webnovel

ปาร์ตีมิชชัน (4)

ทุกคนตื่นเช้ากว่าปกติในวันนี้ พวกเขาต่างอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับไอเท็มใหม่ของผมแม้ว่าครึ่งหนึ่งของพวกเขาจะเป็นคนธรรมดาที่ไม่สามารถใช้แหวนวงนี้ได้ด้วยซ้ำ

"ตื่นเต้นอะไรกันขนาดนั้น"

"เออสิ ถ้าแหวนนี้มันทำงานได้แบบที่คิด มันน่าสนใจสุด ๆ ไปเลยไม่ใช่เรอะ"

"นั่นสิคะ ถึงการกลายเป็นอมตะจะดูน่ากลัว…"

ผมถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเริ่มอธิบาย "เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง"

"หา เดี๋ยวสิ นี่นายลองใช้มันแล้วเหรอ"

"อืมมม สี่สิบแปดรอบแล้ว สามรอบแรกพวกเราเคยมานั่งถกกันแบบนี้แล้วแหละ จนรอบหลัง ๆ ผมตัดสินใจไม่เล่าซ้ำ จนถึงรอบนี้ที่ตั้งใจว่าจะเป็นรอบสุดท้าย เลยต้องมาอธิบายซ้ำอีกที"

เจอคำอธิบายแบบนี้เข้าไปทุกคนก็ใบ้กินกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะเบนจามินที่ถึงกับอ้าปากค้าง เหมือนอยากถามแต่ก็เปลี่ยนใจปล่อยให้ผมเล่าต่อเอง

แหวนราชาผู้หวนคืนเป็นไอเท็มสุดโกงอย่างที่พวกเราทุกคนคิด มันใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง ข้อเสียของมันก็ดูเหมือนไม่ใช่ข้อเสียอย่างแท้จริง

"ก่อนอื่นเลย คงมีหลายคนอยากถามว่ามันใช้เก็บค่าประสบการณ์ เงิน หรือไอเท็มได้ไหม ขอยืนยันตรงนี้เลยว่าไม่มีอะไรที่เก็บกลับมาได้นอกจากความทรงจำในหัว"

แคทพยักหน้า "เหมือนการโหลดเซฟเกมสินะ ไม่ว่าจะเล่นคืบหน้าไปไกลแค่ไหน ตราบใดที่ไม่มีการเซฟก็ไม่มีประโยชน์ แล้วกรณีนี้การเซฟที่ว่าก็คือการขึ้นวันใหม่"

"แค่ได้รู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก็สุดยอดแล้ว" เบนจามินเปรยขึ้น

"ใช่ แค่ได้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็มีประโยชน์มากแล้ว นอกจากนั้นผมลองทดลองกับเรื่องอื่น ๆ ดูแล้ว ดูเหมือนว่าต่อให้พยายามออกกำลังกายแค่ไหน ร่างกายก็ยังกลับเป็นสภาพของตอนเช้าวันนี้เสมอ ทุกอย่างที่ใช้การเรียนรู้โดยร่างกายจะใช้ประโยชน์จากวังวนนี้ไม่ได้"

"แล้วถ้าเป็นการฝึกฝนเรื่องอื่นล่ะคะ"

ผมหันไปแสยะยิ้มให้กับแอน "ผมอ่านหนังสือสอนวาดรูปเล่มหนึ่ง แน่นอนว่าลองทดลองทำตามบทเรียนที่ให้มาด้วย หลังจากวนเวียนอยู่ราว ๆ หนึ่งเดือน ผลคือผมจำเนื้อหาในหนังสือได้อย่างแม่นยำแม้ว่าวันนี้จะยังไม่ได้เริ่มอ่านแม้แต่บรรทัดเดียว"

"โอ้ งั้นคุณคามิลก็วาดรูปได้แล้วเหรอคะ"

"ไม่ใช่" ผมส่ายหน้า "ถึงจำเนื้อหาในหนังสือได้ แต่ร่างกายกลับไม่ชินกับการวาดสักที ทั้งที่ใช้เวลาวาดอยู่หลายชั่วโมงและทำต่อเนื่องกันมากกว่าสามสิบครั้ง ถ้าให้วาดรูปตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากมือใหม่ที่มีแค่ทฤษฎีเต็มหัว"

"เสียดายนิด ๆ นะคะ"

"นอกจากจุดอ่อนที่ว่ามา ต้องระวังเรื่องการวนเวียนในสถานการณ์ที่หาทางออกไม่ได้ด้วย ยกตัวอย่างแบบสุดโต่งสักหน่อย เช่น การเสียชีวิตในช่วงเวลา 0.02 หมายความว่า ผู้ใช้แหวนจะถูกคืนชืพในเวลาหนึ่งวินาทีก่อนเสียชีวิตแล้วถ้าหาทางเอาตัวรอดในหนึ่งวินาทีนั้นไม่ได้ก็จะถูกวนเวียนตายซ้ำตายซ้อนในสภาพนั้นไปตลอดกาล"

"เรื่องข้อจำกัดพอจะเข้าใจแล้วล่ะ" คุณเจนนากระแอมเบา ๆ เพื่อเรียกความสนใจ "ที่ไม่เข้าใจคือนายทำยังไงถึงได้ทำให้แหวนทำงานได้เป็นสิบ ๆ ครั้ง ไม่ใช่ว่าต้องตายมันถึงจะทำงานเหรอ"

"เอ ก็ใช่น่ะสิครับ"

"อย่าบอกนะ…"

"สี่สิบเจ็ดครั้ง!"

"ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ ต่อให้มีระบบเกื้อหนุนทำให้แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป มนุษย์ก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบาง ยิ่งถ้าใช้ไอเท็มที่เหมาะสมช่วย…"

ผมหยุดพูดเพราะเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนของคุณเจนนา เบนจามินและจิมมี

มนุษย์แทบทุกผู้ทุกคนต่างหวาดกลัวความเจ็บปวดและความตาย แต่การปลิดชีพตัวเองนับสิบครั้งเพื่อทดสอบการทำงานของไอเท็มไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดสำหรับผม ตรงกันข้ามกับคนทั่วไปที่พวกเขาคงไม่ยอมรับความตายกันได้โดยง่ายหรอก

"ถ้ารู้วิธี มันไม่ได้เจ็บปวดอะไรนักหรอก"

ผมพูดด้วยความสัตย์จริง แต่ดูเหมือนยิ่งแก้ตัวก็ยิ่งดูแย่ มีแค่แอนกับแคทเท่านั้นที่ดูไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวใด ๆ ผมเดาว่าพวกเธอคงจะชินไปแล้ว

หลังการพูดคุยจบลง ผมชั่งใจอยู่นานว่าควรใช้แหวนอีกครั้งเพื่ออธิบายพวกเขาใหม่ดีหรือไม่ หลังจากใคร่ครวญอยู่พักนึง คำตอบคือมันไม่มีประโยชน์ เดิมทีพวกคุณเจนนาได้ตัดสินใจจะไปจากที่นี่แล้ว ไม่ว่าผมจะเปลี่ยนวิธีพูดแค่ไหนมันก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้ว่าผมและพวกเขาแตกต่างกันจนเกินไป ตราบใดที่ผมยังมองว่าโลกนี้เป็นเหมือนการแข่งขันที่ไม่มีวันจบสิ้น วันหนึ่งพวกเราก็คงต้องแตกหักกันสักวันโดยเลี่ยงไม่ได้

นี่คือช่วงเวลาที่ควรจะปล่อยให้มันเป็นอย่างที่ควรเป็น