webnovel

0186 กำจัดตัวตลก

ตอนที่ 186 กำจัดตัวตลก

ภายในสังเวียน ในที่สุดก็หลงเหลือเพียงผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย

เสียงชราภาพที่ฟังออกว่าแทบจะกรีดร้องออกมาได้ดังกังวานขึ้น

“เหล่าผู้สังเกตการณ์เอ๊ย คิดเห็นเช่นไรบ้าง การแข่งขันท้าทายครั้งนี้มันเยี่ยมไปเลยใช่หรือไม่!”

เสียงชราอุทาน “ดูคนคนนั้นสิ! ราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นแชมเปี้ยนส์เลย! เอาล่ะด้วยความใจกว้างอันมากล้น พวกเราจะเริ่มทำการรักษาบาดแผลของเขาทั้งหมดเอง”

โลงศพสีดำผุดขึ้นมาจากใต้พื้นหินของสังเวียน

“เจ้าจงเข้าไปในโลงนั่น แล้วอาการบาดเจ็บของเจ้าจะถูกฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูจะหายดีในไม่ช้า” เสียงชรากล่าว

นักสู้หวูเต๋าคนนั้นลังเลเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในโลง

ฝาโลงค่อยๆ ปิดลง และเริ่มหมุนวนอย่างช้าๆ

“ท่ามกลางชีวิตและความตาย มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะได้รับเกียรติยศแห่งชีวิตได้” เสียงชราภาพเอ่ยเป็นท่วงทำนอง

ฝาโลงศพได้ถูกเปิดออกอีกครา

มืออาชีพผุดลุกออกมา

เขายืนหยัดอยู่ในจุดเดิม บาดแผลทั้งคนทั้งร่างหายไปโดยสมบูรณ์และความแข็งแกร่งทางกายภาพก็กลับคืนมาอยู่ในระดับสูงสุด!

“ราชาของเกมในครั้งนี้ก็คือ…หลี่ไห่! เจ้าคือผู้ที่อยู่ในขอบเขตบรรพชนนักสู้อันทรงพลัง ฆ่าสังหารผู้ท้าทายไปกว่าเจ็ดร้อยเก้าสิบแปดคน และเจ้าจะได้รับรางวัลจากเกมแห่งชีวิตนิรันดร์นี้!”

หีบสมบัติใบหนึ่ง ค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า

หลี่ไห่เอื้อมมือออกไป คว้าจับมัน

บังเกิดประกายแสงสดใสระยิบระยับขึ้นจากภายในหีบสมบัติ เมื่อรังสีแสงได้กระจายตัวออกไป ก็ปรากฏสองสิ่งขึ้นเบื้องหน้าหลี่ไห่

หนึ่งเป็นเม็ดยาสีดำเข้ม มันคือเม็ดยาชีวิตนิรันดร์

อีกหนึ่งคือคู่ถุงมือโลหะแวววับและแผ่แรงกดดันที่ดูดุดันออกมา

หลี่ไห่ไม่รีรอให้เสียงชราภาพเอ่ยอธิบาย เขาคว้าจับเม็ดยาชีวิตนิรันดร์และโยนมันเข้าปากทันที

เขากัดมันไปสองสามคำก่อนจะกลืนลงไป

ผิวหนังที่หย่อนหยานกลายเป็นมันวาว รอยยับย่นบนหน้าผากและริ้วรอยรอบหางตาค่อยๆ กลืนหายลงไปในผิว มวลกล้ามเนื้อในร่างกายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้แลดูบึกบึนยิ่งขึ้น

นักสู้หวูเต๋าวัยกลางคน เพียงไม่กี่ลมหายใจ บัดนี้แปรเปลี่ยนกลับกลายเป็นนักสู้หวูเต๋ารุ่นเยาว์ที่สง่างาม

กระจกเงาปรากฏขึ้นตรงข้ามเขา ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

หลี่ไห่จ้องมองดูตัวเองในกระจก และเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

“ชีวิตนิรันดร์! ฉันเป็นอมตะแล้ว! ไม่มีใครจะสามารถหยุดฉันได้ ฉันจะสามารถเพลิดเพลินไปกับความงดงามของโลกใบนี้ได้ตลอดไป!”

เขากางไม้กางมือด้วยความตื่นเต้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยสงบลง และคว้าจับถุงมือโลหะขึ้นมา

เสียงชราภาพเอ่ยอธิบาย “นี่คือคู่ถุงมือของนักสู้หวูเต๋า ที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณธาตุทอง”

“ทุกครั้งที่เจ้าใช้งานมัน ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมแกร่งในยามออกหมัดได้รุนแรงขึ้นกว่าสามในสิบส่วนเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้เจ้าสามารถใช่ธาตุทองได้จากภายในร่างกายเลยโดยตรง นอกจากนี้ระยะการโจมตีของธาตุทองยังกว้างขึ้นอีกด้วย”

หลี่ไห่มิเพียงเป็นนักสู้หวูเต๋า แต่เขายังเป็นถึงผู้ที่สามารถปลดผนึกธาตุทองจากธาตุทั้งห้าได้ ซึ่งถุงมือคู่นี้นับว่าเหมาะสมสำหรับเขาเป็นอย่างยิ่ง

หลี่ไห่ทดลองสวมถุงมือ และชกออกไปสองสามครั้ง จากนั้นก็ทำการกระตุ้นใช้งานธาตุทองจากภายในร่างกายและถ่ายเทมันลงบนถุงมือ

ปรากฏเส้นแสงบางเบาสีทองยาวลอดออกมาจากแขนเสื้อ

เส้นแสงสีทองพุ่งออกไปยังเบื้องหน้าด้วยความเร็วสูง พริบตาเดียวมันก็ขยายออกไปถึงที่นั่งฝั่งผู้ชม และม้วนเข้าโอบสี่ถึงห้าที่นั่งเอาไว้อย่างหนาแน่น

หลี่ไห่ค่อยๆ ง้างกำปั้นในท่วงท่ามวยจีนอย่างช้าๆ สายตาจับจ้องไปยังที่นั่งผู้ชม เนิ่นนานมิยอมเอ่ยปาก

พลานุภาพที่พึ่งได้รับนี้ นับว่าทรงพลังมากเกินไปจริงๆ

ช่วงก่อนหน้า เขาต้องพยายามอย่างสุดกำลังจึงจะกระตุ้นใช้งานเส้นแสงสีทองบางเบานี้ได้ จนสามารถฆ่าสังหารน้องชายของตนลงได้ในที่สุด

ทว่ายามที่สวมใส่ถุงมือคู่นี้ เขากลับสามารถกระตุ้นเส้นแสงสีทองหลายร้อยเส้นได้ในเพียงลมหายใจเดียว ขณะนี้ กล่าวได้เลยว่า ต่อให้เขาต้องเผชิญหน้ากับตัวตนเฉกเช่นเดียวกันกับน้องชายตนถึงสิบคน เมื่อทั้งหมดดาหน้าเข้าหาเขา พวกมันจะต้องตกตายภายในกระบวนท่าเดียว

กำลังรบที่ครอบครอง ทะยานสูงขึ้นยิ่งกว่าเดิมเป็นอย่างมาก!

ในตอนนั้นเอง เสียงชราภาพก็กังวานขึ้น “แชมเปี้ยนส์ของเรา หลี่ไห่ที่เคารพรักยิ่งเอ๊ย หากต้องพบเจอกับเจ้าแมลงเหม็นที่เรียกตัวเองว่าเพชฌฆาตตัวตลก ขอจงโปรดอย่าได้หวั่นเกรง แต่จงมอบความบันเทิงให้แก่มันด้วยถุงมือโลหะของเจ้า สั่งสอนให้มันรับรู้ว่า ผู้ที่ได้รับเกียรติยศแห่งชีวิตนิรันดร์มานั้นมิอาจถูกหยามหมิ่นได้!”

น้ำเสียงของชราภาพยกสูงขึ้นทันใด เอ่ยปากกล่าวอย่างจริงจังว่า “หากเจ้าสามารถกำจัดไอ้ตัวตลกที่แสนจะน่ารังเกียจลงได้ ข้าจะให้รางวัลพิเศษนอกเหนือจากนี้ให้แก่เจ้า!”

“รางวัลพิเศษอย่างงั้นเหรอ?” ประกายในสายตาของหลี่ไห่เผยให้เห็นถึงความปรารถนาและความโลภ

“ข้าจะขอบอกใบ้เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้อีกสักหน่อยก็แล้วกัน ว่ารางวัลพิเศษที่พึ่งเอ่ยปากออกมานี้ มีคุณค่าไม่ด้อยไม่กว่าเม็ดยาแห่งชีวิตนิรันดร์เลย!”

กำปั้นที่ถูกปกคลุมด้วยถุงมือโลหะของหลี่ไห่เกร็งแน่น เอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “ฉันเคยเห็นความแข็งแกร่งของเจ้าตัวตลกมาก่อนแล้ว ตราบใดที่มันกล้าเสนอหน้ามา มันจะต้องตกตายภายใต้เงื้อมมือฉันอย่างแน่นอน!”

เสียงชราภาพเอ่ยกล่าวด้วยความพอใจ “ดี ดีมาก หลี่ไห่ เจ้าช่างเป็นนักรบผู้กล้าหาญ เหมาะสมยิ่งที่จะยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม”

“หลี่ไห่จะถูกส่งตัวกลับไปในโลกจริง และบางทีเขาอาจจะต้องได้เผชิญหน้ากับเจ้าตัวตลกที่น่ารังเกียจ ทว่านั่นมันไม่สำคัญหรอก นั่นเพราะหลี่ไห่ในยามนี้นั้นช่างแข็งแกร่งและทรงเกียรติ เขาจะไม่มีทางอนุญาตให้เจ้าตัวตลกมาหมิ่นเกียรติของตนเองเด็ดขาด!”

“ทุกท่านที่กำลังรับชม โปรดปรบมือให้กำลังใจแก่ตัวตนเยี่ยงวีรบุรุษเช่นเขาด้วย!”

สิ้นเสียงชราภาพ ร่างของหลี่ไห่ก็หายวับไปจากสังเวียน

ทั่วทั้งสังเวียน หลงเหลือทิ้งไว้เพียงซากร่างนับพันของมนุษย์ นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น

“เกมแห่งนิรันดร์ในรอบต่อไปจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน”

“ต้องการมีชีวิตนิรันดร์กันหรือไม่เล่า? หากใช่ ก็จงเร่งมามีส่วนร่วมสิ ทางเราคาดหวังว่าจะมีผู้เข้าร่วมเล่นมากขึ้นจากในครั้งก่อนนะ”

“แล้วพบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้”

วิสัยทัศน์ในสังเวียนมืดดับลง และภาพของมันก็หายไปจากสายตาของมนุษย์ทุกผู้คน

เกมแห่งชีวิตนิรันดร์ในรอบที่สอง ได้สิ้นสุดลงแล้ว

ในโลกจริง ทุกสรรพเสียงยังคงเงียบงัน และทุกผู้คนก็ยังมิคิดตัดสินใจลงมือกระทำการใดๆ

ขณะนี้มนุษยชาติกำลังเฝ้ารอคอยอย่างอดทน

เฝ้ารอถึงบทสรุปของเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น และมันจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่พวกเขาจะใช้ในการประกอบการตัดสินใจ

เหนือขึ้นไปในท้องฟ้าท่ามกลางหมู่ดาว

ณ เฉินเตี้ยนเฮ่า

เพชฌฆาตตัวตลกกำลังจะถูกส่งตัวออกไปในเร็วๆ นี้

“หลี่ไห่เป็นพี่ชายฝาแฝดระดับมืออาชีพ เขาเป็นนักสู้หวูเต๋า ตัวตนเช่นนี้นับว่าง่ายดายยิ่งที่จะค้นหา”

เหลียวฮังเอ่ยงึมงำ วาดภาพร่างของอีกฝ่ายลงบนกระดาษอย่างรวดเร็ว

“ทำการสแกนลักษณะ”

“เริ่มต้นยืนยันสถานะ”

“ค้นพบบุคคลที่มีชื่อเดียวกันทั้งหมดหนึ่งพันสี่ร้อยหกสิบห้าคน เริ่มต้นคัดกรองโดยอ้างอิงจากภาพร่างเสมือน...เบาะแสที่สอดคล้อง ค้นพบตัวตนที่สอดคล้องกับเงื่อนไขหนึ่งเป้าหมาย”

“โปรดอ่านข้อมูลที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้วย”

จอม่านแสงถูกฉายออก พร้อมกับแผนภาพที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าทั้งสี่

“หลี่ไห่ คนของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ ครอบครองกำปั้นเหล็กที่อาจกล่าวได้ว่าอยู่ในระดับบรรพชนนักสู้ขั้นสูง และเป็นจ้าวสำนักหอยุทธหวูเต๋า”

“เป้าหมายมีความผันผวนทางชีวภาพที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ ทำการดาวน์โหลดเพื่อหาข้อมูลที่อยู่อาศัยของเป้าหมาย”

ภาพบนจอดาวเทียมถูกเปิดขึ้น

ท่ามกลางห้องโถงของหอยุทธหวูเต๋าอันยิ่งใหญ่และงดงาม หลี่ไห่กำลังตระเตรียมกองกำลังนักสู้หวูเต๋าจำนวนมาก เพื่อวางแนวชั้นป้องกันโดยรอบ

นอกสุดของโถงหอยุทธหวูเต๋า ไม่ว่าจะเป็นหลังคา ฝั่งด้านข้าง ประตูด้านหน้า สนามหลังบ้าน ทั้งหมดล้วนถูกเตรียมการป้องกันไว้อย่างแน่นหนา

กู่ฉิงซานมองไปยังเหล่ากองกำลังเกราะรบขับเคลื่อนรุ่นมาตรฐานของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์

ทั้งหมดกระจายตัวอยู่ทั่วโถงหอยุทธหวูเต๋า จัดวางเป็นค่ายกลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อต้อนรับการมาเยือนของเพชฌฆาตตัวตลกในเร็วๆ นี้

“ไม่มีใครในจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์คิดจะออกหน้าช่วยเหลือเขาเลยอย่างงั้นเหรอ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

“จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ถูกแบ่งแยกออกเป็นสามส่วน อันได้แก่ ส่วนของราชวงศ์ ส่วนพวกปฏิวัติ และส่วนของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ แม้ขณะนี้ทั้งสามก็ยังมีส่วนร่วมในสงครามการเมืองที่เกิดขึ้น ทว่าหลี่ไห่ได้ทำการติดต่อไปยังทั้งสามฝ่ายแล้ว และเอ่ยปากว่าจะยอมเป็นพันธมิตรกับฝ่ายที่ส่งกำลังพลมาสนับสนุน ทว่ายังไม่ทราบว่ามีฝ่ายใดตอบรับ หรือกำลังสนับสนุนก็อาจจะยังมาไม่ถึงสำนักหอยุทธหวูเต๋าก็เป็นได้”

“ถ้าอย่างงั้นก็จัดการเขาก่อนที่พันธมิตรจะมาถึงเสียเลย เพราะอย่างไรเขาก็ยังเป็นเพียงบรรพชนนักสู้ขั้นสูง แม้จะมีถุงมือโลหะที่สามารถเพิ่มพลังหมัดและธาตุทองไว้ครอบครอง แต่หลังจากที่ฉันวิวัฒนาการแล้ว การตอบสนองของเขาย่อมไม่มีทางตามฉันทันได้อย่างแน่นอน” เย่เฟย์หยูยิ้มและกล่าว

ชุดเกราะรบเพชฌฆาตของเขาถูกสวมใส่อีกครั้ง

“แต่ดูเหมือนว่ามีผู้เชี่ยวชาญระดับบรรพชนนักสู้อยู่หลายคนเลยนะ ฉันว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะลงมือ” ซางหยิงฮ่าวจ้องมองไปบนจอภาพ เอ่ยกล่าวด้วยคิ้วขมวดมุ่น

“ทำไมพวกเราถึงไม่ใช้ป้อมปราการดวงดาวเลยเล่า? ส่งกองยานรบออกไป และพังทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลองไปเลย” เหลียวฮังกล่าว

“ตอนนี้ตัวตลกเป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะสามารถสร้างความหวาดกลัวได้ แต่ถ้าหากตัวตลกทำการควบคุมอาวุธสงครามของมนุษย์แล้วล่ะก็ มันจะทำให้เกิดความตื่นตระหนกมากเกินไป และจุดยืนของตัวตลกก็จะอยู่ตรงข้ามกับอารยธรรมของมนุษยชาติ ซึ่งจะทำให้ผลสะท้อนตีกลับมา และผลกำไรที่ได้มันจะไม่คุ้มเสีย” กู่ฉิงซานกล่าว

“ยิ่งไปกว่านั้น การฆ่าสังหารด้วยมือเปล่า มันจะทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงความน่าหวาดหวั่นของตัวฉันได้ง่ายดายยิ่งกว่า” เย่เฟย์หยูเลียริมฝีปาก แสดงท่าทีตื่นเต้นเล็กน้อย

“ฉันว่าฉันมีความคิดดีๆ บางอย่างแล้วล่ะ” กู่ฉิงซานกล่าว เขาหันไปมองเย่เฟย์หยู “นายสามารถอยู่รอดในอวกาศได้รึเปล่า?”

เย่เฟย์หยู “ก็ถ้าด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันนี้ น่าจะฝืนอยู่ได้เป็นระยะเวลาสั้นๆ”

“แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว เทพธิดากงเจิ้ง” กู่ฉิงซานกล่าว

“ฉันอยู่นี่”

“ทำการค้นหาอุกกาบาตที่อยู่ใกล้เคียงกับโลกให้หน่อยสิ”

“ค้นพบเป้าหมายแล้ว”

“เลือกมาสักอันไว้ให้เย่เฟย์หยูทำการเคลื่อนย้ายมัน”

“ทำตามคำร้องขอของใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ ทำการล็อกเป้าหมายที่สอดคล้องแล้ว”

“อุกกาบาตงั้นหรือ?” เย่เฟย์หยูเอ่ยถามงงๆ

“ใช่แล้ว พวกเราจะบุกไปพร้อมกับหินยักษ์ที่ลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงและกำลังร่วงหล่นลงจากฟ้า” กู่ฉิงซานกล่าว “หลังจากนั้นทุกผู้คนก็จะได้รับชมถึงฉากเปิดตัวอันแสนเลิศเลออลังการ!”

........................................