webnovel

0321 ไม่สามารถย้อนกลับได้

ตอนที่ 321 ไม่สามารถย้อนกลับได้

 เสียงพูดยังไม่ทันได้ตกลง ตัวดาบพิภพก็พลันเปล่งแสงสว่างจ้า

 บังเกิดสายฟ้าบิดผัน ม้วนคดเคี้ยวไปมาตลอดทั้งใบดาบ และถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันกับเทคนิคดาบของกู่ฉิงซาน

 ในช่วงเวลาสั้นๆ ปรากฏประกายแสงสีน้ำเงินเข้มพรั่งพรูออกมาจากดาบพิภพ

 “ไปเลย!” กู่ฉิงซานตะโกนก้อง

 บังเกิดปราณดาบคำรามลั่นจากตัวดาบพิภพ มันพวยพุ่งผ่านชั้นเมฆหมอกหนาที่ขวางกั้น ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบน

 ปรากฏเสาแสงสายฟ้าเชื่อมต่อสวรรค์และโลกเข้าด้วยกัน

 เสาแสงทะลุทะลวงหมอกหนาชั้นแล้วชั้นเล่า สุดท้ายจึงจ้วงลึกเข้าไปในชั้นเมฆบนท้องฟ้า และปะทุขึ้นเหนือเมฆในที่สุด

 ทัศนียภาพอันงดงามหวือหวาเช่นนี้ ย่อมถูกตรวจจับได้ทันทีโดยเทพธิดากงเจิ้ง

 “ใต้เท้า ฉันพบคุณแล้ว พวกเราจะรีบไปที่นั่นทันที!”

 “ต้องอย่างนั้นสิ”

 กู่ฉิงซานเก็บดาบพิภพกลับคืน แล้วลอยไปยืนเฝ้ารออยู่กับเย่เฟย์หยูกลางอากาศอย่างเงียบๆ

 ท่ามกลางความเงียบบนท้องฟ้า ปรากฏเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่แข็งกร้าวดังขึ้นจากระยะไกล

 เสียงค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ

 ทันใดนั้น เรือรบประจัญบานขนาดยักษ์ลำหนึ่งก็โผล่หัวลงมาจากชั้นเมฆหมอก

 ตามด้วยเสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ที่ดังขึ้นจากยานรบ แพร่กระจายไปทั่วท้องฟ้า

 “ทีมยานรบ ‘หนึ่งดาว’ แห่งรัฐบาลกลางขอรายงานตัวกับใต้เท้า”

 แล้วหลังจากนั้นไม่นาน เรือรบประจัญบานขนาดยักษ์ลำที่สองก็โผล่ออกมาจากชั้นเมฆหมอกหนา

 ตามด้วยลำที่สาม 

สี่ 

ห้า 

… 

กองยานรบขนาดยักษ์อีกกว่ายี่สิบสี่ลำ ค่อยๆ โผล่ออกมาจากชั้นเมฆหมอก 

นี่นับว่าเป็นกำลังรบทางทหารที่ทรงพลังยิ่ง พลังอำนาจของมันเพียงพอที่จะรับมือกับสงครามขั้นรุนแรงถึงขีดสุดได้ 

เหล่ายานรบประจัญบานขนาดยักษ์ลอยลำเหนือศีรษะของกู่ฉิงซานและเย่เฟย์หยู ก่อนจะทยอยกันมุ่งหน้าเคลื่อนพลไปยังสุดปลายอีกด้านหนึ่งของหมอกหนา 

“อ้าว นั่นพวกเขากำลังจะไปไหนน่ะ?” เย่เฟย์หยูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา 

“พวกเขาไปทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายน่ะ” กู่ฉิงซานกล่าว 

ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากัน ยานรบประจัญบานอีกสามลำ ก็โผล่ออกมาจากหมอกหนา 

“ทีมยานรบ ‘สามดาว’ แห่งรัฐบาลกลางขอรายงานตัวกับใต้เท้า” 

“ฉันเห็นคุณแล้ว” 

กู่ฉิงซานยกดาบของเขาขึ้น และโบกทักทายไปทางยานรบ 

สิ้นการทักทายเพียงสั้นๆ สามยานรบก็แยกตัวออกไป ตามด้วยยี่สิบเอ็ดยานเรือที่โผล่ลงมาจากชั้นหมอกหนา  เคลื่อนตัวผ่านหน้าทั้งสองคน ไล่ตามติดสามลำแรกไปติดๆ 

“ใครกันที่เป็นคนควบคุมกองเรือพวกนี้?”  เย่เฟย์หยูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม 

“เป็นเทพธิดากงเจิ้งกับระบบ AI[footnoteRef:1]ของยานรบที่เธอสร้างขึ้น” กู่ฉิงซานตอบ  [1: AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence ภาษาไทย คือ ปัญญาประดิษฐ์]

“มันช่างน่าทึ่งมากจริงๆ” เย่เฟย์หยูพึมพำออกมา 

แล้วสมองควอนตัมในอ้อมแขนเขาก็ส่องสว่างขึ้น 

เทพธิดากงเจิ้งกล่าว “ทะเลสาบเฟิงหู ความยาวราวสิบห้ากิโลเมตร ความกว้างสูงสุดประมาณเจ็ดกิโลเมตร ความกว้างโดยเฉลี่ยสี่กิโลเมตร ความยาวเส้นรอบชายฝั่งราวห้าสิบเก้ากิโลเมตร พื้นที่ทั้งหมดประมาณสี่ร้อยสามสิบเอ็ดกิโลเมตร พื้นที่โดยรวมเป็นทะเลสาบตื้นๆ มานานหลายปี ระดับน้ำเฉลี่ยลึกต่ำกว่าสามเมตร” 

“ใต้เท้า ทางเราต้องใช้เวลาราวๆ สิบนาที เพื่อเตรียมการ” 

“คงต้องรบกวนคุณแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว 

แสงจากสมองควอนตัมดับลง และความเงียบก็กลับคืนมา 

บนผิวทะเลสาบ ใบหน้ามนุษย์ที่โผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำแข็งต่างกำลังเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า 

“เทคโนโลยีได้พัฒนามาถึงจุดนี้แล้วอย่างนั้นหรือนี่?” ใบหน้าหนึ่งถอนหายใจ 

แต่แล้วในวินาทีต่อมา มันก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “แต่แล้วมันทำไมล่ะ! ไม่ว่าอย่างไรเทคโนโลยีนั่นก็ฆ่าพวกเราไม่ได้อยู่ดี!!!” 

ตลอดทั่วทั้งผิวทะเลสาบ ใบหน้าคนตายนับไม่ถ้วนต่างพากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา 

เย่เฟย์หยูหันไปมองกู่ฉิงซาน 

และเห็นแค่เพียงว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้มอยู่ 

สิบนาทีผ่านพ้นไป 

“ใต้เท้า ทางเราเตรียมการพร้อมแล้ว” เสียงของเทพธิดาดังกึกก้อง 

“ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยากนะ งั้นต่อจากนี้ ฉันกับเย่เฟย์หยูขอตัวลงจากเวทีแสดงในครั้งนี้ก่อนก็แล้วกัน” กู่ฉิงซานกล่าว 

เขากวักมือไปทางเย่เฟย์หยู 

“อะไร จะไปกันแล้วเหรอ?” เย่เฟย์หยูเอ้ยถาม 

“ใช่ ไปกันเถอะ” กู่ฉิงซานกล่าว 

“แล้วมอนสเตอร์พวกนี้ล่ะ?” 

“ทุกอย่างถูกจัดเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว” 

กู่ฉิงซานก้มลงมองใบหน้าที่แออัดกันทั่วทั้งทะเลสาบ และเริ่มเอ่ยปากกล่าวว่า “ฉันจะทำให้พวกเขาได้รู้ซึ้งถึงพัฒนาการของพลังอำนาจในโลกคนเป็น” 

ทั้งสองทะยานสู่ท้องฟ้า และกลายเป็นเส้นแสงมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางของรัฐบาลกลาง 

“พวกมันไปแล้วหรือ?” 

หัวจำนวนมากที่กำลังแหงนมองท้องฟ้า ต่างพากันเผยสีหน้างงงวย

สายตาของพวกมันตกลงมามองกันและกัน แลเห็นถึงความสับสนและสงสัยในแววตาของอีกฝ่าย

 

หนึ่งในนั้นเอ่ยปากกล่าวอย่างไม่เข้าใจ “เรือรบประจัญบานขนาดยักษ์...ฉันก็รู้ว่ามีเทคโนโลยีนี้อยู่หรอก แต่ถึงแม้ว่ามันจะทรงพลังมากกว่าแต่ก่อน และมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ตามที แต่หลังจากที่ใช้มันฆ่าพวกเรา สุดท้ายแล้วพวกเราก็จะกลับมาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในไม่ช้าอยู่ดี...” 

แล้วสิ่งที่เจ้าหนุ่มนั่นมันพูด หมายความว่าอะไรกันแน่? 

ฮู้ม!

 สองเรือรบประจัญบานขนาดยักษ์โฉบลงเวียนวนรอบๆ ทะเลสาบน้ำแข็ง พร้อมกับประตูที่เปิดออก

 ตามด้วยหุ่นรบขับเคลื่อนนับร้อยนับพันที่ปรากฏขึ้น 

เหล่าหุ่นรบถือปืนวิศวกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตะขอยึดที่ทำจากโลหะผสม ที่มีการหลอมขึ้นเป็นพิเศษด้วยวัสดุคุณภาพสูง 

ภายใต้คำสั่งแบบครบวงจรของเทพธิดากงเจิ้ง หุ่นรบขับเคลื่อนทั้งหมดก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว 

หลังจากนั้นไม่นาน ตลอดทั้งทะเลสาบทุกตำแหน่งที่ถูกคำนวณไว้ ก็ถูกตรึงด้วยตะขอโลหะผสมที่ถูกเจาะลึกลงไป 

เมื่องานของเกราะรบขับเคลื่อนเสร็จสมบูรณ์ พวกมันก็บินกลับไปยังยานรบประจัญบานแต่ละลำที่ประจำการ 

และพวกมันก็เริ่มทำการติดตั้งปลายตะขออีกด้านหนึ่ง ยึดติดกับตัวยานรบ 

ตลอดทั้งสี่สิบแปดยานรบประจัญบานขนาดยักษ์ เริ่มทำการฉุดลากสายเคเบิ้ลที่เชื่อมต่อกับตัวตะขอขึ้นมาจนตึง 

ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง มุม อัตราเร่งและความเร็วของยานรบประจัญบานแต่ละเครื่อง ล้วนได้รับการคำนวณมาแล้วอย่างพิถีพิถันโดยเทพธิดากงเจิ้ง 

วินาทีต่อมา 

ยานรบประจัญบานทั้งสี่สิบแปดลำก็ออกตัวพร้อมๆ กัน 

สองกองยานรบประจัญบานเร่งเครื่องพร้อมกัน ส่งผลให้เกิดเสียงคำรามอึกทึกไปทั่ว 

ทั้งหมดพยายามที่จะไต่ระดับขึ้นไปยังอากาศเบื้องบน 

ตลอดทั้งทะเลสาบน้ำแข็งค่อยๆ ลอยตัวขึ้นด้วยการฉุดลากอันทรงพลังของสี่สิบแปดเรือรบประจัญบาน ทะยานสู่ท้องฟ้าอย่างช้าๆ 

รอบๆ กองยานรบ เต็มไปด้วยรถเหินเวหา เรือลาดตระเวน ฯลฯ  ที่รับหน้าที่ป้องกัน และพร้อมจะโจมตีภัยคุกคามใดๆ ที่ย่างกรายเข้ามาใกล้ทุกเมื่อ 

นี่คือกระบวนทัพของสองเรือรบประจัญบานขนาดยักษ์ ที่กำลังลอยลำนำตลอดทั้งทะเลสาบลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า! 

“แกต้องการจะลากพวกเราขึ้นไปแล้วทิ้งดิ่งลงมาเพื่อฆ่าให้ตายในทีเดียวใช่ไหม? ฮ่าๆ” 

“ช่างไร้เดียงสาจริงๆ!” 

“การกระทำเช่นนั้นมีแต่จะช่วยให้พวกเราหลุดพ้นจากการถูกแช่แข็งได้เร็วยิ่งขึ้น!” 

“ฉันแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะได้กินเนื้อมนุษย์สดๆ แล้ว!” 

บนผิวทะเลสาบ ใบหน้านับไม่ถ้วนเปล่งเสียงหัวเราะเย้ยหยัน 

ทว่าไม่มีใครตอบพวกมันกลับมา 

บางครั้งบางคราว ด้วยผลพวงจากการฝืนยกตลอดทั้งทะเลสาบขนาดใหญ่ ทำให้ชั้นน้ำแข็งที่แช่ร่างคนตายบางตนปริร้าว จนพวกมันเริ่มที่จะคืบคลานออกมาได้ ทว่าสุดท้าย พวกมันก็จะถูกเหล่ากองกำลังที่คอยป้องกันอยู่โดยรอบ ฉีดพ่นโลหะผสมหลอมเหลวใส่ ตรึงร่างให้ติดอยู่กับน้ำแข็งดังเดิมอยู่ดี 

ด้วยอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นของเรือรบประจัญบาน ทะเลสาบน้ำแข็งก็เริ่มลอยลำขึ้นสู่ท้องฟ้า 

และไม่นานนัก เหล่าคนตายก็มิอาจหัวเราะได้อีกต่อไป 

เพราะกระบวนทัพยานรบประจัญบานที่ว่านี้ มิได้ชะลอระดับความสูงอยู่แค่ในชั้นบรรยากาศ 

ทั้งสองกองยานลากจูงทะเลสาบน้ำแข็งทะยานตัวสูงขึ้น บินออกสู่นอกโลก ตรงเข้าสู่ห้วงจักรวาล 

“เรียกกองยานแรก จากการตรวจสอบ ไม่ค้นพบถึงร่องรอยของมอนสเตอร์เอกภพในบริเวณใกล้เคียงนี้ ทราบแล้วเปลี่ยน” 

“ไม่มีมอนสเตอร์เอกภพอยู่ใกล้เคียง นั่นหมายความว่าจะไม่มีอะไรส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนกระบวนทัพของเรา ทราบแล้วเปลี่ยน” 

“ร้องขอตรวจสอบเวลา เพื่อคาดคะเนช่วงเวลาเร่งความเร็วจนเสร็จสมบูรณ์” 

“ช่วงเวลาได้รับการตรวจสอบแล้ว เริ่มทำการนับถอยหลังเพื่อเร่งความเร็วให้หลุดพ้นจากแรงโน้มถ่วงโลก ทราบแล้วเปลี่ยน”

 “สาม สอง หนึ่ง เริ่มต้นเร่งความเร็วได้!” 

สี่สิบแปดยานรบขนาดยักษ์ ทำการเร่งความเร็วในเวลาเดียวกัน 

หลังจากการเร่งความเร็วอย่างรุนแรง กระบวนทัพเรือรบก็เริ่มออกห่างจากแรงดึงดูดของโลก 

ทะเลสาบน้ำแข็งก็หลุดจากแรงโน้มถ่วงของโลกเช่นกัน 

นับจากนี้ไป ทะเลสาบน้ำแข็งจะไม่มีวันกลับคืนสู่โลกได้อีกต่อไป 

“เริ่มทำการปล่อยตัวได้” 

ตะขอทั้งหมดบนสี่สิบแปดเรือรบประจัญบานถูกปลดออก

สายเคเบิลที่เมื่อครู่ถูกขึงจนตึงแน่น บัดนี้หย่อนยาน พร้อมกับทะเลสาบน้ำแข็งที่ค่อยๆ ลอยห่างออกไปจากกระบวนทัพยานรบ 

แรงเฉื่อยอันมหาศาลจากภายนอกโลก ช่วยให้ทะเลสาบน้ำแข็งสามารถรักษาความเร็วได้ดังเดิม และลอยล่องหายลับไปในส่วนลึกของห้วงจักรวาล 

หากไม่มีอุบัติเหตุใดๆ ทะเลสาบน้ำแข็งก็จะลอยอยู่ท่ามกลางจักรวาลอันมืดมิดตลอดกาล 

แม้จะต่อให้มีบางสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น อย่างเช่น ทะเลสาบน้ำแข็งอาจจะถูกดึงดูดโดยแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์รกร้าง แต่สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นเพียงดาวบริวารน้ำแข็ง คอยล่องลอยเวียนอยู่รอบดาวเคราะห์ดวงที่ว่านั่นตลอดไป 

หรืออีกกรณีหนึ่ง แม้เศษเสี้ยวนรกเยือกแข็งนี้ถูกกลืนกินลงไปโดยมอนสเตอร์เอกภพ แต่สุดท้ายแล้วพวกมันก็จะถูกย่อยสลายอยู่ในกระเพาะของอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่ามอนสเตอร์เอกภพตัวนั้นจะตกตายลงอยู่ดี 

โดยสรุปแล้ว คนตายผู้ชั่วร้ายเหล่านี้ จะไม่มีทางได้กลับมาได้อีกแน่ๆ

………………..………………..