ผมให้คนอื่นนอกจากผมและแอนรอห่างออกไป เพราะถ้าอีกฝ่ายเห็นว่าพวกเรายกโขยงกันมาเป็นสิบคน ผมว่าแค่เปิดบทสนทนาแบบที่เกิดขึ้นเมื่อครู่คงยาก เธออาจจะรีบหนีไปก่อน หรือไม่ก็เปิดฉากโจมตีใส่
"เธออยู่คนเดียว คงไม่ไว้ใจพวกเราง่าย ๆ หรอกค่ะ" แอนกระซิบหลังจากพวกเราล่าถอยออกมาข้างนอกอาคาร
"ไม่แปลก เป็นผมเองก็คงไม่ไว้ใจหรอก ที่ไม่โดนยิงใส่ตั้งแต่พ้นประตูเข้าไปเมื่อครู่ก็ถือว่าโชคดีแล้ว"
ผมไม่พูดเซ้าซี้ต่อ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมแพ้และทิ้งเป้าหมายไปง่าย ๆ
หลังจากตรวจสอบเครื่องวัดระดับแก๊สอีกรอบ ผมก็ตัดสินใจถอดหน้ากากออก
"แบบนี้ค่อยหายใจโล่งหน่อย"
แอนเห็นก็ทำตามทันที "งั้นฉันถอดออกบ้างดีกว่า"
ผมเรียกเมย์ออกมาช่วย จากนั้นก็ยึดเอาที่ตรงหน้าบ้านของเป้าหมายเป็นที่พักชั่วคราว พื้นดินถูกปูด้วยผ้ารอง โต๊ะ ข้าวของถูกนำออกมาจัดวางจนเต็มพื้นที่ เครื่องครัว จานชามหลายใบ และวัตถุดิบถูกเรียกออกมาจากการ์ด
แอนน่าจะเดาออกว่าผมจะทำอะไรแต่เธอก็ยังมีทีท่าประหลาดใจ ผมกำลังจัดเตรียมอาหารชุดใหญ่เพื่อทำให้ผู้จะกลายเป็นเพื่อนใหม่ของเราประทับใจ
ความจริงคือผมมีการ์ดอาหารที่พร้อมกินได้ทันที มีหลายใบในนั้นเป็นอาหารหรูที่ยุ่งยากในการจัดเตรียม แต่การนำอาหารออกมาแบบนั้นมันไม่น่าดึงดูดเท่ากับการทำอาหารให้ดูต่อหน้าที่จะส่งกลิ่นและเสียงไปถึงเป้าหมายได้อย่างแน่นอน
ดูเหมือนแผนจะได้ผล แค่ตอนที่ผม เมย์และแอนเตรียมวัตถุดิบ อีกฝ่ายก็แอบแง้มหน้าต่างออกมาดูเป็นระยะ
ว่ากันตามตรง ผมไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายชอบหรือไม่ชอบอะไร
ตัวผมเคยร่ำเรียนการทำอาหารมาบ้างแต่นับว่ายังเป็นแค่มือสมัครเล่นเท่านั้นเพราะการจัดลำดับความสำคัญให้ทักษะการทำอาหารของผมในช่วงก่อนหน้ามาถึงโลกนี้ค่อนข้างต่ำ อีกทั้งการเปิดหาอาหารจากการ์ดหรือให้คนอื่นทำอาหารให้ในโลกนี้ก็สะดวกสบายกว่า ผมจึงไม่ได้พัฒนาทักษะการทำอาหารเพิ่มขึ้นสักเท่าไร แต่เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ที่เป็นเป้าหมาย ผมตั้งใจทำอาหารที่ผมว่าจะกินเองต่อจากนี้
ออร์เดิร์ฟที่ผมเลือกคือเนคทารีนและชีสย่างครอสตินี เนคทารีนคือผลไม้ตระกูลเดียวกับลูกพีซ รสชาติหวานอมเปรี้ยว ส่วนครอสตินีคือชื่ออาหารเรียกน้ำย่อยแบบอิตาเลียน โดยการนำเอาของหลายอย่างเช่นชีสย่าง เนื้อ หรือผักมาใช้เป็นท็อปปิงของขนมปังย่าง ซึ่งสำหรับกรณีนี้ผมเลือกใช้ชีสจากนมแพะ ผลเนคทารีน และเสริมด้วยใบโหระพาอีกเล็กน้อย
"ทำอะไรกันน่ะ" เสียงตะโกนออกมาจากช่องหน้าต่างที่เปิดแบบแง้ม ๆ เอาไว้
คิดอยู่แล้วว่าน่าจะเรียกความสนใจได้ แต่ก็ไม่ได้หวังว่าตั้งแต่เมนูแรกมันจะได้ผล
"พวกเราแค่ทำอาหารค่ะ" เมย์อธิบาย
"ฉันตาไม่ได้บอดนะ เห็นแล้วว่ากำลังทำอาหาร แต่สงสัยว่าทำไมต้องมาทำกันหน้าบ้านคนอื่น อยากถูกยิงใส้แตกใช่ไหม"
ไม่ได้พูดขู่ธรรมดา เธอยื่นปืนออกมาจากหน้าต่างให้เห็นจะ ๆ
แอนทำใจดีสู้เสือ เธอพูดโดยพยายามไม่มองไปทางปืนที่ไม่ได้เล็งมาอย่างเฉพาะเจาะจง "เอ่อ ขอโทษนะคะ มีแค่เนินแถว ๆ นี้เท่านั้นที่ไม่มีกลิ่นแก๊ส แล้วก็เผื่อว่าคุณอาจเปลี่ยนใจอยากออกมานั่งกินด้วยกัน จะได้มั่นใจว่าพวกเราไม่ได้ใส่ของแปลก ๆ ลงไป"
"บอกแล้วไงว่าไม่ออกไปคุยด้วยหรอก ว่าแต่ เอ๊ะ… เธอหน้าคุ้น ๆ นะ"
"ฉะ ฉันเหรอคะ" แอนหันหน้าไปทางผู้ถือปืนด้วยอาการเกร็ง
"เธอ… เธอก็มาจากอีกโลกใช่ไหม อย่าบอกนะว่าเป็นนักร้อง"
"อ๊ะ ค่ะ แอนค่ะ นักร้อง.."
"แอนนี แอนนีจากวงเกิร์ลส์รีโวลูชัน!" เธอเผลอร้องออกมาเสียงดัง
"เอ่อ… ใช่ค่ะ"
แล้วบทสนทนาก็หยุดไป ฟังจากน้ำเสียงที่ตื่นเต้นจนเกือบลืมตัว ผมเดาว่าเธอคนนี้น่าจะเป็นแฟนคลับของแอนอย่างแน่นอน และเธอต้องเป็นคนที่ระวังตัวมากถึงขนาดที่แม้จะอยากออกมาคุยด้วยก็ยังเลือกระวังตัวแจ
ผมเชื่อว่าการดึงดูดเธอมาเข้าพวกใกล้จะสำเร็จแล้ว ต้องรออีกนิดเดียวเท่านั้น ผมและแอนตัดสินใจกินออเดิร์ฟกันอย่างเอร็ดอร่อยก่อนที่จะคุยกันอย่างออกรสว่าอยากกินอะไรกันต่อ