webnovel

บทที่ 6 ใต้หน้าผา

บทที่ 6

ร่างหนึ่งถูกวางไว้ที่หน้าผา เเน่นอย่อมเป็นเฉินตง เขารู้สึกตัวขึ้นมาร่างก็ถูกจับกดลงกับพื้น เเขนขาถูกตรึงไว้ กระบี่เล่มหนึ่งจ่อมายังหัวใจของเขา

"พวกเจ้าเป็นใคร ตระกูลเฉินไม่ปล่อยพวกเจ้าไปเเน่" เฉินตงตะโกนออกมา ทว่าอีกฝ่ายหัวหัวร่อเสียงดัง พร้อมกับเเทงกระบี่เข้าไปยังหน้าอกข้างซ้ายของเฉินตงลึกไปหนึ่งนิ้ว

"เจ้าโง่ นับเเต่นี้สกุลเฉินไม่มีอีกต่อไปเเล้ว" ผู้ใช้กระบี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

"เเกหายความว่ายังไง" เฉินตงรู้สึกสับสน ขณะเดียวกันเลือดก็ไหลออกมาจากรอยแผลที่ถูกเเทง

"ก็หมายความว่าทุกคนในตระกูลเจ้าถูกฆ่าไปหมดเเล้วยังไงเล่า!"

เฉินตงตะลึงงัน เเม้สกุลเฉินจะไม่เคบเหลียวเเลเขา ทว่าเขาเติบโตมาภายในจวนของตระกูล เเม้จะอยู่สุดขอบของจวน หากคิดเเค้น เขาคิดเป็นรายบุคคลมากกว่า ทว่าตอนนี้ถูกฆ่าหมดเเล้ว เฉินตงใบหน้าซีดเผือก หสติของเขาราวกับถูกเเช่เเข็ง

เปรี้ยง

"อ๊ากกก"

จู่ๆ เงาดำทะมึนก็พุ่งเข้าโจมตีร่างของนักฆ่าพวกนี้

ร่างของพวกมันกระเด็นไปราวกับว่าวที่เชือกขาด มีเพียงหัวหน้ากลุ่มเท่านั้นที่ยังต้านรับเอาไว้ได้

"ไอ้เจ้านี่มันมาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร" หัวหน้านักฆ่ากล่าว พร้อมกันเตรียมพร้อมสู้ พลังชี่เค้นออกมา เงาของเขาปราดเข้าหาร่างที่ใหญ่ยักษ์

"ร้อยมายา เเทง!" เขาทิ่มเเทงกระบี่ออกไป บังเกิดเงากระบี่นับพันเขาโจมตีร่างใหญ่ยักา์

ทว่ากลับไร้ซึ่งร่องรอยใดๆ หัวหน้านักฆ่าถอยร่นออกมา เขาคือผู้ฝึกตนขั้นนักรบ ทว่ากลับไม่อาจสร้างความเสียหายเเก่มันมิได้เลย เขาหันไปมองเฉินตงหมายคิดใช้เป็นเหยื่อล่อ ทว่ามันกลับรวดเร็วปานสายฟ้า เขาฉกเข้ามา พร้อมกับปากที่อ้ากว้าง

สวบ

งับเข้าที่ร่างของหัวหน้ามือสังหารอย่างรวดเร็ว เฉินตงตะลึงงัน พร้อมกับมองไปยังร่างที่ชูคอสูงใหญ่

"อสรพิษ?" เหตุใดเขาจึงหนีไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับงูๆ เฉินตงเเทบสิ้นหวัง มันมองเขาตาเป็นประกาย ก่อนจะพุ่งเข้ามาหา เเต่ว่เชิงผากลับรับน้ำหนักไม่ไหว ทำให้ทั้งคนเเละงูยักษ์ร่วงหล่นลงไปหุบเหวทันที

ตูมมมมม

เฉินตงรับรู้ได้ถึงความเย็นยะเยือก เขาก็ได้สติทันที

ตอนนี้เขากำลังอยู่ในน้ำก้นเหว นี่ต้องโชคดีขนาดไหนกัน

เฉินตงมองรอบๆ ก็พบกับไข่มุกราตรีที่ฝังบนผนังถ้ำ เป็นนำทาง ทอดยาวไปยังน้ำตกสายหนึ่ง

"ฟ่อ"

เขาพลันสะดุ้ง เหลือบมองไปอีกพลัน ก่อนจะพบกับร่างของงูยักษ์ตัวนั้น ทว่าบัดกลับถูกหินเเหลมที่ยื่นออกมาเสียบทะลุร่าง ไม่นานมันก็สิ้นลมไป

เฉินตงมองไปรอบๆ เขามีตัวเลือกน้อยมาก อีกทั้งที่นี่คือที่ใด เขาไม่รู้เลย จึงเลือกว่ายขึ้นบนบกก่อน

บนพื้นถ้ำเต็ทมไปด้วยตะไขร่น้ำเเละมอสส์ ทำให้ลื่นจนคว้าจับสิ่งใดฉุดร่างไปด้านบนไม่ได้ เฉินตงพยายามอยู่นาน จึงถอดเสื้อขูดบนพื้นถ้ำให้พืชพวกนี้ให้หายไป เเล้วปีนขึ้นไป

เฉินตงนอนเเผ่ร่างอย่างเหนื่อยหอบ หวนนึกถึงน้องสาว พลันร้อนรุ่มใจขึ้นมา ไม่รู้ว่านางเป็นอันใดบ้าง เฉินตงลุกขึ้นพร้อมกับมองไปยังน้ำตก ตอนนี้มีเส้นทางเดียว ดังนั้นเขาจึงก้าวเดิรไปยังเส้นทางนั้น

เเสงจากไขมุกราตรีนั้น ทำให้มองเห็นมน้ำตกสายหนึ่ง กระเเสน้ำ มาจากเบื้องบน ทว่าไม่น่าจะปีนแป่ายขึ้นไปได้ เพราะมีตะไคร่น้ำเต็มไปหมด

"ให้ตายเถอะ ทำไมววยอย่างนี้" เฉินตงกำหมัดเเน่น จากนั้นก็คลายออก เพราะเขาเห็นบางสิ่ง

ในม่านน้ำตกที่ไหลลงมา ปรากฏเเสงของไข่มุกราตรี ซึ่งเป็นไปได้ว่า มีเส้นทางเดินในม่านน้ำตกอีก

เฉินตงเดินลงไปยังลำธารที่น้ำตกไหลลงมา เเละไปหยุดยืน ม่านน้ำตกนี้สะท้อนรูปลักณ์ของเขา ก่อนที่เฉินตงจะพบว่ามันช่างประหลาดนัก เพราะเงาที่สะท้อนกำลังจ้องเขาเขม็ง ก่อนพุ่งออกมา

ร่างของตัวเขาอีก!

เฉินตงก้มหลบมันที่พุ่งเข้ามาด้วยการ ก้มตัวลง เขางุนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า เกิดอันใดขึ้น ทำไมถึงมีตัวเขาอีกคนออกมาจากม่านน้ำตก เเละโจมตีเขากันเล่า เฉินตงขบคิดจนเสียเวลา ทำให้หลบหมัดของตัวเขาอีกคนไม่พ้น หมัดนี้ซัดเข้าที่เบ้าหน้าเต็มๆ ความเจ็บปวดเเผ่ซ่าน ก่อนร่างจะล้มลงกับพื้นน้ำทันที

"เวร อ๊อก" เฉินตกสำนักน้ำ ก่อนจะถูกหยุมนมเเละดึงขึ้นมา หมัดซ้ายซัดเข้ามาในทันที

เฉินตงไขว้เเขนเพื่อป้องกัน ก่อนจะตะเบงเสียงคำรามลั่น เท้าขวาค้ำพื้นเป็นฐานเเน่น ก่้อนจะโถมร่างใส่เอวของร่างนั่นจนล้มลงกับผืนน้ำ เฉินตงกดสีรษะของอีกฝ่ายลงน้ำทันที ก่อนจะใช้ร่างกดทีบลงซ้ำเพื่้อคาวามมั่นใจ ร่างของเขาอีกคนดิ้นพล่านๆ ก่อนจะเเน่นอน เเละกลับกลายเป็นน้ำ ทำให้เฉินตงทรุดลงน้ำอีกครั้ง

"บัดซบ เกิดะไรขึ้นกันเนี่ย" เขาร้องออกมา มองไปยังม่านน้ำตก ทว่าเงาสะท้อนในคราวนี้กลับไม่พุ่งออกมาโจมตีเจ้าของเเล้ว มันขยับตามตัวจริง ซึ่งทำให้เฉินตงโล่งใจ เพราะเป็นเงาจริงๆเเล้วคราวี้มิใช่ตัวเขาอีกคนอีก

เด็กหนุ่มมองไปยังม่านน้ำตก คาดว่านี่คือกับดักที่ใครสักคนวางไว้ เเสดงว่าถายในนั้มีบางอย่างที่ไม่พิเสษก็เลวร้ายอยู่เป็นเเน่เเท้

ทว่าตัวเลือกมีเเค่อย่างเดียว เฉินตงกัดฟันเดินฝ่าม่านน่ำลงไปยังด้านใน

ขั้นบันไดหยสลับกันทอดยาวขึ้น ไปยังบานประตูศิลาอันหนึ่ง เฉินตนกำหนดลมหายใจกาวเดินไปอย่างระมัดระวัง เขาค่อนข้างหวาดกลัวกับดักที่อาจมีอยู่ตามรายทาง เเต่เขาคิดผิด ตลอดการก้าวเดินบนขั้นบันได ไม่มีกับดักเเม้สักอันเดียวโผล่มาให้ตกใจ จึงก้าวฉับๆ ไปหยุดยืนที่ประตูศิลา

เฉินตงออกเเรงผลัก ทว่าไม่เเม้เเต่เคลื่อนมันได้สักนิ้วเดียว ทำให้เฉินตกนั่งลงเอาหลังพิงบานประตูไว้พลางถอนหายใจออกมา

"ต้องเป็นผู้ฝึกตนเท่านั้นกระมัง ถึงจะขยับประตูศิลานี้ได้ ไอ้คนทำก็ไม่นึกถึงคนธรรมดาบ้างเลยนะ" เฉินตงสบถขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเงียบงัน

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ผ่านไปกี่ชั่วยามหรือกี่วัน ร่างกายที่เหนื่อยล้าเริ่มสูญเสียความอบอุ่นไป

ใต้หน้ผา หุบเหวนี้ มีเเต่น้ำ ดังนั้นอากาศจึงชื้น เย็นยะเยือก ไม่นานเฉินตงก็หนาวปากตัวสั่นงันงก หวดนึกไปว่าเเท้จริงเเล้วตนต้องหนาวตายหรือนี่ ช่างอดสูจริงๆ ตกตายด้วยน้ำมืออสูรยังรู้สึกดีกว่าเสียอีก

ครืน

จู่ๆ ประตูบานใหญ่ก็เเปิดอ้า ทำให้เฉินตงที่เอนหลังพิงมันอยู่ถึงกับหงายหลัง

เขารีบลุกมองรอบๆ ที่นี่ไม่ต่างจากตรงทางเดินเลย ชื้นเเฉะ มีไข่มุกราตรีให้เเสงสว่าง เขานึกว่าจะมีห้องลับอะไรเเบบนั้นอยู่ ใครจะไปนึกเล่าว่า ดันมีเเค่โรงศพอันหนึ่งตั้วไว้ เเละที่สำคัญ ไอ้โลงนี่กลับทำให้พื้นรอบๆมันกลายเป็นน้ำเเข็ง ทำให้เฉินคตงมิกล้าเข้าไปใกล้ ได้เเต่เดินวนรอบๆ

จนมาสุดสายตาเข้ากับเสาต้นหนึ่ง ขนาดเท่าไม้หน้าสาม