webnovel

0527 -ยุทธเทพสงคราม

ตอนที่ 527 ยุทธเทพสงคราม

กู่ฉิงซานมองไปยังลอร่าและบอลคริสตัลในมือของเธอ

“นี่มันน่าทึ่งจริงๆ”

เขาบ่นงึมงำ

เด็กสาวอายุแค่สิบสองปี แต่กลับมีความสามารถถึงขั้นผนึกโลกทั้งใบได้!

เจ้าหญิงลอร่าใช้มืออีกข้างลูบไล้บอลคริสตัล ขณะเดียวกันปากเธอก็ร่ายคาถาเสียงกระซิบ

เส้นด้วยอันอ่อนนุ่มผุดออกมาจากบอลคริสตัล และตกลงสู่เบื้องหน้าของกู่ฉิงซาน

กู่ฉิวานคว้าจับเส้นด้วยเอาไว้

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม บรรทัดแสงตัวอักษรปรากฏขึ้นทันที

“ด้วยมิติแห่งโลกสมบัติของทริสเต้”

“คุณได้ผูกสัญญาณกับโลกมิติอนันต์อื่นๆ แล้ว ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถผูกสัญญาณกับโลกใบนี้ได้”

“วิชายุทธเทพสงคราม : ด้วยมิตินี้ไม่มีความสามารถใดๆ ”

“คำอธิบายตามพงศาวดาร : คุณได้ล่วงรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับมันมาก่อนแล้ว”

“คำอธิบายไอเท็ม : ด้วยมิตินี้จะนำไปสู่โลกมิติอนันต์แห่งหนึ่งที่แฝงความคาดหวังของเผ่ามารนับล้านๆ โลกใบนี้ถูกปกคลุมด้วยชั้นผนึกบางเบาแต่ขณะเดียวกันก็มีความสมดุลคอยคานรับกับพลังงานของโลกเอาไว้ ขอโปรดจงอย่าได้ไปกระตุ้นมัน มิฉะนั้นแล้วมีโอกาสเป็นไปได้สูงทีเดียวที่สมดุลนี้จะถูกทำลายลง”

กู่ฉิงซานเบนสายตาไปมองลอร่า

เห็นแค่เพียงท่าทีการแสดงออกของอีกฝ่ายที่ดูตึงเครียด

เธอพยายามเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น “ในความเป็นจริงแล้ว ตัวเราโชคดีที่สามารถผนึกโลกใบนี้เอาไว้ได้ ดังนั้นเจ้าห้ามขยับบอลคริสตัลนี้เด็ดขาด ขอจงเฝ้ารอให้เราสะกดมันสักครู่ มิฉะนั้นหากผนึกมีปัญหา ทริสเต้ก็จะสัมผัสถึงมันได้ทันที ”

“เข้าใจแล้ว”

กู่ฉิงซานแสดงท่าทีขึงขังจริงจังบ้างแล้วเหมือนกัน

ยบเปรียบกับลอร่า เกรงว่าในทางตรงกันข้ามเขาอาจจะล่วงรู้ถึงความอันตรายมากกว่าอีกฝ่ายเสียอีก

เผ่ามารนับล้านๆ กำลังเฝ้ารอให้โลกใบนี้ปรากฏขึ้น เพราะมันมีระบบของราชามารอยู่!

ในขณะเดียวกัน กู่ฉิงซานก็ต้องการที่จะช่วยโลกมิติอนันต์

ซึ่งหากเผ่ามารนับล้านๆ ได้รับด้วยมิติของโลกใบนี้ไปแล้วล่ะก็ ..

เพียงคิด ขนจากทั้งคนทั้งร่างของเขาก็ชูชันแล้ว

ไม่ว่าโลกมิติอนันต์นี้จะอยู่ที่ใดก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วมันย่อมต้องเป็นจุดเริ่มต้นของการนองเลือดและสายลมที่สาบไปด้วยกลิ่นเลือดเป็นแน่!

อย่างไรก็ตาม ลอร่าดันโชคดีสามารถปิดผนึกมันได้สำเร็จ!

น่ากลัวว่าเวลานี้ ทริสเต้คงแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว

เอ…ถ้าอย่างงั้นเขาจะสามารถโยนเจ้าบอลคริสตัลนี่ไปทิ้งที่ไหนได้บ้างกันนะ?

กู่ฉิงซานลอบคิดอย่างลับๆ

แต่เขาก็ล้มเลิกความคิดนี้ไปอย่างรวดเร็ว

เพราะไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม ก็ยังมิอาจรับประกันได้ว่าใครบางคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนั้น จะสามารถเอาชนะระบบของราชามาร หรือแสงแห่งรุ่งอรุณทริสเต้ที่มาพร้อมกับเผ่ามารนับล้านๆ ได้

กู่ฉิงซานหยุดคิดอย่างไม่เต็มใจ และเอ่ยถาม “หลังจากที่ช่วยแฟนของกระหม่อม พวกเราพอจะสามารถนำโลกใบนี้ไปทิ้งได้ไหม?”

“แบบนั้นไม่ใช่เรื่องดีหรอก เจ้าสามารถทำได้เพียงนำโลกใบนี้ติดตัวกลับไปยังสมาคมกำปั้นเหล็กเท่านั้น ซึ่งหากทำได้สำเร็จแล้วล่ะก็ ผู้คนในโลกตลอดทั้งเก้าร้อยล้านชั้นก็คงไม่มีใครจักต้องมาหวาดเกรงเผ่ามารอีกต่อไป” ล่อร่าพูดอย่างหมดหนทาง

“แล้วผนึกของฝ่าบาทจะสามารถอยู่ได้ยาวนานแค่ไหน?” กู่ฉิงซานเอ่ยถามอีกครั้ง

“พวกเราจะต้องตามหาแฟนสาวของเจ้าให้เจอภายในหนึ่งวัน”

กู่ฉิงซานมองบอลคริสตัล และเห็นว่าท้องฟ้าภายในท่วมไปด้วยสายลมและหิมะ นอกเหนือไปจากนั้นก็ไม่เห็นอะไรอีกเลย

พายุหิมะมันรุนแรงเกินไป แม้ว่าทัศนียภาพใดๆ ก็ไม่มีเวลามากพอที่จะเหลือบมองมัน -กล่าวได้ว่าเผยโฉมออกมาให้เห็นเพียงเสี้ยวพริบตามันก็ถูกกลีบหิมะวูบเข้าไปบดบังทันที

“งั้นจากนี้กระหม่อมจะเข้าไปข้างในเอง ฝ่าบาทก็รออยู่ข้างนอกนี่ หลังจากที่กระหม่อมพาแฟนสาวออกมา ก็จะพาท่านจากไปเอง” กู่ฉิงซานกล่าว

เขาคว้าจับดาบพิภพจากในความว่างเปล่า กระชับมันเอาไว้ในมือ ตั้งท่วงท่าเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้!

“ไม่ เราจะไปกับเจ้าด้วย” เด็กสาวตัวน้อยกล่าว

“เพราะอะไร?” กู่ฉิงซานย้อนถามอย่างสงสัย

“เพราะเรารู้สึกไม่ดีหากจะต้องอยู่ที่นี่เพียงลำพัง และหากตัวเราต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เราก็จะต้องช่วยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยเช่นกัน”

“นี่ฝ่าบาทคิดจะสู้ด้วยงั้นหรือ?”

“ไม่หรอก ในโลกของวิหคหนามตนอื่นๆ วิหคหนามที่ไม่ใช่เจ้าของไม่สมควรที่จะเปิดเผยกลิ่นอายเป็นอย่างยิ่ง มิฉะนั้นแล้วตัวเราย่อมที่จะถูกค้นพบได้อย่างแน่นอน”

“เอ้า...ก็ถ้าอย่างงั้นฝ่าบาทก็รออยู่ข้างนอกเถอะ เพราะอย่างไรซะ ท่านก็มีอายุแค่สิบสองปีเท่านั้นเอง”

“กล่าวเช่นนั้นหมายความว่ากระไร เจ้าก็อายุมากกว่าตัวเราแค่หกถึงเจ็ดปีเท่านั้นเอง!” ลอร่าบ่นอุบออกมา

เธอเกลียดจริงๆ ที่คนส่วนใหญ่มองว่าเธอยังเด็ก!

กู่ฉิงซาน “แต่กระหม่อมเกรงว่า-”

ลอร่าขัดจังหวะเขา “กู่ฉิงซาน ตัวเราทั้งได้เห็น และมีประสบการณ์มากกว่าเจ้าที่มาจากโลก กระจัดกระจายมากมายนัก ฉะนั้นย่อมมีบางเรื่องที่เราสามารถใช้ภูมิปัญญาแนะนำเจ้าได้อย่างแน่นอน”

“แต่ท่านก็ยังเด็กเกินไป กระหม่อมเป็นห่วง-”

“เจ้าที่แม้กระทั่งไม่สามารถห้ามปรามแฟน แถมยังถูกเธอวางกับดักเข้าใส่ โดนถึงขนาดนี้ยังไปเอาความมั่นใจ ว่าจะประสบความสำเร็จด้วยตัวคนเดียวมาจากที่ไหนอีก?”

เจอดอกนี้เข้าไป เขาก็ไม่มีคำที่จะโต้แย้งกลับ

กู่ฉิงซานผายสองมือออก ไร้คำใดๆ จะกล่าว

แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่ง

ในหนังสือพิมพ์ของชีวิตก่อนหน้า ทริสเต้ได้เริ่มก่อสงครามขึ้น

ระบบของราชามารได้แพร่กระจายไปทั่วอัลเบอัส

ซึ่งนั่นหมายความว่า เจ้าหญิงหนามในที่สุดก็ถูกทริสเต้จับตัวได้

กู่ฉิงซานมองไปยังเจ้าหญิงตัวน้อยที่กำลังแผ่บรรยากาศโกรธ

นั่นสินะ

เธอเองก็เป็นกุญแจสำคัญที่จะใช้ในการหยุดทริสเต้เหมือนกัน

เขาไม่สามารถทิ้งเธอเอาไว้ให้อยู่ที่นี่เพียงลำพังได้ มิฉะนั้นแล้วหากเธอถูกจับ จุดจบคงมิแคล้วพานพบกับเรื่องน่าเศร้า

“เอาล่ะๆ งั้นก็ไปด้วยกันเถอะ แต่พวกเราสมควรที่จะเริ่มไปกันทันที เพราะตอนนี้มันไม่อาจล่าช้าได้แล้ว”

กู่ฉิงซานนำดาบพิภพเก็บกลับคืนเข้าไปในความว่างเปล่า

เขาคว้าจับด้วยมิติ ขณะที่อีกมือหนึ่งยื่นไปทางลอร่า

“ต้องอย่างนี้สิถึงจะค่อยสมกับเป็นสุภาพบุรุษหน่อย” ลอร่ากล่าว

แล้วเธอก็คว้าจับมือของกู่ฉิงซานและร่ายคาถามนตรา

บังเกิดม่านรังสีแสงกะพริบไหว

ทั้งสองหายไปจากห้อง

หลังจากที่พวกเขาได้จากไป บอลคริสตัลที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ค่อยๆ มุดกลับเข้าไปในเค้กยี่สิบชั้นอย่างเงียบๆ และชั้นเค้กที่แยกออกก็กลับมาประกบปิดกันดังเดิมอย่างรวดเร็ว ครีมที่อยู่ชั้นนอกละลายและรวมตัวกันอีกครั้ง ไม่เหลือทิ้งร่องรอยใดๆ เอาไว้เลย

เค้กยี่สิบชั้นยังคงถูกประดับประดาไปด้วยผลไม้แปลกชนิดที่มีกลิ่นหอมเย้ายวนใจจางๆ แผ่ออกมา

โดยที่ทั้งสองมั่นใจว่า ต่อให้มีผู้มีสถานะถูกศักดิ์เข้ามาภายในห้องนี้ เขาและเธอก็คงจะยับยั้งชั่งใจ และทำตัวเฉกเช่นเดียวกันกับวิหคหนาม

นั่นก็คือเขาและเธอย่อมปฏิบัติตามมารยาทเป็นอย่างดี และปฏิเสธที่จะสัมผัสลงบนตัวเค้กอย่างแน่นอน

เย็นเยียบ

ความเย็นกัดกินลึกเข้าไปถึงในกระดูกสันหลัง

มองไปยังแผ่นน้ำแข็งที่กว้างใหญ่ ยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตา ก็จะสังเกตเห็นได้ถึงจุดสีดำหลายจุด ที่กำลังเคลื่อนไหว มุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

ซูเซี่ยเอ๋อเคลื่อนกายอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงตำแหน่งที่มีกระแสฝูงชน และมุ่งตรงไปยังทิศทางเบื้องหน้าเพียงลำพัง

สักพักหนึ่ง

เธอก็ถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด และจ้องมองบรรทัดแสงตัวอักษรที่ปรากฏขึ้นในสายตา

“ขอแสดงความยินดีด้วย คุณคือผู้ใช้เทคนิคเทียนซวนที่ถูกรับเลือกให้เป็น ‘ผู้เบิกทาง’ นี่คือของขวัญจากวิหคหนาม โปรดยืนยันการดาวน์โหลดระบบด้วย”

จากนั้นแถบตัวเลือกก็ปรากฏขึ้นมา

“ยืนยัน / ปฏิเสธ”

ซูเซี่ยเอ๋อใช้ความคิดสั่งการเลือก ‘ปฏิเสธ’ โดยตรง

ทันใดนั้นอีกบรรทัดแสงก็ปรากฏขึ้นทันที

“กรุณาบอกเหตุผลในการปฏิเสธ”

“ไม่มีเหตุผล”

“หากคุณไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคำเชื้อเชิญของ ‘เชื้อไฟ’ แต้มคะแนนของคุณจะถูกลดลงอีกหนึ่งระดับ”

ด้วยประโยคสุดท้ายนี้ บรรทัดแสงตัวอักษรน้อยๆ ก็จางหายไป

เมื่อทั้งหมดหายไปจากสายตา ซูเซี่ยเอ๋อก็บ่นออกมาด้วยความโกรธ “นี่คุณไม่สามารถปิดกั้นแจ้งเตือนอะไรพวกนี้ได้เลยเหรอ?”

เพราะตั้งแต่ที่เธอเข้าสู่โลกใบนี้ ข้อมูลแจ้งเตือนดังกล่าวก็ปรากฏขึ้นมาอยู่หลายครั้ง

ทันทีที่ซูเซี่ยเอ๋อบ่นจบ หน้าต่างสถานะก็ปรากฏขึ้นในสายตาเธอ และเริ่มขีดเขียนตัวอักษรขนาดเล็กขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ขออภัยจริงๆ มันคือ ‘เกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์ : เชื้อไฟ’ หากไม่ได้รับพลังงานใดๆ ฉันก็ไม่สามารถปิดกั้นมันได้” ระบบตอบกลับ

นี่คือระบบของซูเซี่ยเอ๋อ

“ทำไมเจ้าเชื้อไฟนี่ถึงตามตื๊อฉันจัง?” ซูเซี่ยเอ๋อเค้นถาม

“หากคุณจ่ายแต้มพลังวิญญาณ ฉันก็ยินดีที่จะช่วยปิดกั้นข้อมูลของมันโดยตรง”

“ปิดกั้นมันซะ” ซูเซี่ยเอ๋อกล่าวอย่างเรียบง่าย

“ฉลาดเลือกไม่เลว ดั่งเช่นเดียวกันกับที่ระบบได้เตือนคุณไว้ล่วงหน้า ว่าเมื่อครู่นี้คือระบบวิถีมาร และคุณก็ไม่สมควรที่จะดาวน์โหลด และเปื้อนมลทินโดยมัน”

“จะระบบวิถีมารหรือระบบแบบคุณ ฉันก็ไม่ต้องการ ถ้าหากไม่ได้เจอกับฉิงซานแล้วล่ะก็ ไม่ว่าระบบไหนฉันก็ไม่ต้องการทั้งนั้น!”

น้ำเสียงของซูเซี่ยเอ๋อเริ่มกลายเป็นเย็นชา

ระบบกล่าว “โปรดเข้าใจถึงปัญหานี้อย่างมีเหตุผลด้วย หากไม่ใช่เพราะการดำรงอยู่ของฉัน ก็มีโอกาสมากทีเดียวที่เชื้อไฟจะสามารถหลอกลวงคุณ และหาวิธีที่จะให้คุณดาวน์โหลดมันได้”

“เอาเถอะๆ ฝากจัดการด้วยก็แล้วกันนะ”

ซูเซี่ยเอ๋อพูดตัดจบ

แต่ขณะนั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียง ‘โผล๊ะ!’ ดังมาจากไม่ใกล้ไม่ไกล

ซูเซี่ยเอ๋อมองย้อนกลับไป

เห็นแค่เพียงชายคนหนึ่งที่ล้มลงกับพื้น

เธออดไม่ได้ที่จะเข้าไปช่วยเหลือเขา แต่เพียงย่ำตรงไปหนึ่งก้าว เธอก็จำต้องหยุดฝีเท้าลง

เพราะมีอีกหลายร่างถลาเข้ามา พวกเขาทั้งทิ่มทั้งแทง จ้วงสังหารชายที่พึ่งล้มลงกับพื้นไป

แล้วกลุ่มเมฆหมอกแสงสีแดงก็ผุดออกมาจากศพ ก่อนจะผลุบเข้าไปภายในร่างกายของอีกหลายคนที่พึ่งลงมือสังหารเขา

“อ่า มันช่างอบอุ่นจริงๆ” หนึ่งในนั้นกล่าวด้วยอารมณ์

“ใช่ แต่อันที่จริงแล้วพวกเราไม่ได้ฆ่าเขานี่นะ พวกเราก็แค่ส่งเขาออกไปจากโลกใบนี้ และกลับไปยังอัลเบอัสก็เท่านั้นเอง” อีกคนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

คนอื่นๆ หันไปมองรอบๆ และเร่งฝีเท้าก้าวต่อไปทันที

เวลามันกระชั้นชิดเกินไป ดังนั้นเพื่อที่จะให้ได้รับรางวัลที่ดี พวกเขาจะต้องเร่งข้ามผ่านผืนน้ำแข็งกว้างอย่างรวดเร็วโดยไม่สนเรื่องหยุมหยิมใดๆ เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่ถัดไปให้เร็วที่สุด

เพราะอย่างไรก็ตาม พวกเขาจะไม่มีทางตายจริงๆ อยู่แล้ว อย่างมากที่สุดก็แค่ถูกไล่ออกจากโลกใบนี้เร็วเกินไป และรางวัลที่จะได้รับก็แย่ลงเท่านั้นเอง

มันไม่มีเวลามากพอที่จะให้ทุกคนมัวมาสนใจกับเรื่องหยุมหยิมดังกล่าว

ใช่แล้วล่ะ เพราะตามกฎเกณฑ์ของทริสเต้ มันจะไม่มีใครตกตายลงที่นี่

การต่อสู้กับคนอื่นๆ จะนำมาซึ่งผลประโยชน์และรางวัลตอบแทน

หากมีคนกำลังเผชิญหน้ากับความตาย คนๆ นั้นก็จะทิ้งไว้เพียงร่างลวงตาในสถานที่นั้นๆ

ขณะที่ตัวตนจริงๆ จะถูกส่งกลับไปยังอัลเบอัสทันที

ซูเซี่ยเอ๋อชายตาที่เปล่งประกายงดงาม เฝ้ามองไปที่ร่างศพอย่างเงียบๆ

คนๆ นี้ ได้เคยช่วยเหลือตนเองมาก่อนในการต่อสู้ก่อนหน้านี้

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ และซูเซี่ยเอ๋อก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือดังกล่าว แต่เธอก็ยังจดจำน้ำใจนั้นเอาไว้อยู่ดี

ท่ามกลางพายุหิมะ ร่างดังกล่าวค่อยๆ จมลงใต้พื้นน้ำแข็ง

เขาจะถูกส่งกลับไปที่อัลเบอัสจริงๆ น่ะเหรอ?

ซูเซี่ยเอ๋อรู้สึกว่ามันมีบางอย่างไม่ถูกต้อง

เธอจงใจชะลอความเร็วลง เมื่อคนอื่นๆ มุ่งหน้าไปไกลแล้ว เจ้าตัวจึงค่อยๆ ถอยกลับไปและเอื้อมมือลงสัมผัสกับศพอย่างเงียบๆ

…………………………………..........