webnovel

0095 เปิดศาล

ตอนที่ 95 เปิดศาล

 เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ และเมื่อพบเจอพวกมันที่ใดก็มักจะคอยเฝ้าสังเกตอย่างกระตือรือร้น และเวลานี้เธอก็ได้พบเจอกับอาวุธที่น่าสนใจแถมชายผู้ครอบครองมันก็ยังน่าสนใจด้วยเช่นกัน เธอจึงเอาแต่เฝ้าจดจ้องไม่วางตา คอยเก็บทุกรายละเอียด

 บนแท่นสูงปรากฏเสียงถอนหายใจหนักทึบ

 ขณะที่บางคนก็เอ่ยกระซิบกระซาบกันอย่างแผ่วเบา

 “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่?”

 “ในความรู้สึกของฉัน เขาไม่แม้แต่จะใช้พละกำลังออกไปเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นพวกสัตว์ยักษ์คงตายไปแล้ว”

 “ถ้างั้นให้ฉันลองเชิญท่านบรรพชนนักสู้มาจัดการเขาเสียดีไหม?”

 “แบบนั้นไม่สมควร นั่นจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากและผลที่ตามมาก็ไม่อาจคาดเดาได้อย่างแน่นอน”

 “เฮอะ เอางั้นก็ได้ อย่างไรเสียวันนี้ก็เหมือนกับเอาเงินมาโยนเล่นลงแม่น้ำอยู่แล้ว”

 นักพนันคนนี้ก็ดูจะเป็นคนฉลาดเช่นกัน

 เรือลำเล็กๆ แล่นกลับมายังชายฝั่ง ส่งกู่ฉิงซานกลับสู่แท่นเวที

 ดู่กู้ฉงจัดแจงเผ้าผมของเธออย่างรวดเร็ว เพื่อให้แน่ใจว่าภาพลักษณ์ในการพบเจอกันระยะประชิดจะไม่เป็นปัญหาใดๆ ก่อนจะยืนขึ้นและยื่นมาออกไปทักทาย “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อว่า ดู่กู้ฉง”

 กู่ฉิงซานชะงักไปเล็กน้อย

 นี่มันผู้หญิงที่เขาพึ่งทำให้หวาดกลัวไปเมื่อครู่ไม่ใช่หรือ เธอสมควรที่จะไม่อยากข้องแวะกับเขาสิ ทำไมถึงทำอะไรที่มันตรงกันข้ามแบบนี้?

 กู่ฉิงซานเบนสายตาไปมองซางหยิงฮ่าวเป็นเชิงคำถาม แต่อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาโดยการยักไหล่

 เขายื่นมือออกไปเชคแฮนด์และกล่าว “ฉันชื่อกู่ฉิงซาน ต้องขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วยนะ”

 ดู่กู้ฉงเผยรอยยิ้มอันอ่อนโยนบนใบหน้าของเธอและกล่าว “ไม่เป็นไรหรอก หลังจากที่ได้รู้ว่าคุณทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น ฉันก็พอจะเข้าใจได้”

 ‘ธุรกิจ? ธุรกิจอะไร?’

 กู่ฉิงซานเบนสายตาไปมองซางหยิงฮ่าวอีกครั้ง

 แต่คราวนี้ซางหยิงฮ่าวกลับไม่สบตาเขา ทำทีเป็นหันไปชื่นชมทิวทัศน์ของทะเลสาบใต้ดิน

 “ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าฉันขออนุญาตถามหน่อยจะได้ไหมว่าคุณมาหาฉันทำไม?” 

 ดู่กู้ฉงยิ้มและกล่าว “ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันแค่จะมาทักทายและกำลังจะออกไป”

 ดูเหมือนเธอจะยังมีคำกล่าวติดค้างอยู่ในลำคอ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยมันออกมา

 กู่ฉิงซาน “เอ่อ...?”

 ดู่กู้ฉงราวกับได้สติ เธอรีบเอ่ยต่อ “ดาบของคุณช่างวิเศษมาก ตัวธนูแม้จะมีรูปทรงสามัญแต่กลับให้ความรู้สึกแปลกประหลาดแก่ฉัน อ้อจริงสิ ฉันเป็นผู้ผลิตอาวุธของสาธารณรัฐฟูซี หากคุณกำลังต้องการสร้างหรืออยากปรึกษาใดๆ เกี่ยวกับเรื่องอาวุธ สามารถมาหาฉันได้โดยตรง”

 “ฉันคือมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านการปรับแต่งอาวุธ” เธอเอ่ยเสริม

 กู่ฉิงซานรับรู้ได้ถึงเจตนาดีของอีกฝ่าย เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าว “มันจะดีกว่าไหมถ้าพวกเราทิ้งข้อมูลติดต่อกันไว้ก่อน”

 แววตาของดู่กู้ฉงเกิดประกายวาบผ่านเล็กน้อย คนคนนี้นับว่าทำได้ถูกต้อง ฝ่ายชายสิจึงสมควรเป็นฝ่ายเอ่ยกล่าวขอเบอร์ติดต่อของเธอ เพราะถ้าเธอถวายให้เขาเลยมันคงจะไม่งาม

 เธอหยิบสมองควอนตัมส่วนบุคคลออกมาและทำการแลกเปลี่ยนเบอร์ติดต่อกับกู่ฉิงซาน

 “ฉันไปล่ะ หวังว่าจะได้พบกันอีกนะ” เธอกล่าวคำสุดท้าย

 “อ่า หวังว่าจะได้พบกันอีก” กู่ฉิงซานกล่าว

 ดู่กู้ฉงดูจะจากไปพร้อมกับความพึงพอใจ จากนั้นบริกรที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เดินเข้ามา

 บริกรคนนี้ แตกต่างจากคนก่อนหน้า เขาเป็นชายที่ค่อนข้างจะมีอายุ แต่กลับให้ความรู้สึกที่สงบ

 “ท่านทั้งสอง โปรดรอสักครู่ เจ้านายของพวกเราต้องการที่จะพบพวกท่าน”

 “ตกลง พวกเราจะรอ”

 กู่ฉิงซานหันไปมองรอบๆ และพบว่านักพนันแต่ละคนกำลังทยอยลงจากแท่นเวทีอย่างช้าๆ

 จากนั้นบริกรก็เดินตามคนเหล่านั้นออกไปทันที เขามุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงคาสิโนชั้นบนสุด

 ที่นี่สามารถมองเห็นฉากทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันงดงามของเมืองหลวงในมุมสูงได้อย่างชัดเจน และของตกแต่งภายในก็ดูหรูหราเป็นอย่างมาก

 ภายในห้อง ชายเคราดกกำลังนั่งอยู่บนโซฟาใหญ่ ข้างกายทั้งสองฟากฝั่งประกบด้วยผู้หญิงหน้าตางดงาม หนึ่งกำลังรินไวน์ให้เขา อีกหนึ่งกำลังนวดไหล่ให้

 หากกู่ฉิงซานและซางหยิงฮ่าวอยู่ที่นี่ ทั้งสองจะต้องรับรู้ได้อย่างแน่นอนว่าคนคนนี้ก็คือบรรพชนนักสู้คนที่ปรากฏตัวขึ้นในทะเลสาบ 

“เจ้านาย มันจบแล้ว” บริกรกล่าว

 บรรพชนนักสู้รับแก้วไวน์มา ก่อนจะหย่อนน้ำแข็งลงไปก้อนหนึ่งและหมุนแก้วไวน์ไปมาอย่างแผ่วเบา 

 บรรพชนนักสู้ขบคิดเพียงครู่จึงเอ่ยปากถึงอะไรบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ “ดีมาก รออีกสักพักก็แล้วกัน เมื่อคนคนนั้นมาถึงค่อยว่ากันอีกครั้ง”

 ณ ขณะนี้ สองนักสู้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็เดินเข้ามาพร้อมกล่าว “เจ้านาย แขกของท่านได้มาถึงแล้ว”

 “พาเธอเข้ามา” บรรพชนนักสู้สั่ง

 หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที ดู่กู้ฉงก็ถูกนำตัวเข้ามายังที่นี่

 บรรพชนนักสู้ยืนขึ้นและกล่าว “ยินดีต้อนรับปรมาจารย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธที่เคารพ”

 “คุณขอให้ฉันมาที่นี่ทำไม ต้องการอะไร?” ดู่กู้ฉงเอ่ยถามตรงเป้าเข้าประเด็น

 เจ้านายถูมือไปมาและกล่าว “ฉันต้องการทำอาวุธชิ้นหนึ่งให้ตัวเอง… ไม่สิ ต้องการทำอาวุธชุดหนึ่งน่ะ”

 “ถ้าอย่างงั้นก็กรุณาเตรียมเงินเอาไว้ให้พร้อม และอีกอย่างโปรดให้ฉันได้เห็นถึงความสามารถของตัวคุณเองด้วย ชุดอาวุธที่สร้างจะได้ทรงพลังและเหมาะสมกับคุณมากที่สุด” ดู่กู้ฉงกล่าว

 “แน่นอน ย่อมแน่นอน” เจ้านายกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 เขากดเปิดจอมอนิเตอร์ และมองไปยังมัน

 ปรากฏพื้นที่โดยรอบทะเลสาบใต้ดิน ผู้คนได้หายไปหมดแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงสองชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่อย่างเงียบๆ

 “ใช่พวกเขาหรือเปล่า?” บรรพชนนักสู้เอ่ยถาม

 “ใช่ครับ” บริกรกล่าวตอบ

 “ไปกันเถอะ ไปพบกับผู้ชนะที่ได้รางวัลแห่งโชคลาภของวันนี้กัน” บรรพชนนักสู้กล่าว

 กู่ฉิงซานและซางหยิงฮ่าวกำลังเฝ้ารออย่างร้อนใจ แต่แล้วในตอนนั้นเอง สายตาของพวกเขาก็เห็นชายเคราดกที่ดูแข็งแกร่งกำลังเดินนำคนกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามา

 ดู่กู้ฉงชะโงกหน้าออกมายิ้มทักทาย

 “ท่านทั้งสอง ยินดีต้อนรับสู่คาสิโนของฉัน เป็นอย่างไรบ้าง ได้รับความสนุกสนานหรือไม่?” บรรพชนนักสู้นั่งลงตรงข้ามทั้งสองและกล่าว

 “บรรพชนนักสู้ที่เคารพ เกมของคุณช่างน่าตื่นเต้นมาก” ซางหยิงฮ่าวขบคิดถึงคำที่สมควรจะกล่าวออกไปให้เหมาะสม ก่อนจะเอ่ย

 บรรพชนนักสู้เป็นตัวตนที่มีสถานะสูงส่งยิ่ง แม้ซางหยิงฮ่าวจะมีทัศนคติไม่ดีต่ออีกฝ่าย แต่เขาก็เลือกที่จะไม่เผยมันออกมา

 “ถ้าคุณชอบก็ดีแล้ว” บรรพชนนักสู้กล่าว ก่อนจะวางบัตรทองลงเบื้องหน้าของทั้งสองคน

 “นี่คือบัตรวีไอพีของคาสิโนแห่งนี้ มีจำกัดอยู่เพียงแค่สามสิบใบเท่านั้น ฉันขอส่งมอบให้พวกคุณคนละหนึ่งใบ หวังว่าในอนาคตพวกคุณจะกลับมาเล่นอีก และสนุกเพลิดเพลินไปกับมัน”

 มีสิทธิประโยชน์แบบนี้ด้วยอย่างงั้นหรือ?

 กู่ฉิงซานกับซางหยิงฮ่าวมันมาสบตากันแวบหนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างพร้อมเพรียง “ขอบคุณมากท่านบรรพชนนักสู้ที่เคารพ”

 บรรพชนนักสู้กล่าวพลางผายมือ “ไม่นับว่าเป็นปัญหา แต่ฉันยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องจัดการ ฉะนั้นคงไม่ได้ไปส่ง…เชิญ”

 “ท่านที่เคารพ แล้วรางวัลใหญ่ของพวกเราอยู่ที่ไหนอย่างนั้นหรือ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

 “นั่นน่ะเหรอ” บรรพชนนักสู้โบกมือ “มันก็เป็นเพียงแค่คำกล่าวลอยๆ ที่ใช้โฆษณาดึงดูดลูกค้าน่ะ อย่าจริงจังกับมันนักเลย”

 กล่าวลอยๆ? หมายถึงโกหก? กู่ฉิงซานกับซางหยิงฮ่าวนิ่งค้างไปแทบพร้อมกัน

 เขาหันไปมองไปยังซางหยิงฮ่าวเป็นเชิงคำถาม

 ซางหยิงฮ่าว “แมวดำไม่มีทางโกหก”

 สีหน้าของกู่ฉิงซานพลันหม่นทะมึนลง

 เขาได้กระทำการหลายสิ่งมามากมายเพื่อที่จะให้บรรลุภารกิจของระบบเทพสงคราม แต่ตอนนี้ทั้งๆ ที่เขากำลังจะรวบรวมมันได้ครบอยู่แล้ว แต่จู่ๆ ก็กลับไม่อาจได้มันมา ทำให้อารมณ์ดีๆ เมื่อครู่พลันแตกต่างออกไป

 บรรพชนนักสู้มองไปยังท่าทีของเขา มุมปากยกสูงขึ้นเผยให้เห็นถึงร่องรอยของความเย้ยหยันและกล่าว “มีอะไรผิดปกติอย่างนั้นหรือ ใช่ว่าคงไม่อยากกลับไปในสภาพครบสามสิบสองหรือเปล่า?”

 บรรพชนนักสู้โน้มตัวเอียงลงมา และกล่าวด้วยน้ำเสียงคุกคาม “ฉันกำลังติดต่อกับปรมาจารย์ด้านอาวุธให้ช่วยสร้างพวกมันอยู่พอดี และตอนนี้ก็กำลังขาดกระสอบทรายมนุษย์สักสองกระสอบไว้ใช้แสดงถึงทักษะการต่อสู้ของฉัน พวกคุณต้องการจะเสนอตัวมาเป็นหนูทดลองไหม?”

 บรรพชนนักสู้นับได้ว่าเป็นตัวตนที่มีพลังทำลายล้างสูงยิ่ง มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้ครอบครองเทคนิคเทียนซวนทั่วๆ ไปหรือผู้ที่ปลดผนึกธาตุทั้งห้าจะสามารถต่อต้านได้

 ถึงแม้ว่าหากนับเป็นเกรด บรรพชนนักสู้จะอยู่ในเกรดที่ต่ำกว่าผู้ปลดผนึกธาตุทั้งห้าในด่านที่สี่ก็ตาม ทว่าในการต่อสู้เป็นตาย หากบรรพชนนักสู้ได้ทุ่มใช้ออกด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี เขาก็จะสามารถกวาดผู้ปลดผนึกธาตุทั้งห้าด่านที่สี่ให้ตายตกตามกันได้

 หากบรรพชนนักสู้คิดจะเข่นฆ่าผู้ใด นับว่าน้อยคนนักที่จะสามารถหยุดเขา

 กู่ฉิงซานยิ้มออกมาทันทีและกล่าวอย่างช้าๆ “ด้วยความแข็งแกร่งของผม ผมสมควรจะเรียกท่านว่าอาวุโส แต่คาสิโนน่ะมันเป็นธุรกิจ และผมก็ยินดีที่จะเสี่ยงโชค ท่านเป็นคนทำธุรกิจนี้เองแท้ๆ แต่กลับไม่ยินดีที่จะปฏิบัติตามกฎข้อกำหนดนั่นทำให้ผม”

 ‘ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเคารพแกอีกต่อไป’ คำกล่าวเหล่านี้ไม่ได้หลุดออกมา เช่นเดียวกับดาบของเขาที่กำลังจะเรียกออกมาอยู่แล้วแต่ก็ถูกหยุดไว้ เนื่องจากสมองควอนตัมที่จู่ๆ ก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

 กู่ฉิงซานหยิบสมองควอนตัมออกมาและเหลือบมองมัน

 ปรากฏเส้นตัวอักษรขึ้นหนึ่งบรรทัดบนสมองควอนตัม  กู่ฉิงซานมองไปที่มันพร้อมกับคิ้วที่กระตุกไม่หยุด

 ในสายตาของเขา ความประหลาดใจค่อยๆ เข้ามาแทนที่เจตนาฆ่าอันรุนแรงทีละน้อย

 “คุณจะทำไมนะ?” บรรพชนนักสู้เกร็งกำปั้น ปากเอ่ยด้วยรอยยิ้มฉกาจฉกรรจ์

 กู่ฉิงซานลุกขึ้นทันทีและกล่าว “พวกเราไปกันเถอะ”

 “อ๋า?” ซางหยิงฮ่าวที่เตรียมจะระเบิดพลังฆ่าคนอยู่รอมร่อ แต่เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกมา กลิ่นอายคุกรุ่นจากทั่วทั้งร่างกายของเขาก็ค่อยๆ ซบเซาลง

 กู่ฉิงซานลากตัวเขา และเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย

 บรรพชนนักสู้มองตาม กล่าวเย้ยหยัน “แท้จริงแล้วก็แค่พวกไก่อ่อน”

 กำปั้นที่เกร็งแน่นของเขาค่อยคลายลง

 “ดูใบหน้าซีดขาวของเจ้าสองหนุ่มนั่นสิ ได้พบกับฉันแต่ไม่หวาดกลัวจนร้องไห้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว ทว่าอย่างไรเสียคาสิโนของฉันก็ยังยินดีต้อนรับลูกแกะตัวน้อยแบบพวกมันอยู่เสมอล่ะนะ” บรรพชนนักสู้หันไปทางดู่กู้ฉงและกล่าว

 ดู่กู้ฉงเม้มริมฝีปาก เธอสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ

 นอกคาสิโน

 ซางหยิงฮ่าวเอนตัวลงมองข้อมูลที่กะพริบอยู่บนสมองควอนตัมของกู่ฉิงซาน

 “สวัสดี ชนชั้นสูงแห่งรัฐบาลกลางซางหยิงฮ่าว ฉันคือเทพธิดากงเจิ้ง คุณช่วยกรุณายื่นหน้าห่างออกไปสักหน่อยจะได้ไหม ท่าทีตกตะลึงที่กำลังทำอยู่นั่นเอาไว้ทีหลังก่อนก็ได้ ตอนนี้พวกเราจะต้องทำการขึ้นศาลกันเสียก่อน โปรดกรุณาคุมความประพฤติของตนเอาไว้ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ชั้นศาลของรัฐบาลกลางด้วย”

 “ขึ้นศาล?” ซางหยิงฮ่าวเอ่ยด้วยความประหลาดใจ

 “เป็นการขึ้นศาลในกรณีค่าชดเชยทางแพ่ง เกี่ยวกับการส่งมอบทรัพย์สินภาคบังคับซึ่งจะขึ้นอยู่กับความประสงค์ของเจ้าหนี้ และเจ้าหนี้คนดังกล่าวที่ว่าก็คือมิสเตอร์กู่ฉิงซาน” เทพธิดากงเจิ้งตอบ

 “ตอนนี้ศาลได้เปิดการไต่สวนแล้ว”

 “ในแง่ของอัตราการต่อรองในเกมแรกในค่ำคืนนี้ของใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ กู่ฉิงซาน ได้ทำการลงทุนเดิมพันไปถึงหมื่นล้านชิปเครดิตรัฐบาลกลาง และจำเป็นต้องได้รับรางวัลกลับคืนเป็นจำนวนหกหมื่นล้าน”

 “อัตราการต่อรองจากการคำนวณในเกมที่สองของการเดิมพัน ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติกู่ฉิงซานได้เดิมพันด้วยเงินจำนวนหกหมื่นล้านชิปเครดิตรัฐบาลกลาง ดังนั้นจึงสมควรได้รับเงินสองแสนล้านชิปเครดิตรัฐบาลกลางเป็นรางวัล”

 “ตลอดทั้งกระบวนการโดยผ่านการรวบรวมข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ตรวจพบว่าลูกหนี้ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าชดเชยที่สอดคล้องกับจำนวนเงินดังกล่าว นอกจากหลักฐานทางด้านวิดีโอแล้ว ฉันก็เป็นพยานในที่เกิดเหตุเช่นกัน ดังนั้นฉันจะไปให้ปากคำตามชั้นศาลเพื่อพิจารณาคดีตามกระบวนการยุติธรรมของรัฐบาลกลาง จำเลยจะไม่อยู่ในขั้นตอนพิจารณาคดี แต่จะต้องถูกบังคับให้จ่ายค่าชดเชยในทันที”

 “ลูกหนี้ บรรพชนนักสู้โจวไค่หวู เป็นเจ้าของสินทรัพย์ดังต่อไปนี้…”

 ลิสรายชื่อยาวลงมาเป็นหางว่าว

 “ร้องขอใต้เท้าผู้ทรงเกียรติกู่ฉิงซาน ให้ทำการเลือกรับมอบทรัพย์สินของโจวไค่หวูที่ต้องการถ่ายโอน”

 เมื่อสิ้นคำกล่าวของเทพธิดากงเจิ้ง สองหน่อที่ยืนฟังอยู่พลันกลายเป็นโง่งม

 ซางหยิงฮ่าวพึมพำ “นี่มันไม่ถูกต้อง ทำไมเทพธิดากงเจิ้งถึงมาคอยจัดการเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย และที่สำคัญทำไมเธอถึงมาโผล่ที่คาสิโนแห่งนี้ได้… ”

 กู่ฉิงซานที่เงียบมานาน ในที่สุดก็ยิ้มออกมาทันใด

 เขาชี้ไปยังชั้นบนสุดของคาสิโน

 ซึ่งชั้นที่ชี้ก็คือสถานที่ที่ เจ้านายของคาสิโนพักอาศัยอยู่

 เทพธิดากงเจิ้งกล่าวอย่างรวดเร็ว “นับจากนี้ไป ชั้นบนสุดทั้งชั้นของตึกคาสิโน จะกลายเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลของใต้เท้าผู้ทรงเกียรติกู่ฉิงซาน เริ่มทำการหักค่าธรรมเนียมการจัดการ ภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมในด้านทนายความ คุณยังคงมีสินทรัพย์ที่สมควรจะได้รับหลงเหลืออีกเป็นจำนวนเงิน 199984.1 พันล้าน โปรดดำเนินการเลือกในส่วนต่อไป”

 ซางหยิงฮ่าวไม่รู้ว่าเมื่อครู่ตนเองหูฝาดไปหรือเปล่า ระหว่างที่เทพธิดากงเจิ้งกล่าว ดูเหมือนน้ำเสียงของเธอจะเผยถึงร่องรอยของความสนุกสนานและตื่นเต้นออกมาอย่างเลือนราง

 “ยอดเยี่ยม” กู่ฉิงซานกล่าว “ถ้างั้นก็ช่วยหักค่าแรงในส่วนที่ฉันกำลังจะขอเพิ่มเติมออกไปได้เลยนะ ในเมื่อชั้นบนสุดนั่นเป็นของฉันแล้ว… ถ้าอย่างงั้นก็ระเบิดมันซะ!” 

.........................................