บางครั้งการยึดมั่นในโชคชะตาก็ไม่ใช่คำตอบ จะดีหรือชั่วเราต้องเขากำหนดด้วยตัวเอง ไม่ใช่ทำเพราะหมอผีบอก หรือเพียงแค่ผู้พูดมีสถานะทางสังคมสูงส่ง แล้วจะไปเชื่อ อันนี้ก็นับว่าไม่ถูกต้อง ปัญญาจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะใช้งานใหน การเข้าใจสถานการ์ณต่างๆ ว่าใครเก่งกว่าใคร หรือใครเป็นยังใง ตัวข้าจะขอทำลายความมมืดด้วยกำลัง จะไม่ยอมให้ผู้คนพูกฝันในเงาดำ ปรากฏตัวมาจากดินแดนของความมืดด้วยตัวเองนั้น จะเหนือกว่าโชคชะตาที่เคยเฝ้ามอง ในยามที่มังกรในตำนานโบนบิยขึ้นสู่สวรรค์ แท้จริงบนอวกาศนั้นมันสูงส่งกว่าฟากฟ้า สิ่งมีชีวิตพวกนั้นสร้างฐานทัพมหึมา โคจรรอบโลกใข้กว่าดวงจันทร์โชคชะตาและคำสาปจะบิดเบือน จะเดินทางไปไม่หวาดกลัวต่อชะตานั้น ปรากฏตัวมาจากความมืดเหมือนกับว่าเทพหรือมารที่รู้จักกัน เขาคนนั้นมันจะทำลายแม้จอมมาร เป็นดั่งผู้เฝ้าดูดวงดาราไม่ดับสูญ สายตาของข้าบอกมาว่าจะเพิ่มพูนแม้ปัญญา การปรากฏตัวมาจากความมืด
ไม่หวนคืนมา จะให้ทำลายโชคชะตาก็จะทำให้ดู คำสาปของคำทำนายข้าจะโค่นซะ โชคชะตาที่เลวร้ายข้าจะทำให้แตกเป็นเสี่ยงๆ เดินทางมาพ้นความมืดที่บอกมาว่าไม่เท่าเทียม ปรากฏตัวมาจากความเงียบงันของรัตติกาล หมอนั่นมันเป็นหนึ่งไม่มีสอง ปรากฏตัวมาเหมือนกับว่าไม่ใช่ว่าจะหวนคืน เดินทางพ้นคำสาปไม่อาจจาก ทำลายโชคชะตาต่อให้ต้องจากอีกฝ่ายไปถึงห้วงอเวจี ปรากฏตัวมาจากความมืดและใช้ทุกอย่างที่มี คำทำนายที่เลวร้ายถ้ามีก็จะทำลายมันเอง สำหรับสถานการ์ณตอนนี้ สโนว์ควีนได้ตื่นจากการหลับไหลแล้ว และอำนาจที่นางมีมันบอกมาว่าไม่สามารถถูกทำลายได้ง่ายๆ" ได้ยินข่าวการฆ่าล้างเหมือนถ่านหินมั้ย"
จอห์นหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาปาด ก่อนเอ่ยตอบมาอย่างรวดเร็ว" ดูเหมือนคนต้นคิดจะไม่ใช่คนธรรมดานะ" เบเรนิเก้พยักหน้า" คนธรรมดาที่ใหนจะสร้างพลังงานจากไอน้ำแข็งได้ระดับนั้น ฝ่ายนั้นคงไม่ใช่มนุษย์ปกติแน่ๆ" พวกแบบนี้แหละจัดการยุ่งยาก ร่างกายที่เย็นเป็นไอน้ำแข็ง ดวงตาที่มองทะลุความมืดด้วยความเยือกเย็นนั้นก็อีกส่วนหนึ่ง แต่หมอนั้นมันปรากฏตัวมาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอันลึกซึ้ง ปรากฏตัวมาจากความมืดที่จะไม่หวนคำนึง ไม่คืนมา ปรากฏตัวมาจากดินแดนของปีศาจ สร้างการเปลี่ยนแปลงเหมือนกับว่าเป็นเงาพิฆาติไม่กลับมาเขาคนนั้นมันเหมือนกับว่าเกิดกว่าคำทำนายจะเป็นไปกับภาพมายา เดินทางพ้นมาเหมือนเวลาที่ไหลไปข้างหน้าด้วยทางเดียว เอนโทรปีโดยรวมของจักรวาลมันควรจะเพิ่มขึ้น ถ้าไม่ใช่ว่าสิ่งมีชีวิตพวกนั้นมัน
เดินทางมาจากความมืดดำไม่คืนมา ปรากฏตัวมาจากเงาปีศาจนั้นมันไม่อาจหวนคืนมา เดินทางมาจากดินแดนที่จะตามล่าไม่ใช่ว่าจะหวนคืนมาสู่ความบาดเจ็บไม่อาจถูกเล่นงานโดยไม่ตอบโต้ แม้แต่หมาถ้าถูกต้องจนมุมก็ยังแว้งกัด นับประสาอะไรกับมนุษย์เล่า" พลังของสโนว์ควีนคือการควบคุมอุณหภูมิของไอน้ำรึ" โจ็กเกอร์พูดด้วยความสงสัย พลางจับแขนตัวเอง" ทางชั้นขึ้นเลเวล 3 แล้ว ต่อให้พวกเลเวล 1 มาสักห้าคนก็คงไม่ใช่ปัญหา" อลิเซียที่เรียกไดโนเสาร์ตัวที่สองออกมาจากฟอสซิลพูดขึ้น" รู้จักกฏทรงพลังงานมั้ย ที่ว่าพลังงานไม่สามารถสร้าง
หรือถูกทำลายได้ แต่สามารถเปลี่ยนรูปได้" ร่างของจอห์นหันมามองหน้าหญิงสาวในชุดดำ ที่ดูเยือกเห็นเหมือนปีศาจ" รู้สิ นั่นมันกฏฟีสิกส์พึ้นฐาน ใครไม่รู้ก็ถือว่าแย่มากๆ แล้ว" เลเวลนะมีผลต่อระดับพลังงานสูงสุดที่ใช้งานได้"อย่างที่เลเวล 1 จะใช้งานพลังงานได้ที่ 20000 จูล เลเวล 2 จะใช้งานได้ 500000 จูล และระดับโจ็กเกอร์ที่เลเวล 3 จะใช้งานได้ที่ 125000 จูล" " แต่จากที่สโนว์ควีนถล่มทั้งเมืองได้ด้วยตัวตนเดียว เลเวลของนางต้องสูงกว่า 10 แน่ๆ" โจ็กเกอร์เอ่ยจากการวิเคราะห์สถานการณ์ จอห์นหยิบสูตรคำนวนเลขยกกำลังมากด มากกว่า 12 ที่สโนว์ควีนโจมตีเมืองที่ว่า ใช้พลังงานมากกว่า 200,000,000 ล้านจูลแน่นอน ซึ่งนั้นเป็นพลังงานที่เกินตรรกะ
สิ่งมีชีวิตปกติไปเรียบร้อยแล้ว จะให้สู้กับสิ่งมีชีวิตที่ได้ขนาดนั้นๆ 200,000,000 จูล" มันคือพลังงานในระดับที่แช่แข็งขุนเขาได้เลย ถ้าแปลงเป็นไฟฟ้าจะได้พลังงาน 100 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง " พลังงานปลอดปล่อยมันมหาศาลแบบนี้เอง ถึงไม่ไม่มีผู้มีพลังพิเศษคนใหนไปบุกขั้วโลก" สโนว์ควีนก็คนหนึ่งนะ แต่อันที่จริงมันไม่ได้อยู่ที่พลังงานปลดปล่อยอย่างเดียว แต่มันขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ในการใช้พลังได้ อย่างจอห์นกํบโจกเกอร์ที่เลเวล 3 ถ้าร่วมมือกันดีๆ ก็อาจล้มเลเวล 6 ได้ ส่วนถ้าเราสี่คนร่วมมือกัน ก็อาจล้มเลเวล 12 ได้" ถ้ามั่นใจขนาดนั้นทำไม่ไม่ไปบุกขั้วโลก ทำการล้มอำนาจสโนว์ควีนเลย จะใช้ไม่มีชาวบ้านตาดำๆต้องมาเจอกับนรกน้ำแข็ง" อีกาปีกดำขาสีฟ้าที่บินลงมาเอ่ยแทรกขึ้น" สิ่งมีชีวิตพวกนั้นมันไม่ใช่ว่ามั่นจะอ่อนแอนะ แล้วเราก็ยังไม่รู้ตึ้นลึกหนาบาง ของทางสโนว์ควีนด้วย"
"อึ้อ ดูเหมือนว่าทางนั้นจะปรากฏตัวมาในเวลาที่ทำให้ใครต่อใครคาดไม่ถึงมาโดยตลอดนะ "อลิเซียหันไปพูดกับอีกาปีกดำ ก่อนที่เทอโรซอร์อัญเชิญจะถูกเรียกให้เข้ามาประชิดตัวอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว จะงอยปากของมันหมืนคมหอกมรณะ แผ่นปีกที่มองไปเหมือนหนังติดกระดูกดูดประหลาด ข้าหลังที่มีลักษนะสั้นจนน่าหัวเราะ เทือโรซอร์อัญเชิญตัวนั้นจ้องมองไปก็เหมือนกับว่าเป็นคมหอกปีศาจ เป็นคมหอกมีชีวิตที่น่าหวั่นหวาด จ้องมองเข้าไปในดวงตาที่จะทำให้ศัตรูรู้สึกขลาดกลัว แววตานั้นมันบอกมาว่าเหมือนกับว่าเดินทางมาจากเงาดำ เจ้าตัวคนนั้นมันมันความยาวกว่าเมตร และกางปีกกว้าง 4 เมตร ทำให้มองไปเหมือนโดรนขนาดใหญ่
มองมาเหมือนกับว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลง ได้ยินเสียงของการต่อสู้ ความพยายามในการเอาชีวิตรอด และบางครั้งแทรกแซงผู้อื่นของเผ่าพันธ์ต่างๆในจักรวาล ร่างขนาดใหญ่ที่เป็นหัวหน้าของเใ่าพันธ์มังกรครอบครองบัลลังก์ในโดเมนของตัวเอง สิ่งมีชีวิตตัวนั้นมันสูงมา่กกว่า 10 กิโลเมตร ปีกขนาดใหนกางออกบนบังดวงตะวันน้ำหนักตัวอาจมากกว่าแสนตัน ผู้เป็นราชันย์ของเหล่ามังกรอวกาศได้ตื่นขึ้นแล้ว พลังงานที่มันมีสามารถเป่าดาวทั้งดวงให้หลุดจากวงโคจร สายตาของมันคมกริบและมองอะไรไม่พลาดเป้า ผู้ปรากฏตัวมาจากความมืดนั้นมัน
เป็นหนึ่งไม่มีสอง เขาคนนั้นเดินทางมาจากดินแดนที่ไม่สามารถถูกสาปแช่ง ใครคนหนึ่งจะไปใหนเหนือโชคชะตา เป็นนักล่าผู้หิวโหยไม่สิ้นสุด จะไม่อ่อนแอไม่ทรุดต่อหน้าใคร สาบายว่าจะเดินไปหาความยิ่งใหญ่ ไม่ว่ากายหรือใจเปลี่ยนแปลงไปยังใงไม่อ่อนแอ เขาคนนั้นมันเหมือนกับว่าจะซัดทุกอย่างด้วยกำลังที่มี จะทุ่มเทให้กับหนทางนี้ไม่มีจิตวิญญานสถติร่าง ปรากฏตัวมาจากความมืดไม่เคยจาง หมอนั่นมันไม่วางกลับบทเพลิง ปรากฏตัวมาจากหมอกมายาไม่หลบเลี้่บยง เดินทางมาด้วยความหิวโหยไม่สิ้นสุด จะอ่อนแอหร่ือจะทรุดไม่มีทาง นั่งอยู่บนเก้าอี้ืที่แปลกประหลาด ผมสีเงินตาสีเขียวจ้องมองไปไม่หวาดกลัว ผลสุดท้ายใครบอกบอกมาว่าดีหรือชั่ว
ตัวเราจะบอกหนทางนั้นมันมาด้วยตัวเอง ปรากฏตัวมาจากดินแดนที่แปลกประหลาด เขาคนนั้นมันคือผู้เดินทางมาจากดินแดนที่ไม่อาจถูกทำลาย แววตานั้นมันบอกมาว่าเกิดกว่าว่าจะถูกย่อยสลาย ปรากฏตัวมาจากความมืดบอกมาว่าไม่มีใครทำลายจตัวเขาได้ ร่างกายยังคงเข็มแข็ง จิตใจยังคงเยือกเย็น เดินทางมาจากความมืด ทำลายศัตรูนั้นมันเหมือนกับว่าหมอนั่นมันจะหวนคืนมา ปรากฏตัวมาจากดินแดนที่ประหลาด วิวัฒนาการไปไม่มีที่สิ้นสุด ไม่อ่อนแอและไม่ทรุดต่อผู้เป็๋นศัตรู จ้องมองดูแล้วไม่มีใครจะทำให้มันกลัวได้เลย พละกำลังมหาศาลพอจะจับ
อสูรกายที่หนักเป็นแสนตันทุ่มได้อย่างสบาย ความร้อนระดับลาวาไม่สามารถทำลายผิวกายของมัน จะให้เดินทางในอวกาศก็ไม่หวาดหวั่น สายตานั้นมันจ้องมองมาถึงหนทางใหญ่ พลังงานไฟฟ้าถูกรวบใว้ที่ปากของดวงจันทร์ ก่อนจะใช้เบรธหลอมผิวดาว จนกลายเป็นซุปแร่ธาตุ ขณะที่พวกมังกรอวกาศระดับบริวาร กำลังดื่มกินซูปนี้ด้วยความสุข ก็เช่นเดียวกับฝูงหมาป่า ถ้าจ่าฝูงตาย พวกมันจะแตกกระเจิง ถ้าจ่าฝูงตายแม้นักล่าที่น่ากลัว อย่างพวกมังกรอวกาศยักษ์ก็แตกกระเจิง พวกมันร่วมตัวกันมาในระบบไฮว์ไมน์ จิตใจของพวกมันรวมเป็นหนึ่ง ปรากฏตัวมาในเวลานี้ไม่หวงาดกลัวอย่างลึกซึ้งต่อผู้ใด เขาคนนั้นมันจะทำลายศัตรูให้ดู ส่วนทางด้านราชันย์แห่งมังกรอวกาศ ก็มีแผนใมนใจเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในนิเวศระหว่างดวงดาว เขาจะอยู่ที่จุดสูงสุด จะกหลืนกินและทำลายทุกสิ่งที่ขวางทาง จะเปิดประตูหนทางของผู้มาใหม่