บทที่ 40 จุ๊บสองที
แน่นอนเธอรู้ว่าอารมณ์ตื่นนอนของซือเยี่ยหานน่ากลัวแค่ไหน แต่ตอนนี้เธอสนใจอะไรมากไม่ได้แล้ว
“ซือเยี่ยหาน มีคนมา คุณหลบไปก่อนดีไหม?”
เป็นอย่างที่คิด เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ การแสดงออกของปีศาจร้ายบางตัวก็น่ากลัวขนาดที่ว่าทำลายโลกทั้งใบให้พินาศลงได้
เยี่ยหวันหวั่นสิบนิ้วพนมมือ ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความอ้อนวอน “ขอร้องล่ะนะ!”
สีหน้าของคนบางคนยังคงมีอารมณ์เหมือนพายุโหมกระหน่ำ มีเมฆดำแผ่เต็มท้องฟ้า
เยี่ยหวันหวั่นเอนกายเข้าไปจุมพิตบนริมฝีปากของชายหนุ่มอีกครั้ง “ได้ไหมคะ?”
สาวน้อยน้ำตาซึมเปียก น้ำเสียงทั้งออดอ้อนและอ่อนหวาน ทำให้หัวใจละลายไปได้เลย
ความโมโหของซือเยี่ยหานเหมือนว่าจะมลายหายไปอย่างหมดจดในชั่วพริบตา เพียงแต่ใบหน้าของเขายังคงมีน้ำแข็งหมื่นลี้เกาะกุมอยู่เช่นเคย
เหอะ สาวน้อยคนนี้ เธอคิดว่าเขากล่อมง่ายขนาดนั้นเชียวเหรอ?
เห็นซือเยี่ยหานยังคงทำหน้าเย็นชาไม่เดือดร้อนแต่อย่างใด เยี่ยหวันหวั่นก็ร้อนใจอย่างที่สุด เอนกายเข้าไปจุมพิตอีกครั้ง “ขอร้องคุณล่ะนะ”
ซือเยี่ยหานบอก “ได้”
เยี่ยหวันหวั่นใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความยินดี “ขอบคุณนะ คุณไปหลบในห้องน้ำก่อนเถอะ ฉันจัดการทางนี้ครู่เดียว”
อืม...หากว่าใช้จุ๊บเดียวแก้ปัญหาไม่ได้ เช่นนั้นก็สองจุ๊บ
รอให้ซือเยี่ยหานไปซ่อนตัวแล้ว เยี่ยหวันหวั่นถึงไปเปิดประตู
ทำเธอตกใจแทบแย่ นึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจหอเสียอีก ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเฉินเมิ่งฉี...
ได้เห็นสภาพของเยี่ยหวันหวั่นในเวลานี้ เฉินเมิ่งฉีที่อยู่หน้าประตูก็ชะงักไปชั่วขณะ
เห็นเพียงสาวน้อยไร้การแต่งหน้า สวมชุดนอนธรรมดา ทว่ากลับดูอ่อนโยนดั่งดอกบัวที่เพิ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ สวยงามจนไม่อาจละสายตาได้
แม้เธอจะรู้อยู่แต่แรกแล้วว่ารูปร่างของเยี่ยหวันหวั่นเมื่อผอมลงหน่อยจะดูดีมาก แต่เพราะนานมากแล้วที่เธอไม่ได้เห็นรูปร่างหน้าตาดั่งเดิมของเยี่ยหวันหวั่น เวลานี้ได้มาเห็นกระทันหัน จึงตกตะลึงไปเลย
เธอเองก็เป็นที่รู้จักไปทั่วในนามของสาวสวย ทั้งยังเป็นดาวของห้อง A แต่เวลานี้เมื่อเธอมายืนอยู่ตรงหน้าของเยี่ยหวันหวั่น ต่อให้เธอจะตั้งใจแต่งหน้าเต็มที่ ก็ยังสวยได้เพียงหนึ่งในสิบของเยี่ยหวันหวั่นที่ใบหน้าไร้การแต่งแต้ม สวมชุดนอนธรรมดาก็เท่านั้น
สีหน้าของเฉินเมิ่งฉีเปลี่ยนไม่หยุด การแสดงออกทางสีหน้าแทบจะอดกลั้นไว้ไม่ไหว พยายามทำน้ำเสียงให้ดูใกล้ชิดอ่อนหวานเหมือนปกติ “หวันหวั่น ทำไมตั้งนานกว่าจะมาเปิดประตู?”
“ฉันหลับอยู่” เยี่ยหวันหวั่นตอบไปส่งๆ
“แต่ว่าตอนนี้เพิ่งจะสองทุ่มกว่า เธอนอนเร็วขนาดนี้เลยเหรอ” เฉินเมิ่งฉีเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“ดึกป่านนี้ มาหาฉันมีเรื่องอะไรเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม
“มาหาเธอแน่นอนว่าต้องมาคุยเล่นน่ะสิ อย่ามัวยืนเกาะประตูเลย พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในเถอะ” เฉินเมิ่งฉีไม่ถือว่าตัวเองเป็นคนนอก จึงเดินตรงเข้าไปข้างในทันที
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว เธอในชาติก่อนปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะให้เฉินเมิ่งฉีมาคุยกับเธอ ทุกครั้งเธอจะลากเฉินเมิ่งฉีมาคุยด้วยจนถึงดึกดื่นค่อนคืน แต่ว่าบัดนี้เธอไม่มีความสนใจนั้นเลย
เพียงแต่ เธอชำเลืองมองไปทางห้องน้ำ สุดท้ายก็ไม่ได้ห้ามให้เฉินเมิ่งฉีเข้ามา
หลังจากเข้ามาแล้ว เฉินเมิ่งฉีก็รีบจ้องเธอด้วยสีหน้าจริงจังแล้วเอ่ยพูด “หวันหวั่น เธอไม่ระวังเลยนะ ทำไมถึงไปเปิดประตูด้วยหน้าสดไร้เครื่องสำอางแบบนี้ล่ะ หากว่าคนนอกประตูไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคนอื่นล่ะ? หากให้คนอื่นเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเธอก็จะแย่เอานะ หูตาของซือเยี่ยหานมีอยู่ทุกที่ แม้จะอยู่ในโรงเรียนก็ไม่ควรชะล่าใจ”
……….…………………………………………………………..