วิคตัส เด็กหนุ่มผู้ใช้เวทย์มนตร์ทายาทคนสุดท้ายของตระกูลซัวร์แวซายน์ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ล่าแม่มดในอาณาจักร ด้วยความผิดพลาดของแรงระเบิดทำให้เกิดการบิดเบือนเส้นทางข้ามมิติอย่างกระทันหันก่อนจะถูกส่งไปยังโลกดึกดำบรรพ์ที่เต็มไปด้วยความป่าเถื่อนและการต่อสู้ เพื่อเอาชีวิตรอดวิคตัสจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางกลับไปยังโลกเดิมของเขาแต่หลังจากที่พบกับชายลึกลับที่ถูกกักขังทุกอย่างดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ #MAGIC #FANTASY #BOYLOVE #YAOI #ADVENTURE
เสียงเร่งเครื่องยนต์ยานบินดังสนั่นตลอดแนวป่าทึบที่อยู่ห่างออกไปจากกำแพงเมืองซิทราเดลล่า
ปะปนกับเสียงระเบิดของกระสุนปืนลำแสงหลายสิบลำที่พร้อมใจกันระดมยิงเข้าใส่เป้าหมายจากทุกทิศทางจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว
ขณะที่ Air-craft No.196-bis ยานบินขับเคลื่อนราคาหลายสิบล้านเหรียญทองบีเกลของตระกูลซัวร์แวซายน์ที่เคยสง่างามสมราคาตอนนี้กลับไม่หลงเหลือสภาพเดิมของมันเลยแม้แต่น้อย
อันตราย อันตราย ระบบป้องกันคงเหลือ 35%
เสียงเตือนดังขึ้นไม่หยุดหย่อนเป็นการตอกย้ำถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ ภายในห้องควบคุม
ผมสีเข้มเงางามของหญิงสาวถูกมัดรวบไว้อย่างเป็นระเบียบแม้ตกอยู่ท่ามสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อชีวิตแต่เส้นผมเหล่านั้นยังคงดูเรียบร้อยราวกับว่าตัวตนของเธอถูกแยกออกจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นโดยสิ้นเชิง
สายตาคมชัดจ้องมองไปที่หน้าจอที่เต็มไปด้วยสัญญาณแจ้งวิกฤตมากมายก่อนหันกลับไปยังเด็กชายด้านหลังที่พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์กองทัพของอาณาจักร
เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของลูกชาย ซีซิเลีย จึงหันกลับมาจดจ่ออยู่กับการบังคับยานบินอีกครั้ง
...ไม่สำเร็จสินะ
เธอคิดขณะมองดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
หากย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้คงต้องเริ่มจากงานประมูลครั้งใหญ่ในรอบสิบปีที่จัดขึ้นโดยตระกูลเซนทอเรียส ผู้ปกครองนครหลวงแห่งอาณาจักรซิทราเดลล่า
งานประมูลที่มีความสำคัญส่งผลให้ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากมีการจัดแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆและสมบัติมีค่าที่ทุกคนต่างหมายปอง
เหล่าขุนนางและครอบครัวชนชั้นสูงมากมายจะถูกเชิญเข้าร่วมงานเพื่อประมูลสิ่งของหายากที่ถูกค้นพบจากทั่วทุกสารทิศรวมถึง ตระกูลซัวร์แวซายน์ ที่เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมงานประมูลครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
นอกเหนือจากการประมูลสมบัติและวัตถุหายากบางอย่างการมาเยือนครั้งนี้ยังถือเป็นการพบปะเพื่อนเก่าของ ซีซิเลีย ซัวร์แวซายน์ ที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานหลายปีถึงแม้จะเป็นตระกูลที่คอยซ่อนตัวอย่างลึกลับมาโดยตลอดแต่พวกเขาก็ไม่อาจพลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้ได้
หากพูดถึงความลึกลับของคฤหาสน์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่ด้านหลังกำแพงเมืองในป่าลึก ทุกคนต่างรู้ดีว่านั่นคือสถานที่ของ ตระกูลซัวร์แวซายน์
ครอบครัวนักวิจัยพันธุศาสตร์ผู้สร้างและผลิตสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
หนึ่งในรายการสินค้าที่ปล่อยออกมาจำหน่ายบนท้องตลาดอย่างแพร่หลายคือ Potion Elixir ที่มีสรรพคุณเกินจินตนาการไปจนถึงเครื่องมือประดิษฐ์รูปร่างน่าสะพรึงที่เต็มไปด้วยประโยชน์และมีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่าเทคโนโลยีหุ่นยนต์พ่อบ้านรุ่นล่าสุดของโรงงานผลิตตระกูลเซนทอเรียส
คฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยความลับและนวัตกรรมล้ำสมัยนี้กลายเป็นหัวข้อสนทนาในวงกว้างโดยมีผู้ที่ทั้งชื่นชอบและไม่พอใจต่อสิ่งที่ตระกูลซัวร์แวซายน์ทำ
แม้สินค้าเหล่านี้จะมีออกมาจำหน่ายไม่บ่อยนักแต่กลับเป็นที่แย่งชิงของผู้คนและราคานั้นก็ไต่ระดับขึ้นสูงจนน่าตกใจไม่แพ้กัน
มีหลายคนที่พยายามติดต่อเพื่อผูกขาดสินค้าทั้งหมดเป็นการส่วนตัวแต่พวกเขาไม่สามารถค้นหาที่ตั้งของคฤหาสน์แห่งนี้ได้อย่างชัดเจน
.
.
.
ความลึกลับของคฤหาสน์ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่และความเงียบสงบทำให้มันยิ่งเป็นที่ต้องการและน่าค้นหาในขณะที่ความต้องการเพิ่มสูงขึ้นสถานะของตระกูลซัวร์แวซายน์ก็ยิ่งมั่นคง
สินค้าของพวกเขากลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและความก้าวหน้าที่ฉีกกฏเกณฑ์ทางเทคโนโลยี ทำให้คฤหาสน์แห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นของผู้คนที่ต้องการครอบครองสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถมีได้
ทีมทหารรับจ้างที่ถูกส่งออกไปเพื่อสะกดรอยตามมักถูกทิ้งไว้กลางป่านอกเมืองเป็นเวลานานหลายสิบวัน กรณีร้ายแรงที่สุดเคยมีคนหายไปอย่างไร้ร่องรอยก่อนกลับออกมาในสภาพที่ไม่สามารถสื่อสารกับผู้คนได้อีกหรือแม้แต่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อมีกระแสข่าวโจมตีเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดตระกูลซัวร์แวซายน์จึงต้องออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์น่าสงสัยทั้งหมดนี้ผ่านช่องทางข่าวสารดาวเทียมแห่งประชาชาติแต่ก็มีเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้น ตัวอย่างเช่น:
" เราได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตระกูลซัวร์แวซายน์ขอยืนยันว่าความปลอดภัยของทรัพย์สินเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด เราจะไม่ยอมให้ความวุ่นวายหรือข่าวลือที่เสียหายทำลายความสงบสุขของเรา "
การชี้แจงนี้ส่งผลให้เกิดความสงสัยมากยิ่งขึ้นในหมู่ประชาชน
ผู้คนต่างตั้งคำถามว่าความจริงนั้นคืออะไรและเบื้องหลังของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีอะไรซ่อนเร้นอยู่หรือไม่ เสียงกระซิบในสังคมเริ่มดังขึ้นอย่างเงียบ ๆ
แม้ปัจจุบันโลกจะเต็มไปด้วยหุ่นยนต์ไฮเทคยานบินความเร็วแสงและสมองกลอัจฉริยะมากมาย แต่กลับไม่มีใครสามารถให้คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวแปลกประหลาดเหล่านี้ได้เลย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆตระกูลซัวร์แวซายน์ยังคงเป็นปริศนาและแหล่งกำเนิดของความสงสัยโดยเฉพาะเมื่อผู้คนเริ่มมองเห็นความผิดปกติในเทคโนโลยีที่พวกเขาเคยเชื่อมั่น
แม้แต่เครื่องระบุพิกัดตำแหน่งที่มีความแม่นยำที่ถูกใช้งานจากหน่วยงานรักษาความปลอดภัยของกองทัพระดับสูงยังคงไม่สามารถค้นหาที่ตั้งของตระกูลซัวร์แวซายน์ได้อย่างแน่ชัด
ทำให้เกิดข้อสงสัยในประสิทธิภาพของอุปกรณ์จนสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆตามมาว่าเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเหล่านี้จริงๆแล้วมีความสามารถอย่างที่อวดอ้างไว้หรือไม่
.
.
.
.
.
หลังจากเสร็จสิ้นงานประมูลซีซิเลียและลูกชายของเธอจัดเตรียมสัมภาระทั้งหมดก่อนเดินทางกลับพร้อมกับหุ่นยนต์บอดี้การ์ดจำนวนมาก
ระหว่างทางกลุ่มของเธอถูกกองกำลังไม่ทราบชื่อล้อมวงเข้ามาโจมตีอย่างหนักหน่วงหากเป็นเพียงการลอบโจมตีทั่วไปคงไม่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่พวกเขาได้มากนัก
แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของซีซิเลียเต้นผิดจังหวะคือเมื่อเธอติดต่อกลับไปยังคฤหาสน์ผ่านจอฉายแสงของระบบยานบิน ภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างเมื่อสิ่งที่ไม่ควรจะมีปรากฏบนแผ่นฟิล์มของความเป็นจริง
หน้าจอไฮเทคเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดภายในคฤหาสน์แสดงให้เห็นถึงความโกลาหลและความเสียหายที่เกิดขึ้นภาพของหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยที่ถูกทำลายกลายเป็นเศษซากกระจัดกระจายตามพื้น
ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยควันไฟที่ลุกโชนพร้อมกับเสียงกรีดร้องของคนและเสียงระเบิดที่ดังเข้ามาในหูของเธอราวกับว่าหายนะได้เข้าโจมตี
ซีซิเลียรู้สึกเหมือนเวลาหยุดชะงักเธอพยายามหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกสติแต่ภาพที่เธอเห็นนั้นทำให้หัวใจของเธอจมดิ่งลงไปในความกลัว
เธอรู้ดีว่าอันตรายกำลังเข้ามาใกล้และเธอต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องลูกชายจากความชั่วร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามา
ท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนเหล่าแม่มดที่เคยติดตามเธอมาหลายร้อยปีถูกจับตรึงอย่างโหดร้าย ก่อนถูกเผาทั้งเป็น
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน เสียงกรีดร้องที่สิ้นหวังของผู้คนในคฤหาสน์ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของเธอและลูกชายจนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถลบเลือนออกไปได้
"ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้…เป็นไปได้อย่างไร?"
ซีซิเลียคิดในใจขณะมองดูทะเลเพลิงที่ลุกโชน
ก่อนหน้านี้เธอยังคงเข้าใจว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงการปล้นสมบัติที่เธอประมูลมาได้
แต่หลังจากเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้นภายในคฤหาสน์ กลับทำให้มุมมองของเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
หากตำแหน่งของคฤหาสน์ถูกค้นพบเกรงว่าความลับของตระกูลที่เก็บซ่อนมาตลอดหลายปีจะถูกเปิดเผยออกมาในที่สุด
ความรู้สึกของการสูญเสีย ความกลัว และความโกรธปะทุขึ้นในใจของเธอ
ทันทีที่ชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ที่หายไปถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ซีซิเลียก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดในทันที
หากใช้ช่วงเวลานี้ทำลายล้างตระกูลของเธอที่มีเบื้องหลังต้องห้าม พร้อมสร้างฉากกลบเกลื่อนให้กลายเป็นเพียงการปล้นชิงสมบัติจากงานประมูล แม้ผู้คนภายนอกจะตั้งคำถามแต่คงไม่มีใครคาดเดาถึง ตระกูลแม่มดโบราณ ที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ตระกูลเซนทอเรียสซึ่งเป็นผู้จัดงานประมูลครั้งนี้จะไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยจากฝูงชนยังคงเต็มไปด้วยภาพลักษณ์ที่ขาวสะอาดและน่าเชื่อถือของชาวเมืองอย่างเช่นเคย
" ช่างเป็นแผนการต่ำช้าสิ้นดี!! "
ซีซิเลียเอ่ยขณะมองภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น
" พวกมันคิดจะทำลายเราเพื่อปกปิดความลับของตัวเอง "
ช่างเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมเสียเหลือเกิน...ไอ้พวกหมาลอบกัด!!!
"สัญญาณขอความช่วยเหลือทั้งหมดถูกปิดกั้น.."
วิคตัสกล่าวด้วยน้ำเสียงวิตกขณะพยายามเชื่อมต่อสัญญาณเขาสังเกตเห็นว่าเครื่องมือสื่อสารของพวกเขาถูกระงับจากสาเหตุที่ไม่แน่ชัดความรู้สึกไม่สบายใจเริ่มก่อตัวในอกของเขา
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของเขาซีซิเลียก็รีบเปลี่ยนระบบการบินอัตโนมัติไปสู่โหมดความเร็วสูง ขณะเดียวกันเธอหันไปเปิดตู้นิรภัยด้านข้างดวงตาของเธอส่องประกายด้วยความมุ่งมั่น
ในชั่วพริบตาไม้กายสิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นจากอากาศและตกใส่มือของเธออย่างแม่นยำ ซีซิเลียรู้สึกถึงพลังที่พุ่งเข้ามาในมือได้ทันทีเมื่อเธอจับมันไว้แน่น
Veritas, revelatio, ostende mihi!
แม่มดสาวเริ่มร่ายคาถาใส่อัญมณีสีเขียวที่เธอได้รับมาจากงานประมูลโดยไม่รอช้า
เสียงของเวทมนตร์ที่ดังขึ้นในอากาศทำให้บรรยากาศรอบข้างสั่นสะเทือนจากนั้นสิ่งของทั้งหมดที่ถูกรวบรวมไว้ก็ถูกดูดกลืนหายเข้าไปในอัญมณีก่อนจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นสร้อยคอสีดำที่มีลวดลายสลับซับซ้อนราวกับมันถูกสร้างขึ้นจากความมืดมิดที่มีชีวิต
หลายร้อยปีที่ผ่านมาเธอปกปิดตัวตนของทุกคนในตระกูลแม่มดเป็นอย่างดีพวกเขาระมัดระวังในทุกการกระทำ
เธอเตือนให้ทุกคนจำไว้ว่าหากไม่มีคำสั่งจากเธอ จะไม่มีใครสามารถร่ายคาถานอกพื้นที่มนตร์คุ้มกันขั้นสูงของเธอได้
ทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นล้วนมีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาความลับของตระกูลให้คงอยู่
วิตตัสมองเห็นทุกการกระทำตั้งแต่ต้นจนจบและลืมตากว้างด้วยความตกใจ
" ท่านแม่..เรากำลังร่ายคาถานอกเขตคฤหาสน์ ! "
ซีซิเลียเงยหน้าขึ้นมองลูกชายเพียงคนเดียวของเธอด้วยสายตาซับซ้อนชั่วขณะก่อนปรับสีหน้าให้สงบนิ่งราวกับเธอได้ตัดสินใจบางอย่างได้ในที่สุด
"ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังอีกต่อไป สัญญาณขอความช่วยเหลือถูกระงับโดยเจตนาของพวกเซนทอเรียสไม่ช้าก็เร็วพวกมันจะตามเรามาทันอยู่ดี "
" ตอนนี้แม่ไม่มีเวลาอธิบายรายละเอียดแต่ลูกต้องเก็บสร้อยคอเส้นนี้ไว้ให้ดี แม่รวบรวมสิ่งของทั้งหมดใส่ไว้ด้านในจงใช้มันเพื่อปกป้องตัวเอง อย่าไว้ใจใครดูแลตัวเองให้ดี"
เธอกระซิบสั่งลูกชายด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ขณะที่มือของเธอกำสร้อยคอแน่น รู้สึกถึงน้ำหนักของความรับผิดชอบที่ตกอยู่บนบ่าเธอ
ในชั่วขณะนั้นสัญชาตญาณของแม่มดสาวในตัวเธอได้เตือนให้เธอรู้ว่านี่คือการต่อสู้เพื่อชีวิตและอนาคตของทั้งสองคน
"ท่านแม่.....!!"
" ฟังแม่ให้ดี ครั้งนี้แม่จะร่ายคาถาส่งลูกไปยังอีกฟากหนึ่งของป่าทางใต้มันห่างจากจุดที่เราอยู่ในตอนนี้หลายร้อยไมล์เมื่อถึงเวลานั้นลูกต้องรีบหนีออกไปทันที "
" ซ่อนตัวให้ห่างจากผู้คนของอาณาจักรอย่าให้ใครจับลูกได้เพราะลูกคือความหวังสุดท้ายของแม่ เป็นความหวังเดียวของตระกูลเราที่เหลืออยู่ในตอนนี้ "
โดยไม่ทันให้ลูกชายของเธอได้เอ่ยสิ่งใด ซีซิเลียก็เริ่มสร้างวงกลมเวทย์ที่เธอได้ศึกษามาจากตำราโบราณทันที
วงกลมถูกวาดด้วยแสงสีฟ้าสว่างจ้าราวกับกำลังนำพาพลังงานจากโลกแห่งเวทมนตร์มารวมกัน
" Invisibilia Via! "
เสียงดังก้องกังวานไปทั่วอากาศขณะที่ไม้คทาคริสตัลในมือขยับวาดอักษรรูนต่างๆอย่างประณีต อักษรรูนกลายเป็นแสงสว่างที่พลิ้วไหวอยู่เหนือวงกลมเวทย์ราวกับมีชีวิต
แม้จะเป็นครั้งแรกที่เธอใช้มนต์เคลื่อนย้ายระดับสูงเช่นนี้ แต่แม่มดสาวกลับร่ายคาถาออกมาได้อย่างชัดเจนไม่มีสะดุด ท่วงทำนองของการร่ายมนต์ผสานกับการเคลื่อนไหวของไม้คทาคริสตัลในมือของเธอคอยขยับวาดอักษรรูนได้อย่างแม่นยำราวกับบทเพลงแห่งสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
" จำไว้นะลูกรักเมื่อถึงปลายทาง อย่าให้ใครตามทัน! "
เธอเอ่ยเตือนด้วยเสียงกระซิบขณะที่พลังเวทย์เริ่มรวมและขยายตัวขึ้นเหนือวงกลม
แม้จะไม่แน่ใจว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไรแต่เธอรู้ว่ามันคงดีกว่าการยืนรอความตายอยู่ที่นี่ด้วยกันทั้งสองแม่ลูกอย่างแน่นอน
ข้อความในคัมภีร์อธิบายถึงวิธีสร้างคาถาพอทัลระดับสูงที่ยากเกินกว่าที่แม่มดทั่วไปจะเข้าใจได้ สิ่งที่ทำให้การร่ายคาถานี้ทรงพลังยิ่งขึ้นคือการแลกเปลี่ยนพลังเวทย์ที่มีต้นกำเนิดจากผู้ร่ายเอง
การใช้คาถานี้ต้องการสมาธิและความรู้ที่ลึกซึ้งในศาสตร์แห่งเวทมนตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำความเข้าใจถึงการเชื่อมโยงช่องทางระหว่างมิติ
คาถาพอทัล คือมนตร์ที่ใช้สำหรับการส่งผู้คนออกไปยังอีกที่หนึ่งหรือมิติอื่นๆโดยพลังที่ใช้แลกเปลี่ยนจะถูกดูดกลืนมากน้อยแตกต่างกันไปตามระยะทางของจุดหมาย
ยิ่งระยะทางห่างไกลมากเท่าไรก็ยิ่งต้องใช้พลังมากขึ้นเท่านั้น การเปิดพอทัลที่ทรงพลังจำเป็นต้องมีการชดเชยในรูปแบบของพลังชีวิตหรือพลังเวทย์ที่มีค่ามากมาย
ด้วยพลังเวทย์ในตอนนี้และสิ่งที่เธอต้องจัดการตอนสุดท้าย ซีซิเลียจึงรู้ดีว่าเธอไม่อาจไปพร้อมกับลูกชายของเธอได้ การใช้คาถานี้หมายถึงการเสี่ยงต่อการสูญเสียพลังชีวิตของตนเองในขณะที่การรักษาความปลอดภัยให้กับวิตตัสคือสิ่งสำคัญที่สุด
หลังจากนี้มันคือการเดินทางของลูก แม่ขออวยพรจากหัวใจ
เธอคิดในใจ ขณะที่พลังเวทย์ที่รวบรวมไว้เริ่มเดือดพล่านในร่างกายของเธอ
เสียงของอักษรรูนที่หลั่งไหลออกมาจากริมฝีปากของเธอมีน้ำหนักและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกอย่างสำเร็จลุล่วง แม้จะต้องจ่ายราคาสูงแต่ความหวังสุดท้ายของตระกูลคือสิ่งที่เธอจะต้องปกป้องด้วยทุกวิถีทาง
...ทุกชีวิตมักพบเจอกับเส้นทางการตัดสินใจที่ยากลำบากและครั้งนี้เธอก็ได้เลือกมันแล้วด้วยเช่นกัน...
ทันทีที่คาถาถูกร่ายจนเสร็จสิ้นวงเวทย์สีเข้มก็ส่องแสงเปล่งประกายเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความสำเร็จของเวทย์มนตร์
แสงผีเสื้อสีชมพูระยิบระยับพวยพุ่งขึ้นทะยานสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็วจนทำให้กลุ่มคนที่กำลังไล่ตามด้านนอกตกตะลึง
ซีซิเลียรับรู้ได้ถึงพลังเวทย์ที่ไหลผ่านร่างกายเธอเหมือนมีเสียงกระซิบของจิตวิญญาณที่เคยร่ายมนตร์นี้วนเวียนอยู่รอบตัวเธอ
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่เธอปกปิดตัวตนของแม่มดเธอได้เฝ้าดูการเติบโตของวิคตัสด้วยความรักและความเอาใจใส่
"ลูกแม่..." เธอกระซิบเบาๆรู้สึกถึงน้ำตาที่เริ่มคลอเบ้าครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้พูดกับเขา
ขณะเดียวกันบริเวณรอบๆเริ่มสั่นสะเทือนด้วยเสียงกรีดร้องของผู้คนที่หวาดกลัว ความตื่นตระหนกดังขึ้นเป็นเสียงนกกาเหว่าที่ร้องหาน้ำฝนในคืนร้อนที่ไม่มีวันจางหาย
ซีซิเลียรู้สึกถึงความดึงดูดของพลังที่พุ่งออกมาจากการร่ายเวทย์ เธอรู้ว่ามันกำลังทำให้กลุ่มคนที่ไล่ตามเธออยู่หวาดกลัวและสับสน
" โอ พระเจ้า...ข่าวลือเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด! ตระกูลซัวร์แวซายน์เป็นพวกแม่มด!"
เสียงร้องอุทานดังขึ้นเมื่อเหล่านักฆ่าด้านนอกได้เห็นพลังลีกลับด้วยสายตาของพวกเขา
" ปล่อยปืนใหญ่ลำแสงทำลายยานบินพวกมันเดี๋ยวนี้!! "
ผู้บัญชาการสั่งเสียงกร้าวมองไปยังยานบินที่ลอยอยู่เหนือศีรษะ
ความตื่นตระหนกเกิดขึ้นในแววตาของนักฆ่าจำนวนมากที่อยู่รอบข้าง
พวกเขารีบระดมยิงปืนลำแสงใส่เป้าหมายอีกครั้ง ความกลัวและความหวาดระแวงเต็มไปทั่วอากาศทุกกระสุนที่พุ่งออกไปดูเหมือนจะเป็นการท้าทายโชคชะตา
เสียงกระสุนแสงดังกึกก้องราวกับเสียงดนตรีแห่งสงครามกลางเมืองที่ไม่อาจหยุดยั้ง
"อย่าให้พวกมันร่ายคาถาสำเร็จ!"
ท่ามกลางความโกลาหลซีซิเลียจับจ้องไปยังวงเวทย์ที่กำลังส่องแสงตรงหน้าที่ส่งสัญญาณบ่งบอกถึงการเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่
ในลำแสงเวทย์พอทัล วิคตัสพยายามตะโกนเรียกแม่ของเขาด้วยน้ำตาที่ไหลรินเต็มใบหน้า หวังจะออกจากวงเวทย์ที่ล้อมรอบเขาแต่คาถาระดับสูงนี้สร้างเกราะป้องกันขึ้นโดยอัตโนมัติแม้แต่เสียงของเขาก็ไม่อาจลอดผ่านออกไปได้
ไม่มีใครได้ยินความเจ็บปวดในหัวใจของเขาเลย
ซีซิเลียมองดูลูกชายเพียงคนเดียวของเธอด้วยความเจ็บปวด
ขณะที่ตัวยานค่อยๆนับถอยหลังเข้าสู่การทำลายตัวเองเสียงเตือนภัยยังคงดังลั่นอยู่รอบตัวเธอทุกวินาทีแม้ฟังดูวุ่นวายไปหมดแต่กลับไม่ส่งผลรบกวนเธอเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นลำแสงเวทย์พอทัลค่อยๆลอยขึ้นไปในที่สุดเธอหลับตาลงอีกครั้งเพื่อรวมรวบสมาธิอีกครั้ง
"ฮึ...ถ้าคิดจะมากัดผู้คนในตระกูลของฉันพวกแกทั้งหมดจงเตรียมรอรับหายนะได้เลย!"
เสียงของเธอดังก้องไปในอากาศขณะที่อาคมเริ่มก่อตัว มันเปล่งแสงสีดำราวกับความมืดที่พร้อมจะกลืนกินทุกสิ่ง
พลังอันมหาศาลนี้คือความโกรธแค้นของแม่มดผู้ไม่เคยยอมแพ้และนี่คือจุดเริ่มต้นของหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น
เสียงร่ายคาถาครั้งนี้ฟังดูแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ราวกับเสียงของพายุที่คำรามในคืนที่ไร้ซึ่งแสงดาวลำแสงสีสันหลากหลายถูกปล่อยออกมาอย่างดุเดือดพร้อมกับอักษรรูนสีแดงที่ลอยขึ้นในอากาศ
วงเวทย์แห่งเลือดปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าของซีซิเลียสร้างแรงกดดันมหาศาลที่กระจายออกไป
ท่ามกลางกระสุนปืนที่พุ่งเข้าใส่ยานบินเสียงที่ดังระงมถูกกลบด้วยพลังอำนาจของเวทมนตร์ที่เธอเรียกขึ้นมา
เมื่อคาถาบทสุดท้ายสิ้นสุดระเบิดทรงอานุภาพก็แผ่กระจายออกไปเป็นวงกว้างกระทบทุกสิ่งมีชีวิตในบริเวณด้วยความรุนแรงที่ไม่มีใครคาดคิด
ทุกสิ่งที่อยู่ในเส้นทางนั้นถูกทำลายล้างจนสิ้นซากราวกับว่าความโกรธของแม่มดได้ปลดปล่อยพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมาในชั่วพริบตา
คล้ายกับโชคชะตาที่เล่นตลกแรงระเบิดของพลังเวทย์ที่เกินการควบคุมในครั้งนี้ได้พุ่งชนเข้ากับลำแสงสีชมพูที่กำลังจางหายไปก่อนส่งเสียงดังสนั่นราวกับฟ้าร้องขนาดใหญ่
ท่ามกลางความวุ่นวายและการสูญเสียชีวิตครั้งใหญ่นักฆ่าหลายคนถูกสังหารลงในชั่วพริบตาโดยที่ไม่ทันได้ตระหนักถึงอันตรายที่เข้ามาใกล้
บางคนที่มีประสบการณ์ได้หลบหนีออกไปได้อย่างชาญฉลาดและรีบระดมกำลังออกห่างรัศมีการระเบิดได้อย่างหวุดหวิด
เมื่อพวกเขาคิดว่าตัวเองสามารถหลบหนีออกมาได้สำเร็จ จู่ๆ กลุ่มผีเสื้อสีแดงเข้มจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากกองเพลิงบินตามติดพวกเขาอย่างรวดเร็วในความมืดมิด
สร้างฉากโกลาหลที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกครั้ง เพียงไม่นานเหล่านักฆ่าที่สัมผัสกับแสงของผีเสื้อก็ถูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง
เสียงของร่างมนุษย์ที่ถูกแรงระเบิดจากภายในดังขึ้นคล้ายกับงานฉลองที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นความหายนะในค่ำคืนแห่งการสิ้นสุดของตระกูลซัวร์แวซายน์
ไม่มีใครคาดคิดว่ากองทัพนักฆ่าระดับสูงจำนวนมากจะถูกทำลายลงอย่างง่ายดายเพียงในชั่วพริบตา ไม่มีเสียงคร่ำครวญ มีแต่เสียงคำรามของความหวาดกลัวที่กึกก้องดังอยู่ในอากาศ
ทันทีที่ต้นกำเนิดพลังเวทย์ของแม่มดสูญหายไป เครื่องรางแห่งหายนะ ที่ฝังไว้ใต้กองเพลิงของคฤหาสน์ก็ทำงานโดยอัตโนมัติ
กลุ่มคนที่ยังคงเพลิดเพลินกับการรวบรวมทรัพย์สินต่างจมหายไปในเปลวเพลิงของแรงระเบิดก่อนที่พวกเขาจะทันได้รู้ตัว
บริเวณนอกกำแพงเมืองกลับเต็มไปด้วยเสียงดังสั่นสะเทือนคล้ายกับเสียงคำรามของมังกรที่ถูกปลุกขึ้นมา
ในที่สุดหน่วยรักษาความปลอดภัยก็ได้รับคำสั่งอย่างเร่งด่วนให้ออกมาตรวจสอบสถานการณ์
ใช้เวลาเพียงไม่นานพวกเขาก็พบตำแหน่งที่มาของเสียงที่ดังสนั่นในอากาศทุกคนต่างระงับอาการตื่นตระหนกเมื่อพวกเขาพบซากยานบินที่ถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลอง
ท่ามกลางเศษซากและกลุ่มควันบรรยากาศสนามรบเต็มไปด้วยความมืดมิดและกลิ่นคาวของเลือดที่ยังไม่จางหาย
ความยิ่งใหญ่และชื่อเสียงของกลุ่มทหารรับจ้างในวันนี้กลับกลายเป็นเพียงเศษเหล็กไร้ค่าและวงจรชีวิตของมันได้สิ้นสุดลงอย่างสิ้นเชิง
ในเช้าวันต่อมาข่าวที่น่าตกใจจนทำให้ทุกคนพูดถึงกันอย่างต่อเนื่องตลอดหลายวันคือ
. . . การล่มสลายของตระกูลซัวร์แวซายน์ . . .