อยถดถอยลงเรื่อยๆ

จุดจบของโลกเก้าร้อยล้านชั้นดูเหมือนว่าจะใกล้เข้ามาแล้ว

แต่ทันใดนั้นเอง แสงสว่างสีฟ้าดั่งท้องทะเลก็โอบเข้าปกคลุมทั่วทั้งสนามรบ

ภายใต้แสงสีฟ้าสดใสนี้ เหล่าจิตวิญญาณพลันได้รับอิสรภาพทันที

มนตราดูดวิญญาณของมอนสเตอร์ถูกขัดจังหวะอย่างกะทันหัน

“เป็นใครกัน! ที่กล้าขัดขวางการช่วงเวลาอันโอชะของข้า!”

ชายหญิงตะโกนด้วยความโกรธเคือง

ขณะเดียวกัน ผู้คนที่ยังรอดชีวิตอยู่ในสนามรบ ต้องก็โห่ร้องด้วยความประหลาดใจ

“ท่านหญิงแบล็กซี!”

“ท่านแบล็กซีมาที่นี่!”

“พวกเรารอดแล้ว!”

“ท่านหญิง ได้โปรดนำทัพพวกเราเข้าต่อสู้ด้วยเถอะ!”

ได้ยินถึงเสียงร่ำร้องของทุกคน ท่ามกลางความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตก็บังเกิดเสียงทอดถอนหายใจดังขึ้น

เหล่าผู้ที่ยังรอดชีวิต ภายในหูของพวกเขาได้ยินเสียงของท่านหญิงแบล็กซี “ข้าจะพาพวกเจ้าไปยังดินแดนชิงอำนาจ ที่นั่น กำแพงอุปสรรคที่เกิดจากอำนาจเทวะของเจ็ดเทพกำลังจะถูกเปิดใช้งานในไม่ช้า ตลอดทั้งดินแดนชิงอำนาจจะถูกซ่อนโดยสมบูรณ์”

“จงอย่าได้ออกไปจากดินแดนชิงอำนาจ เพราะตลอดทั้งโลกเก้าร้อยล้านชั้น มีเพียงสถานที่นั่นแห่งเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ชั่วคราว!”

“พวกเจ้าจะต้องฟื้นฟูความแข็งแกร่งตน อยู่รอดต่อไป และคิดหาวิธีจัดการกับมัน”

ร่างของคนที่รอดถูกอาบไปด้วยแสงสีฟ้าใส บังเกิดชั้นผลึกควบแน่นตลอดทั้งร่างกายของพวกเขา

ชั้นน้ำแข็งคริสทัลแช่แข็งพวกเขา แล้วจากนั้น

ผลึกน้ำแข็งทั้งหมดก็ลอยขึ้นไปในอากาศ และหายวับไปทันที

มอนสเตอร์เฝ้ามองดูฉากนี้อย่างเงียบๆ

อันที่จริงมันลองพยายามอยู่สองสามครั้งแล้ว แต่ก็พบว่าไม่อาจหยุดกฎเกณฑ์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ได้เลย

เฝ้ารอจนกระทั่งทุกอย่างจบลง มอนสเตอร์จึงมองไปที่ใดสักแห่งในความว่างเปล่า

เสียงผู้หญิงของมอนสเตอร์หัวเราะคิกคัก ปากเอ่ยถามอย่างช้าๆ “คนเหล่านั้นถูกส่งไปที่ใดกัน?”

ทว่าโดยรอบกลับมีเพียงความเงียบ

ไม่มีใครตอบคำถามของเธอ

แต่เสียงของผู้หญิงก็เริ่มดูภาคภูมิใจมากขึ้น “ข้าไม่สามารถหยุดสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจากการหลบหนีได้ ฉะนั้น ขอเดาว่ากระบวนการนี้ คงจะมีแต่เทพเท่านั้นที่ทำได้ ไม่คาดหวังเลยว่านอกจากเจ้าเจ็ดเทพชั่วร้ายนั่น จะยังมีเทพวิญญาณหลงเหลืออยู่ที่นี่ ไม่ยอมหลบหนีไปจากโลกเก้าร้อยล้านชั้นอยู่อีก”

เสียงผู้ชายคลุ้มคลั่ง “แต่ในเมื่อยังไม่หลบหนีไป เช่นนั้นโชคชะตาของเจ้าคงถึงวาระเสียแล้ว!”

สองเสียงร่วมกันแผดก้อง “เจ้าไม่สามารถหนีไปได้ โชคชะตาของเจ้าคือต้องมาตกอยู่ภายในท้องของข้า!”

ท่ามกลางแสงสีฟ้าไร้ขอบเขต เสียงของหญิงสาวถอนหายใจดังขึ้น

เธอกล่าว “แม้วันนี้ข้าจะตาย แต่มันไม่ใช่ในฐานะของกินของเจ้า!”

ระหว่างกล่าว โลกทั้งใบก็เริ่มล่มสลายลง

อีกด้านหนึ่ง

นักรบที่ยังมีชีวิตรอด ทั้งหมดต่างถูกผนึกด้วยผลึกน้ำแข็งสีฟ้า ถูกส่งข้ามโลกนับไม่ถ้วนตรงไปยังดินแดนชิงอำนาจ

ผลึกน้ำแข็งราวกับฝนดาวตก กระจายกันออกไปตามจุดต่างๆ อย่างรวดเร็วในดินแดนชิงอำนาจสองร้อยล้านชั้น

ฝนดาวตกสิ้นสุดลง

วินาทีต่อมา

เสียงของมนุษย์แสงก็ก้องกังวานผ่านทุกชั้นโลกในดินแดนชิงอำนาจ

เป็นเสียงอันศักดิ์สิทธิ์และน่าเคารพนอบน้อม มนุษย์แสงป่าวประกาศว่า “โปรดทราบ ผู้ศรัทธาคนแรกที่สามารถจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว”

“หนทางสู่การเป็นเทพได้เปิดออกอย่างเป็นทางการ”

“อำนาจเทวะที่ถูกวางไว้โดยเทพวิญญาณจะถูกเปิดใช้งานในไม่ช้า”

“ดินแดนชิงอำนาจจะถูกซ่อนจากโลกเก้าร้อยล้านชั้น”

“นับจากนี้ไป ใครก็ตามที่ออกจากดินแดนชิงอำนาจ จะไม่สามารถเข้ากลับมายังดินแดนชิงอำนาจได้อีกเลยตลอดกาล!”

ในตลอดทั้งโลกเก้าร้อยล้านชั้น ดินแดนชิงอำนาจทั้งหมดค่อยๆ หายไป

ผู้คนไม่สามารถค้นหาโลกสองร้อยล้านชั้นได้อีกต่อไป สูญสิ้นซึ่งหนทางเข้าสู่โลกเหล่านั้น

เวลาเดียวกัน ในดินแดนชิงอำนาจ

หนึ่งในผลึกน้ำแข็งสีฟ้า จากมากมายนับไม่ถ้วนได้ข้ามผ่านกระแสมิติ และร่วงตกลงสู่โลกเกรย์แฮนด์

รอบๆ ผลึกน้ำแข็ง ปรากฏลวดลายอันลึกลับของทวยเทพขึ้นเป็นครั้งคราว

ลวดลายเหล่านี้ มีไว้เพื่อให้มั่นใจว่าผลึกน้ำแข็งจะไม่ถูกรบกวน หรือตรวจพบได้โดยอำนาจใดๆ

ผลึกน้ำแข็งเงียบงัน และทันใดนั้นมันก็ตัดผ่านท้องฟ้า ร่วงตกลงไปในทะเลทรายที่อยู่ห่างไกลในโลกเกรย์แฮนด์

ผลึกน้ำแข็งจมลงใต้พื้นดิน ความมืดมิดรายล้อมมันโดยสมบูรณ์

เป็นเวลานาน

เสียงของผู้หญิงจากผลึกน้ำแข็งก็ดังขึ้น

“กระ...บี่…ปฏิญาณ”

ซูม!

ระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกไปทั่วโลก

ภายในใต้ดินอันมืดมิด

เสียงไออย่างรุนแรงของหญิงสาวดังขึ้น ราวกับว่ามนตราก่อนหน้านี้ได้ดูดกลืนพลังทั้งหมดของเธอไป

หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เริ่มพูดออกมา “อีกฝั่ง…หนึ่ง…เป็น...ใครกัน?”

ทันใดนั้น เสียงที่ดูกังวลก็ดังขึ้นใกล้กับผลึกน้ำแข็ง

 “คุณคือหยุนจี? จ้าวแห่งหมอก ผู้คุ้มภัยแห่งโชคชะตาลี้ลับ ภัยพิบัติแห่งอาณาจักรทั้งมวล ใช่หรือเปล่า?”

นี่คือเสียงของกู่ฉิงซาน

เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ณ โลกเกรย์แฮนด์

รุ่งสางยังมาไม่ถึง ดังนั้นนี่คือช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดของวัน

เหนือท้องฟ้าอันห่างไกล พริบตานั้นได้ยินถึงเสียงพรึบของปีกที่กระพือ

นกตัวหนึ่งบินตัดผ่านความมืดมิด โผบินจากส่วนลึกของฟากฟ้า

นกตัวนี้มิได้ส่งกลิ่นอายน่าหวาดหวั่นใดๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็สามารถสรุปได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

‘มันเป็นแค่นกธรรมดา’

ชั่วขณะหนึ่ง

นกก็ทิ้งตัวลงมาราวกับสายฟ้าฟาด สลับกับสะบัดปีกอย่างแรง

มันพยายามเร่งความเร็วของตัวเอง

ไม่นาน

นกก็ได้ลดระดับลงจากฟ้า ร่อนลงมากำลังจะถึงพื้นดิน

แล้วจู่ๆ มันก็หายวับไปทันที

แต่กลับปรากฏถึงชายในชุดเกราะดำ หน้ากากเกราะทองปรากฏขึ้นแทน

ชายคนนั้นยืนอยู่กลางอากาศ ก้มลงมองผืนทะเลทรายกว้างใหญ่เบื้องล่าง

ร่างของเขากะพริบไหว หายไปจากสถานที่เดิม และตกลงบนพื้นแห่งหนึ่งในระยะไกลออกไป

ด้วยผ้าสีดำที่ถืออยู่ในมือ จิตสัมผัสเทวะของชายคนนั้นก็ได้ล็อกลงตรงตำแหน่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว

เขารีบวิ่งไปข้างหน้า นั่งยองๆ แล้วค่อยๆ นาบมือหนึ่งหมุนวนรอบเนินทราย

ในมืออีกข้างหนึ่งจีบออกด้วยวิชาลับ

ฮ่า!

พลังวิญญาณพัดกระพือดั่งสายลมกรรโชก ปัดเป่าทรายเบื้องหน้าไป

ผลึกน้ำแข็งสีฟ้าปรากฏต่อหน้าเขา

ภายในผลึกน้ำแข็ง หญิงงามที่ตามตัวเปื้อนไปด้วยเลือด ตกอยู่ในอาการโคม่ากำลังหลับตาพริ้ม

อาการบาดเจ็บตามร่างกายของเธอช่างน่าตื่นตระหนก ทั้งคนทั้งร่างคล้ายกับกำลังใกล้จะตาย

หากไม่ใช่เพราะอำนาจสีครามที่เวียนวนอยู่ในผนึกคริสทัลคอยค้ำจุนชีวิต เกรงว่าเธอคงจะตายไปแล้ว….

........................................