webnovel

0027 การมาถึงของเทพนักสู้

ตอนที่ 27 การมาถึงของเทพนักสู้

ภายในบาร์

องค์หญิงแอนนาขยี้ตาของเธอและเงยหน้ากลับขึ้นมามองจอม่านแสงอีกครั้ง

ร่างไร้วิญญาณของยอดปรมาจารย์นักสู้ยังคงนอนนิ่งอยู่กับพื้น

“นี่มันไม่น่าจะเป็นไปได้…”สายตาของเธอบ่งบอกถึงความเหลือเชื่อ

เด็กหนุ่มบนหน้าจอ เดิมทีก็ทำให้เธอตกใจตั้งแต่แรกเห็นแล้ว จนกระทั่งเขาได้ออกไปเผชิญหน้ากับศัตรู เธอก็ยังคงคิดว่า ในกรณีคับขัน เธอจะออกไปช่วยเขา

ทว่าไม่คาดคิดเลยว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้

ตามร่างกายของกู่ฉิงซานราวกับถูกปกคลุมด้วยชั้นหมอกลึกลับ ทำให้เธอไม่อาจมองเห็นได้ แต่กลับรู้สึกราวถูกดึงดูด

“เป็นเช่นนั้นจริงๆ นี่มันไม่ถูกต้อง เขาก้าวหน้าขึ้นอย่างมหาศาลหากเทียบกับครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เว้นเสียแต่ว่ากู่ฉิงซานได้แอบซ่อนพลังของเขาเอาไว้” วอนฟอร์ดกล่าว

เขาเล่นกับสมองควอนตัม เปิดการประเมินผลลัพธ์ และซูมเข้าไปในจอม่านแสง

“จากการประเมินเบื้องต้น ความแข็งแกร่งของเป้าหมายอยู่ในขอบเขตยอดปรมาจารย์นักสู้ ทว่าความสามารถยังไม่อาจวิเคราะห์ได้แน่นอน คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นพลังของเทียนซวน สวรรค์แต่งตั้ง หรือ เฉาฟ่าน ผ่าเหล่า ไม่อาจระบุแบบเฉพาะเจาะจงได้”

“กำลังทำการดาวน์โหลดไฟล์เป้าหมาย…”

“เป้าหมายไม่ได้ใช้น้ำยาพันธุกรรม ยีนส์”

“ผลสรุป : กู่ฉิงซาน เพศชาย อายุสิบแปดปี การประเมินศักยภาพ : S”

วอนฟอร์ดมองไปที่จอม่านแสงและเอ่ยด้วยอารมณ์ “อายุสิบแปดปี แต่กลับสามารถสู้กับยอดปรมาจารย์นักสู้ได้ ถ้าหากเขาเป็นประเภทเทียนซวน ฉันก็อยากจะรู้จริงๆ ว่าพรสวรรค์ในการใช้เทคนิคเทียนซวนของเขาจะสูงส่งถึงขนาดไหน”

ทันใดนั้นอุปกรณ์สื่อสารที่อยู่ข้างๆ ก็ดังขึ้นไม่หยุด

แอนนากดรับและเอ่ยถาม “มีเรื่องอะไร”

“ตัวตุ่นรายงานมาว่าทีมหุ่นรบของมณฑลไป่ซากำลังเร่งตรงมายังที่นี่ และจะมาถึงสนามรบในอีกเจ็ดวินาทีต่อมา ที่สำคัญห่างออกไปอีกหนึ่งร้อยกิโลเมตร ปรากฏฝูงยานรบของตระกูลไป่กำลังรวมตัวกัน”

แอนนาปิดอุปกรณ์สื่อสารและยืนขึ้น “ฉันต้องออกไปช่วยเขา”

วอนฟอร์ดขวางเธอและกล่าว “ฝ่าบาททำเช่นนั้นไม่ได้ องค์หญิงแห่งจักรวรรดิมิอาจสังหารคนของรัฐบาลกลางได้ มันจะก่อให้เกิดข้อพิพาททางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และจะนำไปสู่สงครามเต็มรูปแบบ!”

“ฉันไม่สน!”

ระหว่างกล่าว สองมือของเธอก็ประกบกันราวกับกำลังอธิษฐาน

“ท่านยมทูต! ท่ามกลางเสียงคำรามแห่งเปลวเพลิง ข้าวิงวอนขออัญเชิญ”

เผี๊ยะ! สองมือที่ประกบของเธอถูกตีจนแยกจากกันโดยวอนฟอร์ด

“ฝ่าบาท ปล่อยให้หม่อมฉันไปพาตัวเขาหนีออกมาเอง ท่านรีบหนีไปก่อนเถอะ”ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของวอนฟอร์ดพลันเคร่งขรึม

“ไม่ แบบนั้นไม่ได้! เทคนิคเงาเทียนซวนของคุณมีระดับวิวัฒนาการต่ำเกินไป มันย่อมไม่เพียงพอที่จะสามารถหลบหนีการสแกนสิ่งมีชีวิตของกองยานรบได้อย่างแน่นอน”

เสียงอุปกรณ์สื่อสารดังขึ้นอีกครั้ง

วอนฟอร์ดตบลงบนอุปกรณ์สื่อสารด้วยความกังวลและตะโกนถาม “มีอะไรอีก!”

อีกฝ่ายส่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นตระหนกอย่างไม่อาจระงับได้ “น่ะ…นกพิราบ รายงาน! รายงาน! เทพนักสู้แห่งรัฐบาลกลางกำลังมา!”

“ว่าไงนะ!” แอนนาเบิกตากว้าง “เขาโผล่มาจากที่ไหน แล้วทำไมฉันถึงไม่ได้รับรายงานเรื่องการเคลื่อนไหวของเขามาก่อนเลย!”

“เขากำลังร่อนลง! ร่อนลงมาแล้ว!”

กู่ฉิงซานดึงศรขึ้น สายตาจับจ้องไปยังกลุ่มหุ่นรบที่กำลังกระชั้นชิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“เกราะรบจู่โจมรูปแบบศูนย์เก้าหนึ่ง…นับว่าเป็นรุ่นที่มีพลังทำลายล้างที่ดี!” เขากล่าวพลางง้างสายธนูจนตึง “แต่น่าเสียดายที่โครงสร้างของมันยังไม่สมบูรณ์”

มือผละออก สายธนูดีดเด้งราวกับลูกบอล ลูกศรถูกห่อหุ้มด้วยชั้นพลังวิญญาณที่มองไม่เห็น และถูกยิงลอยออกไป

ปุ

เสียงศรกระแทกเข้ากับหุ่นรบ ก่อนอีกฝ่ายจะเบี่ยงออกจากตำแหน่งเดิมและถลาหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ยังไม่หมดเท่านี้หรอกนะ”

กู่ฉิงซานดึงสายธนูอย่างรวดเร็ว และแผลงศรออกไป

ปัง!

ลูกศรทะลุเข้าไปยังศูนย์กลางการเชื่อมต่อตรงบริเวณข้อเข่าของหุ่นรบ ชุดเกราะที่หล่อขึ้นจากเหล็กกล้า ถูกศรเจาะทะลวงขา จนลูกศรทิ่มลงกับพื้น

กู่ฉิงซานถอยห่างออกมาเพื่อหลบเลี่ยงขีปนาวุธขนาดเล็กของอีกฝ่ายที่ยิงสวนกลับมา ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบลูกศรและยิงออกไป

ลูกศรทะลวงแหวกอากาศที่ว่างเปล่า

หนึ่งในหุ่นรบกำลังยกปืนกลหนักระเบิดแรงสูงขึ้น แต่กลับถูกลูกศรแทรกผ่านลำกล้อง เจาะทะลวงผ่านเข้าไปถึงรังเพลิงของปืน จนเกิดปฏิกิริยาระเบิดเลเซอร์แรงดันสูง

ระเบิดแรงดันสูงส่งผลลัพธ์ดีทีเดียว หุ่นรบระเบิดหายไปครึ่งร่าง ส่วนอีกครึ่งร่วงกระแทกลงกับพื้นและไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีกเลย

“ให้ตายสิ นี่คือสิ่งที่ธนูกับลูกศรสามารถทำได้จริงๆ งั้นเหรอ?”วอนฟอร์ดจ้องมองฉากตรงหน้ากล่าวด้วยฟันที่ขบแน่น

แอนนาจ้องมองจอม่านแสงอย่างจดจ่อและกล่าว “จุดที่เขายิงเข้าไปคือจุดอ่อนที่ซ่อนอยู่ภายในเกราะรบจู่โจมรูปแบบศูนย์เก้าหนึ่ง ซึ่งมันได้ถูกบันทึกไว้ในหน่วยวิจัยข่าวกรองของเรา”

“บ้าหน่า เขาจะไปรู้จุดอ่อนที่ซ่อนอยู่ได้อย่างไร บังเอิญเสียมากกว่า”

“มันไม่ใช่ความบังเอิญ ฉันเห็นอยู่ว่าเขาเล็ง”

“อ๊ะ ดูเหมือนเทพนักสู้จะมาถึงแล้ว”

ทั้งสองหยุดพูดคุยอย่างฉับพลัน เผลอหยุดแม้กระทั่งลมหายใจ

แอนนาพนมสองมือเข้าประกบกัน และจ้องมองจอม่านแสงด้วยความประหม่า

ภายนอก

กู่ฉิงซานง้างเล็งเล็กน้อย ก่อนจะดึงสายธนูและยิงศรดอกต่อไป

ทันใดนั้นเอง จู่ๆ มือของเขาก็ชะงักลง และแหงนหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า

ปรากฏเงาดำทะยานดิ่งมาจากเส้นขอบฟ้า

พริบตาเดียว!

กู่ฉิงซานถอยไปเบื้องหลังอย่างฉับไว และซ่อนร่างตนอยู่หลังกำแพงสูง

ตู้ม! ตามมาด้วยเสียงดังสนั่น และปรากฏหลุมลึกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสิบเมตรคล้ายอุกกาบาตพึ่งตกใส่

หุ่นรบทั้งหลายชะงักไป และจ้องมองฉากตรงหน้าอย่างระมัดระวัง

“ลูกศรของศัตรูทรงประสิทธิภาพมากเกินไป คาดการณ์ว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นเฉาฟ่าน เรียกกำลังเสริม! โทรเรียกกำลังเสริม! ” หัวหน้าอาศัยช่วงเวลาดีๆ เช่นนี้กล่าวรายงาน

“กำลังเสริม?”

เสียงๆ หนึ่งดังลอดออกมาจากหลุมอุกกาบาต ที่กำลังปะทุแลคล้ายปล่องภูเขาไฟ

“ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด”

ระหว่างที่กล่าว ร่างๆ หนึ่งก็ทะยานขึ้นจากปากปล่องภูเขาไฟ

เป็นชายวัยกลางคน

คิ้วเข้มหนา ดวงตาดั่งนกอินทรี ผิวคล้ำแดด ร่างกายของเขาแลดูคล้ายหอกแหลม

สวมใส่ชุดสีเขียวเข้มของกองทัพ รองเท้าบูททหารสีดำ พร้อมกับสายสะพายบนไหล่รูปดาบและโล่…ซึ่งดาบและโล่เป็นการแสดงถึงตัวตนของทหารยศนายพล!

เมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มหุ่นรบที่วางค่ายกลประชิดอย่างเต็มรูปแบบ เขาก็เอ่ยปากออกมา “ฉันคือซางซ่งหยาง”

หุ่นรบทั้งหมดหยุดนิ่งอย่างฉับพลัน ทหารหลายคนกระโดดลงมาจากค็อกพิท พร้อมโค้งหัวคำนับ

“ท่านเทพนักสู้!”

“เทพเจ้าแห่งกองทัพ!”

“หน่วยพิเศษสี่เจ็ดเจ็ดแห่งมณฑลไป่ซา ขอกล่าวรายงานตัวต่อท่าน!”

ซางซ่งหยางมองฝ่ายตรงข้าม และกล่าว “ในฐานะที่เป็นทหาร ใครใช้ให้คุณขับเคลื่อนมันเข้ามาในตัวเมือง อยากให้ผู้บริสุทธิ์โดนลูกหลงอย่างงั้นหรือ?”

สีหน้าทหารของทหารหลายคนพลันเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว และทหารที่เอ่ยปากคนแรกก็เป็นตัวแทนพูดออกมา “นี่เป็นคำสั่งของจ้าวมณฑลไป่ซา”

พวกเขาเป็นทหารที่ถูกส่งไปประจำการในมณฑลไป่ซา ในฐานะคนของกองทัพจึงจำเป็นต้องรับใช้จ้าวมณฑลไป่ซา

“ไอ้สุนัขรับใช้ของชนชั้นสูง!”

ซางซ่งหยางก่นด่า เขากล่าวตำหนิทหารได้ไม่นาน ก็หันหลังไปยังตำแหน่งที่กู่ฉิงซานซ่อนตัวอยู่และตะโกน “กู่ฉิงซาน ออกมา”

กู่ฉิงซานนิ่งคิดครู่หนึ่ง จึงเดินออก

“ซางซ่งหยางมองมายังเด็กหนุ่มด้วยสีหน้าซับซ้อนและกล่าว “ท่านประธานาธิบดีต้องการพบเธอ”

ย้อนกลับไปมั่วครึ่งชั่วโมงก่อน

ท่ามกลางจักรวาลอันไร้ที่สิ้นสุด

ณ เฉินเตี้ยนเฮ่า

ภายในห้องที่กู่ฉิงซานเคยอยู่

บนจอม่านแสงนับร้อยปรากฏสัญลักษณ์และตัวเลขเคลื่อนไหวไปมาจนแทบจะไม่หยุด

บนจอม่านแสงเหล่านี้จัดเรียงกันเป็นวงกลม ล้อมรอบเกราะรบขับเคลื่อนที่ถูกออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์และกำลังวิเคราะห์ทุกรายละเอียดของมัน

หุ่นรบยืนนิ่ง ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว

มันไม่ได้ใหญ่โต มีขนาดเท่าค่าเฉลี่ยของหุ่นรบตัวอื่นๆ และบนตัวมันก็ไม่ได้เต็มไปด้วยอาวุธสังหารขั้นสูงดังเช่นหุ่นรบรุ่นพิเศษชนิดอื่นๆ

ทว่ามันดูปราดเปรียวและว่องไวเป็นอย่างมาก

แสงสีขาวอ่อนจากจอม่านแสงสาดกระทบลงบนหุ่นรบ ดูคล้ายกับธารน้ำที่ไหลเอื่อยเป็นจังหวะ

หัวของหุ่นรบขยับเล็กน้อย

หลังจากนั้นครู่หนึ่งมันก็เปลี่ยนไปยังท่วงท่าอื่น

ถูกต้อง หุ่นรบตัวนี้กำลังเฝ้าสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างเงียบๆ

มันดูราวกับว่าเป็นสิ่งมีชีวิต

ทันใดนั้นหลายร้อยม่านแสงก็ดับวูบลงในเวลาเดียวกัน

มีเฉพาะม่านแสงที่อยู่ใกล้กับเกราะรบมากที่สุดที่ยังสาดแสงอยู่

ปรากฏเพียงสองตัวอักษรบนม่านแสง

“เพอร์เฟค”

หลังจากสองตัวอักษรนี้กระจายหายไป ก็ปรากฏอีกสามตัวอักษร

“สร้างยุคสมัย”

ทันทีหลังจากที่บรรทัดตัวอักษรปรากฏขึ้น เสียงๆ หนึ่งก็เปล่งออกมา

“ตามข้อตกลงด้วยปากเปล่าเรื่องการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลของกู่ฉิงซาน และผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์จะถูกนำมาใช้โดยเทพธิดากงเจิ้ง”

“เพื่อส่งเสริมความสำเร็จส่วนบุคคลของพลเมืองกู่ฉิงซาน ตามความสำเร็จของโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญทั้งยี่สิบเอ็ดโครงการ ผลคำนวณแต้มบุญออกมาดังนี้”

“แต้มบุญสะสมส่วนบุคคลของพลเมืองกู่ฉิงซาน รวมทั้งหมดเป็น 799,873,957,281,439 แต้ม”

“ยกระดับอำนาจสิทธิส่วนบุคคลของพลเมืองกู่ฉิงซาน”

“ตามกฏพื้นฐานที่ได้มีส่วนช่วยเหลือความก้าวหน้าของอารยธรรมมนุษย์ ทำการคำนวณและตัดสิน ระดับอำนาจของกู่ฉิงซาน”

“เสร็จสิ้นการคำนวณ ยกระดับอำนาจสิทธิส่วนบุคคลของพลเมืองกู่ฉิงซานขึ้นเป็นระดับ “ผู้นำสูงสุด”

“ข้อมูลส่วนตัวของเขาถูกพบว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมและลักขโมย เริ่มทำการวิเคราะห์ข้อกล่าวหา

“ข้อกล่าวหาได้รับการแก้ไข การฆาตกรรมนั้นเป็นไปอย่างชอบธรรมเนื่องจากเป็นการป้องกันตัว ได้รับการอภัยโทษ เริ่มทำการวิเคราะห์สถานการณ์ต่อไป”

“กองกำลังทหารในมณฑลฉางหนิง ได้รับการกำหนดเป้าหมายใหม่เป็นการเฝ้าจับตาผู้นำสูงสุด”

“ระดับของสถานการณ์ถูกยกระดับขึ้นเป็น : ภาวะวิกฤต”

“ในมุมมองของระดับผู้นำสูงสุดกู่ฉิงซาน เริ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย”

“ทำการจัดตั้งโครงสร้างแผนการ หนึ่ง สอง สาม และสี่”

“ตามหลักการคำนวณ โครงสร้างแผนการที่มีอัตราความสำเร็จสูงสุดคือตัวเลือกที่สาม ทำการติดต่อประธานาธิบดี”

......................................