0075 รื้อโครงสร้าง
ตอนที่ 75 รื้อโครงสร้าง
ในขณะที่อยู่ฉิงซานอยู่บนป้อมปราการเฉินเตี้ยนเฮ่า การประชุมลับสุดยอดก็กำลังถูกจัดขึ้นที่ไหนสักแห่งในเมืองหลวง
และมีเพียงเก้าคนเท่านั้นที่เข้าร่วมประชุม
“นี่มันก็นานมากแล้วนะ ที่พวกเราไม่ได้พบหน้ากัน” ชายชราไว้เคราน้อยเอ่ยขึ้น
“เหอะ! แต่ฉันไม่เห็นจะอยากเจอหน้าพวกคุณสักนิด ทุกครั้งที่เจอกันทีไรไม่เคยมีเรื่องอะไรดีๆ บ้างเลย!” ชายชราอีกคนกล่าว
“อย่าพูดแบบนั้นสิ” ผู้นำตระกูลไป่ ไป่หงหยูหยิบซิการ์ที่คาบอยู่ในปากออกมาก่อนจะพ่นควันและเอ่ยต่อ “นี่ก็สามสิบปีมาแล้วที่นักวิทยาศาสตร์คนนั้นถูกลอบสังหาร เทคโนโลยีจัมป์ระหว่างดวงดาวมันไม่ได้อยู่ในกระเป๋าของพวกคุณแล้วหรอกหรือ?”
“ความรู้บัดซบ เทคโนโลยีบัดซบ” ใครบางคนกระซิบเสียงแผ่ว
“เฮ้เฮ้ การดูถูกความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ” คนที่อยู่ข้างๆ เขาเอ่ย
“อย่าดูถูกงั้นเหรอ แล้วไหนลองบอกดูซิว่ามันมีประโยชน์อย่างไร มันพาพวกเราข้ามจักรวาลไปเยี่ยมพวกมอนสเตอร์ ถึงจะเป็นการค้นพบดินแดนใหม่ แต่หากเราไม่สามารถสู้กับพวกมันและยึดดินแดนได้ เทคโนโลยีนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับขยะ!” หัวหน้าตระกูลซู ซูซิงเฉา เอ่ยปากออกมาในที่สุด
“เอาล่ะ หยุดพูดเรื่องไร้สาระกันได้แล้ว พวกเรามาเริ่มต้นกันเสียทีเถอะ” ชายชราเคราน้อยกล่าว
“อ่า เริ่มกันเถอะ”
“เฮ้อเริ่มกันได้สักที”
จ้าวมณฑลทั้งเก้าที่กล่าวได้ว่าคำพูดของพวกเขามีน้ำหนักมากที่สุดในรัฐบาลกลาง ได้เริ่มเปิดฉากหารือกันในที่สุด
“คราวนี้คือเทคโนโลยีหุ่นรบรุ่นใหม่ล่าสุด หน่วยข่าวกรองของฉันได้ข้อมูลของมันมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ฉันต้องการที่จะได้รับข้อมูลของมันฉบับสมบูรณ์ พวกเราจึงจำเป็นต้องรวบรวมสิทธิ์อำนาจของตระกูลใหญ่ทั้งเก้าเพื่อยื่นคำร้องขอไปยังเทพธิดากงเจิ้ง”
เทคโนโลยีหุ่นรบ!
ในดวงตาของแต่ละคนพลันสว่างวาบ
หากเปรียบเทียบกับการจัมป์ข้ามพื้นที่เป็นเพียงอาหารรสจืดชืด เจ้าสิ่งที่พึ่งกล่าวมานี่ต่างหากล่ะจึงจะเหมาะสมกับคำว่าอาหารรสจัดจ้าน! ไม่เพียงน่าสนใจเท่านั้นแต่มันยังสามารถถูกนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีอีกด้วย
“แล้วทำไมพวกเราถึงไม่เลือกออกไปตามตัวนักประดิษฐ์ที่สรรค์สร้างเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาโดยตรง แล้วจ้างเขาให้สร้างมันให้พวกเราเสียเลยล่ะ ทำไมจะต้องถึงขั้นเคลื่อนไหวอะไรกันใหญ่โตด้วย?” ซูซิงเฉากล่าว
“นั่นก็เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายดายแค่นั้นน่ะสิ ปัจจุบันนี้มันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีแล้ว ยามใดก็ตามที่นักวิทยาศาสตร์เผลอรังสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ พวกเขาก็มักจะทำให้ประวัติศาสตร์ของรัฐบาลกลางต้องแปดเปื้อนไปเสียทุกครั้ง” ชายชราอีกคนกล่าว
จ้าวมณฑลทั้งเก้าตกอยู่ในห้วงความคิด
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมากที่สุด มันสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของห้วงเวลาและสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมในปัจจุบันให้ต่างไปจากเดิมได้
“ตาแก่ซู ตอนแรกนายไม่ได้พูดแบบนี้นี่นา หึๆ เกิดเรื่องอะไรดีๆ ขึ้นล่ะสิ” ผู้นำตระกูลไป่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “แต่ไม่ต้องกังวลไป ทางฉันได้ส่งคนออกไปแล้ว บางทีอีกไม่นาน เจ้าเด็กคนนั้นก็จะต้องตาย”
“นี่แก!” ซูซิงเฉาจ้องมองอีกฝ่าย
“เมื่อนักวิทย์ นักวิจัย นักประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ ได้ตายลง ทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดของเขาก็จะตกเป็นของรัฐบาลกลาง กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ มันจะกลายเป็นของเรา ซึ่งเราสามารถร้องขอสิทธิ์ในการเข้าถึงได้จากเทพธิดาได้โดยตรง” ผู้นำตระกูลไป่กล่าว และหันไปมองคนอื่นๆ
“เจ้าเด็กน้อยคนนั้น มันเรียกว่ากู่ฉิงซาน เป็นเด็กที่มีอคติต่อชนชั้นสูงเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนสามารถดูรายละเอียดจากการกระทำต่างๆ ของมันได้ แล้วจะเข้าใจเอง” เขากล่าวใส่ไฟ
ทุกผู้คนก้มหัวลงมองสมองควอนตัมส่วนบุคคลของตนเอง และภาพการกระทำมากมายของกู่ฉิงซานก็เคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“อืม เขานับว่าเป็นต้นกล้าที่ดี แต่เจ้าเด็กนี่ถึงขั้นลงไม้ลงมือกับตระกูลชั้นสูงหลายครั้งหลายครา คงจำเป็นต้องกำจัดเขาไปโดยสมบูรณ์เท่านั้น” ชายไว้เคราตบฝ่ามือลงบนโต๊ะ
เขาคือจ้าวมณฑลในเมืองหลวงจากตระกูลฮุ่ย เป็นปู่ของฮุ่ยเฉา
เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ แต่ละคนต่างก็พากันพยักหน้า
ขณะที่บางคนกล่าวแนะนำซูซิงเฉา “ลืมมันไปเถอะ ผลสรุปออกมาเป็นแบบนี้แล้ว ไว้เราค่อยมาพิจารณาถึงวิธีการของคุณกันในครั้งถัดไปจะดีกว่า”
ซูซิงเฉาถอนหายใจแรง แต่สุดท้ายก็พยักหน้า
นักวิทยาศาสตร์หนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง สามารถสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่เพื่อยกระดับสังคมมนุษย์ให้สูงขึ้นได้...กลับถูกตัดสินชะตาชีวิต ภายใต้คำกล่าวเพียงไม่กี่คำ...
“เอาล่ะ เริ่มต้นทำการอนุมัติกัน”
จ้าวมณฑลทั้งเก้าหยิบสมองควอนตัมส่วนบุคคลขึ้นมา และเริ่มที่จะทำการเชื่อมต่อกับเทพธิดากงเจิ้ง
“ใต้เท้าผู้ทรงเกียรติ จ้าวมณฑลทั้งเก้า พวกคุณเรียกฉันพร้อมกัน ไม่ทราบว่ามีคำสั่งใดจะร้องขอ?” เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังกึกก้อง
“เราต้องการร้องขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของกู่ฉิงซาน ในส่วนงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของเขา”
“โปรดร่วมกันกล่าวอนุมัติ เพื่อเริ่มต้นกระบวนการ”
“พวกเราอนุมัติ”
ในเวลาเดียวกันกับที่ทั้งหมดได้ทำการอนุมัติ ในส่วนลึกของป้อมปราการดวงดาวเฉินเตี้ยนเฮ่า บนจอม่านแสงขนาดยักษ์ก็ปรากฏสูตรข้อมูลนับไม่ถ้วนกะพริบผ่านอย่างบ้าคลั่ง
“แกนหลักโครงสร้างชีวิต เสร็จสิ้นการศึกษา”
และไฟบนจอแสงก็ดับลง
ทันใดนั้น เส้นแสงก็ค่อยๆ กลับมาปรากฏขึ้นบนม่านแสงอย่างต่อเนื่อง
“ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากแสงนี้”
เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังขึ้น
เส้นแสงสีขาวเหล่านี้ แม้จะไม่ได้เปล่งประกายเหมือนดั่งแสงตะวัน แต่มันกลับดูคล่องแคล่วกว่า และเป็นอิสระมากกว่าเดิมมาก
“ผืนดิน ท้องทะเล และสายฟ้าที่ก่อให้เกิดพลังงาน”
ปรากฏผืนมหาสมุทรขึ้นบนจอม่านแสง
แล้วก็ตามมาด้วยภาพภูเขาไฟกำลังปะทุ พวยพุ่งออกจากปากปล่องภูเขาไฟ และลาวาก็ไหลทะลักครอบคลุมทั้งมหาสมุทรก่อกำเนิดผืนแผ่นดินขึ้นมา
ขณะที่ในท้องฟ้า ปรากฏพายุฝนคะนองและเต็มไปด้วยเสียงฟ้าผ่า
เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังขึ้นอีกครั้ง “ราวกับตัวฉันได้ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งเลย”
เซลล์โปรคาริโอตเริ่มทำการเคลื่อนไหวบนจอม่านแสงอย่างช้าๆ ตามมาด้วยเซลล์อีกหลายร้อยหลายพันชนิดหมุนวนอยู่รอบๆ ตัวมัน
บนจอม่านแสง บัดนี้แลดูราวกับทะเลดวงดาว ภาพมากมายนับล้านๆ ภาพกะพริบผ่านอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถแยกแยะได้
จากนั้นภาพสงครามของมนุษย์ปรากฏขึ้นบนจอม่านแสง
“มนุษย์จะต้องก่อสงครามเพื่อความอยู่รอด และจะต้องอยู่รอดสืบไป!”
ภาพแรกบ่งบอกถึงต้นกำเนิดของโลกใบนี้ ส่วนภาพที่สองบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ เมื่อซึมซับมันเข้าไปความรู้ความเข้าใจใหม่ของเทพธิดากงเจิ้ง…ก็เริ่มต้นขึ้น!
…
ในเมืองหลวง ณ คฤหาสน์ลับซึ่งถูกใช้เป็นที่ประชุมของจ้าวมณฑลทั้งเก้า
“การร่วมขออนุมัติของพวกท่านได้รับการยอมรับ และจำเป็นต้องสอบถามความต้องการของใต้เท้าผู้ทรงเกียรติกู่ฉิงซานว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่ หลังจากเขาตกลง ข้อมูลความสำเร็จจากผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของเขาก็จะถูกถ่ายโอนไปยังพวกท่านทุกคนอย่างเป็นทางการ”
จ้าวมณฑลบางคนโปรยยิ้มและกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน “คุณยังจะมามัวรออะไรอยู่ เรื่องนั้นมันไม่จำเป็น! รีบดำเนินการให้พวกเราทันที”
เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังขึ้น “ไม่จำเป็น? นี่คือผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของพลเมืองกู่ฉิงซาน การเข้าถึงจะต้องได้รับการอนุมัติจากเขาด้วยตัวเองก่อนเท่านั้น”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เสียงของใครบางคนที่ฟังดูราวกับเสียงจักรกลก็เอ่ยออกมา “แต่สำหรับคนตาย…นับว่าไม่จำเป็นที่จะต้องได้รับการอนุมัติ”
เหล่าจ้าวมณฑลปรากฏรอยยิ้มที่แฝงความนัยบางอย่างขึ้นบนใบหน้า
นี่คือประเทศของพวกเขา มันคือบัลลังก์ของพวกเขา และยุคสมัยของพวกเขา จะไม่มีการอนุญาตให้มันเปลี่ยนแปลง!
ในห้องประชุม เทพธิดากงเจิ้งตกอยู่ในความเงียบ
เหนือท้องฟ้าขึ้นไปที่เต็มไปด้วยดวงดาว ทางด้านกู่ฉิงซานขณะนี้เขากำลังมุ่งความสนใจอยู่กับสงครามบนท้องทะเลของรัฐบาลกลาง
“กองยานรบประจัญบานประจำตำแหน่ง”
“เริ่มกระบวนการชาร์จพลังงาน”
“หลังจากการชาร์จพลังงานเสร็จสิ้น ปืนยานรบจะทำการล็อคเป้าหมาย และการโจมตีแบบเต็มอัตราจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า”
“ปืนยานรบหลัก…เปิดฉากระดมยิง!”
“อ๊า ไม่ได้ผลเลย มันยังมีชีวิตอยู่”
…
บนจอม่านแสงเบื้องหน้ากู่ฉิงซานสว่างขึ้น และภาพที่เขากำลังเฝ้ามองอยู่ก็คือ
ประธานาธิบดีที่ข้างกายเขาคลาคล่ำไปด้วยนักวิทยาศาสตร์หลายสิบคน หนึ่งในนั้นที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากำลังพูดคุยกับอุปกรณ์สื่อสารอยู่
“เทพธิดากงเจิ้ง พวกเราสงสัยว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ทางทะเลตัวนี้น่าจะเกิดจากการกลายพันธุ์ในระดับเซลล์อย่างฉับพลัน และตอนนี้เราได้คิดแผนที่จะทำลายมันได้แล้ว”
เทพธิดากงเจิ้ง “โปรดกล่าว”
“พวกเราตัดสินใจว่าจะใช้อาวุธที่ทันสมัย มุ่งโจมตีไปยังดีเอ็นเอ เพื่อสังหารสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตัวนี้โดยตรง”
“เชิญกล่าวต่อ”
“หลังจากนั้นก็ใช้ระเบิดนิวตรอน ชั้นนอกของระเบิดนิวตรอนจะถูกผนึกเอาไว้อย่างแน่นหนาด้วยโคบอลต์ ห้าสิบเก้า และเราจะทิ้งมันลงมาจากนอกชั้นบรรยากาศโลก โดยเล็งไปที่เจ้าตัวยักษ์ในมหาสมุทร”
“ไม่ว่าจะยุคไหน ก็ยังคิดจะใช้งานโคบอลต์กันอยู่ดีสินะ” กู่ฉิงซานลูบหน้าผากอย่างจนคำพูด “ถ้าหากผิดพลาดขึ้นมา มันจะเกิดการระเบิดสูงขึ้นไปหลายกิโลเมตรเลยนะถ้านับจากพื้นโลก”
“ข้อเสนอนี้เป็นอันตรายต่อการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ ดังนั้นจึงขอปฏิเสธ!” เทพธิดากงเจิ้งกล่าวทันที
กู่ฉิงซานถอนหายใจและเอ่ยพึมพำ “ฉันขอแนะนำให้ดำเนินการโจมตีเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเสียก่อน”
การโจมตีครั้งแรกสมควรเริ่มจากการเก็บรวบรวมข้อมูล นี่แหละคือสิ่งที่จะทำให้ทุกคนพอยอมรับได้ และหลังจากนั้นก็ค่อยส่งมืออาชีพที่ครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่ทั้งสี่ไปจัดการกับเจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้
ด้วยวิธีการดังกล่าว จึงจะนับได้ว่าเป็นการลดการสูญเสียลงได้อย่างมหาศาล และทหารหลายคนจะได้ไม่ต้องนำชีวิตของพวกเขาไปทิ้งอีกต่อไป
เทพธิดากงเจิ้งเงียบไปสองวินาที
ก่อนจะส่งคำร้องลงไปยังภาคพื้นดิน
“เทพธิดากงเจิ้งกำลังจะเข้าร่วมปฏิบัติการสงครามในเร็วๆ นี้ ทำการร้องขอประธานาธิบดีเพื่อทำการอนุมัติ”
“นี่คุณต้องการจะลงมือด้วยตัวเองอย่างงั้นเหรอ?” ประธานาธิบดีถาม
“ฉันจะทำการโจมตีเพื่อเก็บข้อมูลและค้นหาจุดอ่อนของมอนสเตอร์ที่ไม่ทราบถึงสภาวะชีววิทยานี้” เทพธิดากล่าว
“ตกลง ฉันอนุมัติ” ประธานาธิบดีกล่าว
จอม่านแสงพลันถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีแดง
“คำเตือน เทพธิดากงเจิ้ง กำลังเข้าสู่สภาวะสงคราม!”
“ปลดสิทธิ์และอำนาจของผู้บัญชาการทั้งหมดออกจากระบบ นับจากนี้ไปเทพธิดากงเจิ้งจะเริ่มทำการควบคุมทั้งสามเหล่าทัพ”
“เริ่มต้นเปิดการใช้งานเครือข่ายเซนเซอร์อวกาศที่อยู่ใกล้เคียงอย่างเต็มรูปแบบ”
ในชั้นบรรยากาศโลก มีเซนเซอร์ทั้งหมดกว่าหมื่นตัวแอบแฝงอยู่ พวกมันถูกส่งตัวกระจัดกระจายออกไปอย่างลับๆ ในห้วงจักรวาลอันมืดมิดและมักจะหลบซ่อนตัวอยู่เสมอ ที่สำคัญก็คือ ตลอดมาพวกมันไม่ได้อยู่ในสถานะเชื่อมต่อกับสิ่งใดเลย
จนกระทั่งช่วงเวลานี้มาถึง หลายหมื่นตัวเซนเซอร์ก็ได้รับสัญญาณเปิดใช้งานจากเทพธิดากงเจิ้ง ตัวแล้วตัวเล่าเปล่งแสงสว่างวาบ เริ่มกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง
........................................