webnovel

ตอนที่33.

"เยว่ชิง"หลงจือหยางพึมพำเรียกชื่อคนรักที่นอนหลับบนเตียงกว้าง ใบหน้างดงามที่หัวคิ้วขมวดเข้าหากันราวกับฝันร้าย หลงจือหยางใช้ฝ่ามือลูบศีรษะก้มหน้าจูบที่หน้าผากมนแผ่วเบา

หลงจือหยางไม่อยากให้เยว่ชิงต้องพบเจอเรื่องร้ายๆ แม้แต่ในฝันก็ตาม

เจ้าตัวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดไปตามร่างกาย เรือนกายบอบบางคนรักปรากฏแก่สายตาหลงจือหยางลูบคลำอีกฝ่ายก็จะคิดในหัวว่าจะขุนเจ้าจิ้งจอกน้อยให้อ้วนขึ้นยังไงดี เพราะทุกวันนี้คนน้องก็กินเยอะเพียงแค่ไม่อ้วนขึ้นเท่านั้น

เยว่ชิงที่นอนสลบอยู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองคนพี่ที่มีสีหน้าเป็นห่วงก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา ยามที่เยว่ชิงยิ้มให้หลงจือหยางก็คลายกังวล โอบประคองเยว่ชิงให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะสวมกอดแนบแน่น

"ไม่เป็นอะไรแล้วนะ พี่ห่วงเธอแทบแย่"หลงจือหยางจูบขมับเบาๆ เยว่ชิงยกมือโอบกอดคนพี่กลับคืน ใบหน้าสวยซุกซบหัวไหล่หนา

"ผมขอโทษครับ"เยว่ชิงพูดเสียงเบา ถูไถใบหน้าน้อยๆ อย่างรู้สึกผิด ยิ่งตอนลืมตาขึ้นมาเห็นดวงตาของหลงจือหยางเต็มไปด้วยความกังวลและความห่วง เยว่ชิงก็รู้สึกผิด

"ขอโทษทำไม หืม"หลงจือหยางดันคนน้องห่างจากร่างกายนิดหนึง เพื่อมองหน้าจ้องตาอีกฝ่ายให้ชัดๆ ฝ่ามือหนากุมมือเล็กเอาไว้ใช้นิ้วโป้งลูบไล้ให้คนน้องคลายกังวล

"ก็ ที่ทำให้พี่เป็นห่วง"เยว่ชิงอุบอิบก้มใบหน้าลงเก็บซ่อนใบหน้าแดงระเรื่อที่มันเขินอายต่อสายตาคู่คมที่จับจ้องมาอย่างไม่วางตา

"หึ เด็กบ้อง เรื่องแบบนี้ไม่ต้องขอโทษพี่ด้วยซ้ำ เป็นพี่มากกว่าที่ยังไม่แข็งแกร่งพอ"หลงจือหยางจับปลายคางคนน้องให้เงยหน้าขึ้น มองดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสั่นระริกอย่างเย้ายวน หลงจือหยางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

...มันใช่เวลาคิดลึกไหมเนี่ย

"อย่าว่าตัวเองแบบนั้นครับ พี่หยางของผมเก่งที่สุดในโลก"เยว่ชิงตื่นตระหนกยกสองมือทาบทับแก้มคนพี่ หลงจือหยางโอบกอดเอวบางเมื่อคนน้องถลาเข้าหาอย่างรวดเร็ว

...ตอนนี้คิดลึกได้ยังนะ

"อ๋อ พี่หยางของเยว่ชิงนี่เอง"หลงจือหยางคลี่ยิ้มออกมา จากนั้นก็ใช้ใบหน้าเข้าใกล้ใบหน้าคนน้องเอียงซ้ายเอียงขวาราวกับล้อเลียนคนรัก

"งื้อ อย่าแซวน้อง"เยว่ชิงที่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปก็ทิ้งตัวซุกหน้าอก 

"เงยหน้าเร็วเข้า มอบจูบให้พี่หยางของเยว่ชิงหน่อยครับ อยากได้จูบหวานๆปลอบประโลมหัวใจ"หลงจือหยางที่เห็นคนน้องเขินอายก็เรียกร้องเล็กๆ เยว่ชิงสายตาลอกแลกยามที่หลงจือหยางให้จูบปลอบใจ พอคิดว่าเพิ่งผ่านเหตุการณ์ขวัญผวามาได้ไม่นานก็เงยหน้าขึ้น

"หลับตาก่อนครับ"เยว่ชิงตอบอ้อมแอ้มเสียงแผ่วเบา หลงจือหยางหลับตาพริ้มรอรับริมฝีปากนุ่มๆ 

เยว่ชิงยู่ปากเล็กน้อยก่อนจะหลับตาปี๋ยื่นริมฝีปากจุ๊บไปที่ปากของหลงจือหยางแล้วถอนตัวออกมาอย่างรวดเร็ว

หลงจือหยางที่คาดการณ์เอาไว้ก็รวบร่างคนน้องแนบลำตัว กดริมฝีปากจนเยว่ชิงครางออกมา เรียวลิ้นซุกซนกำลังไล่ต้อนลิ้นเล็กๆภายในโพรงปากที่กำลังพยศ

ในฐานะที่หลงจือหยางเป็นผู้ชายเอาแต่ใจ เขาย่อมต้องการปราบพยศให้สำเร็จโดยเร็ว ไม่นานคนน้องในอ้อมแขนก็ตัวอ่อนระทวย สิ้นฤทธิ์ภายในจูบเดียว

"แฮ่กๆ"เยว่ชิงหอบหายใจเล็กน้อย ในขณะที่หลงจือหยางก็ยิ้มออกมาเมื่อได้รับจูบหวานๆปลอบใจ เยว่ชิงยกกำปั้นทุบหน้าอกไปหนึ่งทีเมื่อเห็นคนพี่ทำหน้าระรื่น ทั้งๆที่บอกให้เขาเป็นฝ่ายจูบแท้ๆ อีกฝ่ายต่างหากที่ปล้ำจูบเขา

"โอ๋ๆ ไม่งอแงนะคะ"เยว่ชิงที่อยากจะต่อว่าคนพี่สักหน่อยก็หยุดชะงักและศิโรราบต่อ 'นะคะ' ของคนพี่เป็นที่เรียบร้อย

ทางฝั่งเสวียนอวี้ที่กำลังเช็ดตัวให้กับจิวอิงเมื่อเช็ดตัวเสร็จเรียบร้อยก็นั่งลงข้างๆยกมือของจิวอิงมากุม ริมฝีปากพรมจูบที่ฝ่ามือบาง มองคนน้องที่หลับตาพริ้มอย่างสงบบนเตียง

ไม่นานจิวอิงก็ลืมตาขึ้นมองเสวียนอวี้ที่กุมมืออยู่ข้างๆที่นั่งซึมก้มศีรษะวางบนหลังมือตัวเอง หัวใจดวงน้อยของจิวอิงอุ่นวาบ ตั้งแต่เกิดมาก็มีเสวียนอวี้ที่เป็นบุรุษคนเดียวที่เป็นห่วงเป็นใยขนาดนี้

ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าความเป็นห่วงที่คนในครอบครัวมอบให้กันจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้จิวอิงอยากลองให้โอกาสผู้ชายคนนี้ได้ลองเข้ามาเป็นคนในครอบครัวของเขา

ครอบครัวที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง

"พี่อวี้"เสวียนอวี้ที่นั่งคอตกเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงแหบแห้งของจิวอิง สายตาคู่คมเห็นคนน้องยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้ หัวใจที่รุ่มร้อนราวกับถูกลาวาเผาไหม้จนร้อนกลายเป็นอุ่นวาบในทันควัน

"กินน้ำหน่อยนะ"เสวียนอวี้ปล่อยมือของจิวอิงจากนั้นก็ยกแก้วน้ำป้อนคนน้อง จิวอิงในตอนนี้ยังดูเหมือนเด็กอายุสิบเจ็ดสิบแปด ทำให้เสวียนอวี้มีอารมณ์คุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง เด็กน้อยคนนี้ไม่สมควรเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้เลยจริงๆ

"อย่าห่วงเลยครับ ครั้งต่อไปผมไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน"จิวอิงยกมือไปกอบกุมมือของเสวียนอวี้ คนพี่ตาโตปรากฏรอยยิ้มดีใจออกมา หากอีกฝ่ายมีหางคงส่ายพึบพับไปมาแล้ว

เสวียนอวี้พยักหน้ารับ ไม่ว่าคนน้องจะพูดอะไรเขาก็พยักหน้าทั้งนั้นแหละ ฝ่ามือหนาลูบศีรษะคนน้องก่อนจะยื่นหน้าผากไปแนบชิดกับหน้าผากอีกฝ่าย

เสวียนอวี้เองก็ลองเชิงแบบเก้ๆกังๆ ราวกับว่าสองจิตสองใจ ไม่รู้ว่าถ้าทำลงไปน้องจะรับได้ไหมจะรังเกียจรึเปล่า สิ่งที่เสวียนอวี้กังวลใจมากที่สุด คือคนน้องปิดกั้นหัวใจตัวเอง

จิวอิงหลับตาพริ้มยอมรับทุกการกระทำของอีกฝ่าย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มันเพียงพอจะพิสูจน์ความจริงใจของผู้ชายคนนี้ เสวียนอวี้ที่เห็นคนน้องยินยอมหัวใจก็ลิงโลดขึ้นมา

"มั่นใจในตัวพี่ได้ไหม ทุกครั้งที่น้องทุกข์ใจ นึกถึงพี่เป็นตนแรกได้รึเปล่า พี่อวี้คนนี้อยากเป็นของน้องอิง แค่อิงอิงคนเดียว"เสวียนอวี้ถอนใบหน้าออกจากคนน้องในฝ่ามือแบมือของจิวอิงแล้วเอาแก้มแนบลงไป จากนั้นก็ช้อนสายตาขึ้นมาอย่างออดอ้อน

"พี่อวี้"จิวอิงเรียกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ใจดวงหนึ่งอยากตอบตกลงกับอีกฝ่ายให้ชัดเจน ยอมรับใครสักคนเข้ามาในชีวิตที่จะสร้างครอบครัวในอนาคต แต่อีกใจหนึ่งก็หวาดกลัว บาดแผลที่ครอบครัวเก่าได้ทำเอาไว้มันสลักลงไปในจิตใจของเขา

"ผม"ดวงตาจิวอิงแดงกล่ำน้ำตาอุ่นๆหยดแหมะไหลลงแก้มขาว เสวียนอวี้ก้มหน้าลงเม้มริมฝีปากแน่น ใช้สองมือโอบกอดคนน้องใช้เสื้อผ้าตัวเองซับน้ำตา

"เข้าใจแล้ว พี่เข้าใจ ไม่ต้องร้อง"จิวอิงส่ายหน้าไปกับหน้าอกของเสวียนอวี้ ยิ่งได้ยินน้ำเสียงฝืนๆของอีกฝ่ายหัวใจดวงน้อยก็ตกไปที่ตาตุ่ม

"มะ...ไม่ใช่นะ"จิวอิงเงยหน้าขึ้นมองคนพี่อย่างตื่นตระหนก เสวียนอวี้ผินใบหน้าไปอีกทางตอนนี้เขายังไม่อยากมองหน้าคนน้องเท่าไหร่ ไม่อยากเข้าควบคุมบังคับจิตใจอีกฝ่ายให้ตอบรับเขาในตอนนี้

ต่อให้ต้องเริ่มต้นใหม่ รอใหม่อีกครั้งเขาก็ยังคงทำ ตราบใดที่มั่นใจว่ามีเพียงจิวอิงเท่านั้นที่เป็นของเขาและคนที่เคียงข้างจิวอิงได้ก็มีแค่เขาเช่นกัน ไม่มีทางยกจิวอิงให้ใคร

"พี่อวี้จะรักลูกๆไหม ถ้าเขาเป็น...เกอ"เสวียนอวี้ที่รอฟังก็หันควับคอแทบหักลมหายใจสะดุด ยามที่คนน้องอยากเข้าหอกับเขาแล้ว

"โอ้ อันที่จริงเราต้องผ่านการเป็นแฟนก่อน แต่ถ้าอิงอิงอยากเลื่อนขั้นเลยพี่ก็ไม่ขัด"เสวียนอวี้กลายเป็นคนจับต้นชนปลายในคำพูดของจิวอิงไม่ได้ขึ้นมาทันที เพราะตอนนี้เขาคิดถึงก้อนซาลาเปานุ่มๆหลายสิบก้อนวิ่งวนอยู่รอบลำตัวจากนั้นก็ยื้อแย่งอิงอิงไปนอนด้วย

ซาลาเปาก้อนที่หนึ่งกำลังกอดแขนจิวอิงแน่น ใบหน้าของเด็กชายจ้องมองคนพ่อราวกับศัตรู เสวียนอวี้หัวใจร้าวราน ได้แต่ร้องไห้กระซิกๆในใจ เมื่อลูกชายคนโตประกาศก้าวว่าจะเอามะม๊าจิวอิงไปนอนด้วย เป็นการยึดทรัพย์สินส่วนกลางของปะป๊าที่ไม่มีน้ำยาทำน้องคนที่สอง

เสวียนอวี้ที่ถูกลูบคมต้องยอมไม่ได้ กล่าวกับลูกรักว่าถ้าไม่ได้นอนกอดกันมะม๊าจะไม่ท้อง แต่ลูกชายกลับไม่ยินยอม

จนในที่สุดก็มีซาลาเปาก้อนที่สอง ที่ถลึงตาใส่คนพ่อและคนพี่ที่แย่งมะม๊าไป จิวอิงได้ถูกลูกคนที่สองกักขังควบคุมเอาไว้ เสวียนอวี้รู้สึกรับไม่ได้ ทำไมพี่น้องไม่ติดกัน มาติดคนเป็นแม่ทำไม แล้วพ่อคนนี้หมาหัวเน่าของบ้านรึ

เสวียนอวี้ประกาศก้าวว่าจะมีลูกเป็นสิบ จนในที่สุดก็มีซาลาเปาสิบคน พวกเราตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะนอนกับมะม๊า จิวอิงยื่นคำขาดว่าเราจะนอนด้วยกัน

ซาลาเปาประกบซ้ายขวาของจิวอิงฝั่งละห้าคนส่วนเสวียนอวี้โดนไล่ออกนอกห้องเพราะพื้นที่ไม่พอ

แค่คิดก็หวาดผวา คอยดูเถอะเจ้าซาลาเปาแต่ละก้อน ฮึ่ม

คอยไปก่อนยังคิดไม่ออก

"ใช่แบบนั้นที่ไหนกัน"จิวอิงหน้ามุ่ย เสวียนอวี้ได้สติวางฝ่ามือบนหัวไหล่จิวอิงแล้วจ้องหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับเรื่องนี้เรื่องใหญ่มากจนจิวอิงประหม่า

"พี่จะรักลูกทุกคนแน่นอน ยกเว้นแต่"เสวียนอวี้ใช้คำพูดที่มีน้ำเสียงหนักแน่นในประโยคแรก ก่อนจะเอ่ยเสียงเครียดในประโยคถัดไป

"แต่ อะไรครับ"จิวอิงกลืนน้ำลายลงคอราวกับอยู่ลานประหาณ ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมรับลูกๆของเขาใช่ไหมนะ

"ถ้าเจ้าก้อนซาลาเปากล้าแย่งอิงอิงไปจากพี่ สัญญามาก่อนว่าจะนอนด้วยกันทุกคืน"จิวอิงความคิดสะดุดลงหลังจากได้ยินคำพูดของเสวียนอวี้ นี่คือความเครียดของอีกฝ่าย ใจความสำคัญของอีกฝ่ายคือเรื่องนี้

"ได้ครับ"พอเห็นสายตาคาดหวังก็ตอบตกลงอย่างง่ายดาย เสวียนอวี้กำหมัดราวกับชนะแล้วร้องเยสออกมา จิวอิงมีสีหน้าปลาตาย ไม่รู้ว่าตอนนี้ในหัวของเสวียนอวี้มีอะไรอยู่บ้าง

เสวียนอวี้ยืดอกอย่างลำพองใจ ก่อนจะขิงบรรดาลูกๆในอนาคต ดูไว้นะเจ้าซาลาเปา มะม๊าของพวกเจ้าเป็นของปะป๊าแต่เพียงผู้เดียว

ถึงแม้อนาคตจะไม่แน่นอน แต่เสวียนอวี้ผู้ยอมศิโรราบต่ออิงอิงเมียรัก แน่นอนว่าต้องยอมศิโรราบต่อซาลาเปาทุกก้อน