ตอนที่ 508 ลาก่อน
เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ชายแก่เดินนำกู่ฉิงซานมายังดาดฟ้าเรือ
“พวกเรากำลังจะถึงที่หมายในไม่ช้า” ชายแก่กล่าว
กู่ฉิงซานหันไปมองรอบๆ ด้วยความคาดหวังเล็กน้อย
รอบเรือใหญ่ เต็มไปแสงจรัสจากดาราท่ามกลางจักรวาล
ที่นี่ไม่ใช่มิติที่ว่างเปล่าอีกต่อไป มันกำลังจะไปถึงโลกบางแห่งในไม่ช้า
“วิหคหนามอยู่ใกล้ๆ นี่งั้นหรือ?”
กู่ฉิงซานเอ่ยถาม
“วิหคหนามคาดว่าจะยังมาไม่ถึง แต่ผู้เข้าร่วมจะต้องมารอก่อนเวลาที่สถานที่ตกทอดของเทพบรรพกาล”
“ใช่ ” ชายแก่มองไปยังการแสดงออกทางสีหน้าของกู่ฉิงซานแล้วโบกมือ “และก็ไม่ใช่ซะทีเดียว มันแตกต่างจากที่เจ้าคิด สำหรับวัน เดือน ปี นับไม่ถ้วน สถานที่รำลึกแห่งนี้ได้รับการตรวจสอบค้นคว้ามาแล้วชนิดละเอียดยิบ มันไม่มีอันตรายใดๆ ก็จริง แต่แน่นอน ว่าเจ้าก็จะไม่มีทางเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ใดๆ จากมันไปเช่นกัน”
“งั้นที่ๆ เรากำลังจะถึงก็...”
“เป็นที่ๆ ทุกคนที่ตอบรับต่อเสียงเรียกขานของวิหคหนามจะต้องไปรวมตัวกัน”
ชายแก่อธิบายเพิ่มเติม “ทุกคนมาที่นี่เพื่อเฝ้ารอการมาถึงของวิหคหนาม”
“ในกรณีนี้ หมายความว่ามันยังไม่สายเกินไปสำหรับผมสินะ” กู่ฉิงซานถอนหายใจโล่งอก
“ไม่ เจ้ายังไม่สายเกินไป แต่คนที่มาถึงก่อนจะถูกนำตัวเข้าสู่โลกสมบัติของวิหคหนามเป็นอันดับแรกเช่นกัน และเจ้าจะต้องรอให้เหล่าคนทั้งหมดที่มาถึงล่วงหน้าได้เข้าไปเสียก่อน ตัวเจ้าเองถึงจะเข้าไปได้”
กู่ฉิงซานยักไหล่ “ถ้าแค่ต้องรอเข้าทีหลังล่ะก็ ไม่นับว่ามีปัญหา”
ชายแก่หัวเราะออกมา “คนที่จะคิดได้แบบเจ้าน่ะ มีไม่มากนักหรอกนะ”
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังสนทนากัน บรรดาตึกพระราชวังอันใหญ่โตก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของเรือ
นี่คือพระราชวังขนาดใหญ่ มันมีสีขาวราวหิมะ ดูงดงามเฉกเช่นเดียวกันกับงานแกะสลักงาช้าง
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสีขาวราวหิมะ กลับปรากฏถึงจัตุรัสที่ลากยาวออกไปไม่เห็นปลายขอบของมัน
และบนจัตุรัส ก็แออัดไปด้วยฝูงชน มันมากมายมหาศาลจนมิอาจนับได้ว่ามีจำนวนเท่าใด
“มีผู้เข้าร่วมมากมายถึงเพียงนี้เชียว” กู่ฉิงซานมองไปยังจัตุรัสที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
“เป็นธรรมดา บางทีหากไม่ใช่เพราะพระราชวังและจัตุรัสแห่งเทพบรรพกาล ข้าเกรงว่าจะไม่มีสถานที่ใดอีกแล้ว ที่จะรองรับคนหนุ่มสาวจากต่างโลกได้มากมายถึงเพียงนี้” ชายแก่กล่าว
“ผู้คนสามารถพักผ่อนที่นี่ได้ตามใจชอบงั้นหรือ?”
“ไม่ๆๆ” ชายแก่หัวเราะ “เจ้าสามารถพักผ่อนได้ตามใจชอบในจัตุรัสก็จริง แต่ส่วนที่เหลือน่ะไม่ได้ เพราะมันเป็นพื้นที่ธุรกิจของโรงแรมอัลเบอัส”
“พระราชวังขนาดใหญ่พวกนี้เป็นโรงแรม…?” กู่ฉิงซานทึ่ง
แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมชื่อนี้มันฟังดูคุ้นหูยังไงชอบกล
แล้วกู่ฉิงซานก็จดจำได้ทันที
อัลเบอัส คือรีสอร์ตที่เจ้าไก่ตัวนั้นมาพักร้อนอยู่นี่นา
ถ้าอย่างงั้น หมายความว่าไก่ก็อยู่ที่นี่ด้วยงั้นเหรอ?
“พระราชวังของเทพบรรพกาล แค่ฟังก็รู้สึกเหมือนถูกดึงดูดแล้วใช่ไหม? มันถูกกว้านซื้อโดยสมาคมเงินทุนที่มีชื่อเสียงในโลกมิติอนันต์ และเปลี่ยนโฉมให้กลายเป็นโรงแรม”
“ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นโรงแรมระดับสูงที่มีชื่อเสียงเลื่องลือออกไปทั้งใกล้ไกล ไม่ว่าจะเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งหรือราชวงศ์ผู้สูงศักดิ์ ก็จำต้องใช้เวลาจองอยู่นานจึงจะสามารถเข้าพักที่แห่งนี้ได้”
“เพราะเหตุใดมันถึงได้รับความนิยมมากถึงขนาดนั้น?”
“เพราะเวลาข้าหมายถึงมันสามารถเข้าไปวุ่นวายกับกฎเกณฑ์แห่งเวลาเล็กๆ น้อยๆ ได้ หากเจ้ามีเงินมากพอ ก็สามารถย้อนกลับไปในช่วงเวลาอดีตได้”
“และเจ้าสามารถใช้เวลาพักผ่อนอยู่ในยุคนั้นได้เป็นเวลาประมาณครึ่งเดือน”
สีหน้าของชายแก่เต็มไปด้วยความหลงใหล “และเมื่อเจ้ากลับมาจากครึ่งเดือนดังกล่าว เจ้าจะพบว่าวันเวลาภายนอกกลับผ่านไปเพียงวันเดียวเท่านั้น”
“มันฟังดูมหัศจรรย์มากจริงๆ” กู่ฉิงซานเอ่ยสนับสนุน
แล้วชายแก่ก็ยื่นแผ่นป้ายสีวาววับสีทองให้แก่กู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานรับมันไว้ และก้มลงมองดูของในมือเขา
“เจ็ดสิบเก้า”
นี่คือตัวเลขที่สลักไว้บนแผ่นป้ายโลหะ
กู่ฉิงซานมองไปที่ชายแก่
ชายแก่กล่าว “ตั้งแต่ที่ได้ไปรับตัวเจ้า ทางสมาคมของเราก็ได้ติดต่อจองห้องพักสำหรับเจ้าเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เพราะพวกเราคาดการณ์จากสถานการณ์ในปัจจุบันว่า ตอนที่เจ้ามาถึงการจะหาที่ซุกหัวนอนเองมันคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”
“ขอบคุณอีกครั้ง ผมไม่อยากจะสร้างปัญหาอะไรให้พวกคุณจริงๆ หากมีทางอื่น ผมคงไม่ต้องมาขอร้องให้พวกคุณช่วยเหลือไปเรื่อยๆแบบนี้”กู่ฉิงซานกล่าวด้วยความสำนึกคุณ
ต้องขอบคุณสมาคมผู้พิทักษ์หอสูงจริงๆ ไม่อย่างงั้นการเดินทางของเขามันคงจะไม่ราบรื่นแบบนี้
“พูดอะไรกัน” ชายแก่ส่ายมือไปมา “เจ้าช่วยนักวิชาการมัวร์ของพวกเราเอาไว้สติปัญญาของเขาน่ะ เปรียบดั่งสมบัติอันล้ำค่าของสมาคมทั้งหมดเชียวนะ”
กู่ฉิงซานนิ่งค้างไป
เขาไม่เคยจะคาดคิดเลยว่าคนที่เขาได้ช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ…จะมีสถานะสูงถึงเพียงนี้
ขณะนั้นเอง เรือก็ลดระดับความเร็วลง และไม่ช้ามันก็ลงจอดลงทางด้านหนึ่ง ใกล้กับพระราชวัง
เวลานี้ คุณจะสามารถเห็นได้ถึงความงดงามของสถานที่ตกทอดของเทพบรรพกาลได้ว่ามันเป็นอย่างไร
เรือใหญ่ที่กำลังลงจอดมีความสูงเท่ากับตึกยี่สิบชั้น แต่ทว่าเมื่อมันอยู่ข้างๆกับพระราชวังของเทพบรรพกาล เรือของสมาคมก็ไม่แตกต่างไปจากเมล็ดข้าวกับงาช้างเลย
เรือหยุดลง
ชายแก่หันไปทางกู่ฉิงซาน น้อมกายด้วยความเคารพ “การเดินทางเช่นนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เจ้าสามารถเรียกหาพวกเราได้ตลอดเวลา ลาก่อน”
“ขอบพระคุณสำหรับการช่วยเหลือของทางหอสูง ลาก่อน” กู่ฉิงซานประสานหนึ่งกำปั้นหนึ่งฝ่ามือไปทางอีกฝ่าย
เขากระโดดเบาๆ และตกลงสู่จัตุรัส
ชายแก่ยืนโค้งกายอยู่บนเรือ เฝ้ามองเขาที่กลืนเข้าไปกับฝูงชนในลานจัตุรัส จึงสั่งให้แล่นเรือจากไป
กู่ฉิงซานร่อนลงในพื้นจัตุรัสที่คึกคักจอแจ และในไม่ช้าเขาก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนที่อายุใกล้เคียงกัน
กลิ่นอายของคนเหล่านี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
แต่กู่ฉิงซานก็คิดเหมือนกัน ว่าตัวเองก็พอที่จะต่อกรกับคนเหล่านี้ได้
ท้ายที่สุดนี้ ต้องไม่ลืมนะว่าพวกเขาทั้งหลายล้วนอายุต่ำกว่าสามสิบปี เว้นไว้แต่เพียงการดำรงอยู่ที่พิเศษจำนวนไม่มากนักเท่านั้น นอกเหนือไปจากนั้นความแข็งแกร่งของทุกคนจริงๆ แล้วก็ใกล้เคียงกัน
ถึงแม้ว่ากู่ฉิงซานจะมาจากโลกกระจัดกระจาย แต่ตลอดทั้งโลกกระจัดกระจาย จะมีซักกี่คนกันเชียว ที่มาถึงขอบเขตประทับเทพในช่วงอายุยี่สิบปีเช่นเขา?
“เฮ้นายก็มาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการเรียกขานของวิหคหนา” คนหนึ่งจ้องเขาและเอ่ยถาม
“ไม่นะ ฉันมาที่นี่เพื่อพักผ่อนต่างหาก”
กู่ฉิงซานขัดจังหวะอีกฝ่าย และยกป้ายโลหะในมือเขาส่ายไปมา
แล้วคนเหล่านั้นก็กระเจิงกันออกไปคนละทิศทางทันที
หากเป็นห้องพักของโรงแรมอัลเบอัส ผู้เข้าพักทั้งหมด จะถูกระบุตัวตนเอาไว้แล้ว
พวกเขาจึงไม่กล้าใช้กำลัง หรือกระทำสิ่งใด
ต้องรู้นะว่านี่คือโรงแรมอัลเบอัส
คนที่กล้าลงมือกับลูกค้าของอัลเบอัส คงไม่มีอะไรอื่นใดมาเปรียบเทียบนอกจากคำว่า ‘คนๆ นั้นคงคิดว่าตัวเองมีชีวิตอยู่มานานเกินไปแล้ว’ เลยหาเรื่องตายเอาง่ายๆ แบบนี้
หลังจากที่ได้เห็นแผ่นป้ายในมือกู่ฉิงซาน คนอีกกลุ่มหนึ่งก็เริ่มเข้ามาล้อมตัวเขา
“เพื่อน นายอยากจะขายห้องรึเปล่า พวกเราเบื่อที่จะต้องมาจมอยู่แต่ที่นี่แล้ว และอยากจะพักผ่อน ถ้านายต้องการ”
“ไม่อะ ฉันก็อยากจะพักผ่อนเหมือนกัน” กู่ฉิงซานขัดจังหวะอีกฝ่ายอีกครั้ง
เขายับยั้งกลิ่นอายตนเอง แล้วเร่งเดินมุดเข้าไปท่ามกลางกระแสของผู้คนอย่างรวดเร็ว
หลายคนเร่งไล่ตามเขาไปทันที
ทว่ากู่ฉิงซานนั้นว่องไวเกินไป ประจวบกับฝูงชนที่แออัด หากต้องการที่จะไล่ตามเขาให้ทัน มันเป็นไปไม่ได้อย่างชัดเจน
แม้จะมีข้อได้เปรียบถึงเพียงนี้ แต่กู่ฉิงซานก็ไม่คิดประมาท
เขาเบียดเสียดผ่านฝูงชนอย่างรวดเร็ว และบางครั้งก็ใช้สกิลย่นระยะเหลือเพียงหนึ่งนิ้ว
หลังจากวิ่งไปอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเขาก็วนไปกว่าครึ่งจัตุรัส
นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จไปในขจัดพวกที่ไล่ตามมาอีกต่างหาก
คนเหล่านั้นมักจะให้ความสนใจกับคนที่พึ่งมาถึงเสมอ และแน่นอน พวกเขาไม่มีทางทักมาเปล่าๆ แต่จะต้องวางแผนอะไรเอาไว้แน่ๆ
และกู่ฉิงซานก็ขี้เกียจเกินไปที่จะมาใส่ใจเรื่องเหล่านี้
เขาถือป้ายโลหะสีทองออกจากจัตุรัส และเดินไปตามทิศทางของตัวเลข
เดินไปได้อีกสักครึ่งชั่วโมง ขึ้นบันไดยาว และเลี้ยวไปไม่กี่โค้ง ในที่สุดก็มาถึงประตูหลัก ของบรรดาพระราชวังเทพบรรพกาล
บนจัตุรัสเต็มไปด้วยรุ่นเยาว์จำนวนมากที่ตอบรับการเรียกขานของวิหคนาม ส่งผลให้บรรยากาศบริเวณดังกล่าวครึกครื้นและพลุ่งพล่าน
แต่ที่นี่ มันคือสถานที่สำหรับคนที่มาพักผ่อนในอัลเบอัส
มันแตกต่างจากเสียงอึกทึกในจัตุรัสอย่างสิ้นเชิง สถานที่แห่งนี้ดูเงียบสงบมาก
มีผู้คนเข้าออกโรงแรมอย่างต่อเนื่องก็จริง แต่ทุกคนแลดูมีมารยาทดี และสุภาพมาก
กู่ฉิงซานลองหันไปมองรอบๆ และพบกับหมาป่าตัวหนึ่งที่คาบท่อยาสูบในปาก มันสวมเสื้อสเวตเตอร์ และกำลังควงสองหญิงสาวที่สวมหน้ากากเดินเข้าไป
กู่ฉิงซานมองตามสักพัก ก่อนที่จะเดินเข้าประตูโรงแรมตามไป
“สวัสดี มีอะไรให้รับใช้หรือไม่?” เสียงหนึ่งดังขึ้น
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จู่ๆ ก็มีการดำรงอยู่แปลกๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้ากู่ฉิงซาน
มันประกอบไปด้วยอากาศสีเทาโดยสมบูรณ์ แต่ภายนอกของอากาศสีเทา กลับสวมทับด้วยเสื้อผ้าที่ดูเข้ารูป
มนุษย์อากาศงั้นเหรอ?
กู่ฉิงซานกำลังคิดอย่างสงสัย
อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันกับที่คนๆนี้ปรากฏตัวขึ้น กู่ฉิงซานกลับรู้สึกสะดวกสบายอย่างบอกไม่ถูก
อากาศรอบตัวเขาสดชื่น มันน่ารื่นรมย์ยิ่งนัก อุณหภูมิกลายเป็นคงที่ที่ยี่สิบหกองศาเซลเซียส แถมยังอุดมไปด้วยพลังงานวิญญาณที่ส่งผ่านออกมาจากมนุษย์อากาศ ฟุ้งไปรอบตัวของกู่ฉิงซาน
มันเป็นความรู้สึกอันยอดเยี่ยมคล้ายกับการได้กลับไปอยู่บ้านเกิดโดยแท้
“พอดีว่าฉันจองห้องพักที่นี่เอาไว้น่ะ” กู่ฉิงซานกล่าว
“โปรดแสดงหมายเลขห้องของท่านแก่กระผมด้วย”
กู่ฉิงซานหยิบแผ่นป้ายโลหะทองคำออกมา และส่งมันให้กับอีกฝ่าย
“ป้ายทองคำ!” มนุษย์อากาศอุทานออกมาทันที “กลับกลายเป็นว่าท่านคือแขกผู้มีเกียรติ…หมายเลขเจ็ดสิบเก้า...อ่า...ขอกระผมดูบันทึกสักครู่...เจอแล้ว...มันคือห้องวิวดวงดาราของสมาคมผู้พิทักษ์หอสูง”
น้ำเสียงของอีกฝ่ายดูจะฟังเคารพและนอบน้อมยิ่งกว่าเดิม
ป้ายทองคำ กล่าวได้ว่าผู้ครอบครองสามารถเพลิดเพลินไปกับบริการพิเศษมากมายในอัลเบอัสได้ฟรีๆ
เพราะอีกฝ่ายคือสมาคมผู้พิทักษ์หอสูง
ซึ่งนับว่าเป็นสุดยอดลูกค้ารายใหญ่ของโรงแรม!
มนุษย์อากาศกดแผ่นป้ายลงในความว่างเปล่า
ทันใดนั้นความว่างเปล่าเมื่อครู่ ก็ปรากฏให้เห็นถึงประตูแสงที่ค่อยๆ เปิดออกอย่างช้าๆ
มนุษย์อากาศส่งป้ายคืนแก่กู่ฉิงซานและโค้งคำนับอย่างสุภาพ “เชิญขอรับ นี่คือห้องของท่าน ท่านแขกผู้มีเกียรติ”
“โรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานบันเทิงมากมาย ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนหรือเวลาใด ขอเพียงเปิดใช้งานป้ายโลหะ ท่านก็จะสามารถกลับไปที่ห้องได้ทุกเวลาตามต้องการ”
กล่าวจบ มนุษย์อากาศก็เงียบไปสักพักและกระซิบว่า “ท่านต้องการบริการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่?”
“แล้วบริการที่ว่ามันหมายถึงอะไรบ้างล่ะ?”
“ก็อย่างเช่นพวกข้อมูล”
“อ้ออันนั้นต้องการสิ”
“ราคาสองเพชรคริสตัลขอรับ”
กู่ฉิงซานนิ่งงันไป
เดาตามที่อีกฝ่ายพูดมา ดูเหมือนว่าเพชรคริสตัลจะเป็นสกุลเงินทั่วไป แต่กู่ฉิงซานไม่มีเงินเลย อันที่จริงแล้วตอนนี้ตัวเขามีแต่หนี้สินด้วยซ้ำ
“รับมันไปสิ”
เสียงของผู้หญิงที่ฟังดูไพเราะดังขึ้น
แล้วสองก้อนกลมเล็กๆ ก็ลอยไปและตกลงในมือของมนุษย์อากาศ
มนุษย์อากาศรับเพชรคริสตัลมา และกล่าวอย่างรวดเร็ว “ราชวงศ์วิหคหนามจะมาเยี่ยมเยือนภายในวันนี้ ห้องจัดเลี้ยงก็ถูกเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว และหนึ่งในตัวตนที่สำคัญของราชวงศ์จะปรากฏตัวขึ้นระหว่างมื้ออาหาร”
สิ้นคำกล่าว มนุษย์อากาศก็หายวับไป
กู่ฉิงซานแท้จริงแล้วมิได้สนใจเกี่ยวกับข้อมูลนี้เลย สมองเขาอื้ออึงจนไม่อาจแยกแยะ ได้ว่านี่คือความจริงหรือข้อมูลเท็จ
หัวใจของเขาเต้นอดไม่ได้ที่จะเต้นระรัวขึ้นเล็กน้อย
ก่อนจะหันหน้ากลับมา
เห็นแค่เพียงซูเซี่ยเอ๋อในชุดคลุมยาวสีขาว ในมือถือคทา กำลังยืนอยู่หน้าทางเข้าโรงแรม
เธอจับจ้องมาที่กู่ฉิงซาน ปากเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ฉันรอนายมานานมาก นานมากจริงๆ”
กู่ฉิงซานค่อยๆ เผยถึงรอยยิ้มแห่งความสุข
เขาก้าวลงไป และโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
…………………………………..........