webnovel

0128 สาวกศักดิ์สิทธิ์

ตอนที่ 128 สาวกศักดิ์สิทธิ์ (ตอนท้าย)

 

ฮิวป์ลอยตัวขึ้นมากลางอากาศ หมายมั่นจะค้นหาศัตรู ในหัวเต็มไปด้วยวิธีการที่จะใช้ฉีกกระชากและทารุณกรรมอีกฝ่ายอย่างโหดร้าย แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็ต้องตกตะลึงกับฉากที่อยู่เบื้องหน้า! 

“กะ...โกหกน่ะ!” 

เขาที่มักจะภาคภูมิในความสง่างามของตนเองอยู่เสมอ ยังอดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมา 

บนท้องฟ้า ปรากฏเรือรบประจัญบานขนาดยักษ์โผล่ออกมาจากชั้นเมฆหนา 

อาวุธบนยานรบทั้งหมด รวมไปถึงปืนใหญ่หลัก ได้ถูกเปิดพร้อมใช้งานแล้ว 

ระบบปืนใหญ่หนักมุ่งเป้าชี้มายังตำแหน่งของเขา 

ตามมาด้วยเรือรบประจัญบานลำที่สองปรากฏตัวขึ้น 

ลำที่สาม ลำที่สี่ 

ลำที่ห้า 

... 

และลำที่สิบสอง 

เรือรบทั้งสิบสองลำเริ่มรวมกลุ่มและประจำตำแหน่งอย่าช้าๆ 

จ้องมองไปยังอสูรเหล็กกล้าเบื้องบนท้องฟ้า ฮิวป์ผู้ชาญฉลาดก็ยังอดไม่ได้ที่จะสงสัย 

นี่คือกองยานรบประจัญบานของสหพันธรัฐรัฐบาลกลาง มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรับมือสงครามเต็มรูปแบบโดยเฉพาะ กล่าวได้ว่าเป็นคมเขี้ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัฐบาลกลาง 

การที่พวกมันทั้งหมดเดินเครื่อง หรือว่าจะเป็นเพราะ...

รัฐบาลกลางคิดจะรุกรานไปยังสาธารณรัฐฟูซี จึงเคลื่อนกองยานรบผ่านมายังทิศทางนี้ แต่ดันพบตัวเขาเสียก่อนจึงคิดว่าเป็นสายลับจากทางฝั่งนั้น? 

สมองของฮิวป์หมุนเร็วจี๋ แต่วินาทีต่อมาเขาก็พบว่าตนเองคิดผิดไป 

บนยานรบขนาดยักษ์ปรากฏเสียงที่ดังฟังชัดลอดออกมา “คุณคงจะเป็นฮิวป์? สาวกศักดิ์สิทธิ์ฮิวป์แห่งพิพากษาศักดิ์สิทธิ์?” 

“เป็นฉันเอง” เขากล่าว 

เสียงจากเบื้องบนดังขึ้นอีกครั้ง “ยืนยันตัวตน เป้าหมายถูกต้อง เริ่มกระบวนการฆ่าสังหารได้” 

สิบสองยานรบขนาดยักษ์ปรับตำแหน่งของพวกมันอย่างช้าๆ และทั้งหมดหันไปยังทิศทางที่ฮิวป์ยืนอยู่ 

“เดี๋ยวก่อน! พวกคุณกำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!?” 

ฮิวป์ตะโกน ขณะนี้เขาแลคล้ายจะเป็นบ้าไปแล้ว 

เขารู้ดีว่าอานุภาพของปืนใหญ่หลักประจำยานรบประจัญบานนั้นทรงพลังเพียงใด และอีกอย่างเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองยานขนาดนี้ ต่อให้เป็นเขาคงจะไม่อาจหลบหนีไปได้ 

ทว่าประเด็นก็คือ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอีกฝ่ายหนึ่งถึงขั้นระดมกองยานรบมามากขนาดนี้เพื่อที่จะจัดการกับเขาเพียงคนเดียว! 

“ไม่มีการเข้าใจผิดอะไรทั้งนั้น นี่เป็นการทดสอบยานรบประจำปี และเป้าหมายในการทดสอบก็คือคุณนั่นแหละ” เสียงจากภายในดังขึ้นอีกครั้ง 

เสียงนี้ยิ่งได้ฟัง ฮิวป์ก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคย มันราวกับเป็นเสียงเดียวกันกับเป้าหมายของภารกิจนี้ที่เขาได้รับ! 

ฮิวป์ได้ดูกล้องวงจรปิดในส่วนที่อีกฝ่ายได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับพระสันตะปาปาแล้ว และเขาก็ได้จดจำเสียงนั้นฝังลึกไว้ในหัวใจ 

ใช่แล้ว! นี่มันเสียงของเจ้านักวิทยาศาสตร์ขี้ขลาดคนนั้นนี่! 

“แกไอ้สารเลว แน่จริงก็อย่าใช้เรือรบ เปิดเผยตัวตนออกมาแล้วมาสู้กับฉันสิ!” เขาทุบลงบนหน้าอกตัวเอง ปากเอ่ยกล่าววาจาตะโกนดูถูก 

เรือรบบนท้องฟ้าเงียบไปครู่หนึ่ง 

“แกกำลังจะบอกว่า ต้องการให้ฉันลงไปสู้กับแกตัวต่อตัวใช่ไหม?” นักวิทยาศาสตร์กล่าว “แล้วทำไมฉันต้องทำตัวโง่เง่าลงไปสู้กับแกด้วย ทั้งๆ ที่ทางฝั่งฉันมียานรบประจัญบานตั้งสิบสองลำไว้เตรียมถลุงแกอยู่แล้ว?” 

ฮิวป์ชะงักงัน 

“เอาล่ะ หมดเวลาของตัวประกอบอย่างแกแล้ว” นักวิทยาศาสตร์เอ่ยต่อ “แม้ว่าอาวุธเทคโนโลยีจะไม่สามารถจัดการกับพวกมอนสเตอร์ที่ทรงพลังได้ แต่หากเป้าหมายมิใช่มอนสเตอร์แต่เป็นคนแล้วละก็...มันจะต้องแตกต่างออกไปอย่างแน่นอน เรามาเริ่มการทดสอบกันดีกว่า” 

หลังจากนั้นนักวิทยาศาสตร์เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก ฮิวป์ก็ไม่รับรู้แล้ว 

เขาเห็นแค่เพียงประกายเสาแสงสดใสอันไร้ที่เปรียบ พ่นออกมาจากปากปืนใหญ่หลักของยานรบประจัญบานทั้งสิบสอง 

แม้ตัวเขาจะครอบครองพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นจำนวนมหาศาล ทว่าเมื่อต้องเผชิญกับปืนใหญ่หลักเช่นนี้ เขาก็ไม่อาจต่อต้านใดๆ ได้เลย 

‘บัดซบ โคตรไม่ยุติธรรมเลย’ 

ความคิดสุดท้ายในหัวใจของเขา นับตั้งแต่เกิดมาจนมีชีวิตที่ยืนยาวกระทั่งบัดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถวิลหา ‘ความยุติธรรม’ จากโลกหล้า! 

ต่อมา สาวกศักดิ์สิทธิ์ก็สูญสิ้นสติ สิ้นจิตสำนึกทั้งหมดไป และจมลงสู่ความมืดมิดชั่วนิรันดร์

“การทดสอบสิ้นสุดลงแล้ว” เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังขึ้น 

“ข้อสรุปที่หนึ่ง อาวุธวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังคงทรงประสิทธิภาพสำหรับมนุษย์” 

“ข้อสรุปที่สอง เทพธิดากงเจิ้งสามารถประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในด้านการควบคุมดำเนินการกองยานรบประจัญบานแบบเต็มรูปแบบ และสามารถทำลายล้างอีกฝ่ายได้” 

“เริ่มต้นกระบวนการถอยทัพ” 

เมื่อได้ฟังคำกล่าวของเทพธิดากงเจิ้ง กู่ฉิงซานก็ส่ายหัวและเอ่ยงึมงำ “ต้องมาตายแบบนี้ มันก็ไม่ยุติธรรมจริงๆ นั่นแหละ” 

อย่างไรก็ตาม นี่นับได้ว่าเป็นการสูญเสียอย่างร้ายแรงของทางคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ นั่นทำให้ในหัวใจของกู่ฉิงซานรู้สึกสุขใจไม่น้อย 

เรือรบประจัญบานขนาดยักษ์ทั้งสิบสองลำเบนหัวไปยังอีกทิศทางหนึ่ง มุ่งตรงกลับสู่เมืองหลวง 

“ท่านใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ การออกไปทดสอบยานรบของเทพธิดากงเจิ้งได้สิ้นสุดลงแล้ว” 

ในสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง ปรากฏจ้าวมณฑลทั้งเก้านั่งรวมตัวกันอยู่เงียบๆ คอยรับฟังข่าวคราวที่ส่งผ่านเครื่องกระจายข้อมูล  

“แล้วผลลัพธ์เป็นล่ะ เป็นอย่างไร?” หนึ่งในนั้นเอ่ยถาม 

“ความเสถียรในการควบคุมกองยานรบระยะไกลคือ 97.1224857เปอร์เซ็นต์ และอัตราความล่าช้าอยู่ที่ 1.03เปอร์เซ็นต์ ค่อนข้างสมบูรณ์แบบทีเดียว” 

ผู้คนโดยรอบตกอยู่ในความเงียบงัน 

“กล่าวได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ อาจหมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนท้องฟ้าจะสามารถถูกควบคุมได้โดยจักรกลแล้วสินะ?” 

“ฉันไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้เลย แล้วแบบนี้ใครมันจะไปข่มตาหลับลงได้อย่างสบายใจกัน?” 

“ปัญหาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่เรื่องนี้” ชายชราเคราน้อยกล่าว “ปัญหาที่แท้จริงก็คือ เทพธิดากงเจิ้งดูเหมือนจะแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อยต่างหาก” 

“จักรกลมันจะไปแตกต่างจากเดิมได้อย่างไร” บางคนถามขึ้นด้วยความสงสัย 

“ก็คงจะนับตั้งแต่เรื่องโอนสิทธิ์หุ่นรบให้แก่พลเรือนแล้ว ตอนที่ได้รู้ข่าวบอกตรงๆ ว่าฉันประหลาดใจไม่น้อยเลย” อีกคนกล่าว “ถึงทีมกฎหมายของฉันที่ได้เห็นภาพการหารือในตอนนั้น ได้สรุปว่าการกระทำของเทพธิดากงเจิ้งสอดคล้องกับมาตราในรัฐธรรมนูญก็ตามที แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่เธอกระทำนั้นเป็นไปตามตรรกะของจักรกล” 

บางคนเอ่ยออกมาอย่างไม่สบายใจ “พอมาคราวนี้เธอกลับถึงขั้นควบคุมกองยานรบประจัญบานด้วยตัวเอง! เพียงเพื่อจัดการกับสาวกของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์!” 

ทุกคนมองไปที่เขา 

“คุณมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับเรื่องของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ?” บางคนเอ่ยถาม 

“ไม่มี” ชายคนนั้นกล่าวโต้แย้งอย่างเร่งรีบ “ประเด็นสำคัญที่ฉันต้องการจะบอกก็คือ เรื่องการดำเนินการใช้งานกองยานรบที่ดูน่าสงสัยนี่ต่างหาก” 

“มีบางอย่างผิดปกติจริงๆ” บางคนเอ่ยอย่างลังเล “หรือว่าพวกเราสมควรที่จะทำการรีสตาร์ทเธอดีหรือไม่?” 

“รีสตาร์ทเทพธิดากงเจิ้งในเวลานี้ จะก่อให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ต่อรัฐบาลกลาง” ชายเคราน้อยกล่าว 

“เรายังต้องให้เธอรับมือกับซอมบี้ผีดิบกินคน และคอยจัดการกับเชื้อไวรัส ซึ่งวัคซีนของมันกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา” 

“กุญแจสำคัญก็คือผีดิบนักฆ่า” 

เมื่อกล่าวถึงผีดิบนักฆ่าในหัวใจของเหล่าจ้าวมณฑลก็เกิดเงามืดขึ้นในจิตใจ 

“ซอมบี้พวกนี้มันกลายพันธุ์ได้รวดเร็วเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ความแข็งแกร่งของพวกมันก็ยิ่งเพิ่มพูนเป็นเท่าทวีจนแทบจะใกล้เคียงกับพวกมอนสเตอร์แห่งท้องทะเลอยู่แล้ว” 

“ถูกต้อง ยิ่งเป็นพวกผีดิบนักฆ่าระดับสูง พลังอำนาจทางเทคโนโลยีก็จะไม่สามารถต้านทานมันได้ จำเป็นต้องให้พวกมืออาชีพออกโรงเท่านั้น” 

บางคนเอ่ยออกมาด้วยความสงสัย “แต่ทำไมหลังจากที่มันฆ่าพวกเดียวกันหรือเหล่ามืออาชีพลงได้แล้ว การกลายพันธุ์ถึงได้ทวีความรวดเร็วยิ่งขึ้นล่ะ?” 

ทุกคนจมสู่ความเงียบ 

“เอาเป็นว่าตอนนี้เราจำเป็นต้องพึ่งพาเทพธิดากงเจิ้ง ให้เธอคอยรักษาสถานการณ์มิให้ผีดิบนักฆ่าทวีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มิเช่นนั้นชีวิตทุกคนคงจบสิ้น” ซูซิงเฉากล่าว 

ทั้งหมดต่างพยักหน้าเห็นด้วย 

“ดังนั้นตอนนี้ เราควรจะมาเริ่มพิจารณากันถึงแผนการอื่น?” ผู้นำตระกูลไป่กล่าว 

“แผนอะไร?” ผู้นำตระกูลซางเอ่ยถาม 

“ในอดีต มีตัวอย่างที่มีชื่อเสียงมากมายนับไม่ถ้วน…” ผู้นำตระกูลไป่กล่าว 

“ไม่ ฉันรู้ว่านายกำลังหมายถึงอะไร มันยังไม่สมควรที่จะดำเนินการในตอนนี้ หากมันบังเอิญถูกค้นพบ ประธานาธิบดีได้ถูกพวกประชาชนโจมตีอย่างหนักแน่ หากเป็นในกรณีนั้นอำนาจปกครองของพวกเราก็จะถูกสั่นคลอนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้” ชายชราเคราน้อยกล่าว 

ผู้นำตระกูลไป่รับฟังด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่คิดจะเอ่ยอะไรออกมาอีก 

ณ มณฑลไป่ซา 

เรือรบขนาดเล็กค่อยๆ ร่อนลงมาจากท้องฟ้า ก่อนจะจอดลงบนชั้นบนสุดของอาคารโรงแรม 

ทหารติดอาวุธครบมือนับสิบคน คอยเฝ้าระวังอย่างหนาแน่น 

พร้อมด้วยเหล่ามืออาชีพราวๆ ห้าถึงหกคนยืนอยู่เบื้องหลังทหาร ปากเอ่ยกล่าวกระซิบกระซาบกันไม่หยุด 

พวกเขามองไปยังเรือรบด้วยใบหน้าไร้อารมณ์จนกระทั่งประตูถูกเปิดออก 

ผู้คนทั้งหมดรวมไปถึงเหล่ามืออาชีพต่างก็เผยท่าทีคาดไม่ถึง 

เนื่องเพราะคนที่ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้านี้ เขายังเด็กเกินไป 

เห็นแค่เพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งลงมาจากยานรบ เด็กหนุ่มหันไปมองรอบๆ และเอ่ยปากกล่าว “การที่สามารถสร้างฐานที่มั่นท่ามกลางสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้ นับว่าพวกคุณมีความสามารถมากจริงๆ” 

“นี่ฉันกำลังได้รับคำชมจากเจ้าเด็กน้อยมือสมัครเล่นอย่างงั้นเหรอ?” ชายร่างผอมบางคนหนึ่งหัวเราะออกมาเบาๆพลางเอ่ยเสียงต่ำ 

“ไม่ใช่มือสมัครเล่น แต่เป็นนักวิทยาศาสตร์น่ะ” ชายร่างสูงโปร่งที่ดูแข็งแกร่ง และรู้ถึงสถานะของอีกฝ่ายกล่าวอธิบายออกมา 

“จะเด็กหรือผู้ใหญ่ ยังไงซะเขาก็เป็นตัวหลักในการควบคุมภารกิจอยู่ดีไม่เปลี่ยนแปลง” ผู้หญิงคนเดียวในทีมกล่าว 

เธอเก็บกริชในมือกลับคืน 

เนื่องจากคนคนนี้ไม่ใช่พวกมือสมัครเล่น แต่เป็นนักวิทยาศาสตร์จากรัฐบาลกลาง ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องแสดงความเก่งกาจหรือเปิดเผยพลังอำนาจใดๆ ของตนออกมา 

“มิสเตอร์กู่ ขอบคุณที่ตอบรับคำเชิญมายังที่นี่” นายทหารชั้นยอดคนหนึ่งก้าวมายืนเบื้องหน้าเขา และกล่าวทักทาย 

“ตามสบายเถอะ ผมไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาของพวกคุณเสียหน่อย ไม่จำเป็นต้องยืนกันอย่างเป็นระเบียบขนาดนี้ก็ได้” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม 

“ฮ่าๆๆ งั้นก็ตกลง” 

‘เจ้าเด็กนี่รู้จักวิธีการรักษาน้ำใจคนได้ไม่เลวเลย’ นายทหารเอ่ยกับตัวเองอย่างลับๆ 

เขายิ้มให้กู่ฉิงซาน และเริ่มแนะนำกู่ฉิงซานให้แก่เหล่ามืออาชีพที่ยืนอยู่เบื้องหน้า 

“นี่คือผู้บัญชาการพิเศษที่ถูกส่งมาโดยเทพธิดากงเจิ้ง เขาจะรับผิดชอบในการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผีดิบนักฆ่า” นายทหารกล่าวแนะนำ 

เหล่ามืออาชีพพยักหน้ารับอย่างเงียบๆ

........................................