webnovel

0177 เริ่มต้นเผชิญหน้า

ตอนที่ 177 เริ่มต้นเผชิญหน้า 

กู่ฉิงซาน ซางหยิงฮ่าว เย่เฟย์หยู และเหลียวฮังได้ถูกพาตัวขึ้นมายังป้อมปราการดวงดาวเฉินเตี้ยนเฮ่าโดยยานรบประจัญบานขนาดเล็ก 

ทันทีที่ก้าวขึ้นมาบนป้อมปราการ สองเท้าของกู่ฉิงซานก็ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่อีกเลย ดูเหมือนเขากำลังวุ่นอยู่กับอะไรบางอย่างอยู่ 

“ที่แท้หน่วยประมวลผลข้อมูลของเทพธิดาก็อยู่ที่นี่นี่เอง…” เหลียวฮังกล่าว 

เขาก้าวขึ้นมาบนป้อมปราการ สายตาสาดส่องออกไปรอบทิศด้วยความตื่นเต้น 

เทพธิดากงเจิ้งกล่าว “มิสเตอร์เหลียว โปรดอย่าออกห่างจากท่านใต้เท้าผู้ทรงเกียรติเกินสิบฝีก้าว มิฉะนั้นฉันจะกระตุ้นระเบิดนาโนในร่างกายของคุณให้ทำงานทันที” 

“จิ๊ ทำไมถึงต้องเพ่งเล็งแค่กับฉันเสมอเลย!” เหลียวฮังเอ่ยท้วงเสียงดัง 

“นั่นก็เพราะหลังจากที่คุณกลับมา คุณก็ได้แอบทำการอ่านหนังสือเกี่ยวกับการแฮ็คไฟร์วอลไปแล้วกว่าสองร้อยเก้าสิบเจ็ดเล่ม” 

“บ้าจริง จักรกลเอไอเดี๋ยวนี้มันจะรู้มากเกินไปแล้ว” เหลียวฮังสบถด่า 

“เอาล่ะๆ” กู่ฉิงซานวิ่งวุ่นไปมาดูจะตระเตรียมการเสร็จสิ้นลงแล้ว สองมือปราบเข้าหากันและกล่าว “ที่พวกเรามารวมตัวกันในวันนี้ ก็เพราะมีเรื่องสำคัญที่จะต้องมาคิดร่วมกัน” 

ทั้งสามหันไปมองดูเขา และเห็นว่าสีหน้าของอีกฝ่ายแฝงไปด้วยความเคร่งขรึมและจริงจัง 

“เรื่องอะไรงั้นเหรอ?” 

“เรื่องการสร้างเกมน่ะ” 

“อุ...ฮ่าๆ” ซางหยิงฮ่าวหลุดขำออกมา 

“สร้างเกมสินะ นายคงหมายถึงเกมราวๆ ที่ต้องใช้อุปกรณ์สวมลงบนหัว เพื่อส่งผ่านข้อมูลผ่านทางคลื่นสมองใช่ไหม?” เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แต่ว่านะ ตัวฉันน่ะ ไม่เคยได้แตะเกมอีกเลย ตั้งแต่ที่ค้นพบว่าตัวเองตกหลุมรักในการลอบสังหารตอนอายุ สิบเจ็ดปี” 

ทว่าเย่เฟย์หยูกลับดูค่อนข้างที่จะสนใจ “แล้วเกมที่ว่านั่นมันเป็นเกมประเภทอะไรกันล่ะ ถ้าเป็นพวกเกมกีฬานี่ฉันพอจะช่วยเสนอแนะได้นะ เมื่อก่อนฉันเคยลงแข่งเล่นเกมฟุตบอลมาก่อนนะรู้ไหม เคยไต่ขึ้นไปถึงอันดับที่เจ็ด ของโลกเลยเชียวล่ะ” 

“ไม่ใช่เกมที่สามารถเล่นได้เฉพาะกลุ่มแบบนั้นหรอก” กู่ฉิงซานโบกมือและกล่าว 

“ที่ฉันต้องการจะทำก็คือ เกมที่มนุษย์ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการเล่นได้” 

“ตั้งโจทย์มาแบบนี้ ยังไม่ต้องเริ่มทำ ก็บอกเลยว่ามันเป็นเรื่องยากมาก” เหลียวฮังกล่าว บนใบหน้าของเขาแลดูจะเผยท่าทีสนใจเล็กน้อย 

“อันที่จริงฉันพอจะสร้างมันไว้คร่าวๆ แล้ว ฉันจะลองยกตัวอย่างง่ายๆ ให้ดูนะ” กู่ฉิงซานส่งสัญญาณมือ 

“รับทราบแล้ว เริ่มดำเนินการในสิ่งที่คุณร้องขอ” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว 

ทันใดนั้นเอง แขนจักรกลก็ผุดขึ้นมาตรงพื้นเบื้องหน้าของทุกคน 

“นี่เป็นเพียงความคิดเบื้องต้น ฉันเลยจะสาธิตเนื้อหาของเกมขั้นพื้นฐานที่สุดก่อน” 

กู่ฉิงซานกล่าว ขณะเดียวกันก็ก้าวออกไปเบื้องหน้า สวมใส่แขนจักรกลในมือ 

จากนั้นก็ใช้นิ้วกดลงบนมัน ทันใดนั้นแขนจักรกลก็วิ่งขึ้นไปตามแขนซ้ายของเขา ก่อนที่มันจะแนบตัวลงให้เหมาะสมกับสรีระแขนของเขาโดยสมบูรณ์ 

“แขนจักรกลนี่มันยังดูจะหยิบใช้งานได้ลำบากไปนิดหน่อย ฉันกะว่าจะทำให้มันเล็กลงอยู่ในรูปแบบของกำไลข้อมือในภายหลัง” เขาเอ่ยและเริ่มการสาธิต 

ดาบยาวปรากฏขึ้นในมือของเขา 

“เทพธิดากงเจิ้ง เริ่มทำการบันทึกการเคลื่อนไหวของฉัน ว่ามันสอดคล้องกับข้อมูลของเทคนิคดาบที่มีหรือไม่ อ้อ แล้วก็อย่าลืมทำการสร้างรูปแบบจำลองอัลกอริทึมด้วยล่ะ” 

“เตรียมการพร้อมแล้ว ร้องขอให้ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ เชิญสาธิตมันได้” เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังลอดออกมาจากแขนจักรกล 

กู่ฉิงซานกระชับดาบพิภพในมือ และเริ่มร่ายรำหนึ่งในชุดเทคนิคดาบขั้นพื้นฐานออกไป 

ทั้งสามคนที่เหลือเฝ้ามองอย่างใจจดใจจ่อ 

หลังจากที่กู่ฉิงซานทำการสาธิตจนเสร็จสิ้น เขาก็เอ่ยปากถาม “เทพธิดากงเจิ้ง ชุดเทคนิคดาบที่ฉันพึ่งแสดงให้ดูเป็นอย่างไรบ้าง?” 

“อ้างอิงจากตามฐานข้อมูลเก่าของชุดเทคนิคดาบนี้ ที่ได้บันทึกไว้ คุณมีหนึ่งการเคลื่อนไหวที่ผิดพลาด และอีกสองจุดบนร่างกายที่อยู่ในสภาวะไม่มั่นคง” 

เสียงถูกเปล่งออกมาจากแขนกล พร้อมกับจอม่านแสงที่ปรากฏขึ้น 

บนจอม่านแสง วิดีโอระหว่างการสาธิตของกู่ฉิงซานฉายออกมา พร้อมกับวงกลมแสดงเครื่องหมายว่าผิดตรงจุดนี้ และปรากฏจุดแสงส่องสว่างที่บ่งบอกว่าสมควรขยับกายเช่นนี้จึงจะเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง 

หลังจากที่ดูวิดีโอสาธิตของตนเองเสร็จ ทุกกระบวนการ เขาก็เอ่ยปากกล่าว “ช่วยประเมินให้หน่อยนะว่าฉันยังต้องฝึกฝนตัวอย่างให้ดูอีกกี่ครั้ง ถึงจะสามารถเคลื่อนไหวให้ตรงกันกับชุดเทคนิคดาบนี้ได้อย่างสมบูรณ์” 

“กำลังทำการคำนวณ” 

“หากอ้างอิงตามการเคลื่อนไหวที่ผิดพลาดของคุณ ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติจะต้องทำการฝึกฝนอย่างจริงจัง ราวๆ สามร้อยครั้ง เพื่อให้ร่างกายสามารถจดจำท่วงท่าและการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง” 

“เอาล่ะดีมาก ถ้างั้นหลังจากที่ฉันสามารถเคลื่อนไหวด้วยชุดเทคนิคนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ไหนลองบอกซิว่า ฉันจะได้รับรางวัลอะไรเป็นการตอบแทน?” 

“หากคุณสามารถฝึกฝนและเข้าใจถึงชุดเทคนิคดาบขั้นพื้นฐานนี้ได้โดยสมบูรณ์ กำลังรบทางกองทัพของคุณจะเทียบเท่าได้กับ นักสู้หวูเต๋าธรรมดาๆ ในระดับสาวดาว และจะได้รับเงินอุดหนุนส่วนบุคคลตามกำลังรบ พร้อมกับได้รับมอบดาบรุ่นมาตรฐานทางกองทัพของรัฐบาลกลาง” 

“งั้นต่อไปฉันจะลองสาธิตการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องดูนะ” แล้วกู่ฉิงซานก็เริ่มร่ายรำชุดเทคนิคดาบอีกครั้ง 

คราวนี้ไม่มีจุดใดที่ผิดพลาด 

ติ๊ง! 

ปรากฏเสียงดังขึ้นจากในแขนจักรกล 

“สามารถระบุได้ว่าคุณได้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญชุดเทคนิคดาบนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ กำลังรบรายบุคคลเพิ่มขึ้นสู่ระดับนักสู้หวูเต๋าสามดาว และรางวัลพิเศษของคุณก็คือ ดาบรุ่นมาตรฐานทางกองทัพ” 

“คุณต้องการจะถอนรับรางวัลในตอนนี้เลยใช่หรือไม่?” 

“ใช่” 

“รางวัลจะถูกทำการส่งมอบในเร็วๆ นี้” 

อีกสามคนเฝ้ารอ ทว่ากลับยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

“มันหยุดทำงานไปแล้วงั้นเหรอ?” ซางหยิงฮ่าวเอ่ยถาม 

“ไม่ใช่อย่างงั้นหรอก เพียงแต่ว่า…” 

กู่ฉิงซานยิ้มให้ซางหยิงฮ่าว ก่อนจะเบนสายตาไปยังเหลียวฮัง 

เหลียวฮังตระหนักได้ในทันที สีหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจเล็กน้อย 

เขาเอ่ยพึมพำ “นี่แกต้องการให้ฉันวางระบบจัมป์ขนาดย่อมเข้าไปในแขนจักรกล เพื่อที่จะให้เทพธิดากงเจิ้งสามารถส่งมอบรางวัลไปยังตำแหน่งของผู้เล่นได้ตลอดเวลาอย่างงั้นใช่ไหม” 

“ถูกต้อง” กู่ฉิงซานกล่าว “หากเป็นในกรณีนี้ พวกเราจะสามารถส่งรางวัลได้เลยในทันที ซึ่งมันจะช่วยส่งเสริมให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นและบังเกิดรู้สึกภาคภูมิใจที่ตนสามารถทำได้สำเร็จ 

อีกสามคนที่เหลือพอได้ฟังก็นิ่งไป 

“การจัมป์ขนาดย่อม…นี่มันเป็นเรื่องค่อนข้างยาก ฉันอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าที่คิดนิดหน่อย” คิ้วของเหลียวฮังขมวดเข้าหากัน ปากเอ่ยกล่าว 

กู่ฉิงซาน “นี่จะเป็นเพียงฟังก์ชันขั้นพื้นฐานที่สุด และเมื่อคุณสามารถสร้างเทคโนโลยีจัมป์ขนาดย่อมได้สำเร็จ ผมก็จะค่อยใส่เนื้อหาที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าลงไป” 

“แล้วที่ว่านั่นมันมีอะไรบ้างล่ะ?” ซางหยิงฮ่าวเอ่ยถาม 

“ก็จำพวกความรู้ในการใช้สกิล แม้กระทั่งอาวุธหรืออุปกรณ์สวมใส่ดีๆ สิ่งนี้มันจะช่วยดลใจให้ผู้คนจำนวนมากยิ่งทวีความรู้สึกตื่นเต้นคลั่งไคล้” “แล้วทำไมถึงต้องไปทำอะไรที่เฉพาะเจาะจงแบบนั้นด้วยล่ะ?” เย่เฟย์หยูถาม 

“นายลองจินตนาการดูนะ ว่าถ้านายเป็นหนึ่งในคนที่อยากแข็งแกร่ง แต่ดันไม่ได้รับโอกาสในการฝึกฝนวรยุทธ์ต่อสู้ ทว่าเมื่อได้มาเล่นเกมนี้ แล้วได้รับรางวัลเป็นของพวกนี้ รางวัลที่จะช่วยเติมเต็มความฝันของตน มันจะน่ารู้สึกน่าตื่นเต้นแค่ไหน” 

“แน่นอนว่ายังมีเนื้อหาอื่นๆ อยู่อีก แต่พวกเราจะค่อยๆ ผสมผสานหลอมรวมมันเข้าด้วยกันอย่างช้าๆ” 

‘ถึงแม้รางวัลในเกมของฉันมันจะไม่สามารถมอบชีวิตนิรันดร์ให้แก่ผู้คนได้ แต่ฉันสามารถชี้นำผู้คนถึงวิถีอันเป็นนิรันดร์ของมนุษย์ได้’ กู่ฉิงซานกล่าวในใจอย่างเงียบๆ 

ซางหยิงฮ่าวพอได้ฟัง ก็คิดไตร่ตรองอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยปาก “แล้วถ้าหากพวกเรามีรางวัลใหญ่ให้อย่างเช่น …” 

“ระยำเถอะ!” เหลียวฮังอุท่านลั่นในทันใด 

คิ้วของซางหยิงฮ่าวขมวดเข้าหากัน “คราวนี้อะไรอีกล่ะ? พึ่งจะมารู้สึกตกใจรึยังไงกัน” 

“ไม่ใช่ แต่พึ่งนึกขึ้นมาได้ต่างหาก แกไม่เข้าใจเหรอว่าเจ้าสิ่งนี้มันหมายถึงอะไร!” สีหน้าของเหลียวฮังแสดงถึงความตื่นเต้นเต็มที่ “ถ้าเกมนี้ได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลามจริงๆ ทิศทางของอารยธรรมมนุษย์ก็จะเปลี่ยนแปลงไป และเรา…พวกเรา! พวกเราที่เป็นผู้สร้างมันก็จะกลายเป็นราชาแห่งโลกใบใหม่! นี่มันคือสิ่งที่ฉันเคยต้องการจะเป็นเมื่อสามสิบปีก่อน! ไม่สิ บางทีอาจจะยิ่งใหญ่กว่าด้วยซ้ำ!!” 

เขาพูดต่อจนลิ้นแทบพัน “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันคงต้องเร่งออกแบบเทคโนโลยีจัมป์ขึ้นใหม่ทั้งหมดให้เสร็จเร็วๆ ซะแล้ว พวกแกรอก่อนนะ!” 

กู่ฉิงซาน “ไม่เป็นไรหรอก ค่อยๆ ทำช้าๆ พวกเรามาร่วมมือกันพยายามทำไปทีละขั้นตอน มาพยายามทำให้เกมๆ นี้กลายเป็นระบบที่ทรงพลังที่สุดในโลกกันเถอะ” 

ซางหยิงฮ่าวเอ่ยถามกลับไป “ฟังจากที่พูดมา นายต้องการจะใช้เกมนี้ไปแย่งผู้เล่นมาจากเกมแห่งชีวิตนิรันดร์ใช่ไหม?” 

“น่าสนใจนะ ฉันว่ามันน่าสนใจมากทีเดียว” เย่เฟย์หยูเริ่มรู้สึกคันไม้คันมือเล็กน้อย 

“แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือ เรื่องของจิตใจมนุษย์นั่นแหละ อีกฝ่ายถึงกับใช้ชีวิตนิรันดร์เป็นรางวัลเลยนะ มันน่าดึงดูดใจสุดๆ ไปเลย” ซางหยิงฮ่าวกล่าว 

“ชีวิตนิรันดร์…” 

กู่ฉิงซานหลับตาลง เพื่อรับชมเหตุการณ์ในสังเวียน 

บัดนี้ทั่วทั้งเวทีเอ่อนองไปด้วยทะเลเลือดของมนุษย์ อวัยวะภายใน แขนขา กระจัดกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ 

ผู้เล่นนับหมื่นคน นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น สีหน้ายามสิ้นใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไร้ซึ่งความหวัง 

เสียงชราที่ไร้ที่มา กำลังตะโกนขึ้นอย่างมีชีวิตชีวาและร้อนแรง “ทุกคนรีบมาดูนี่เร็ว บัดนี้พวกเราได้ผู้แข่งขันท้าทายสี่อันดับสุดท้ายแล้ว!” 

“ตำแหน่งราชาของการแข่งขันท้าทายในสังเวียนนี้ จะตกเป็นของหนึ่งในพวกเขา!” 

“ใครกันนะ ที่จะได้รับชีวิตอันเป็นนิรันดร์ไป” 

“มาเฝ้าดูและรับชมกันเถอะ!” 

สี่มืออาชีพ ยืนอยู่ในสี่ทิศทางบนสังเวียน ทั้งหมดต่างเฝ้าดูท่าทีของแต่ละฝ่าย หันไปมองหน้ากันและกัน 

เนื่องจากพวกเขาสามารถฆ่าคนได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นอุปกรณ์สวมใส่ของพวกเขาจึงทรงพลังชนิดที่ว่าไม่เคยปรากฏมาก่อน 

มืออาชีพเฉินฉีที่เป็นผู้เริ่มลงมือเปิดฉากสังหารเป็นคนแรก บัดนี้กำลังสวมใส่ชุดเกราะโครงกระดูกดำ สองมือถือกระบี่หนักที่มีโครงกระดูกขาวพาดผ่านเป็นแกนหลัก ตามคมกระบี่ลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิง 

ชุดเกราะรบโครงกระดูกนี้ ทนทานและมีน้ำหนักเบา มันจึงไม่เป็นอุปสรรคใดๆ ต่อการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ มันเป็นรางวัลระดับสูงที่เฉินฉีได้รับมา หลังจากฆ่าสังหารผู้เล่นไปกว่าสองพันคน 

เฉินฉีกวาดสายตาไปยังอีกสามคนอย่างระมัดระวัง 

ซ้ายมือเขา เป็นนักสู้หวูเต๋าผู้ต่อสู้ระยะประชิด 

นักสู้คนนี้ เนื่องเพราะยังคงลังเล และตัดสินใจไม่เด็ดเดี่ยวมากพอที่จะฆ่าสังหาร ดังนั้นบนตัวเขา จึงแทบไม่ได้รับเกราะรบไว้ใช้ป้องกัน นอกเหนือไปจากส่วนอก ทุกส่วนล้วนเปลือยเปล่า 

เฉินฉีเบนสายตาไปวูบหนึ่ง และไม่คิดเหลือบแลอีกฝ่ายอีกต่อไป

ตัวเขาสวมใส่เกราะรบที่ปกคลุมทั้งร่างกาย ตราบใดที่นักสู้หวูเต๋าระยะประชิดกล้าที่จะบุกเข้ามา ตัวเขาเองก็มิจำเป็นต้องป้องกันใดๆ เพียงกวาดกระบี่ออกไปวูบเดียว ก็คร่าชีวิตอีกฝ่ายได้แล้ว 

เฉินฉีมุ่งความสนใจไปยังอีกสองคนที่เหลือในสังเวียน 

คนที่ทำให้เขารู้สึกว่าตนกำลังถูกคุกคามจริงๆ ก็คือชายแก่ผมขาว 

เปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมาจากอากาศอันบางเบา มันม้วนวนอยู่รอบตัวของชายแก่ และคอยปกป้องเขาอย่างหนาแน่น 

หากสังเกตดีๆ จะพบว่าจริงๆ ภายในเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ เป็นสัตว์ประหลาดวิหคที่ทั่วทั้งร่างหลงเหลืออยู่เพียงแค่โครงกระดูกสีดำ มันลอยวนอยู่รอบกายชายแก่อย่างเงียบๆ 

หากฟังจากที่เสียงชราภาพได้ประกาศออกมา เจ้าสัตว์ประหลาดวิหคตัวนี้ถูกเรียกว่า ‘ท่องนรก’ และดูเหมือนว่าชายแก่เบื้องหน้าเขา จะเป็นผู้ที่สามารถปลดผนึกธาตุไฟจากธาตุทั้งห้า วิหคตัวนั้นก็เป็นธาตุไฟ มันเลยยิ่งช่วยหนุนเสริมให้เขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก 

และที่สำคัญก็คือ ชายแก่คนนี้ฆ่าสังหารผู้เล่นไปแล้วกว่าห้าพันคน จึงได้รับรางวัลใหญ่ในต่อสู้เป็น เจ้าท่องนรกตนนั้น 

“เวรเอ๊ย!” เฉินฉีสบถอย่างแรง ในหัวใจของเขาขุ่นเคืองไม่น้อย 

ไอ้แก่นี่เป็นมืออาชีพผู้ใช้ธาตุไฟจากธาตุทั้งห้า สำหรับในสถานการณ์ที่เป็นพื้นที่เปิดโล่งเช่นนี้ มันเลยสามารถใช้พลังตนฆ่าสังหารผู้คนเป็นว่าเล่นได้โดยง่าย

ความเร็วในการฆ่าสังหารของอีกฝ่ายนั้นรวดเร็วเกินไป ตัวเขามิอาจนำไปเปรียบเทียบได้เลย 

‘แล้วถ้าอย่างงั้น ฉันจะสามารถฆ่ามันได้ยังไงกันนะ?’ 

สมองของเฉินฉีวิ่งเร็วจี๋ พยายามขบคิดอย่างเร่งร้อน 

ทันใดนั้นเอง บนสังเวียนจากทางขวา ก็พลันปรากฏเสียงคำรนที่อัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวดออกมา 

เฉินฉีเบนสายตาไปมองด้วยสีหน้าหม่นทะมึน 

มองไปยังทั้งสี่คนที่ยังหลงเหลือ จู่ๆ ชายร่างใหญ่ทางขวาก็แข้งขาอ่อนแรง สองเข่ากระแทกลงกับพื้น กระอักเลือดคำใหญ่ออกมา 

ในการต่อสู้อันรุนแรงก่อนหน้านี้ ชายร่างใหญ่ได้ถูกมืออาชีพที่เขากำลังต่อกร ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายโจมตีเข้าจุดตาย จนได้รับบาดเจ็บรุนแรง ทว่าเขาก็ยังฝืนเอาชนะมาได้ และพยายามยืนหยัดอย่างดื้อรั้น แต่ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถฝืนทนได้อีกต่อไปแล้ว 

“โอกาสนี้ล่ะ!” 

ดวงตาของเฉินฉีเปล่งประกายวาบ 

หากทำการฆ่าสังหารมืออาชีพที่ทรงพลังได้ล่ะก็ บางทีเขาอาจจะได้รับอุปกรณ์ใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้นก็ได้ 

หากเป็นในกรณีนั้น เขาก็จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะใช้มันเอาชนะไอ้แก่ธาตุไฟนั่น! 

เฉินฉีลากกระบี่หนักลวดลายกระดูกขาวออกไป ในปากยิ้มเยาะอย่างโหดเหี้ยม 

อีกสองคนก็ไม่เต็มใจที่จะพลาดโอกาสนี้เช่นกัน พวกเขาเร่งความเร็วตน ต่างพุ่งทะยานไปยังชายคนนี้ 

บนใบหน้าของชายร่างใหญ่เผยถึงความสิ้นหวัง เขาคำรามด้วยความโกรธ “ใครกล้าเข้ามา! ต่อให้ต้องตายฉันก็จะลากมันลงไปด้วย!” 

เฝ้าดูจนถึงฉากนี้ กู่ฉิงซานก็ลืมตาขึ้น 

เขาเอ่ยอย่างหม่นหมอง “ไอ้เจ้าสิ่งที่เรียกว่าชีวิตนิรันดร์อะไรนั่นนะ มันไม่คุ้มค่าที่จะให้มนุษย์ต้องทุ่มฆ่าแกงกันขนาดนี้เพื่อได้มาครอบครองหรอก…ฉันจะไม่อนุญาตให้ผู้คนไปเข้าร่วมกับเกมๆ อีกต่อไปแล้ว” 

“แล้วนายจะทำยังไง? เมื่อชีวิตนิรันดร์มันอยู่ตรงหน้า มันไม่ง่ายหรอกนะที่จะทำให้ผู้คนฟังคำของนายน่ะ” ซางหยิงฮ่าวกล่าว 

กู่ฉิงซานโบกมือและกล่าว “เรื่องนี้เอาไว้ค่อยพูดกันอีกครั้ง ตอนนี้เรามาใส่ใจกับเกมของพวกเราก่อนเป็นอันดับแรก นายมีความคิดเห็นอะไรอีก ก็สามารถบอกฉันได้เลยโดยตรง” 

เหลียวฮังกล่าว “ถ้าระบบในเกมของแกจะติดตั้งเทคโนโลยีจัมป์ขนาดย่อมเอาไว้ล่ะก็ อย่างน้อยควรที่จะทำการสำรองตำแหน่งของฉันไว้สามารถอยู่ห่างจากแกไว้ล่วงหน้าด้วย จะได้ไม่วุ่นวายในภายหลัง” 

“เข้าใจแล้ว ร้องขอให้เทพธิดากงเจิ้งทำการบันทึก” กู่ฉิงซานพยักหน้า 

“ทำการบันทึกเรียบร้อยแล้ว” เทพธิดากล่าว

........................................