webnovel

ตอนที่18.

"เฟอร์เฟคมากเลยค่ะ ไม่แปลกใจเลยจริงๆ"เจ้าของห้องเสื้อเอ่ยออกมา เมื่อชุดที่ทำขึ้นใหม่ล่าสุดได้ถูกสวมโดยเกอคนงามที่กำลังโด่งดัง ทั้งด้านความสามารถและด้านความรัก

"ราวกับชุดนี้ถูกเนรมิตเพื่อคุณเลยนะคะ"เสื้อผ้าเกาะอกสีครีมรัดรูปเผยให้เห็นช่วงอกด้านบน หัวไหล่ขาวและลำตัวสวยงามโดยเฉพาะช่วงเอวที่ดูเพรียวบางน่าจับ

โดยที่ด้านบนยังมีผ้าคลุมขนสัตว์สีขาวคล้องที่ลำคอ จากนั้นก็นำปลายทั้งสองด้านไขว้กันไปมาเพื่อปกปิดตรงช่วงอก ด้านล่างเป็นกางเกงรัดรูปสีครีมแบบไล่ระดับเฉดสี เสื้อผ้าชุดนี้ถูกออกแบบจากดีไซน์เนอร์ชื่อดัง บุรุษผู้ครอบครองจิตวิญญาณเข็มปักผ้า

"ขอบคุณนะครับ"เยว่ชิงส่งยิ้มให้ก่อนที่เจ้าของผู้สร้างผลงานจะเดินมาพร้อมกับหลงจือหยาง

หลงจือหยางในชุดสูทเรียบๆแบบที่เคยแต่ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ลดน้อยลง มันยังคงเสริมให้หลงจือหยางดูมีภูมิฐานมากยิ่งขึ้น เจ้าตัวก้าวเท้าเข้ามาด้านในก็หยุดชะงัก

ยิ่งเห็นเยว่ชิงอยู่ในชุดรัดรูปที่เปิดเผยขาเรียวกับเอวเพรียวบาง ถึงแม้จะหวงขนาดไหน หลงจือหยางก็อยากให้เด็กน้อยของเขาได้ยินเสียงคำชื่นชมในด้านนี้ด้วย

"รูปร่างคุณเยว่ชิงเฟอร์เฟคมากครับ ถ้าไม่รังเกียจสนใจเป็นนายแบบให้กับทางเราได้ไหมครับ"เฟิงฟู่เอ่ยออกมาก่อนจะหันไปมองหลงจือหยางทีเยว่ชิงทีอย่างรอคำตอบ

เยว่ชิงอ้าปากค้างราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ดวงตากลมโตหันไปสบตาอีกคน พอเห็นหลงจือหยางยิ้มแล้วพยักหน้ามาให้ เยว่ชิงก็ตอบตกลง

หลงจือหยางได้แต่กำหมัดอยู่ด้านหลัง ไม่ว่าจะหวงแค่ไหนขอแค่เด็กน้อยมีความสุขก็พอ ถ้ามีคอมเมนต์และการวิจารณ์ในทางที่ไม่ดีเขาก็แค่จัดการให้เท่านั้น

"ทุกชุดต้องผ่านผมก่อนนะครับ"ความสุขของจิ้งจอกน้อยมาก่อนก็จริง แต่เขาก็ต้องคัดกรองเช่นกัน อย่าฝันว่าจะได้ภาพโป๊ไป ห้ามโชว์ต้นขา ช่วงอก หน้าท้องมากเกินไป ที่เหลือยอมรับได้...นิดหน่อย

"ขอบคุณมากเลยนะครับ"เฟิงฟู่กะพริบตาปริบๆ เพิ่งรู้ว่าหลงจือหยางเป็นคนขี้หวง

บรรยากาศงานเลี้ยงจัดขึ้นที่ลานกว้างของสวนสาธารณะพื้นที่ที่บูรณะขึ้นมาทีหลัง มีโดมขนาดใหญ่ครึ่งวงกลมสร้างจากคริสตัดปกคลุมพื้นที่หลายกิโลเมตรจากศูนย์กลาง มันสามารถรองรับคนได้ราวๆสามแสนคน

พื้นที่ด้านนอกถูกจับจองโดยคนอื่นๆที่พวกเขาไม่ได้ลงมือลงแรงอะไรมากมาย มีอาหารเครื่องดื่มคอยบริการจากเกอหลายพันคน แต่ปีนี้ไม่มีใครกล้ากระทำตัวหยามเกรียติของเกอเช่นปีอื่นๆ

เมื่อน้ำเมาเข้าสู่ร่างกายพวกเขาไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมได้ เกอหลายคนเลยได้แต่รองรับอารมณ์อย่างอดกลั้น พวกเขาจะท่องในใจเสมอว่าทำเพื่อครอบครัว

แต่ปีนี้ดีกว่าปีก่อนมาก เกอหลายคนเลยเฝ้ารอที่จะได้เห็นเทพอสูรผู้เปลี่ยนแปลงรากฐานของเกอคนอื่นๆ และเกอเหล่านี้กลายเป็นแฟนคลับตัวยงที่สามารถหอบลูกเรือไปถล่มคอมเมนต์แย่ๆจนหลงจือหยางไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย

ตระกูลหลักค่อยๆทยอยเข้างานกันเรื่อยๆ พวกเขาเริ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเล็กๆเพื่อรอช่วงเวลาที่ดึกกว่านี้

"งานใหญ่แบบนี้พวกเราเข้าไปได้เหรอครับ"จิวอิงเป็นคนพูดขึ้นก่อนจะเดินตามแรงดึงของเกาเทียนเย่

"เจ้าหนูจิวอิง งานนี้ถ้าขาดพวกเรามันจะไร้สีสัน"ฟาหยางเอ่ยขึ้นมา ซึ่งคนอื่นๆที่ประหม่าก็พยักหน้างึกงัก พวกเขาเตรียมก้าวขาสั่นๆเข้าไปในงาน

"เข้าไปกันเถอะ"เสวียนอวี้ที่ถูกโยนหน้าที่มาให้ก็รับผิดชอบหลายพันชีวิตเข้าสู่งานเลี้ยง จำนวนคนในกิลด์หมื่นดาบนับพันคนค่อยๆทยอยกันเข้าไปแล้วตามด้วยเกอจากตำหนักเทพอสูร

ผู้คนในงานให้ความสนใจกับเกอนับร้อยคนที่เดินเข้ามา แต่ละคนอยู่ในชุดสุภาพที่ดูมีราคา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหัวกิลด์อย่างหลงจือหยางทุ่มกับพวกเขาขนาดไหน สตรีบางคนยังจำลายปักประจำชุดได้ สิ่งที่ทำคือได้แต่เก็บความอิจฉาริษยาลงไป

มีคนไม่กี่แสนคนบนโลกที่จะได้สวมชุดของนักจิตวิญญาณทรงคุณค่าด้านการตัดเย็บเสื้อผ้า กว่าพวกเขาจะได้สักชุดก็ใช้เวลานาน

"ท่านหลงจือหยางไม่ได้มาพร้อมกันเหรอ"หลายคนให้ความสนใจ เพราะทุกๆปี หลงจือหยางจะเดินน้ำหน้าคนอื่นๆเข้ามาในงาน ก่อนจะเดินไปนั่งในโดมแล้วดื่มเงียบๆ บรรยากาศโดยรอบเรียกได้ว่าเงียบสนิทเพราะไม่มีใครกล้าเข้าไปพูดคุย

ขนาดสตรีสวยงามเป็นอันดับต้นๆที่ถูกจัดอันดับเข้าไปพูดด้วย หลงจือหยางก็แค่มองหน้านิ่งๆแล้วตอบครับคำเดียวจนหลังๆไม่มีใครเข้าไปพูดคุยด้วย

"คงมาพร้อมแฟนละมั้ง"คนในงานเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถึงแม้ในหน้าจอจะแสดงภาพคมชัดแต่นั่นไม่ใช่ตัวจริง พวกเขารอคอยที่จะได้เห็นเกอคนงามต่อหน้ามากกว่า ส่วนหนึ่งคืออยากรู้ว่าทำไมถึงได้สามารถเข้าไปอยู่ในใจของหลงจือหยางได้

"หือ เสวียนอวี้ หลงจือหยางยังไม่มาอีกรึไง"เฉินจงอีเดินนำคนในกิลด์อัศวินสีชาดนับพันคน ก่อนจะโบกมือให้ทยอยเข้าไปในโดมหรือดื่มกินด้านนอก สายตาของเฉินจงอีกวาดสายตามองเกอนับร้อยคนที่ทยอยเดินเข้าข้างในอย่างสนใจ โดยเฉพาะเด็กที่ตัวเล็กที่สุด แถมยังเป็นคนที่จิ้งจอกพูดคุยในตอนต้นเรื่อง

ถ้าตามความคิดของเขา เด็กคนนี้มีค่าพอๆกับจิ้งจอกนั่น ถ้าเลือกได้เขาย่อมเลือกคนไม่มีเจ้าของมากกว่าจะเอาหน้าไปให้ฝ่าเท้าหลงจือหยางกระทืบ

"สวัสดีฉันชื่อเฉินจงอีเป็นหัวกิลด์ของอัศวินสีชาด"เฉินจงอีคลี่ยิ้ม มองเด็กซื่อตาตื่นตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่มือที่ยื่นออกไปจะถูกมือหยาบคว้าแล้วโยกเบาๆ

"ไม่อยากรู้จัก พอดีเด็กน้อยเข้าหาคนไม่เป็นสักเท่าไหร่ ขอตัว"เสวียนอวี้ยกแขนพาดไหล่ของจิวอิงก่อนจะพาเดินเข้าไปด้านใน จากตอนแรกจะรอหลงจือหยางแต่ไม่คิดเลยว่าจะเจอหมาบ้า เข้าไปอยู่ด้านในย่อมดีกว่า

"ชิ ไอ้ขี้งก กั๊กเอาไว้ชัดๆแล้วคนสวยสนใจไหม"เฉินจงอีจึงหันไปที่เป้าหมายต่อไป

"หืม ฉันไม่ชอบคนหน้าโง่"เกาเทียนเย่ยังคงเส้นคงวาที่คำพูดทำให้เส้นเลือดบนหน้าผากของเฉินจงอีกระตุกได้

"ผมหน้าโง่ตรงไหน คนสวยได้ลองเดตกับผมสักครั้ง คุณจะต้องเปลี่ยนคำพูด"เฉินจงอีรู้สึกได้ถึงการท้าทาย ไม่ใช่ว่าเขาไม่เจอคนประเภทเล่นตัวที่เรียกร้องความสนใจหรอกนะ เกอตรงหน้าก็คงเป็นอีกหนึ่งคน

"เอาสิ หน้าตาคุณโง่ดี อาจจะได้อะไรที่แปลกใหม่"เกาเทียนเย่พยักหน้ายอมรับก่อนจะเดินผละออกไป เฉินจงอีได้แต่เม้มริมฝีปาก นี่ไม่ใช่การเล่นตัวแต่มันคือคำหยาม ร้ายกาจทั้งหัวกิลด์ทั้งคนในกิลด์

"ตื่นเต้นเหรอครับ"หลงจือหยางขับรถมือเดียว อีกมือยังคงกุมมือของเยว่ชิงเอาไว้ พอเห็นคนตัวเล็กพยักหน้า หลงจือหยางก็แค่ยิ้มยกมืออีกฝ่ายขึ้นก่อนจะนำขึ้นมาประทับจูบ

"ถ้าตื่นเต้นก็อยู่ข้างๆพี่ไว้ หรือทั้งงานจะมองเพียงพี่คนเดียวก็ยังได้"เยว่ชิงอมลมจนแก้มพอง พอเป็นแฟนกันหลงจือหยางก็โปรยเสน่ห์ใส่ไม่ยั้ง ไม่คิดเลยว่าหัวใจดวงน้อยๆของเยว่ชิงมันเต้นตุบตับรุนแรงขนาดไหน

รถหรูที่ผลิตไม่กี่คันบนโลกจอดในพื้นที่จับจองเอาไว้ หลงจือหยางเดินอ้อมไปเปิดประตูให้กับเกอคนงามก่อนจะยื่นแขนไปให้อีกฝ่าย เยว่ชิงค่อยๆสอดแขนเข้าไปควง แก้มน้อยๆแดงระเรื่อจนอีกคนอดใจไม่ไหว ใช้ปลายจมูกคลอเคลียแก้มแดงๆจนมันแดงไปทั้งหน้า

"งื้ออออ"เยว่ชิงก้มหน้าส่งเสียงในลำคอ ถลึงตาใส่เงาของหลงจือหยางเป็นการดุ ตัวจริงของเงานั้นยกยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดู ก่อนจะค่อยๆเดินเคียงข้างกันเข้าไปในงาน

คู่สร้างคู่สมที่พวกเขามองว่าเหมาะสมเดินเข้ามาในงาน ทุกเสียงที่เคยมีต่างเงียบหาย เยว่ชิงชื้นไปด้วยเหงื่อร่างกายเกร็งอัตโนมัติเมื่อรับรู้ได้ว่าทุกสายตายังคงมองมา

หลงจือหยางเอาแขนเยว่ชิงออกก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบเอว ฝ่ามือค่อยๆส่งผ่านความร้อนเพื่อให้เด็กน้อยลดอาการเกร็ง

"เธอภูมิใจไหมที่ได้เดินกับพี่ เชื่อมั่นในตัวเองไว้ เธอมีดีพอที่จะเดินไปพร้อมกับพี่"หลงจือหยางโน้มใบหน้ากระซิบข้างหู เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สตรีหลายคนจับสังเกตว่าด้านนอกเงียบเกินไป

พวกเขาคาดหวังว่าหลงจือหยางจะมาคนเดียวหลังจากที่เห็นคนในกิลด์หมื่นดาบเข้าไปแล้ว แต่ภาพเบื้องหน้ากำลังตอกย้ำพวกเขาซ้ำๆว่าที่ตรงนั้นไม่มีสิทธิ์เป็นของพวกเธอ ไม่มีตั้งแต่แรก

ถ้าเป็นเมื่อก่อนพวกเธอก็แค่เขม่นใส่กันเพราะหลงจือหยางไม่ได้มีท่าทีกับใครเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่หลงจือหยางได้เลือกแล้ว แต่ถามว่าทุกคนจะยอมรับไม่ก็คงไม่

ไม่ใช่ทุกคนที่จะหยุด ราวกับพวกเธอไม่มีสมอง ยิ่งริษยาก็ยิ่งอยากทำลายให้หายไป ถ้าไม่มีเกอคนนี้สักคน.....

หลงจือหยางก็จะกลับมาเป็นของพวกเธอ แม้ว่าจะไม่มีวันได้ครอบครอง แต่คนอื่นก็ไม่ควรครอบครองอีกฝ่ายไว้เช่นกัน

นี่เป็นตรรกะทั่วไปของสตรีที่จิตใจมืดบอด พวกเธอมักจะแข่งขันทุกด้านอย่างลับๆ ราวกับว่าถ้าใครได้ครอบครองหลงจือหยางจะได้อยู่เหนือสตรีทุกคน

หลงจือหยางมองออกตั้งแต่แรกถึงเรื่องนี้ เขาเลยไม่สนใจไม่ว่าสตรีคนนั้นจะมีความเหมาะสมมากแค่ไหนก็ตาม จนได้มาเจอกับจิ้งจอกน้อย คงเป็นตั้งแต่ที่สบตากันครั้งแรกที่ห้องสมุด

ดวงตากลมโตที่ไม่มีเรื่องแอบแฝง มีแต่ความจริงใจและการบอกรักทางสายตา

หลงจือหยางส่งสายตาปรามสายตาหลายคู่ที่มองเยว่ชิงอย่างไม่เป็นมิตร คนอื่นๆเก็บซ่อนสายตาอย่างรวดเร็ว

เยว่ชิงเองก็รับรู้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจก่อนจะเดินเคียงข้างกับหลงจือหยางเข้าไปในโดม

ระบบที่กลับมาก็ยกยิ้มอย่างพอใจ ภาพเบื้องหน้าของเขามันทำให้รู้ว่าเด็กน้อยคนนี้ได้เติบโตขึ้นอีกก้าวหนึ่ง กล้าที่จะเผชิญทุกสายตาที่ไม่เป็นมิตร กล้าที่จะยืดอกรับปัญหา