"Hello everyone, I'm a new teacher to teach you guys. Today is a good day"
[คำแปล : สวัสดีค่ะทุกท่านดิฉันคือคุณครูคนใหม่ที่จะมาสอนพวกคุณ วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีจริง ๆ]
แค่น้ำเสียงที่เธอใช้พูดประโยคทักทายใส่ไมค์ ก็สามารถทำดาเมจใส่หัวใจของผู้ชายทุกคนตรงนั้นได้ไม่ว่าจะเป็นครูหรือนักเรียนก็ตาม เสียงของเธอทำให้หัวใจของผมนุ่มฟู และทำให้ผมหลงไหลไปกับเสียงที่นุ่มนวลนั้นโดยไม่ทันตั้งตัว
"My name is Lily Taylor. Nice to meet you."
[คำแปล : ฉันชื่อ ลิลลี่ เทเลอร์ ยินดีที่ได้รู้จักคะ]
"เอ๊ะ?!"
ผมสะกิตใจเมื่อได้ยินชื่อนั้น เพราะผมรู้สึกว่าจะเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนมาก่อน เหมือนเป็นความทรงจำที่นานมาแล้วแต่ผมก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดี
"อืม...นึกยังไงก็นึกไม่ออกอยู่ดีแฮะ...หืม?"
ดูเหมือนว่าผมจะพูดคำว่า เอ๊ะ เสียงดังเกินไปทุกคนเลยหั่นมามองผมด้วยความสงสัยว่าจะตะโกนขึ้นมาทำไม รวมถึงเธอเช่นกัน
ในตอนแรกที่เธอหันมามองที่ผม เธอทำหน้าขัดใจนิด ๆ ทำให้ผมกลัวเธอเล็กน้อย แต่เมื่อเธอสบตากับผม เธอก็เบิกยิ้มออกมาเหมือนกับได้เจออะไรบางอย่างที่มันดีมาก ๆ
"Oh!, is that Tin? Long time no see"
[คำแปล : โอ้! นั้นตินใช่ไหม? ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ]
"เอ๊ะ ติน? Me?"
"Yes, you are Tin. Hello!"
[คำแปล : ใช่แล้วคุณคือติน สวัสดี!]
"เอ่อ เข้าใจผิดแล้วครับชื่อผมต้น..."
คราวนี้ทุกคนก็หันมามองผมเหมือนกับในตอนแรก แต่คราวนี้ไม่ได้หันมาเพราะความสงสัยแต่ทุกคนหันมามองผมด้วยสายตาที่ว่า ทำไม่หมาวัดอย่างแกถึงได้ไปรู้จักกับดอกฟ้าอย่างงั้นได้! สายตาพวกนั้นที่มองมาที่ผมช่างน่ากลัวเหลือเกิน
"ครูประจำชั้นเรา ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย~"
"ติน~ ไม่ได้เจอกันนานเลยน้าา~"
"ต้นโกอินเตอร์!"
"เห้ย ใจเย็น ๆ เค้าอาจจะจำผิดคนก็ได้นา ชื่อยังเรียกผิดเลย"
ในระหว่างที่ผมกำลังหันหลังให้เวทีเพื่อที่จะแก้ต่างให้ตัวเอง กับนักเรียนของห้องตัวเองที่กำลังแซวผมอย่างหนัก
"เอ๊ะ อะไรมาโดนหลัง...เอ๊ะ มือ? เอ๊ะ เอ๋!!"
คุณลิลลี่ก็เข้ามากอดผมจากข้างหลัง เอาหน้าแนบหลังผม พร้อมทำหน้างอนแก้มป่อง แล้วพูดกับผมว่า
"Tin, now I'm talking. listen carefully"
[คำแปล : โถ่~ ตินฉันกำลังพูดอยู่นะ ตั้งใจฟังกันหน่อยสิ]
"คะ คะ คะ ครับ ขอโทษครับ!"
'อ๊ากกกกก' ผมตะโกนในใจ
เจอเหตุการณ์รุกหนักแบบนี้ใครมันจะคุมอารมณ์อยู่ได้ ลองคิดดูสิคุณยืนอยู่ดี ๆ แล้วมีผู้หญิงหน้าตาสวย ๆ เข้ามากอดคุณจากด้านหลัง พร้อมทำหน้างอนแก้มป่องแบบโครตน่ารัก พร้อมทั้งพูดอ้อนให้ตั้งใจฟังแบบน่ารัก ๆ ถ้าเป็นคุณจะอยู่เฉย ๆ ได้ไหมละ!
เหมือนว่าผมจะลืมอะไรไปบางอย่าง ณ ตอนนี้ผมอยู่ในสถานการณ์ที่ผู้ชายทุกคนในระดับชั้นเหมือนจะตั้งตนเป็นศัตรูกับผมไปซะแล้ว แถมพวกผู้หญิงก็จิ้นผมกับคุณลิลลี่ไปต่าง ๆ นา ๆ
ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ แต่อย่างแรกที่ผมควรจะทำคือแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ เพื่อไม่ให้คุณลิลลี่เสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะผม
ผมทำใจสักพักแล้วจับแขนของเธอที่กุมตรงหน้าท้องผมไว้ออก และหันหลังไปจับไหล่เธอแล้วค่อย ๆ ดันเธอออกไปแบบนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลังจากที่ผมดันเธอออกไปจากตัวผมได้แล้ว ผมก็กำลังจะพูดเตือนให้เธอระวังตัวมากกว่านี้
"คุณลิล... คุณลิลลี่?"
ในขณะที่ผมกำลังจะพูด เธอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม พอสังเกตุเธอดี ๆ แล้ว หน้าและหูของเธอแดงก่ำ ดวงตาที่ระยิบระยับจ้องมองมาที่ตาของผม ท่าทางกับสายตาที่เธอมองผมทำให้ผมพูดอะไรไม่ออกสักคำ
"Tin" เธอพูดระหว่างที่จ้องตาผม
'โอ้ยยย อะไรมันจะน่ารักขนาดนี้! แต่ว่าเหมือนเคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อนเลยแฮะ ไม่ใช่เมื่อนานมาแล้วซะด้วย อืมมมม?'
ผมกับคุณลิลลี่จ้องตากัน มันทำให้ผมเหมือนจะจำความทรงจำบางอย่างที่ผมลืมไปได้ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังมาจากรอบ ๆ ผมกับเธอ
"แต่น แตน แตน แตน แต่น แต้น แต่น แตน"
"เชิญเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวจูบสาบานได้~"
"ยินดีกับคู่ข้าวใหม่ปลามัน*ด้วยจ้าา" *เรียกช่วงเวลาที่สามีภรรยาเพิ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ
อยู่ดี ๆ นักเรียนห้องผมก็ฮัมเพลงแต่งงานขึ้นมา พร้อมกับเสียงปรบมือและคำอวยพรจากนักเรียนและครูทั้งระดับชั้น พร้อมทั้งเสียงระฆังดัง และกลีบกุหลาบที่ถูกโปรยลงมาจากไหนก็ไม่รู้
"จะฮัมเพลงทำเพื่อ! หยุดนะไอ้พวกนี้นี่!"
กลายเป็นว่าในช่วงเวลาเข้าแถวตอนเช้าของการเปิดภาคเรียนใหม่ของโรงเรียนนี้ในระดับชั้นม.6 เป็นการจัดงานแต่งงานของผมกับคุณลิลลี่ซะงั้น! แล้วชีวิตที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ผู้คนเขาจะมองผมกันยังไงละเนี่ยยย
'ในที่สุดก็ได้เจอกันนะ...ติน' ลิลลี่คิดในใจในระหว่างที่ต้นกำลังอาละวาดใส่ทุกคนเพื่อที่จะกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง
.
.
.
ณ ห้องพักครู ม.6
หลังเข้าแถวเสร็จครูทุกคนจะเข้ามาในห้องพักครูแล้วไปที่โต๊ะของตัวเองแล้วจัดเตรียมอุปกรณ์เพื่อที่จะไปใช้สอนนักเรียนของตัวเองในคาบแรก แต่ตอนที่ผมเข้าห้องพักครูมาก็มีพวกครูผู้หญิงกับพวกครูผู้ชายที่สนใจเรื่องความรักมาล้อมผมไว้ประมาณ 5-6 คน แล้วถามเรื่องราวความเป็นมาของผมกับคุณลิลลี่
ผมอยากจะออกจากที่นี่มากเพราะมันอึดอัดแต่ติดตรงที่พวกครูที่รุมผมยังไม่ให้ผมไปไหนเลย
ผมในตอนนี้อยากที่จะหลุดพ้นจากตรงนี้มาก ๆ และแล้วก็มีคนฝ่าวงล้อมผู้คนเข้ามาอย่างยากลำบากเพื่อที่จะเข้ามาหาผม
"นี่ ๆ พบกันครั้งแรกที่ไหนหรอ?"
"เอ่อ...ตอนที่กูวิ่งมาเพราะมาสอนสายก็เลยวิ่งชนเธอ...ไม่ใช่! เธอก็เอากับเค้าด้วยหรอเนี่ย อีกิ๊ก"
"ฮ่า ๆ ๆ ก็ล้อมึงมันฮาดีนี่นา~ อีกอย่างไม่นึกเลยนะเนี่ยว่าจะสนิทสนมกับผู้หญิงขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่เข้ากันกับผู้หญิงไม่ได้แท้ ๆ"
"ไม่ใช่นะ กูก็ไม่รู้จักเค้าเหมือนกานน"
นี่คือเพื่อนสมัยเด็กของผมชื่อ กิ๊ก เรียนอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่ ป.1 - ม.6 ตอนมหาลัยไม่ได้เจอเธอเลย แต่ตอนเวลาทำงานก็เข้ามาทำงานที่เดียวกันอีก โลกช่างกลมยิ่งนัก
"ไอ้ตินมันร้ายจาดด"
"กูชื่อต้น!"
"ไม่เอาน่าติน~ ฟังเค้าหน่อยจิ"
"กูวว ชื่ออ โต้นนนน!!"
"ตินดุเค้าอ่าา ฮือออ"
"อู้ยย! (โอ้ย!!)"
"ใครอะ!"
"พวกนายว่างกันนักรึไง! ห๊ะ!"
"ทำไมตีแต่พวกผมอะคับ หัวหน้าระดับ!"
"ด...เดจาวู!"
ต่อมาไอ้เอ็มก็มาแซวผมอีกคน แต่ก็ต้องขอบคุณพวกเพื่อนผมที่ทำให้ผมหลุดพ้นจากผู้ชายและผู้หญิงที่สนใจเรื่องความรักไปได้ แต่รู้สึกขอบคุณไม่ทันไรก็กลายเป็นความเซ็งไปซะแล้ว เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าไอ้เอ็มมันทำให้หัวหน้าระดับฟาดเอกสารรายชื่อนักเรียนใส่ผมเนี่ยแหละ! โถ่เอ้ย!
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจมาที่ผม ตัวเอกของเรื่องวุ่นวายเมื่อเช้าก็โผล่มา
คุณลิลลี่เข้ามาในห้องพักครูด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนดั่งดอกไม้บาน เหมือนเหตุการณ์เมื่อก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย
"Hello everyone, I teach English, Let's all fight today!"
[คำแปล : สวัสดีค่ะทุกคน ฉันสอนวิชาภาษาอังกฤษนะคะ ขอให้วันนี้ทุกคนสู้ ๆ กันนะคะ]
"Yes sir!"
[คำแปล : ครับท่าน!]
หลังจากที่ผู้ชายทุกคนตะโกนตอบเธอเป็นเสียงเดียวกัน ก็กรูกันเข้ามาเพื่อที่จะขอช่องทางการติดต่อเธอเหมือนพวกผู้ชายที่รุมกันขอลายเซ็นในงานออกอีเว้นต์ของเหล่าไอดอลที่ตนเองชื่นชอบ
เธอทำหน้ายิ้มแย้ม แต่เธอก็ยืนนิ่งเฉย ไม่มีการตอบสนองใด ๆ เหมือนว่าเธอจะเคยชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว
"เฮ้อ พวกนายนี่จริง ๆ เลย เห็นไหมว่าเธอกลัวอยู่"
"ผมว่าเธอไม่ได้กลัวเลยนะครับ..."
"พูดอะไรของนายน่ะต้น เห็นไหมว่าเธอตัวสั่นอยู่เนี่ย"
"ผมไม่เห็นนะครับ..."
หลังจากผมตบมุก(รึป่าว?) ของหัวหน้าระดับเสร็จ ผมก็เหลือบตาไปดูเวลาที่ติดอยู่บนผนังห้องพักครู ดูเหมือนว่าจะใกล้เวลาที่จะเริ่มคาบแรกแล้ว ผมควรจะต้องรีบไปสอนนักเรียนของผมแล้ว
"งั้นผมไปก่อนนะครับ คาบแรกก็ใกล้จะเริ่มแล้วด้วย"
"เดี๋ยว! ต้นเอาตัวคุณลิลลี่ไปด้วยสิ"
"เอ๊ะ? แต่ผมกำลังจะสอนคาบแรกแล้วนะครับ"
"ก็ใช่ไง นายก็เอาคุณลิลลี่ไปเข้าคู่ด้วยเลยไง ให้เขาเรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างของโรงเรียนนี้ด้วยล่ะ"
ก่อนที่ผมจะออกไปเพื่อไปสอนคาบที่หนึ่ง หัวหน้าระดับก็บอกให้ผมไปคู่กับคุณลิลลี่ ผมที่รู้สึกตกใจเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันกระทันหันเกินไป ผมจึงตอบปฏิเสธไป
"ถ้าประเมินจากความสามารถของเธอแล้วผมว่าเธอเหมาะที่จะคู่กับคนอื่น ๆ มากกว่าผมนะครับ"
"พูดอะไรของนายน่ะต้น นายเป็นคนเดียวนะที่ยังไม่มีคู่น่ะ"
"อุ๊ก เหมือนโดนต่อยเข้าที่หน้า!"
"อะไรของนายเนี่ย ฉันหมายถึงครูคู่ชั้นต่างหาก อีกอย่างสามีที่ดีต้องดูแลภรรยาให้ดีสิจริงไหม~"
"โอ้ยย! หัวหน้าระดับที่เย็นชาก็เอากับเค้าด้วยหรอเนี่ยยย"
"งั้นเอาอย่างงี้ วันนี้ทั้งวันนายคู่กับคุณลิลลี่ไปก่อนแล้วเดี๋ยวตอนปาร์ตี้ต้อนรับครูใหม่ตอนเย็นก็ให้เธอเลือกว่าจะทำหน้าที่เป็นครูคู่ชั้นคู่กับนายไหม อีกอย่างดูสีหน้าของเธอตอนนี้แล้วยังกล้าปฏิเสธอีกหรอ"
ผมนึกสงสัยในคำพูดของหัวหน้าระดับเลยลองหันไปดูหน้าของคุณลิลลี่ ผมเห็นเธอบีบน้ำตาออกมาแล้วทำหน้าอ้อน เหมือนเด็กที่กำลังบีบน้ำตาขอร้องให้พ่อแม่ซื้อของเล่นที่ตัวเองอยากได้
ผมที่ไม่มีทางเลือกเพราะลูกผู้ชายต้องไม่ทำให้ผู้หญิงร้องไห้ ผมเลยหันไปชวนเธอให้ไปด้วยกัน
"เอ่อ...แคนยู...เอ่อ...โกวิด...มี๊? (Can you go with me)"
[คำแปล : คุณไปด้วยกันกับผมได้ไหม]
แต่ผมลืมข้อหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการที่จะทำงานคู่กับเธอที่พูดภาษาอังกฤษ ใช่ครับ ผมพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น! ถึงแม้ว่าจะพอฟังภาษาอังกฤษได้ก็เถอะ แต่เรื่องเขียนกับพูดภาษาอังกฤษผมอยู่ในเกณต์วิกฤตเลยล่ะ
แต่ถึงแม้ว่าผมจะพูดภาษาอังกฤษออกไปแบบนั้น เธอก็ทำหน้ามึนงงนิด ๆ ก่อนที่จะทำหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสให้ผม ดูเหมือนว่าเธอจะมีความสุขมาก ๆ ที่ผมชวนให้เธอไปด้วยกัน
"Ok!"
เธอตอบตกลงกับผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใสแทบจะในทันที และจูงมือผมไป
ก่อนที่ผมจะออกจากห้องพักครูก็โดนพวกครูผู้ชายที่ถูกเมินเมื่อกี้เพราะไปสร้างความรำคาญให้เธอ ฉุดแขนเสื้อของผมเอาไว้
"เดี๋ยวสิไอต้น อย่างแกมันไม่เหมาะกับเธอหรอกน่า"
"ใช่ ๆ ส่งเธอมาให้คู่กับพวกเราดีกว่า รับรองเธอต้องมีความสุขมากกว่าการที่ได้คู่กับแกแน่"
"ใช่ ๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ"
ในระหว่างที่ผมกำลังโดนดูถูกอยู่นั้น ผมก็หันไปเพื่อที่จะพยายามพูดสวนกลับพวกเขาไป
แต่ทว่าก่อนที่ผมจะโต้ตอบกลับไปก็มีออร่าที่มืดมิดปกคลุมทั่วห้องพักครู รังสีอำมหิตที่สามารถรู้สึกได้มาจากข้างหลังผม แล้วก็มีโทนเสียงที่ใช้พูดกับคนที่เปรียบเสมือนขยะ มาจากข้างหลังผม
"เสือก"
คุณลิลลี่คือที่มาของ ออร่าอันมืดมิด รังสีอำมหิตกับโทนเสียงที่พูดกับขยะ ผมสงสัยว่าเธอเป็นคนพูดจริงหรือเปล่า เลยลองหันไปมองหน้าของเธอดู
ข้อสงสัยของผมก็กระจ่างในทันตา ใบหน้าของเธอจากดวงตาที่อ่อนหวานกลายเป็นเหมือนดวงตาที่ไว้มองเศษขยะ ทำหน้าบูด ดูเหมือนจะโกรธสุด ๆ บอกเลยว่าหน้าตาเธอในตอนนี้หน้ากลัวเสียยิ่งกว่ายักษ์ซะอีก ทำเอาพวกผู้ชายที่ดูถูกผมเป็นใบ้ไปกันหมดทุกคนเลย
ผมดีใจมากที่คุณลิลลี่โกรธแทนผม และพูดต่อว่ากลับไปเพื่อผม
"ฮ่า ๆ ๆ 'เสือก'งั้นหรอ พูดได้ดีนี่คุณลิลลี่"
ผมพูดพร้อมกับยิ้มให้เธอ และโบกมือลาใส่พวกผู้ชายที่ยืนอึ้งอยู่ ก่อนที่ผมจะจูงมือเธอและออกไปจากห้องพักครู
.
.
.
ตอนนี้ผมได้เดินคู่กับสาวสวยจากต่างประเทศที่เป็นที่จับตามองของคนทั้งโรงเรียน และจุดหมายก็คือทางเดียวกันด้วย ดังนั้นผมจึงตื่นเต้นมาก บอกเลยว่าตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเดินกับผู้หญิงที่สวยและงดงามขนาดนี้มาก่อน และไม่นึกเลยด้วยซำ้ว่าชาตินี้จะมีโอกาส แต่ดูจากที่เธอพูดต่อว่าพวกผู้ชายเมื่อกี้ไปดูเหมือนว่าเธอจะพูดไทยได้นิดหน่อยสินะ...แล้วทำไมต้องเป็นคำนั้นด้วยละ...
ผมกับเธอเดินมาสักพัก ต่างคนต่างไม่พูดอะไรกันเลย และไม่รู้ว่าจะเริ่มการสนทนาแบบไหนดี ผมต้องทำอะไรสักอย่างกับบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี่แล้ว
"คุณลิลลี่! (Tin!)"
ปรากฏว่าผมกับเธอพูดพร้อมกันซะงั้น
"อ๊ะ เอ่อ...ไอ แคน สปีค...อาฟเตอร์ ยู สปีค โอเค๊? (I can speak after you speak)"
[คำแปล : ผมจะพูดหลังจากที่คุณพูด โอเคไหม?]
"Ok"
ก่อนที่คุณลิลลี่จะพูดเธอก็ก้มหน้า ผมเห็นใบหน้าของเธอแดงนิด ๆ ด้วย
["รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่สนใจผู้ชายที่เข้ามาทักทายฉันเมื่อกี้?
เพราะว่าฉันอยากแอดคุณเป็นเพื่อนคุณแรกของฉันยังไงละ"]
"Do you know why I ignored the guy who greeted me just now?
Because I want to add you as my first friend."
ผมได้ยินประโยคนั้นเลยยิ้มออกมาจนทำให้ผมหุบยิ้มไม่ลงเลยละ
หลังจากที่เธอพูดประโยคนั้นเสร็จ เธอยิ้มแบบสดใสให้ผม และจับมือผมไว้แล้ววิ่งไปตามทางเดิน
ความรู้สึกในใจนี้...เหมือนเคยเจอเหตุการณ์นี้ที่ไหนมาก่อน เหมือนเคยเจอกับเธอที่ไหนมาก่อน...
ผมไม่รู้หรอกนะว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้ของผมจะเป็นยังไง แต่ว่านะ ผมอยากจะใช้เวลากับเธอให้มากกว่านี้ อยากอยู่กับเธอให้มากกว่านี้ อยากปกป้องเธอ อยากสนับสนุนเธอ อยากเห็นตอนเธอยิ้ม อยากดูแลเธอ อยากทำให้เธอคนนี้มีความสุขเท่าที่จะทำได้
ณ ช่วงเวลานั้น ความรู้สึกของผมก็เอ่อล้นมามากมายนับไม่ถ้วน ผมรู้สึกว่าถ้าหากได้อยู่กับเธอแล้ว ผมสามารถทำอะไรก็ได้ น่าแปลกจริง ๆ มันคือความรู้สึกอะไรกันนะ...
"ว่าแต่คุณลิลลี่ครับ ไม่ใช่ว่าเพื่อนผมมาขอไอจีคุณเป็นคนแรกแล้วหรอ"
"What are you talking about? You are really my first friend."
[คำแปล : พูดอะไรของนายน่ะ? นายเป็นเพื่อนคนแรกของฉันเลยนะ]
"อ่อ! โอเคครับงั้นไม่มีอะไรแล้วละครับ"
'ไอ้เอ็ม! มึงหลอกกูนี่หว่า! สรัด!'