ตอนที่ 21 เบาะแส
กู่ฉิงซานวางอุปกรณ์สื่อสาร และเริ่มสร้างหุ่นรบโดยใช้เพลิงนางฟ้าเป็นต้นแบบ
ภายใต้ท้องฟ้าที่ถูกยานรบบดบังแสงดาว คำสั่งลับได้ถูกส่งมายังเหล่าทหาร
“ภารกิจเสร็จสิ้น มีคำสั่งให้ทั้งหมดถอนกำลัง”
และยานรบประจัญบานขนาดยักษ์ที่ลอยลำอยู่เหนืองานคอนเสิร์ตก็บินออกไป
ทีมหุ่นรบทั้งหมดทำการถอนกำลัง และทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่กระจายตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชนก็จากไปอย่างรวดเร็ว
ซูเซี่ยเอ๋อวางอุปกรณ์สื่อสารลง จ้องมองฉากตรงหน้า แล้วเอ่ยด้วยความสงสัย “จะไม่ทำการตรวจสอบต่อแล้ว? คิดจะมาก็มา จะไปก็ไปซะงั้น? ดูท่ารัฐบาลกลางก็คงจะมีบางวันที่สติเลอะเลือนเหมือนกับคนอื่นเขาด้วย”
ไม่ใช่แค่เฉพาะซูเซี่ยเอ๋อ แต่ทุกคนในงานคอนเสิร์ตก็ไม่อาจทำความเข้าใจกับฉากตรงหน้าได้เช่นกัน
มีเพียงเด็กสาวบนเวทีที่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย จ้องมองลึกขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาว
สี่ชั่วโมงต่อมา
กู่ฉิงซานก็ได้กลับมายังบริษัทวิจัยหุ่นรบกังเตี๋ย
เขาเอนตัวลงนอนในห้องพักชั้นใต้ดินที่ห้าสิบห้าเพื่อเตรียมที่จะพักผ่อน
การที่ต้องทำงานอย่างหนักและต่อเนื่องเช่นนี้ แม้กระทั่งเขาที่อยู่ในระดับปราณปรับแต่งขั้นห้า ก็ยังเกิดความอ่อนล้าเล็กน้อย
เกราะรบเคลื่อนที่โมเดลเพลิงนางฟ้าเสร็จสมบูรณ์แล้ว และมันจะได้รับการทดสอบโดยเทพธิดากงเจิ้ง จากนั้นก็จะถูกส่งไปยังสถานที่ซูเซี่ยเอ๋ออยู่โดยตรง
เนื่องจากความอ่อนไหวทางเทคโนโลยี เกราะรบจะอนุญาตให้ซูเซี่ยเอ๋อใช้งานได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
เทพธิดากงเจิ้งร้องขอให้ทำการทดสอบเกราะรบเพิ่มเติมและเพื่อป้องกันการรั่วไหลทางเทคโนโลยีเทพธิดา จะส่งกองกำลังลับสุดยอดไปปกป้องเกราะรบและซูเซี่ยเอ๋อเป็นการส่วนตัว
ด้วยเหตุนี้ จึงรับประกันได้ว่าซูเซี่ยเอ๋อจะปลอดภัย
ซึ่งนี่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่กู่ฉิงซานไม่คาดคิด แต่เขาก็ตอบตกลงอย่างง่ายดาย
นอกจากนี้เทคโนโลยีที่เขาสร้างขึ้นจะถูกจัดเรียงและสรุปเพิ่มเติมโดยเทพธิดากงเจิ้ง เพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และจะถูกเก็บเป็นความลับขั้นสูงสุด
ของขวัญวันเกิดก็จัดการเรียบร้อยแล้ว กู่ฉิงซานเหยียดแข้งขา ก่อนจะเริ่มปรับลมหายใจและโคจรพลังวิญญาณ
การโคจรพลังวิญญาณจากภายในร่างกาย จะก่อให้เกิดประโยชน์ที่ดีเป็นอย่างมาก มันจะช่วยฟื้นบำรุงแขนขา เนื้อหนังที่อ่อนล้าให้กลับมามีพละกำลังดังเดิมอย่างช้าๆ
กู่ฉิงซานค่อยๆ หลับตาลงอย่างสงบ จมลงสู่ห้วงนิทราอันลึกล้ำ
ขณะเดียวกัน ในเวลานี้ทั่วทั้งโลกก็แทบจะเดือดพล่าน
หลายประเทศได้ต่อสายด่วนถึงรัฐบาลกลางเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสาเหตุของการเคลื่อนกำลังทางทหารบ่อยครั้งในวันนี้
ประธานาธิบดีได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะปกปิดถึงสาเหตุดังกล่าว แต่เขาก็ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด ถึงกับต้องโน้มน้าวทีละประเทศ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่ดี
ณ มณฑลฉางหนิง คาสิโน
ชายสวมแว่นกันแดดและเด็กสาวผู้งดงามกำลังยืนอยู่ภายในห้องลับ สายตาของเธอจดจ้องอย่างใกล้ชิดอยู่กับข่าวบนอุปกรณ์สื่อสาร
ชายสวมแว่นถอนหายใจแล้วกล่าว “ทำเอาฉันกลัวแทบตายแล้ว ฉันเผลอนึกไปว่าทางรัฐบาลกลางกำลังจะประกาศสงครามเสียอีก”
สายตาของอีกฝ่ายยังคงไม่ถอนออกจากหน้าจอ เธอเอ่ย “คุณเชื่อคำพูดของประธานาธิบดีแห่งรัฐบาลกลางอย่างนั้นเหรอ?”
ชายสวมแว่นกล่าวหยามเหยียด “ลมปากของนักการเมืองเต็มไปด้วยเรื่องโกหก บอกว่าเหตุการณ์นี้ที่แท้คือการเฉลิมฉลองครบรอบสามร้อยปีในการก่อตั้งรัฐบาลกลาง เลยจัดการฝึกซ้อมทางทหารขนาดใหญ่…มีแต่ผีเท่านั้นแหละเชื่อเขา!”
ชายสวมแว่น “นี่มันก็ล่วงเลยมากว่ายี่สิบเอ็ดวันแล้วนับตั้งแต่วันครบรอบสามร้อยปีของการก่อตั้งรัฐบาลกลาง”
เธอเอ่ยถามกลับ “แต่เรื่องนี้มันจะคุ้มค่ากับการที่ถึงกับต้องส่งสองป้อมปราการระหว่างดวงดาวออกปฏิบัติการเชียวหรือ แล้วไหนจะสามยานรบระหว่างดวงดาว และหน่วยหุ่นรบพิเศษอีก?”
ชายสวมแว่นกล่าวเสริม “ยังไม่พอ เทพนักสู้ซางซ่งหยางกับจ้าวสมุทรหลี่ดงหยวนก็ยังถูกส่งออกไปด้วย สองคนนี้กระจายกันออกไปยังแนวชายแดนและชายฝั่งเป็นเวลากว่าห้าชั่วโมง และพึ่งถอนตัวกลับมาเมื่อครู่นี้เอง”
ทั้งสองมองหน้ากันและกัน และสัมผัสได้ว่านี่จะต้องเป็นเรื่องใหญ่มาก
เกิดอะไรขึ้นกับทางรัฐบาลกลางกันแน่?
ในตอนนั้นเอง อุปกรณ์สื่อสารก็สว่างขึ้น ตามมาด้วยเสียงกระแอมไอแหบแห้งจากปลายสาย
สีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไป เขาและเธอยืดหลังตรงและกล่าว “ฝ่าบาท”
เสียงไอแหบแห้งดังอยู่สักพัก ก่อนจะเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เอาเถอะ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่พวกเจ้าออกมาภายนอกก็คงจะโหมทำงานหนักกันไม่น้อยเลยสินะ โดยเฉพาะองค์หญิงตัวน้อยของข้า”
องค์หญิงกล่าวเสียงแผ่ว “พระบิดา หนักหนาหรือไม่หาได้สำคัญ อย่างไรเสียมันก็เป็นความรับผิดชอบของลูก”
เสียงแหบแห้งหัวเราะและกล่าว “เจ้าได้ตรวจสอบเรื่องบ้าๆ ที่ทางรัฐบาลกลางพึ่งทำไปแล้วใช่หรือไม่ พวกเขารวบรวมกองทัพขนาดใหญ่ และพึ่งถอนกำลังแยกย้ายกลับไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน”
“เจ้าค่ะ”
“ต้องอย่างนั้นสิ นี่แหละธิดาของข้า แอนนา ข้าขอมอบหมายอำนาจ ‘หลินจี้ฉวน’ สิทธิ์ในการกำจัดหากต้องเผชิญกับเหตุฉุกเฉิน ให้แก่เจ้า ภารกิจนับจากนี้ไปเจ้าจะได้ใช้อำนาจและทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่”
หลินจี้ฉวน…มีเพียงเจ้าหน้าที่ทหารระดับนายพลเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิ์นี้
แอนนาเบิกตากว้าง เธอพยายามข่มน้ำเสียงที่สั่นไหวให้ดูราบเรียบ “ขอบพระทัยพระบิดา”
และปลายสายก็ถูกตัดไป
“ขอแสดงความยินดีด้วย องค์หญิงแอนนา” ชายสวมแว่นกล่าวอย่างจริงใจ
ผู้หญิงที่ชื่อแอนนายังคงจ้องค้างไปยังอุปกรณ์สื่อสาร ในหัวใจของเธอรู้สึกทั้งหวานทั้งขมระคนกันไป
เธอไม่เต็มใจที่จะเป็นเหยื่อทางการเมืองอย่างการต้องแต่งงานออกไปเป็นสะใภ้ เธอจึงก้าวออกจากวัง และใช้ความสามารถ พรสวรรค์ของเธอโหมทำงานอย่างหนักเพื่อองค์จักรวรรดิ
ส่วนองค์จักรพรรดิก็มิได้ห้ามปรามธิดาของตนแต่อย่างใด เขาเพียงกล่าวว่าหากเธอไม่อาจทนทำงานหนักได้ไหวอีกต่อไป ก็ขอให้เธอกลับมาอย่างซื่อสัตย์และแต่งงานกับทางคริสจักรศักดิ์สิทธิ์
องค์จักรพรรดิปล่อยให้เธอเริ่มไต่เต้าตั้งแต่ระดับรากหญ้า ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษใดๆ
การที่จะต้องมาอยู่ในระดับรากหญ้านั้นมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก แม้ว่าองค์หญิงแอนนาจะมีความแข็งแกร่งที่โดดเด่น แต่เธอก็ยังต้องเผชิญกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดอยู่หลายครั้ง
แต่นับว่าโชคยังดีที่เธอรอดชีวิตมาได้ และสุดท้ายก็ได้รับการยอมรับจากองค์จักรพรรดิ
ความรู้สึกกดดันได้ถูกข่มลงอย่างรวดเร็ว แอนนากลับมาเยือกเย็นอีกครั้งและกล่าว “เริ่มงานกันเถอะ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ทว่าหลังจากใช้เวลาตลอดทั้งค่ำคืน ทั้งสองก็ยังไม่พบแม้แต่เบาะแส
อัลกอริทึมของเทพธิดากงเจิ้งนั้นแทบจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะค้นหาความจริงของสาเหตุที่เกิดการระดมกำลังทางทหารในครั้งนี้
หลังจากทั้งหมดนี้ แม้กระทั่งสามผู้บัญชาการและประธานาธิบดีของรัฐบาลกลางก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แอนนาอ่อนล้าจนต้องเอามือลูบหน้าผาก ทว่าดวงตาของเธอยังคงไม่ละไปจากจอสมองกลตรงหน้า
“องค์หญิง กาแฟพ่ะย่ะค่ะ”
“ถ้าคุณอยากให้ฉันรู้สึกดีขึ้น ขอเป็นบรั่นดีซักขวดจะดีกว่า”
“ขอดื่มสักนิดได้ไหม”
“ไม่ได้”
แอนนาหันกลับมายิ้ม ก่อนจะเอื้อมไปหยิบบรั่นดีขวดใหม่และกลับไปทำงานต่อ
ที่เท้าของเธอ เต็มไปด้วยขวดบรั่นดีที่ว่างเปล่ากว่าเจ็ดแปดขวด วางเรียงกันอย่างเรียบร้อย
ทันใดนั้นเอง เธอก็ชะงักไป ก่อนจะเอี้ยวตัวกลับ และจ้องมองภาพบนจอแสง
“เกิดอะไรขึ้น?” ชายสวมแว่นถาม
“คุณจำได้ไหมว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่?” เธอถาม
“ก็หาภาพจากกล้องวงจรปิดจากทั่วทั้งเขตของรัฐบาลกลางน่ะสิ” ชายสวมแว่นกล่าว
แอนนากลอกตาของเธอ และกล่าว “ไม่ใช่! พวกเรากำลังเฝ้าจับตาคนที่มีพรสวรรค์สูงสุด คุณตรวจสอบกล้องจากหุ่นเฝ้าระวังหรือยัง?”
ชายสวมแว่นตบหน้าผากตนและกล่าว “มีทั้งหมดหกร้อยเก้าสิบเอ็ดวิดีโอและภาพถ่าย … บ้าจริง! ฉันลืมไปได้อย่างไรว่าความสามารถของหุ่นเฝ้าระวัง นอกเหนือจากการลอบสังเกตตัวบุคคลที่ถูกป้อนข้อมูล มันยังสามารถบันทึกวิดีโอแบบเรียลไทม์ในบริเวณพื้นที่ที่ทำการสังเกตการณ์อยู่ด้วยได้”
ทั้งสองรีบดึงภาพออกจากหุ่นเฝ้าระวัง และมองดูทีละภาพ ทีละภาพ
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
ทันใดนั้นแอนนาก็ตบลงบนไหล่ชายสวมแว่น แล้วชี้ไปยังหน้าจอพร้อมกล่าว “คุณดูนั่นสิ”
ชายสวมแว่นมองไปยังหน้าจอที่แอนนาชี้ ก่อนจะเห็นเพียงแค่เกราะรบอากาศยาน บินออกจากชั้นบนสุดของบริษัทหุ่นรบกังเตี๋ย
ชายสวมแว่นปรับสมองกลของเขาทันที สองมือพรมลงบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว
“ปรับภาพเป็นรูปแบบมุมมองทางดาวเทียมในอวกาศ”
การลอบเข้าไปดูภาพจากดาวเทียมบนท้องฟ้าต้องใช้เวลามากเป็นพิเศษ ทั้งสองจึงทำได้เพียงรอคอยอย่างเงียบๆ
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ภาพก็ถูกส่งมาถึง
ในความสูงที่ระดับหนึ่งหมื่นเมตร ยานรบขนาดกลางจอดรับเกราะรบอากาศยาน ก่อนจะบินตรงสู่ห้วงอวกาศ
“ใช่แล้ว ในเวลานั้นป้อมปราการดวงดาวเฉินเตี้ยนเฮ่าได้บินผ่านน่านฟ้าของฉางหนิงพอดี”
“ถูกต้อง เป็นไปได้ว่ายานรบลำนี้กำลังรอรับใครบางคนขึ้นไปยังห้วงอวกาศ”
ชายสวมแว่นพึมพำ “แต่คำถามก็คือ ใครกันที่อยู่เกราะรบอากาศยาน?”
จู่ๆ องค์หญิงแอนนาก็เอ่ยขึ้น “ในช่วงเวลานั้น กู่ฉิงซานอยู่ที่ไหน?”
ชายสวมแว่นพรมมือลงอย่างรวดเร็ว “กำลังหาให้”
และเส้นแสงที่มีเพียงไม่กี่คำก็ปรากฏขึ้นบนสมองควอนตัม
“เป้าหมายค่อยๆ เคลื่อนที่สูงขึ้นไปจนเหนือระดับหนึ่งหมื่นเก้าพันสองร้อยสิบเจ็ดเมตร สัญญาณเรดาร์จึงไม่สามารถแกะรอยได้อีกต่อไป”
ทั้งสองหันมามองหน้ากันและไม่เอ่ยอะไรออกมาครู่หนึ่ง
จนเวลาผ่านไปนาน องค์หญิงแอนนาจึงค่อยๆ เอ่ยอย่างช้าๆ “ ข่าวจะถูกประกาศออกมาในช่วงเวลาเก้าโมงของเช้าวันรุ่งขึ้น ใจความว่า ‘องค์หญิงแห่งจักรวรรดิโอลันก้าจะมาเยือนสาธารณรัฐบาลกลางอย่างเป็นทางการ และที่แรกที่จะไปเยี่ยมเยือนก็คือ มณฑลฉางหนิง’ ”
ชายสวมแว่นกล่าวอย่างลังเล “แต่ตัวปลอมของคุณตอนนี้กำลังจัดงานการกุศลอยู่ทางสุดชายแดนของจักรวรรดิ และมันก็ออกข่าวไปแล้วด้วย สองวันแต่กลับต้องเดินทางข้ามถึงสามประเทศ ฉันคิดว่าช่วงเวลามันเหลื่อมล้ำกันจนเกินไป … ”
องค์หญิงแอนนากล่าว “งั้นก็เสริมเข้าไปว่า การมาเยือนในครั้งนี้ องค์หญิงได้เดินทางมาโดยใช้รถเหินเวหาจี๋ซู ความเร็วสูงสุด”
ชายสวมแว่น “เช่นนั้นมันจะไม่ดูเร่งด่วนเกินไปหรือ?”
องค์หญิงแอนนาจ้องมองภาพบนหน้าจอและกล่าวแผ่วเบาราวเสียงกระซิบ “ตรงกันข้าม ฉันคิดว่ามันช้าเกินไปด้วยซ้ำ”
....................................